วันนี้ (2 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้าในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ลงพื้นที่ภาคใต้หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ว่า เป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นการไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชน นอกจากนี้ยังจะได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะคนที่รับผิดชอบในระดับหลักๆที่จะสามารถทำให้นโยบายเป็นเอกภาพ ส่วนที่กล่าวอ้างว่าจะไม่ได้ไปทุกจุดเพราะเกรงใจเจ้าหน้าที่ที่จะมาดูแลนายกฯเป็นพิเศษนั้น ตนมองว่ามันอยู่ในวิสัยที่จะจัดระบบได้ โดยอาจจะมีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางไปเพิ่ม สำหรับเรื่องที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯด้านความมั่นคงออกมายอมรับว่า การก่อเหตุในครั้งนี้อาจเกิดจากความไม่พอใจในเรื่องการเจรจากับกลุ่มหนึ่งโดยอีกกลุ่มหนึ่งไม่ได้เจรจาด้วยนั้น ที่ผ่านมาตนย้ำตลอดว่า การแก้ปัญหาต้องอาศัยความละเอียดอ่อนเข้าใจถึงสถานการณ์การจะตัดสินใจทำอะไรหรือพูดอะไรให้สัมภาษณ์อย่างไรต้องระวัง หลายเรื่องที่ผ่านมาไม่ควรพูด ตนอยากให้รัฐบาลทบทวนโยบายในเรื่องของสถานการณ์ โดยเฉพาะจุดที่คิดว่ามีปัญหาทั้งหมด และเมื่อรองนายกฯออกมายอมรับว่ามีบางจุดที่ต้องไปทบทวนก็ควรทำ
เมื่อถามว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ บอกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นภายใน 3 เดือน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นจุดหนึ่งที่อยากให้ระมัดระวังคำพูด และอย่าไปทำอะไรที่คิดว่าจะไปเป็นปฏิกริยาตอบโต้และเข้าสู่วงจรของความรุนแรง แต่ทางตรงกันข้ามคือต้องตั้งหลักให้ดี และทบทวนนโยบาย และเราต้องยืนยันต่อไปว่าเป็นปัญหาภายในประเทศ เพราะถ้าไม่ยืนยันอย่างนี้ก็จะเกิดความซับซ้อนและเกิดอาการแทรกซ้อนขึ้นมาอีก ซึ่งตนก็มีความกังวลว่า ที่ผ่านมาเวลาเราติดตามงานในสภาฯยังเห็นว่าการติดตามปัญหานี้อย่างเกาะติดยังไม่ได้เกิดขึ้นในระดับนโยบาย เมื่อถามย้ำว่า เป็นเพราะรัฐบาลประเมินสถานการณ์ต่ำไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่า ลำดับความสำคัญผิด เพราะมัวแต่ไปหมกมุ่นอยู่กับหลายเรื่องที่ไม่ควรไปใช้เวลาตรงนั้น ควรมาดูแลปัญหาประชาชนมากกว่าอย่างเช่นการไปเร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จวาระ 2 ก่อนเทศกาลสงกรานต์ รายงานปรองดองต้องเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯให้ได้ในวันที่ 4 เม.ย. ทั้งนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ได้ศึกษากรณีปัญหาภาคใต้เสร็จแล้ว แต่กลับมีเพียงรายงานแนบไปเฉย ๆ ถือว่าไม่ค่อยเหมาะสม เพราะคณะกรรมิการฯ ไม่ได้นำมาพิจารณาให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่กลับกล่าวอ้างเพื่อเร่งรัดในสิ่งที่ตัวเองอยากได้
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น