สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ชี้ "พนิตา" แค่บกพร่องหรือผิดระเบียบ มิใช่ประพฤติมิชอบหรือทุจริต เจ้าตัวชี้ตามหลักไม่จำเป็นที่จะต้องสั่งย้าย จนกว่าจะชี้ว่าข้อเท็จจริงนั้นมีมูลหรือไม่ เตรียมยื่นเรื่องฟ้องดำเนินคดี ''สันติ''...
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ความคืบหน้ากรณีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สั่งย้ายนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ โดยอ้างถึงหนังสือสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2554 ให้เรียกเงินคืนจากปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่ใช้เงินผิดประเภทไปในการเดินทางไปต่างประเทศของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และให้ดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น
นางพนิตา ให้สัมภาษณ์ว่า สตง.ได้มีหนังสือด่วนที่สุดมาถึงตน ลงวันที่ 22 มี.ค.2555 มีใจความระบุถึงการตรวจสอบและทักท้วงการเบิกจ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปต่างประเทศของกรมพัฒนาสังคมฯ เป็นกรณีที่ สตง.เห็นว่าเป็นการนำเงินนอกงบประมาณไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หลักของเงินบริจาค เงินบำรุงกิจการนิคม และเงินสะสมค่าอาหารตามคำสั่งกรมประชาสงเคราะห์ ซึ่งเป็นกรณีบกพร่องหรือผิดระเบียบมิใช่กรณีประพฤติมิชอบหรือทุจริต จึงได้ทักท้วงและให้ดำเนินการทางวินัยกับปลัดกระทรวงฯ ในขณะนั้นและผู้เกี่ยวข้อง ซึ่ง รมว.การพัฒนาสังคมฯ ต้องสอบสวนข้อเท็จจริงถึงผู้รับผิดในความเสียหาย (ถ้ามี) และดำเนินการทางวินัยตามควรแก่กรณีที่บกพร่องหรือผิดระเบียบ นอกจากนี้ หนังสือดังกล่าวยังระบุถึงกรณีที่ตนได้ส่งหนังสือชี้แจงเรื่องดังกล่าวไปเพิ่มเติม โดย สตง.ระบุถึงการพิจารณาเบื้องต้น เป็นปัญหาข้อโต้แย้งทางกฎหมายในเรื่องดุลพินิจ ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของ สตง. ซึ่งจะต้องพิจารณาประกอบกับผลการดำเนินการของ รมว.ในการสอบสวนข้อเท็จจริง
นางพนิตา กล่าวด้วยว่า หนังสือชี้แจงของ สตง.ดังกล่าว ชี้ชัดว่าเป็นเพียงแค่ข้อบกพร่องหรือผิดระเบียบ มิใช่ประพฤติมิชอบหรือทุจริต ดังนั้นตามกระบวนการทางกฎหมาย หากกรณีมีข้อสงสัยรมว.การพัฒนาสังคมฯ ต้องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งในชั้นนี้ตามหลักไม่จำเป็นที่จะต้องสั่งย้าย จนกว่าจะชี้ว่าข้อเท็จจริงนั้นมีมูลหรือไม่ จึงจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัย แต่ปรากฏว่านายสันติไม่ได้ดำเนินการตามกระบวนการ โดยมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยตนในวันที่ 9 มี.ค.2555 และเสนอย้ายตนต่อที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2555 ตนจึงจำเป็นต้องยื่นเรื่องฟ้องดำเนินคดีกับนายสันติ ที่ไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย คาดว่าจะสามารถยื่นฟ้องในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ก็จะยื่นฟ้อง ครม.ด้วย เนื่องจากมีความหละหลวมในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงระดับ 11 ทั้งที่ควรเป็นวาระการพิจารณาร่วมของ ครม. เพราะต้องพิจารณาผู้ที่ถูกย้ายออกและย้ายเข้ามาอย่างเหมาะสม แต่กรณีของตนกลับเป็นเรื่องพิจารณาแค่วาระจรเพื่อทราบ
อย่างไรก็ตาม เมื่อบ่ายวันนี้ตนได้ทำหนังสือถึงนายกฯ ให้พิจารณาทบทวนยกเลิกมติ ครม.ที่โยกย้ายตน และยกเลิกการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย โดยได้ยื่นเอกสารชี้แจงทั้งหมดรวมถึงหนังสือชี้แจงของสตง.แนบไปพร้อมด้วย นอกจากนี้ยังได้ส่งเอกสารข้อมูลทั้งหมดให้กับนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบวินัยนายสันติด้วย.
แหล่งที่มา www.thairath.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น