ระเบิดคาร์บอมบ์หาดใหญ่สูญ 500 ล้าน วิศว มอ.เข้าตรวจโครงสร้างโรงแรม มทภ.4 ตรวจวงจรปิดเหตุร้ายที่ยะลา ด้านเพรียวพันธ์ สั่งเก็บหลักฐานละเอียดยิบ
วันนี้ (1 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุคาร์บอมบ์ที่ลานจอดรถใต้ดินของโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่ากลางเมืองหาดใหญ่เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ทำให้มีคนเสียชีวิตหลายคน และบาดเจ็บประมาณ 500 คน และรถที่จอดลานจอดรถเสียหาย 100 กว่าคันนั้น ล่าสุด นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่เปิดเผยว่า เทศบาลฯได้ประสานกับคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และเทศบาลเข้าไปตรวจสอบโครงสร้างของโรงแรมในวันที่ 2 เม.ย.หลังจากทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปเก็บหลักฐานแล้ว แต่คาดว่าโครงสร้างโรงแรมไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเมืองหาดใหญ่และ จ.สงขลาโดยภาพรวมประมาณ 500 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจะลดลงในช่วง 3 เดือนเป็นอย่างน้อย
นายไพรเปิดเผยว่าส่วนผลกระทบในระยะยาวคือการเปิดการค้าเสรีในปี 2558 หากฝ่ายความมั่นคงยังไม่มีมาตรการแก้ปัญหาเหตุการณ์ไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลงได้ ที่ส่งผลกระทบมายัง อ.หาดใหญ่พื้นที่เศรษฐกิจของภาคใต้ทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วย
นายสมชาติ พิมพ์ธนพูนพร ประธานสภาอุตสาหกรรมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาระบุว่าระเบิดคาร์บอมบ์ที่ลานจอดรถโรงแรม จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเกือบ 500 คน ที่ส่งผลกระทบแน่นอนคือเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวยกเลิกจองห้องพักไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของการจองห้องพักทั้งหมด 12,500 ห้อง และในระยะยาวนักท่องเที่ยวและนักลงทุนไม่เชื่อมั่นไม่น้อยกว่า 3 เดือน ตนประมาณความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และอาจจะเสียโอกาสการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดอื่นๆไปด้วย
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองเลขาธิการพรรค ปชป.เปิดเผยว่าระเบิดคาร์บอมบ์กลางเมืองหาดใหญ่เป็นความละหลวมของเจ้าหน้าที่การข่าว ทั้งๆที่ใช้งบลับปีหนึ่งๆไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาททำงานด้านการข่าว และที่สำคัญเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ ที่ไม่มีความต่อเนื่องในการป้องกันและปราบปราบอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในช่วงก่อนเทศกาลสำคัญๆอ.หาดใหญ่ ที่มีแผนกวาดล้างและป้องกันเมืองล่วงหน้าเข้มข้นอย่างน้อย 1 เดือน จึงทำให้การเคลื่อนไหวของคนร้ายที่เข้ามาวางระเบิดเป็นไปด้วยความลำบากขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ เข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของชุดเฉพาะกิจพิทักษ์เมืองหาดใหญ่ เพื่อตรวจสอบหาเบาะแสเกี่ยวกับรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส ของคนร้ายที่ใช้เป็นระเบิดคาร์บอมบ์ ในช่วงเวลา09.00น.-12.00 น.ตามเส้นทางรอบบริเวณโดยรอบของโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า โดยเฉพาะถนนเสน่หานุสรณ์ ถนนประชาธิปัตย์และถนนนิพัทธ์อุทิศ3 ขณะที่กล้องวงจรปิดบริเวณทางเข้าของโรงแรมลีการ์เดนส์ นั้นซึ่งเป็นจุดสำคัญที่คาดว่าจะจับภาพรถยนต์และภาพของคนร้ายได้นั้นมีรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการยกเครื่องบันทึกภาพวงจรปิดของโรงแรมไปตรวจสอบแล้ว.
ขณะเดียวกัน พล.ท.อุดมชัย ธรรมาสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ คนร้ายลอบวางระเบิด บริเวณถนนรวมมิตร ในเขตเทศบาลนครยะลา โดยมีนายพงศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา ท่ามกลางการอารักขาอย่างเข้มงวด ภายหลัง แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า ระหว่างการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั้น เชื่อว่าเป็นการตอบโต้ของฝ่ายกลุ่มคนร้าย ที่ถูกทางเจ้าหน้าที่กดดัน ทั้งการจับกุม และการตรวจค้นมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้าเกิดเหตุ หน่วยการข่าว รู้เบาะแสพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายแล้วว่ากำลังเตรียมการที่จะมาก่อเหตุในเขตเมือง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด แต่คนร้ายได้อาศัยช่องว่างของเจ้าหน้าที่ มาก่อเหตุจนได้ ขณะนี้จากการตรวจสอบภาพจากวงจรปิด และฐานการข่าวที่มีอยู่ พอจะรู้ตัวกลุ่มคนร้ายที่มาปฏิบัติการในครั้งแล้ว คงจะสามารถติดตามจับกุมโดยเร็ว
สำหรับภาพวงจรปิด ที่ทางเทศบาลนครยะลา นำมาเปิดเผย นั้น เป็นภาพที่เห็นคนร้ายที่นำรถยนต์มาจอดอย่างชัดเจน แต่ทางเทศบาลนครยะลา ไม่กล้าที่จะนำภาพตอนที่กำลังระเบิดมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน เนื่องจากเกรงจะเป็นภาพอุจาดสายตาชาวบ้าน ที่มีคนเจ็บล้มระเนระนาดปรากฏ ต่อสายตาประชาชน
ด้าน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ได้เดินทางมาตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้งก่อนที่จะเดินทางลงพื้นที่ไปยัง จ.ยะลา โดยย้ำให้เจ้าหน้าที่จุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดี ตรวจสอบเก็บหลักฐานบริเวณจุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์อย่างละเอียดและเร่งตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับรถยนต์ที่ใช้วางระเบิดทั้งผู้ครอบครองและรายละเอียดต่างๆ ซึ่งในช่วงเช้าของวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจะลงไปตรวจสอบบริเวณชั้นลานจอดรถบี3 ซึ่งเป็นจุดวางระเบิดและยังกันพื้นที่บริเวณโรงแรมห้ามไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปอย่างเด็ดขาด
ด้านเจ้าหน้าที่โรงแรมและตำรวจท่องเที่ยวได้ตั้งจุดประสานงานขึ้นบริเวณหน้าโรงแรมเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่เป็นแขกโรงแรมแจ้งในเรื่องของทรัพย์สินและข้าวของที่ยังติดค้างอยู่ตามห้องพักซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าไปเก็บข้าวของได้ ขณะที่ตำรวจท่องเที่ยวเผยว่าเมื่อคืนนี้ได้มีการแจ้งข้อมูลผู้สูญหายอีก3 รายเป็นชาวไทย 1 รายและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 1 รายและยังไม่ทราบว่าพบตัวแล้วหรือไม่เนื่องจากญาติไม่ได้มาแจ้งความคืบหน้า
ขณะที่การหาเบาะแสของคนร้ายเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ก่อนที่คนร้ายจะขับรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส เข้าไปจอดภายในโรงแรมซึ่งคาดว่ากล้องวงจรปิดน่าจะจับภาพความเคลื่อนไหวไว้ได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวในพื้นที่เผยว่าขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เหตุคาร์บอมบ์ ในอ.หาดใหญ่ เป็นฝีมือของกลุ่มใด เนื่องจากไม่ได้มีความเคลื่อนไหวของแกนนำในพื้นที่ อ.หาดใหญ่
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น