คุกสาวโอเกะแสบรูดทรัพย์แขกหมดตัว

คุก 2 ปี สาวนั่งดริ๊งก์ร้านโอเกะ แสบรูดทรัพย์แขกที่หิ้วไปนอน เกือบ 3 หมื่น รับสารภาพเหลือปีเดียว ศาลชี้มีพฤติการณ์เป็นภัยสังคม ไม่รอลงอาญา

ที่ศาลอาญา วันนี้ (11 เม.ย.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีลักทรัพย์ อ.686/ 55 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.สุดา หรือเจี๊ยบ หอมมาลา อายุ 24 ปี อาชีพรับจ้าง  ชาว  อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์  เป็นจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 55 ระบุความผิดสรุปว่า

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา  เวลาประมาณ 23.30 น. นายเก๋ แซ่ภู  ผู้เสียหาย ได้มาเที่ยวที่ร้านคาระโอเกะ แห่งหนึ่งย่านถนนสุทธิสารฯ  และได้พาจำเลย ซึ่งทำงานในสถานบริการ ไปร่วมหลับนอนที่โรงแรม 45  ซอยพหลโยธิน 11 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท  กระทั่งเวลา 05.00 น.ของวันที่ 27 ม.ค.  ผู้เสียหายตื่นขึ้นมา ไม่พบจำเลย  และทรัพย์สินมีค่าหลายรายการสูญหายไป อาทิ เงินสด 12,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง พร้อมพระเลี่ยมทอง มูลค่า 15,000 บาท  โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องราคา 2,000  บาท  รวม 29,000 บาท  จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ติดตามจับกุมจำเลยดำเนินคดี จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (1)  พิพากษา จำคุก 2 ปี  จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อพิเคราะห์รายการสืบเสาะ และพินิจ สภาพครอบครัว การศึกษา และอื่น ๆ ของจำเลยแล้วเห็นว่า จำเลยไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นกิจจะลักษณะ อีกทั้งพฤติการณ์การกระทำผิดเป็นภัยต่อสังคม สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น จึงไม่สมควรรอการลงโทษ และให้จำเลยชดใช้เงิน หรือค่าเสียหายจำนวน 29,000  บาทแก่ผู้เสียหายด้วย  .

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ศุลกากรจับขบวนการลักลอบขนก๊าซขายเขมร

ศุลกากรซิ่งเรือเร็วสกัดจับขบวนการลักลอบขนก๊าซแอลพีจีส่งขายประเทศเพื่อนบ้านกลางทะเลตราด ได้ผู้ต้องหาชาวไทย 1 คน เขมร 2 คน ยึดถังบรรจุก๊าซ 637 ถัง ก๊าซหนัก 3 หมื่นกิโลกรัม กับเรือประมงดัดแปลง 1 ลำ พบผู้มีอิทธิพลในพื้นที่อยู่เบื้องหลัง

ที่ท่าน้ำส่วนบริการศุลกากรที่ 2 สำนักงานศุลการท่าเรือกรุงเทพ คลองเตย บ่ายวันนี้ (11 เม.ย.) นายทนุศักดิ์  เล็กอุทัย รมช.กระทรวงการคลัง นายสมชาย  พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเรือประมงดัดแปลง ชื่อ โชคเบญจวรรณ 3 บรรทุกถังก๊าซหุงต้ม หรือก๊าซแอลพีจี ที่ยังไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องออกนอกราชอาณาจักร ว่า เมื่อเวลา 03.20 น.ของวันเดียวกันนี้ นายนิมิตร  แสงอำไพ ผอ.ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 นำกำลังพร้อมเรือตรวจการณ์ 606 เข้าสกัดจับขบวนการลักลอบนำก๊าซหุงต้มไปขายประเทศเพื่อนบ้าน  ที่บริเวณน่านน้ำจังหวัดตราด แนวเขตทางทะเลไทย- กัมพูชา ประมาณ 5 ไมล์ทะเล พร้อมผู้ต้องหาคนไทย 1 คน กัมพูชา 2 คน จากการตรวจค้นพบถังเหล็กบรรจุก๊าซหุงต้มขนาด 48 กก.จำนวน 572 ถัง ขนาด 20 กก.จำนวน 43 ถัง และขนาด 15 กก.จำนวน 22 ถัง รวมทั้งสิ้น 637 ถัง รวมน้ำหนักก๊าซ 30,000 กก.มูลค่าพร้อมเรือ 2.6 ล้านบาท จึงแจ้งข้อหาลักลอบนำสินค้าควบคุม ที่ยังไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องออกนอกราชอาณาจักร

นายทนุศักดิ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาก๊าซหุงต้มภายในประเทศ ราคาต้นทุน กก.ละ 37 บาท แต่รัฐต้องนำเงินมาอุดหนุน กก.ละ19 บาท เพื่อให้ขายได้ในราคา กก.ละ 18 บาท จึงเป็นช่องทางที่ขบวนการลักลอบจะนำไปขายที่กัมพูชาในราคา กก.ละ 40 บาท จะได้กำไรส่วนต่างถึง กก.ละ 22 บาท ซึ่งเป็นกลุ่มขบวนการของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่สร้างความเสียหายให้แก่ระบบเศรษฐกิจอย่างมาก

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

รวบผีพนันฆ่าเซียนสนุ๊ก ฉุนเสียหมดตัวยังตามมาเย้ย

รวบทันควันผีพนันแทงเซียนสนุ๊กดับ สารภาพทำไปเพราะบันดาลโทสะที่ผู้ตายเล่นสนุ๊กกินเงินไปจนหมดตัวแล้วยังเยาะเย้ยให้กลับไปหัดเล่นมาก่อนแล้วค่อยกลับมาเล่นเดิมพันกันใหม่

จากกรณีที่ นายประจักร ประดิษฐพงษ์ อายุ 36 ปี อาชีพขับรถส่งขนมจีน และเป็นเซียนสนุ๊กเกอร์ ถูกคนร้ายใช้มีดแทงเข้าราวนมและชายโครงหลายแผล เหตุเกิดหน้าอาร์เอ็ม แมนชั่น เลขที่ 32/14 ซอยพระรามสอง 50 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน สาเหตุมาจากผู้ตายทะเลาะกับคนร้ายเรื่องเดิมพันเล่นสนุ๊กเกอร์ จึงถูกแทงแล้วคนร้ายหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อตอนเช้าวันนี้ (11 เม.ย.) ตามที่เสนอข่าวไปให้ทราบแล้วนั้น 

ต่อมา ตอนค่ำวันเดัยวกันนี้  พ.ต.อ.พงษ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สส.บก.น.9 ร่วมกับ พ.ต.ท.คมกริช มั่นจิตต์ พ.ต.ท.รชต พัฒน์พงษ์ สว.สส.สน.ท่าข้ามพร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน นำหมายจับของศาลอาญาธนบุรีที่ 193/2555 ลงวันที่ 11 ม.ย. 2555 เข้าจับกุม นายติง หรือโรจน์ ม่วงสอน อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาแทง นายประจักร ตาย ขณะหลบหนีไปกบดานในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ย่าน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 

สอบสวน นายติง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ช่วงกลางดึกก่อนเกิดเหตุ ตนและเพื่อนได้มาแทงสนุ๊กกันที่โต๊ะสนุ๊กใกล้ที่เกิดเหตุ ผู้ตายได้ท้าเล่นเดิมพันกับตน ตนตกลงแทงสนุ๊กกันจนถึงเช้ามืด ผู้ตายชนะได้เงินตนไปจนหมดตัวจึงขอเลิก แต่ผู้ตายไม่พอใจพูดจาดูถูก เย้ยหยันตน เพื่อนๆได้ชวนตนกลับบ้าน แต่พอตนกับเพื่อนเดินออกมาผู้ตายยังตามมาตะโกนเยาะเย้ยว่า ให้ตนไปหัดเล่นสนุ๊กมาก่อน ทำให้ตนบันดาลโทสะหยิบมีดพับที่พกติดตัวมาแทงผู้ตายจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไปซ่อนตัวในโรงแรมม่านรูดจนกระทั่งถูกจับกุมได้ ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

น้อยใจผัวขี้เมาแม่ค้าเสื้อผ้าดิ่งชั้น3เจ็บปางตาย

น้อยใจผัวขี้เมา คิดสั้นดิ่งชั้นสาม สาวขายเสื้อผ้าตลาดนัดประชดชีวิต อาการบาดเจ็บสาหัส

  เมื่อเวลา 01.20 น. วันนี้ (12 เม.ย.) พ.ต.ท. รุ่งนิรันทร์ จันทร์ศิริ สวป. สน.ภาษีเจริญ รับแจ้งเหตุผู้หญิงกระโดดตึกลงมาได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ มิริ อพาร์ทเม้น ซอยเพชรเกษม 48 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต๊กตึ๊ง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ร.พ.ตากสิน
 

 ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเมนท์สูง3ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหลัง เจ้าหน้าที่พบร่างของ นางชนัธฐา ทองสา อายุ  35 ปี  สวมเสื้อยืดสีชมพู กางเกงยีนขายาว สภาพนอนหงายหมดสติในสภาพขาหัก ศีรษะแตก เลือดท่วมพื้น เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ร.พ.ตากสินและเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต๊กตึ๊งต้องเร่งช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะนำร่างที่หมดสติส่งร.พ.ตากสินอย่างเร่งด่วน

จากการสอบสวน นายทยวัฒน์ ทองสา อายุ 39 ปี ชาว อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา สามีของผู้บาดเจ็บ ให้การทั้งน้ำตาว่า ตนและภรรยาพักอยู่ที่ห้อง1315ชั้น3 โดยตนมีอาชีพเป็นพนักงานส่งเอกสาร ส่วนคนเจ็บซึ่งเป็นภรรยามีอาชีพขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด แต่งงานอยู่กินกันมา5 ปี โดยปกติตนเป็นคนชอบดื่มสุรา ถูกภรรยาต่อว่าอยู่เป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งกลับมาจากไปกินเหล้ากับเพื่อน ส่วนภรรยาก็เพิ่งกลับมาจากขายเสื้อผ้า เมื่อภรรยาเห็นตนอยู่ในสภาพเมาสุราก็เกิดมีปากเสียงกัน และต่อว่าตนที่ดื่มเหล้ารวมทั้งขอร้องให้ตนเลิกดื่มเหล้า แต่ตนยืนกรานขอดื่มสุราช่วงเทศกาลรื่นเริง จนเกิดการทะเลาะกันรุนแรง ทำให้ภรรยาตนน้อยใจวิ่งไปด้านหลังห้องแล้วกระโดดดิ่งตัวลงไปร่างกระแทกพื้นทันที
 

นายทยวัฒน์ ให้การด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเร็วเกินกว่าที่ตนจะห้ามปรามเอาไว้ได้ ซึ่งตอนนี้ตนรู้สึกสำนึกผิด และถ้าหากภรรยาตนกลับมาเหมือนเดิมได้ตนจะเลิกดื่มเหล้าอย่างที่เคยขอไว้ ซึ่งสอดคล้องกับพยานใกล้ห้องที่เกิดเหตุยืนยันว่าก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนถึงขั้นปาข้าวของภายในห้องจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว   เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การนายทยวัฒย์ เนื่องจากอยู่ในสภาพเมาสุรา โดยหลังจากนี้จะนำตัวนายทยวัฒน์ไปทำการสอบปากคำที่สน.ภาษีเจริญ อย่างละเอียดอีกครั้ง

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

7วันอันตรายวันแรกสังเวย30ศพ

ปภ.สรุป 7 วันอันตรายช่วงสงกรา​นต์วันแรก สังเวย 30 ศพ เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด 343 ครั้ง เจ็บอีก 375 ราย พิจิตรแชมป์ 5 ศพ

วันนี้ (12 เม.ย.) กรมป้องกัน​และบรร​เทาสาธารณภัย (ปภ.) ​เปิด​เผยสถิติ​การ​เกิดอุบัติ​เหตุ​และ​เสียชีวิต​ในช่วง​การรณรงค์ 7 วันระวังอันตรายช่วง​เทศกาลสงกรานต์ 2555 สรุปว่า เกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 343 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 30 ราย บาดเจ็บ 375 ราย โดยจังหวัดพิจิตร มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 5 ราย.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ปิกอัพซิ่งข้ามเกาะอัดคอสะพานตายหมู่

ปิกอัพซิ่งข้ามเกาะอัดคอสะพานตายสยอง 3 ศพ โคม่าอีก 2 หลังตะบึ่งไปร่วมงานบวชญาติ คาดโชเฟอร์หลับใน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 เม.ย. ร.ต.อ.นพรัตน์ มาเมือง ร้อยเวร สภ.ละแม จ.ชุมพร รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุบนถนนเอเซีย 41 หลักกิโลเมตรที่ 589 หมู่ 7 อ.ละแม จึงไปพร้อมหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน ที่เกิดเหตุอยู่บนสะพานบ้านดวด ในช่องทางฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร พบรถกะบะยี่ห้อโตโยต้าแบบ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน วฮ 1842 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน หลังคายุบ ชิ้นส่วนรถกระเด็นกระจัดกระจายเกลื่อนถนน ในรถพบศพนางดวงพร โตประเสริฐ อายุ 40 ปี ส่วนบนถนนพบอีก 2 ศพ ทราบชื่อนางทองรวย ไทยถาวร อายุ 45 ปี และ น.ส.ณัฐพล ไทยถาวร อายุ 15 ปี นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ทราบชื่อนายเชิดชาย ไทยถาวร อายุ 46 ปี คนขับรถ และ น.ส.ธัญชนก โตประเสริฐ อายุ 16 ปี จึงนำส่ง รพ.ละแม

จากการสอบสวนทราบว่า ทั้งหมดเดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร เพื่อไปร่วมงานบวชของญาตฺใน จ.นครศรีธรรมราช แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุกลับเสียหลักพุ่งเหิรข้ามเกาะกลางถนนไปชนอัดกับราวสะพานจนพลิกคว่ำหลายตลบ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากคนขับหลับใน ส่วนสาเหตุที่แท้อยู่ระหว่างสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมต่อไป.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

โปลิศมหาสารคามซิวเอเย่นต์ยาบ้าซุกซองบะหมี่

สงกรานต์โปลิศมหาสารคามโชว์รวบหนุ่มเรณูนครซุกซ่อนยาบ้าในซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1,000 เม็ด

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 เม.ย. พ.ต.อ.ยุทธศาสตร์ ศรีธงชัย ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม กับพวกร่วมแถลงข่าวจับนายยุทธศาสตร์ หรือยุทธ ธงยศ อายุ 33 ปี พร้อมของกลางยาบ้า1,000  เม็ด  รถเก๋งฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว ทะเบียน กง 4120 สกลนคร โทรศัพท์มือถือ 1  เครื่อง หลังจากสืบทราบว่าจะมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ จึงนำกำลังไปดักซุ่มบริเวณหน้าหอพักตักศิลา ถนนถีนานนท์ ต.เกิ้ง ไม่นานก็พบผู้ต้องหาขับรถเข้ามาตรงตามการข่าว จึงแสดงตัวเข้าขอตรวจค้น ปรากฎว่าพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในซองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เดิมยึดอาชีพผลิตน้ำดื่มส่งขายในพื้นที่ แต่รายได้ไม่พอเพียง จึงหันมาลักลอบขายยาบ้าตามคำชวนของเพื่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย คุมตัวส่ง ร.ต.ท.สุริยัน คำสอน พงส.(สบ1) สภ.เมืองมหาสารคาม ดำเนินต่อไป.

 แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ล็อกหนุ่มติดเกมหาญตื้บแม่เจ้าของร้านปางตาย

เจ้าของร้านปางตาย เคราะห์ดีลูกชายตื่นขึ้นมาช่วยทัน ตำรวจอายัดเตรียมแจ้งข้อหาหนัก

เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 12 เม.ย. ร.ต.อ.วิเชียร ทะน้อม ร้อยเวร สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายกัน ภายในร้านเกม 3 เจดอทเน็ต เลขที่ 15/3 ถนนพระพันวษา ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบร่างนางสวย ทองสายใจ อายุ 49 ปี และนายสุชนัย เยาวกุลเจริญ อายุ 20 ปี ซึ่งต่างได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง จึงรีบนำส่ง รพ.ศุภมิตร

สอบสวนนายสุจินต์ ทองสายใจ อายุ 32 ปีเจ้าของร้าน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ แต่ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงนางสวย มารดาร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งลงไปดูก็พบนายสุชนัย กำลังนั่งคร่อมทุบตีมารดาอยู่ ด้วยความโมโหจึงคว้าเก้าอี้และท่อนเหล็กกระหน่ำตี จนชาวบ้านในละแวกต้องรีบเข้ามาห้ามปราบและโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

"เดิมนายสุชนัย เป็นลูกค้าประจำที่ร้านมาเล่นทุกวันจนทราบว่าต้องหยุดเรียน ทั้งยังติดค้างเงินค่าเล่นเกมด้วย แต่ก็ยังคงมานั่งเล่นอยู่ตลอด ล่าสุดแม่ตนทนไม่ไหวต้องออกปากไล่ออกจากร้าน และคงจะแค้นหรือติดเกมจึงแอบปีนเข้ามาหลังร้านปิด เมื่อแม่ตนมาพบเลยพาลโมโหตรงเข้าทำร้ายดังกล่าว เคราะห์ดีที่ลงมาช่วยทัน"นายสุจิตต์ เล่าอย่างออกรส เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อายัดตัวนายสุชนัย ไว้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

หนุ่มต้องสงสัยฆ่า 2 แม่ลูกลั่นจะฟ้องกลับกราวรูด

หนุ่มข้างห้อง 2 แม่ลูกไฟดูดตายขู่จะฟ้องกลับกราวรูดฐานทำให้เสียชื่อเสียง ลั่นผีมีจริงออกมาให้เห็นจะเตะโชว์นักข่าว

วันนี้ (12 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากข่าวโด่งดังถึงเรื่องการเสียชีวิตของ น.ส.ชนิตา ทรงโฉม อายุ 29 ปี และด.ญ.ณาดา สานุสันติ์ หรือน้องมิ้ง อายุ 5 ขวบ สองแม่ลูกที่ถูกไฟฟ้าดูดจนเสียชีวิตภายในห้องเช่าเลขที่ 2/58 ห้องหมายเลข 4 ซอยสัตหีบสุขุมวิท 25 ก ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แต่คดีกลับมีเงื่อนงำเนื่องจากเจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าสัตหีบ ระบุว่าภายในบ้านที่เกิดเหตุ และห้องผู้ต้องสงสัยที่อยู่ติดกัน ไม่พบการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า ประกอบกับดวงวิญญาณของผู้ตายได้มาเข้าสิงร่างผู้เป็นแม่ ขณะพระสงฆ์กำลังทำวิธีสวดเรียกวิญญาณ ได้ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม บอกว่าตนและลูกถูกฆาตกรรม นอกจากนี้ตำรวจพบหลักฐานคือสายไฟยาว 3 เมตร ปอกเปลือกหัวท้ายที่สามารถใช้ต่อตรงจากปลั๊กไฟ ถึงราวตากผ้าพอดี ภายในห้องหมายเลข 3 ซึ่งอยู่ติดห้องผู้ตายที่มีนายวุฒิชัย เคนโคก อายุ 35 ปี และน.ส.ทิพย์ธารทอง สืบสวน อายุ 32 ปี ภรรยาพักอาศัยอยู่ ทำให้ทั้งคู่ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้

ล่าสุดนายวุฒิชัย และน.ส.ทิพย์ธารทอง 2 สามีภรรยาที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนและภรรยาไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้ตายมาก่อน ส่วนที่ไม่ได้ออกมาโต้แย้งและไม่ไปร่วมงานศพ เนื่องจากโกรธเคืองที่ทางญาติผู้ตายกล่าวหาว่าเป็นคนลงมือฆ่า ทำให้สังคมมองว่าตนและภรรยามีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต พร้อมได้เข้าไปหยิบตู้ลำโพงจำนวน 2 ใบ ที่ตั้งอยู่ข้างทีวีออกมาให้ผู้สื่อข่าวดูว่า สายไฟที่พบ ได้เตรียมไว้เพื่อต่อเชื่อมระหว่างขั้วลำโพงกับหัวแจ๊คเสียบด้านหลังไม่ได้มีไว้เพื่อฆ่าคน

"ดวงวิญญาณบ้าอะไรเข้าร่างได้ทุกวัน แม้แต่ในวัดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยังไม่เกรงกลัว และชอบเข้าตอนนักข่าวมา หากดวงวิญญาณมีจริงขอให้ปรากฏต่อหน้า จะเตะผีโชว์นักข่าว หลังคดีสิ้นสุดและมีคำตัดสินว่าผมกับภรรยาเป็นผู้บริสุทธิ์ จะฟ้องกลับกับครอบครัวผู้ตายฐานให้การเท็จ หมิ่นประมาท ทำให้ผมและภรรยาได้รับความเสียหายอย่างแน่นอนโดยจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด" นายวุฒิชัยกล่าวด้วยอาการฉุนเฉียว.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ลอบขว้างบึ้มบ้านน้ามือบอมบ์สนามบินหาดใหญ่

โจรใต้ลอบขว้างระเบิดบ้านน้าชายมือบอมบ์สนามบินหาดใหญ่ ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าจับ

เมื่อเวลา 04.15 น. วันที่ 12 เม.ย. พ.ต.ท.แสนชัย เกษรินทร์ พงส.(สบ.2) สภ.โกตาบารู จ.ยะลา รับแจ้งมีคนร้ายลอบขว้างระเบิดใส่บ้านเลขที่ 31/1 หมู่ 3 ต.เนินงาม อ.รามัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.สมปราชน์ กรรณกานนท์ สวญ.พ.ต.ท.อัครโยธิน บุญวิโรจน์ สวป. ร.ต.อ.ภาคภูมิ นาคพนม สว.สส.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดชุด "ศรศึก-ศรชัย" และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวของนายอาหะมะ หะยีสะมะแอ วัย 56 ปี เจ้าหน้าที่พบร่องรอยความเสียหายหลายแห่ง กระเบื้องหลังคาบ้านหล่นกระจายเกลื่อน กระจกหน้าต่างห้องด้านล่างแตกหลายบาน โดยมี น.ส.ดารีละ หะยีสะมะแอ อายุ 25 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดไหล่และแขนซ้ายเป็นแผลเหวอะ จึงรีบนำส่ง รพ.ศูนย์ยะลา

จากการสอบสวนนายมะซับรี สะยีสะมะแอ ลูกชายเจ้าของบ้าน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงรถ จยย.ขี่วนเวียนอยู่บนถนนหน้าบ้าน จากนั้นไม่นานก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุบได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ เพราะจากการตรวจสอบพบว่านายอาหะมะ เป็นน้าชายแท้ ๆ ของนายไฟซอล หะยีสะมะแอ มือระเบิดสนามบินหาดใหญ่เมื่อต้นปี 2548 ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างหาเบาะแส เพื่อติดตามจับกุมต่อไป.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไฟเผาโรงงานเฟอร์นิเจอร์หาดใหญ่วอด

ไฟเผาโรงงานเฟอร์นิเจอร์กลางเมืองหาดใหญ่วอด ตำรวจคาดไฟฟ้าลัดวงจร เตรียมส่งพิสูจน์หลักฐานหาต้นตอ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 12 เม.ย. ร.ต.อ.อุดม บุญผุด พงส.(สบ1) สภ.หาดใหญ่ รับแจ้งเกิดเพลิงไหม้โรงงานพูนสินเฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 249/13 ถนนเฉลียวอุทิศตัดถนนศุภสารรังสรรค์เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จึงไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิง  10 คัน

ที่เกิดเหตุพบไฟโหมไหม้อย่างรวดเร็ว เพราะภายในมีการเก็บวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามลากสายเข้าไปฉีดสกัด แต่กลับพบอุปสรรค เนื่องจากความร้อนด้านในสูงมากจนทำให้โครงหลังคาพังถล่ม ทั้งเปลวไฟยังลากไปติดรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้เคียงด้วย แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ ได้หลังระดมฉีดน้ำนานกว่า 1 ชั่วโมง ค่าเสียประมาณ5ล้านบาท

เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะได้ประสานให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th