"ทักษิณ" โฟนอินเวทีเสื้อแดงภาคตะวันออก ระบุมาลาวในวันที่ 12 เม.ย. และร่วมทำบุญสงกรานต์เมืองเสียบเรียบ กัมพูชา ในวันที่ 14 เม.ย. เชิญชวนไปพบกัน ลั่นจะกลับไทยในเร็วๆนี้ วอนให้รักสามัคคีปรองดองแสดงความจงรักภักดีวันมหามงคลพระราชินี...
เมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค.2555 กลุ่มน.ป.ช.คนเสื้อแดงภาคตะวันออก จัดเวที"คนเสื้อแดงต้านรัฐประหาร เปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญ"บริเวณปากซอยเขาตาโล ถนนสุขุมวิท ม.11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีคนเสื้อแดงมาร่วมประมาณหมื่นกว่าคน โดยมีนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายชาญยุทธ์ เฮงตระกูล ประธาน นปช.ภาคตะวันออก ขึ้นกล่าวบนเวทีถึงเรื่อง การเมืองที่ยังไม่นิ่งเพราะมีฝ่าย ที่ไม่ต้องการความปรองดอง ทั้งที่ฝ่ายเสื้อแดงและรัฐบาล มีความประสงค์ต้องการที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น ให้ได้เพื่อประเทศชาติจะได้ก้าวหน้าต่อไป
กระทั่งเมื่อเวลา 20.15 นาที พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์โฟนอิน เข้ามายังเวทีกิจกรรม โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า จะเดินทางมาถึงเวียงจันทร์ ประเทศลาว ในตอนเช้าวันที่ 12 เม.ย. ซึ่งจะอยู่จนถึงวันที่ 14 เม.ย. โดยในตอนบ่ายวันเดียวกันจะบินไปทำบุญสงกรานต์ที่เมืองเสียบเรียบ ประเทศกัมพูชา พร้อมกันนี้ได้กล่าวเชิญชวนคนเสื้อแดงไปเที่ยวและไปพบกันที่กัมพูชาโดยจะหาที่พักให้ เมื่อคืนวันที่ 24 มี.ค.2555 กลุ่มน.ป.ช.คนเสื้อแดงภาคตะวันออก จัดเวที"คนเสื้อแดงต้านรัฐประหาร เปลี่ยนผ่านรัฐธรรมนูญ"บริเวณปากซอยเขาตาโล ถนนสุขุมวิท ม.11 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มีคนเสื้อแดงมาร่วมประมาณหมื่นกว่าคน โดยมีนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และนายชาญยุทธ์ เฮงตระกูล ประธาน นปช.ภาคตะวันออก ขึ้นกล่าวบนเวทีถึงเรื่อง การเมืองที่ยังไม่นิ่งเพราะมีฝ่าย ที่ไม่ต้องการความปรองดอง ทั้งที่ฝ่ายเสื้อแดงและรัฐบาล มีความประสงค์ต้องการที่จะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น ให้ได้เพื่อประเทศชาติจะได้ก้าวหน้าต่อไป
นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า บ้านเมืองกำลังเข้าสู่ความปรองดอง แต่คนที่ไม่ต้องการปรองดอง ก็หวังเพียงชนะการเลือกตั้งเท่านั้นไม่ได้คำนึงถึงบ้านเมือง แต่ยังไงก็ไม่ชนะถ้าไม่ยึดประชาชน และถ้าไม่หันหน้ามาหากันบ้านเมืองจะไปลำบาก โดยยอมรับว่า ความโกรธมีกันอยู่บ้าง ซึ่งวันนี้เราต้องกลืนเลือด และผู้ที่กลืนเลือดมากที่สุดคือตนเอง เป็นผู้ที่ถูกกระทำมากที่สุดโดยถูกกลั่นแกล้งทุกรูปแบบ แต่ก็ต้องอดทน เพราะต้องการให้บ้านเมืองไปได้ ซึ่งที่ผ่านมาคนเสื้อแดงถูกกระทำ ถูกฆ่าตาย ด้วยคนใจอำมหิต ขอยืนยันจะไม่ทิ้งพี่น้อง เพราะพี่น้องไม่ทิ้งตนเอง และในเร็วๆ นี้จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อมาแก้ปัญหาให้ประชาชน เพราะขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ท้ายที่สุดกล่าวว่า ปีนี้เป็นปีมหามงคลสำคัญยิ่ง วันที่ 28 ก.ค.วันครบ 60 พรรษา ของสมเด็จพระบรมราชินีนาถฯ และวันที่ 12 ส.ค.ครบ 80 พรรษา สมเด็จพระบรมพระราชินีนาถฯ ดังนั้นในปีนี้ต้องรักสามัคคีและมีความปรองดองเพื่อแสดงความจงรักภักดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น