“ไอซีที” เผยเคาะบริษัทจัดการแท็บ เล็ต ป.1 แล้ว รอรัฐบาลจีนส่งหนังสือรับรอง ก่อนเปิดชื่ออย่างเป็นทางการ ยันส่งไปชื่อเดียวให้ประโยชน์สูงสุด เล็งตั้งสำนักงานการบริหารคอมพิวเตอร์ดูแล
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า คณะกรรมการจัดหาแท็บเล็ต ป.1 ได้รายชื่อบริษัทที่จะจัดหาแท็บเล็ตให้โครงการแท็บเล็ต ป.1 ของรัฐบาลแล้ว จำนวน 1 บริษัท ซึ่งทำการจัดหาแบบรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน (จีทูจี) โดยขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ต้องรอการรับรองจากรัฐบาลจีนก่อน แต่ยืนยันว่าคุณสมบัติแท็บเล็ต ป.1 ที่ได้มา เป็นคุณสมบัติสูงสุดและประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุด ถ้าไม่ใช้ความร่วมมือแบบจีทูจีจะไม่สามารถทำให้ราคาถูกได้ขนาดนี้
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจะทำเนื้อหาวิชาเรียนใน 5 กลุ่มสาระวิชา ซึ่งแท็บเล็ตเป็นเพียงเครื่องมือเสริมที่ทำให้เด็กเข้าถึงเทคโนโลยี และไม่ได้นำมาเรียนแทนหนังสือร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม นโยบายแท็บเล็ตนี้ระยะยาวไม่ได้แจกให้แต่เฉพาะเด็กป.1 เท่านั้น
“ตั้งแต่มีมติให้ทำเรื่องแท็บเล็ตก็พยายามทำให้ดี โดยได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ซึ่งพยายามคิดว่าเรื่องนี้โปร่งใส มีผลหรือไม่ ซึ่งผลของเงินที่จ่ายไป ความสำเร็จของโครงการวัดจากการบริหารจัดการกลางในการกระจายแท็บเล็ตให้ทั่วประเทศ และการใช้ระบบกลางในการบริหารการใช้แท็บเล็ต ขณะที่แอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการเรียนรู้ และคอนเท้นท์ (เนื้อหา) ก็ต้องเป็นความร่วมมือกัน โดยมอบหมายให้สำนักงานการบริหารคอมพิวเตอร์ดูแลเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการจัดหาแท็บเล็ตว่าจะจัดตั้งขึ้นมาเมื่อไหร่และขึ้นตรงกับใคร” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว.
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า คณะกรรมการจัดหาแท็บเล็ต ป.1 ได้รายชื่อบริษัทที่จะจัดหาแท็บเล็ตให้โครงการแท็บเล็ต ป.1 ของรัฐบาลแล้ว จำนวน 1 บริษัท ซึ่งทำการจัดหาแบบรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีน (จีทูจี) โดยขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ต้องรอการรับรองจากรัฐบาลจีนก่อน แต่ยืนยันว่าคุณสมบัติแท็บเล็ต ป.1 ที่ได้มา เป็นคุณสมบัติสูงสุดและประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุด ถ้าไม่ใช้ความร่วมมือแบบจีทูจีจะไม่สามารถทำให้ราคาถูกได้ขนาดนี้
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นจะทำเนื้อหาวิชาเรียนใน 5 กลุ่มสาระวิชา ซึ่งแท็บเล็ตเป็นเพียงเครื่องมือเสริมที่ทำให้เด็กเข้าถึงเทคโนโลยี และไม่ได้นำมาเรียนแทนหนังสือร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม นโยบายแท็บเล็ตนี้ระยะยาวไม่ได้แจกให้แต่เฉพาะเด็กป.1 เท่านั้น
“ตั้งแต่มีมติให้ทำเรื่องแท็บเล็ตก็พยายามทำให้ดี โดยได้ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ซึ่งพยายามคิดว่าเรื่องนี้โปร่งใส มีผลหรือไม่ ซึ่งผลของเงินที่จ่ายไป ความสำเร็จของโครงการวัดจากการบริหารจัดการกลางในการกระจายแท็บเล็ตให้ทั่วประเทศ และการใช้ระบบกลางในการบริหารการใช้แท็บเล็ต ขณะที่แอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการเรียนรู้ และคอนเท้นท์ (เนื้อหา) ก็ต้องเป็นความร่วมมือกัน โดยมอบหมายให้สำนักงานการบริหารคอมพิวเตอร์ดูแลเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการจัดหาแท็บเล็ตว่าจะจัดตั้งขึ้นมาเมื่อไหร่และขึ้นตรงกับใคร” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว.
แหล่งที่มาของข้อมูล www.daily.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น