กลาโหมตั้งวอร์รูมจับตาภัยฉุกเฉิน 24 ชม. เผยลิงค์ข้อมูลหน่วยทหาร-ชายแดน-ภัยพิบัติช่วยรัฐบาลทำงาน โฆษกเผย รมว.กลาโหมเตรียมควงผบ.เหล่าทัพเยือนจีนดูเรือดำน้ำ 25-28 เม.ย.นี้
วันนี้ ( 20 เม.ย. )ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมสภากลาโหมที่มีพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหมเป็นประธานในการประชุมว่า ภายหลังการประชุมสภากลาโหม ทางรมว.กลาโหมได้นำผบ.เหล่าทัพและสมาชิกสภากลาโหมไปดูศูนย์ปฏิบัติการของกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นอาคารที่ตั้งอยู่ด้านหลังกระทรวงกลาโหม โดยการปฏิบัติงานของศูนย์แห่งนี้เป็นวอร์รูมที่สามารถทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มเพื่อช่วยเหลืองานรัฐบาลได้เต็มรูปแบบ เช่น การสนับสนุน การช่วยเหลือภัยพิบัติ ซึ่งการปฏิบัติมี 3 ระดับ คือ 1.ขั้นปกติ โดยมีพล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผอ.สำนักนโยบายและแผนเป็นผู้ดูแล 2.เมื่อเกิดผลกระทบกับประชาชน โดยมีปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ดูแล 3.เมื่อเกิดการจลาจล การปะทะต้องใช้กำลัง หรือเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนจะมีรมว.กลาโหมเป็นผู้ดูแลควบคุม โดยจะมีนายทหารฝ่ายเสนาธิการของทุกเหล่าทัพมาติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลไปยังเหล่าทัพต่างๆ
พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ปัจจุบันศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวสามารถลิงค์ข้อมูลได้กับกระทรวงมหาดไทย หน่วยทหารทุกพื้นที่โดยเฉพาะตามแนวชายแดน และครอบคลุมการทำงานทุกพื้นที่ในประเทศ ตัวอย่างเช่น หากเกิดแผ่นดินไหว ผบ.เหล่าทัพก็สามารถมาสั่งการและติดตามสถานการณ์ทางมอนิเตอร์ได้ทันที ซึ่งปัจจุบันได้ลิงค์ข้อมูลกับทีวีวงจรปิดของกทม.จำนวนกว่า 6,000 จุด โดยในอนาคตจะสามารถเชื่อมต่อประสานข้อมูลกับกอ.รมน.ทุกจังหวัด ซึ่งถือว่า เป็นศุนย์ปฏิบัติการที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพ นอกจากนี้ศูนย์ดังกล่าวยังเปิดให้ประชาชนสามารถโทรมาแจ้งเตือนเหตุได้ด้วย โดยศูนย์ดังกล่าวได้เปิดทำงานแล้ว และเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
พ.อ.ธนาธิป ยังกล่าวด้วยว่า พล.อ.อ.สุกำพล มีกำหนดเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่าเป็นทางการในระหว่างวันที่ 25-28 เม.ย.นี้ โดยมี พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมทั้งนายทหารฝ่ายเสนาธิการและนายทหารระดับสูงของกระทรวงกลาโหมร่วมเดินทางด้วยซึ่งการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้ ถือเป็นการแนะนำตัวของ พล.อ.อ.สุกำพล หลังเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม และเพื่อกระชับสัมพันธไมตรี รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆโดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านความมั่นคง อีกทั้งจีนยังถือเป็นประเทศนอกอาเซียนที่เป็นมิตรกับประเทศไทยอย่างยาวนาน
พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า สำหรับภารกิจในครั้งนี้ รมว.กลาโหมจะเข้าเยี่ยมคำนับรองประธานาธิบดีของจีนและเยี่ยมชมยุทโธปกรณ์ทางทหาร โดยเข้ารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับอากาศยานแบบปีกหมุน (เฮลิคอปเตอร์ Z-9) และยุทโธปกรณ์เรือดำน้ำ ณ สถาบันเรือดำน้ำ รวมทั้งพบปะหารือกับรมว.กลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพของจีนเพื่อหารือข้อราชการ ทั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพล ได้มุ่งเน้นที่จะพัฒนาความร่วมมือกับจีนในทุกๆด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านการข่าว ด้านการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีทางทหารเพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพของกองทัพไทย ความร่วมมือในการฝึกศึกษาของกำลังพลในกองทัพทั้งสองประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประสิทธิภาพของกองทัพในภาพรวม
พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ปัจจุบันศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวสามารถลิงค์ข้อมูลได้กับกระทรวงมหาดไทย หน่วยทหารทุกพื้นที่โดยเฉพาะตามแนวชายแดน และครอบคลุมการทำงานทุกพื้นที่ในประเทศ ตัวอย่างเช่น หากเกิดแผ่นดินไหว ผบ.เหล่าทัพก็สามารถมาสั่งการและติดตามสถานการณ์ทางมอนิเตอร์ได้ทันที ซึ่งปัจจุบันได้ลิงค์ข้อมูลกับทีวีวงจรปิดของกทม.จำนวนกว่า 6,000 จุด โดยในอนาคตจะสามารถเชื่อมต่อประสานข้อมูลกับกอ.รมน.ทุกจังหวัด ซึ่งถือว่า เป็นศุนย์ปฏิบัติการที่ทันสมัยที่สุดของกองทัพ นอกจากนี้ศูนย์ดังกล่าวยังเปิดให้ประชาชนสามารถโทรมาแจ้งเตือนเหตุได้ด้วย โดยศูนย์ดังกล่าวได้เปิดทำงานแล้ว และเปิดตลอด 24 ชั่วโมง
พ.อ.ธนาธิป ยังกล่าวด้วยว่า พล.อ.อ.สุกำพล มีกำหนดเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่าเป็นทางการในระหว่างวันที่ 25-28 เม.ย.นี้ โดยมี พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมทั้งนายทหารฝ่ายเสนาธิการและนายทหารระดับสูงของกระทรวงกลาโหมร่วมเดินทางด้วยซึ่งการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนในครั้งนี้ ถือเป็นการแนะนำตัวของ พล.อ.อ.สุกำพล หลังเข้ารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม และเพื่อกระชับสัมพันธไมตรี รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆโดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านความมั่นคง อีกทั้งจีนยังถือเป็นประเทศนอกอาเซียนที่เป็นมิตรกับประเทศไทยอย่างยาวนาน
พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า สำหรับภารกิจในครั้งนี้ รมว.กลาโหมจะเข้าเยี่ยมคำนับรองประธานาธิบดีของจีนและเยี่ยมชมยุทโธปกรณ์ทางทหาร โดยเข้ารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับอากาศยานแบบปีกหมุน (เฮลิคอปเตอร์ Z-9) และยุทโธปกรณ์เรือดำน้ำ ณ สถาบันเรือดำน้ำ รวมทั้งพบปะหารือกับรมว.กลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพของจีนเพื่อหารือข้อราชการ ทั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพล ได้มุ่งเน้นที่จะพัฒนาความร่วมมือกับจีนในทุกๆด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านการข่าว ด้านการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีทางทหารเพื่อนำมาพัฒนาศักยภาพของกองทัพไทย ความร่วมมือในการฝึกศึกษาของกำลังพลในกองทัพทั้งสองประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประสิทธิภาพของกองทัพในภาพรวม
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น