วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

หนุนเกษตรกรผลิตก๊าซชีวภาพ





รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยถึงผลการศึกษาความคุ้มค่าในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาด ว่า การจัดทำกลไกการพัฒนาที่สะอาด  เป็นกลไกหนึ่งที่กำหนดขึ้นภายใต้พิธีสารเกียวโตเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยในเบื้องต้นได้กำหนดสัญญาซื้อขายคาร์บอนเครดิตเฉพาะปีที่ 1-2 ไว้ที่ราคา 17 ดอลลาร์ สหรัฐต่อตัน สำหรับ 253,500 ตันแรก และหลังจากนั้นจะซื้อขายในราคาตลาด ซึ่งแม้ว่าฟาร์มสุกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโครงการดังกล่าว มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนและการดำเนินการค่อนข้างสูง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาถึงความคุ้มค่าของการลงทุน โดยศึกษาจากฟาร์มสุกรที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 10 ฟาร์ม และกำหนดให้อายุโครงการเท่ากับ 10 ปี มีอัตราคิดลดร้อยละ 7.00

จากวิเคราะห์ทางการเงินของการลงทุนในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาด ที่เข้าร่วมโครงการของกรมปศุสัตว์ทั้งกรณีที่มีเงินอุดหนุนและไม่มีเงินอุดหนุน พบว่า  มูลค่าปัจจุบันสุทธิ มีค่า 188.16 และ 131.00 ล้านบาท  อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน มีค่าเท่ากับ 1.56 และ 1.36 และมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน เท่ากับร้อยละ 45 และ 25 ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การลงทุนในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาดในภาพรวม  ทั้งกรณีมีเงินอุดหนุนและไม่มีเงินอุดหนุนมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน

หากวิเคราะห์ถึงความอ่อนไหวของโครงการทั้ง 2 กรณีข้างต้น  พบว่า การลงทุนในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาดจะไม่คุ้มค่า หากผลตอบแทนของโครงการลดลงมากกว่า ร้อยละ 63 และ 54 ตามลำดับ และหากต้นทุนในการลงทุนของโครงการดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 56 และ 39 ตามลำดับ

นอกจากนี้ จากการศึกษายังพบว่า ราคาตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตในปัจจุบันมีความผันผวนสูง ดังนั้น การก่อตั้งกองทุนคาร์บอนเครดิตจึงเป็นประเด็นที่ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำมาพิจารณาในการส่งเสริม โครงการการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาด.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น