คราวนี้รู้สึกว่าเกมจะโหลดเร็วขึ้นมานิดนึงแฮะ สำหรับเกมในภาค 2 นี้ ระบบหลักๆ ยังไม่แตกต่างจากภาคแรกนะครับ (คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก) โดยสิ่งที่แตกต่างจากภาคแรกเท่าที่สังเกตได้ก็มี
1. เนื้อเรื่องแต่ละตอน สามารถเลือกเล่นได้เลยโดยไม่ต้องจบเรียงไปเรื่อยๆ (ยกเว้นตอนที่ 5 End of the Road ที่ต้องเคลียร์ 4 เนื้อเรื่องแรกให้จบก่อน)
2. มีฉาก Training Ground เป็นฉากแรก ซึ่งเป็นฉากไว้ฝึกการควบคุม และระบบส่วนต่างๆของเกม
3. สามารถเลือกพาร์ทเนอร์ก่อนเข้าเกมได้
4. ตัวละครที่เลือกในแต่ละฉาก จะมีผลต่อเกมการเล่นมากยิ่งขึ้น (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของไอเทมติดตัว)
5. ในโหมดออฟไลน์ภาคนี้สามารถเซฟเกมแล้วเล่นต่อได้เลยทันที แต่เกมจะเก็บเซฟเพียงแค่ 1 เซฟ ที่เป็นเซฟครั้งล่าสุดเท่านั้น (ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนของเกม)
6. ในโหมดออฟไลน์ บางเนื้อเรื่อง จะมีตัวละครที่มีผลโดยตรงต่อเนื้อเรื่องนั้นๆอยู่ (สังเกตได้ว่าถ้าเราไม่ได้เลือกตัวละครนั้นมาบังคับหรือเป็นพวก เค้าก็จะโผล่มาตอนต้นเกมให้เห็น)
* บทสรุปนี้อ้างอิงกับเกมระดับ Easy (เพื่อให้นักเล่นเกมที่ไม่ใช่สาวกเกมนี้สามารถเล่นได้ด้วย) ดังนั้นปริศนาบางอย่างจะไม่เหมือนกับแบบ Normal นะครับ และที่สำคัญคือ จะบอกเพียงแค่ทางผ่านหลักๆ เพื่อให้เล่นจบได้เท่านั้น บางครั้งอาจมีบางเงื่อนไขที่ไม่ตรง 100% (เพราะเกมมี NPC มาให้เรา 2 ตัว ซึ่งมีผลต่อปริศนาบางอย่างได้)
-----------------------------------------
Wild Thing (เนื้อเรื่องของ Cindy)
Elephant Restaurant
1 - เริ่มเกมยังไม่สามารถเปิดประตูสวนสัตว์เข้าไปได้ ให้วิ่งย้อนมาตามทางเรื่อยๆ จนถึงร้านอาหาร Elephant Restaraunt ตรงสุดทาง เข้าไปในร้านจะมีประตูที่เข้าไม่ได้ทั้งหมด 3 บาน 2 บานแรกเป็นประตูเข้าสู่ห้องครัว ให้พังเข้าไป (ใช้ไม้ดี , พุ่งกระแทก หรือปืนยิงก็ได้) เข้ามาจะสำรวจได้คีมตัดเหล็กจากด้านในของเคาเตอร์ ส่วนอีกประตู ถ้าพังเข้าไป จะโผล่มายังหลังร้าน (Back Alley) ซึ่งที่นี่เราจะได้ปืน Shotgun และสุดทางก็มีประตู ที่เมื่อพังเข้าไป ก็จะพาเราย้อนกลับมาถนนใหญ่หน้าร้าน Elephant Restaurant เช่นเดียวกัน
2 - วิ่งกลับมาที่ประตูเข้าสวนสัตว์ กดสำรวจประตูธรรมดา ก็จะเป็นการใช้คีมตัดโซ่ที่ล็อคประตูไว้ จากนั้นก็เข้าไปข้างใน
3 - เข้ามาสังเกตข้างๆทาง จะมีไอเทมตกอยู่ด้านล่าง แต่เราลงไปหยิบไม่ได้เพราะมีรถขวางทางอยู่ ถ้าเลือกเล่นเป็น Mark จะสามารถดันรถเพื่อลงไปเก็บของได้ (แต่ไม่สำคัญมาก เป็นเพียงกระสุนปืนธรรมดาเท่านั้น) จากนั้นก็วิ่งไปตามทางเรื่อยๆ ตรงประตูสุดทาง จะพาเรามายัง North Concorse
North Concorse - Office
4 - โซนนี้จะเป็นที่ตั้งของสำนักงาน (Office) เข้ามาสำรวจให้ครบทุกห้อง จะได้กุญแจจากโต้ะทำงาน แล้วออกจาก Office เข้าประตูไปยัง East Concorse
* ในห้องทำงานข้างในจะมีรูปปั้นตุ้กตาแรคคูนสีทอง เราสามารถนำเหรียญที่เก็บในสวนสัตว์มาใส่ เพื่อปลดล็อคเอากระสุนปืนได้
East Concorse
5 - วิ่งไปตามทางเรื่อยๆ สุดทางจะมีประตูที่สามารถนำกุญแจจาก Office มาเปิดเข้าไปได้ เราจะโผล่มายัง Elephant Stage
Elephant Stage
6 - เข้ามาในสุดจะเห็นบันไดลิง ปีนขึ้นมายังห้องควบคุม รอจนกระทั่งช้างซอมบี้เข้ามาข้างใน จากนั้นกดสำรวจที่แผงควบคุมตรงกลางเพื่อปิดประตูขังช้างซอมบี้ไว้ (ถ้ารอนาน ช้างยังไม่ยอมมาซักที อาจจะลองกดเปิดเพลง เพื่อเรียกความสนใจก็ได้นะ)
7 - เข้าประตูข้างๆ จะเป็นทางบันไดยาว เมื่อวิ่งลงมาล่างสุด จะมีประตูสองฝั่ง ฝั่งขวาเป็นประตูที่เราสามารถกดปลดล็อคเพื่อย้อนกลับเข้าไปยัง Elephant Stage ได้ (ตรงนี้ให้เข้าประตูขวาไปก่อน เพื่อไปเก็บตราสัญลักษณ์ ที่ตกลงมาพร้อมศพ ตอนเรากดปิดประตู) จากนั้นกลับมาเข้าประตูฝั่งซ้าย เพื่อไปยัง Terrarium Dome
Terrarium Dome
8 - วิ่งขึ้นบันไดไปชั้น 2 ของโดม จะเห็นลังวางอยู่บนพื้น ดันให้ตกลงมาทับดอกไม้ด้านล่าง สังเกตใกล้ๆ กันจะมีแผงควบคุมอันแรก (ไฟ 3 ดวง) อยู่ กดสำรวจซะ จากนั้น ก็วิ่งไปตามทางเรื่อยๆ จนกระทั่งลงบันไดมายังชั้น 1 ให้วิ่งย้อนกลับมายังจุดที่เราดันกล่องลงไปทับดอกไม้ ปีนขึ้นลังไป จากนั้นก็กดสำรวจ แผงควบคุมอันที่ 2
9 - สำรวจให้ดีจะเจอแผงควบคุมอันที่ 3 (อยู่ตรงชั้น 1 นั่นแล่ะ) เมื่อกดแผงควบคุมครบ 3 อัน จะได้กระสุนปืนไรเฟิลเพิ่มมาอีก จากนั้น ให้วิ่งออกประตูอีกฝั่งไป
Lakeside Area
10 - ออกจากโดมมา จะเป็นสระน้ำ ว่ายข้ามไปอีกฝั่ง (สามารถหยิบไม้เขวี้ยง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของจระเข้ได้นะ แต่ส่วนมากมันจะว่ายไปกัดเพื่อนเรามากกว่า -_-" ) เข้าประตูสุดทาง
Observation Deck
11 - ขึ้นไปชั้นบนของ Observation Deck สำรวจตู้ในห้อง จะได้ปืนไรเฟิล จากนั้นกลับออกลงมาด้านล่าง ดูจากแผนที่ สังเกตตรงทางเดินจะที่มีเนื้อที่ยืนออกไปนิดนึง วิ่งไปตรงนั้น จะเห็นรูอยู่ที่พื้นกำแพงด้านล่าง คลานเข้าไป จะเป็นทางลัดโผล่มายัง Front Gate Plaza (เจอสิงโตจะใช้ Shotgun ยิงทิ้งก็ได้นะ เพราะค่อนข้างอันตรายเหมือนเกิน) นำตราสัญลักษณ์ ไปใช้กับรูปปั้นสิงโตตรงกลาง ประตูกลาง (Front Gate) จะถูกเปิดออก เข้าไปซะ จะเป็นการสู้กับบอสของเนื้อเรื่องนี้
* วิธีปราบก็ง่ายๆ ถ้ามีไรเฟิลอยู่แล้ว หาจังหวะหลบแล้วก็ยิงๆๆ อย่างเดียว เดี๋ยวก็ตาย
** ถ้าตรงฉาก Elephant Stage เราไม่ได้ขังช้างซอมบี้ไว้ หรือขังแต่มันพังออกมาได้ ท้ายเกมเราก็จะได้สู้กับมันซ้ำอีกรอบเช่นเดียวกัน
ปราบบอสเสร็จวิ่งเข้ารถรางไปเป็นอันเสร็จสิ้นเนื้อเรื่องแรก
---------------------------------------------------------------------------
Underbelly
สิ่งที่แตกต่างในการเลือกตัวละครของฉากนี้ก็คือ ถ้าเล่นเป็น Jim เราจะมีกุญแจติดตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าเล่นเป็นตัวละครอื่น กุญแจจะอยู่ที่เพื่อนคนใดคนหนึ่งของเรา ให้ขอกันเอาเอง
1 - วิ่งลงบันไดไปตามทาง จนถึงจุดขายตั๋ว เดินเข้าช่องไป สุดทางก่อนลงบันได จะมีประตูที่เขียนว่า Tower ตรงนี้ เราต้องใช้กุญแจจากเพื่อน (ในกรณีที่ไม่ได้เล่นเป็น Jim) มาเปิด โดยส่วนมากเราจะต้องลงไปยังชานชาลาด้านล่าง ตรงจุดที่มีรถไฟจอดอยู่ (เพื่อนคนที่มีกุญแจส่วนมากจะอยู่ตรงนี้)
Tower
2 - วิ่งไปตามทาง เข้าประตูแรกทางด้านซ้าย (Control Room) สำรวจไฟล์บนโต้ะทำงาน
3 - ออกจากห้อง Control Room วางไปตามทาง จะเห็นทางแยกไปทางขวา วิ่งไป สุดทาง จะเป็นห้องน้ำชายอยู่ฝั่งซ้าย ห้องน้ำหญิงอยู่ฝั่งขวา ให้เข้าห้องน้ำชายไป (Men Staff Restroom) ในนี้จะสำรวจได้ไฟล์ที่มีรหัส (แต่บางครั้งก็อาจจะกลายเป็นไอเทมอย่างอื่นได้เหมือนกัน) เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ 4 ตัว จากนั้นให้กลับออกมานอกห้อง
4 - วิ่งย้อนกลับออกมา จนถึงทางแยก แล้ววิ่งขึ้นไป หาห้อง Break Room ให้เจอ (อยู่ในโซน Tower นี่แล่ะ) จะมีห้องนึง ที่มีตู้ล็อคเกอร์วางเรียงอยู่ นำรหัสที่ได้จากไฟล์ในห้องน้ำชาย ไปเปิดตู้ตรงกลาง จะได้กุญแจสีน้ำเงินมา
5 - ออกจากห้อง Break Room (ประตูฝั่งเตียงนอนนะ) จากนั้นวิ่งมาตามทางเรื่อยๆ จนเจอทางแยกเลี้ยวขวา (ตามทิศทางของตัวละคร) วิ่งเข้าแยกเลี้ยวขวานั่นไป สุดทางจะมีประตูที่สามารถใช้กุญแจสีน้ำเงินเปิดเข้าไปได้ ซึ่งเราจะโผล่มายังบันไดเชื่อม (Stairwell)
Stairwell
6 - วิ่งลงบันไดมาล่างสุด เข้าประตูไป จะโผล่ยัง B2F Passage
B2F Passage
7 - ตรงจุดนี้ ทางจะค่อนข้างซับซ้อน (แต่ไม่ต้องห่วง เพราะจะวนมาจนกันหมด) ก่อนอื่น ให้วิ่งตรงตามทางไปเรื่อยๆ (ไม่ต้องวิ่งเข้าทางแยกไปนะ) จนถึงประตูสุดทาง ที่เป็นห้อง Power Room
8 - เข้ามาข้างในสำรวจเก็บ Valve Handle ตรงกลางห้อง จากนั้นก็กลับออกมานอกห้อง อ้อ อย่าลืมนะครับ ว่าแผงไฟข้างฝา ยังไม่ต้องไปกดสำรวจนะ
9 - ออกจากห้อง วิ่งกลับมาตามทางเดิน ไปยังจุดที่เป็นบันไดลงไปในน้ำ (ลองวนๆหาดูนะ หาไม่ยากหรอก) ข้างล่างจะมีห้อง Pump Room ที่เราสามารถนำ Valve Handle ไปใช้ เพื่อหมุนลดระดับน้ำได้ (จากนั้นก็ทิ้ง Valve Handle ได้เลย เพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์ต่ออีกแล้ว)
10 - ออกมานอกห้อง สำรวจเก็บแผ่นรูปหน้าคนที่พื้น จากนั้นวิ่งกลับไปที่ห้อง Power Room (ที่เราได้ Valve Handle มา) เพื่อกดดันคันโยกที่แผงไฟบนฝา จากนั้นก็วิ่งย้อนกลับมาทั้งหมด จนถึงโซน Tower
Tower
11 - วิ่งย้อนมาตามทางเรื่อยๆ จนถึงทางแยก ให้เลี้ยว ซ้าย วิ่งไปตรงประตูสุดทางด้านซ้ายมือ จะเป็นห้อง Breaker Room
12 - ในห้อง Breaker Room สำรวจที่มอนิเตอร์ด้านใน จะมีปริศนาให้แก้ ทำยังไงก็ได้ ให้บวกกันให้ได้ 10
13 - เมื่อแก้ปริศนาเสร็จแล้ว ออกมาจากห้อง แล้ววิ่งย้อนกลับไปยังจุด B2F Passage (ชั้นใต้ดินนั่นแล่ะ) แต่ระหว่างทางก่อนเข้าประตูลงบันได อย่าลืมแวะห้อง Storage room ที่ถูกปลดล็อคแล้ว เพื่อเข้าไปหยิบเทปสีดำข้างในห้องด้วย
B2F Passage
14 - วิ่งกลับไปยังห้อง Pump Room ที่เราใช้ Valve Handle อีกครั้ง (จุดที่น้ำเคยท่วมพื้นนั่นแล่ะ) จากนั้นให้นำเทปสีดำ ที่ได้จากห้อง Storage Room ไปใช้ตรงท่อที่มีรอยรั่ว แล้วหยิบ Valve Handle ที่ทิ้งไว้ ไปใช้กับรูเดิมอีกครั้ง
15 - วิ่งย้อนกลับมาที่รถไฟ นำแผ่นรูปหน้าคนที่ได้ ไปใช้กับประตูตรงช่วงต่อของรถไฟ จากนั้นรอซักพัก จะมีฉากเนื้อเรื่องเกิดขึ้น 2 ครั้ง
16 - สังเกตบนรางรถไฟให้ดี จะพบแผ่นรูปหน้าคนอันที่ 2 ตกอยู่ ไปเก็บมา แล้วนำมาใช้ที่เดิม ประตูจะเปิดออก
17 - เข้าไปในรถไฟ กดสำรวจห้องคนขับ (ที่ประตูเปิดทิ้งไว้) จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น
18 - วิ่งลงไปตามราง จนสุดทาง (East Tunnel) จะได้สู้กับบอส ยิงไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะตาย (ไม่ยากเท่าไหร่) จากนั้นจะมีเสียงประกาศดังขึ้น จุดนี้ เราสามารถเลือกรูปแบบการจบได้ 2 แบบ
แบบที่ 1 - ถ้าอยากจบง่ายๆ ก็วิ่งกลับไปยังรถไฟ จากนั้นก็ยืนรอในรถไฟ ซักพักก็จะเคลียร์เนื้อเรื่องนี้
แบบที่ 2 - วิ่งกลับไป แต่ไม่เข้าไปรอในรถไฟ จนกระทั่งรถไฟออกไป ให้ลงไปหยิบกุญแจบนรางรถไฟ (จุดเดิมที่รถไฟเคยจอด)
- จากนั้นให้วิ่งย้อนกลับไปยังห้อง Power Room (จุดที่เราเคยโยกสวิตไฟ แล้วก็ได้ Valve Handle มานั่นแล่ะ) ที่หลังห้องจะมีประตูที่เคยเปิดไม่ได้ ให้ใช้กุญแจอันนี้ปลดล็อคออก จากนั้นก็เข้าไป ที่เหลือก็ไม่มีอะไรมาก แค่วิ่งหาทางออกไปเรื่อยๆ
------------------------------------------------------------------------------
Flashback (เนื้อเรื่องของ Alyssa)
1 - เก็บของในห้องให้ครบ (หรือจะไม่เก็บอะไรติดตัวไปเลยก็ได้) จากนั้น เดินออกมานอกบ้าน ซึ่งก่อนออกนั้น จะมีคุณลุง เดินเข้ามาบ่น ประมาณว่าเมื่อให้เดินตามเค้าไปไม่งั้นหลงป่าแน่ ถ้าไม่อยากเสียเวลา ออกจากบ้านแล้วเดินตามคุณลุงคนนั้นไปก็แล้วกัน
2 - วิ่งข้ามสะพาน ตามทางไปเรื่อยๆ จะมาโผล่ยังโรงพยาบาล
โรงพยาบาล
3 - เข้ามาจะเจอทางแยก (จะเห็นนักฆ่าปรากฏตัว) ให้เลี้ยวขวา (ฝั่งตรงข้ามกับประตูที่นักฆ่าโผล่) วิ่งตามทางมาเรื่อยๆ เข้าประตูตรงสุดทางไปเข้ามายัง Auxilliary building 1F hall
4 - เราจะมาโผล่ตรงทางเชื่อม ยังไม่ต้องเข้าห้องไหน ให้วิ่งไปเรื่อยๆ แล้วลงบันไดตรงสุดทาง ลงมายัง Auxilliary builing B1F hall
5 - สังเกตให้ดี ข้างๆ ประตูในชั้นนี้ จะมีต้นไม้ขวางทางอยู่ เก็บเข็มฉีดยาที่ตกอยู่บนพื้น จากนั้นก็ใช้กับมัน (หรือใครจะหยิบเข็มฉีดยาจากที่อื่นมาใช้ก็ได้ไม่ว่ากัน) ทางจะเปิดออก วิ่งไปสุดทาง เข้าห้อง Phamacy
6 - ในห้องนี้สำรวจให้ดีจะเจอกุญแจสีน้ำเงินตกอยู่บนพื้น อ้อ สำหรับขวดเปล่าที่เก็บได้ สามารถนำไปเติมยา จากตู้ยาในห้องนี้ได้นะครับ ส่วนประโยชน์ของมัน ก็มีไว้โจมตี พวกซอมบี้หรือต้นไม้พิษได้ (ส่วนใครที่ไม่ค่อยบู้นักก็ไม่ต้องเก็บไปก็ได้ เปลืองเนื้อที่เปล่าๆ)
7 - ออกจากห้อง Phamacy วิ่งย้อนกลับมายัง Auxilliary building 1F hall ตรงประตูใกล้ๆ ตีนบันได จะใช้กุญแจสีน้ำเงินเปิดได้ เพื่อเข้าสู่ Auxilliary North building hall
8 - วิ่งตามทางมาเรื่อยๆ ขึ้นบันไดมายัง Auxilliary building 2F hall
9 - ชั้นนี้ไม่มีอะไรมาก สังเกตสุดทางมีเถาวัลย์ ใช้ปืนขึ้นมายัง Maintenance access route
10 - ชั้นนี้วิ่งมาเรื่อยๆ จะเห็นบันไดลิง โดยมีดอกไม้พ่นพิษอยู่ทั้ง 2 ข้างบันได แนะนำให้จัดการมันซะก่อน (ใช้ขวดยาเขวี้ยงใส่ หรือจะใช้ปืนธรรมดายิงก็ได้ แต่ถ้าใช้ปืนธรรมดายิง มันจะยุบตัวลงไปแค่ชั่วคราวเท่านั้น อ้อ ตรงนี้อย่าลืมหาขวดยาหรือเข็มฉีดยาที่มียาอยู่แล้วติดตัวไปซักอันด้วยนะครับ) จากนั้นปีนบันไดลิงขึ้นไปยัง Auxilliary building 5F hall
11 - วิ่งออกมายังระเบียงด้านนอก (ตรงที่ไอนักฆ่าโรคจิตมันปีนขึ้นมานั่นแล่ะ) วิ่งอ้อมตามระเบียงไปเรื่อยๆ ใกล้ๆ สุดทางจะเห็นเถาวัลย์ ปีนขึ้นไปยัง ชั้นดาดฟ้าได้
12 - ที่ชั้นดาดฟ้าจะเห็นดอกไม้ยักษ์ นำเข็มฉีดยา (ที่มียา) ไปใช้กับมัน จะเกิดเหตุการณ์ตึกถล่ม ทำให้มีรูเกิดขึ้นที่พื้น ให้ย้อนกลับลงมายังจุดที่พื้นเป็นรู (ตรงชั้น Maintenance access route) จากนั้นลงรูไป (อย่าลืมนะครับ ว่าคราวนี้เราจะเห็นรูที่พื้น 2 รู ให้ลงรูเล็กๆไป)
13 - วิ่งไปตามทางเดินเรื่อยๆ ลงรูตรงสุดทางไปยัง Storage Room
14 - ในห้องนี้สำรวจได้กุญแจสีเหลืองที่พื้น จากนั้นออกนอกห้องไป (ประตูมี 2 ฝั่ง อีกฝั่งออกไม่ได้ เพราะจะมีต้นไม้มาขวางทาง ให้จำจุดนี้ไว้ให้ดีๆ เพราะเราต้องกลับมาตอนจบเกม)
15 - วิ่งไปตามทางเรื่อยๆ เข้าประตูตรงสุดทาง (ตัวละครจะกดใช้กุญแจอัตโนมัติ) จะมาโผล่ยัง Auxilliary building north hall ให้เข้าประตูใกล้ๆ กัน เพื่อมายัง Auxilliary building 1F hall จากจุดนี้ให้วิ่งย้อนกลับไปเรื่อยๆ จนถึงแถวๆ ประตูทางเข้าโรงพยาบาล ที่เราเข้ามาตอนแรก จะมีบันไดขึ้นชั้น 2
16 - ขั้นบันไดมายังชั้น 2 เข้าห้องแรกที่เห็น (Administration Office) จากนั้นใช้กุญแจสีแดงกับประตูที่ล็อคอยู่ เข้าไปข้างในห้อง สังเกตตรงตู้ข้างในสุด ที่ผนังใกล้ๆ จะมีสวิตให้กดเปิดทางลับได้ เข้ามาข้างในจะเป็นบันไดพาเราขั้นมายังชั้น 3
17 - ไม่ต้องสนใจผึ้ง เข้าประตูอีกฝั่งมายัง Main Building Rooftop สำรวจให้ทั่วจะเจอรูบนพื้น โดดลงไปซะ
18 - สำรวจเก็บเข็มฉีดยาในห้อง จากนั้นออกนอกห้องไปยัง Main Building 2F hall
19 - เข้าประตูห้อง 203 ไป ข้างในห้องนี้ จะมีต้นไม้อยู่ที่ผนัง เอาเข็มฉีดยาไปใช้กับมัน จะพบว่าร่างของบอสต้นไม้ได้ถูกเปิดออกแล้ว
20 - ให้วิ่งลงไปยังห้องที่บอสต้นไม้อยู่ (ใครจำไม่ได้ ให้วิ่งลงไปยังชั้น B1F ตรงจุดที่เราเคยใช้เข็มฉีดยากับต้นไม้เป็นครั้งแรก จะมีห้องบอสอยู่แถวนั้น)
21 - วิธีปราบบอสก็แค่ยิงไปเรื่อยๆ (แนะนำให้ใช้ Grenade Launcher จะเร็วมาก) เมื่อปราบเสร็จ ตึกจะถล่มลงมา คราวนี้ก็ต้องหนีอย่างเดียว โดยทางออกอยู่ที่ห้องข้อ 14 (Storage Room) ก็เป็นอันเสร็จสิ้นเนื้อเรื่องนี้
---------------------------------------------------------------------------
Desperate Time (เนื้อเรื่องของ Kevin)
ขั้นแรก เป้าหมายที่เราต้องหาก็คือ ตราสัญลักษณ์รูปจันทร์เสี้ยวทั้ง 5 อันให้ได้ โดยกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ โดยสถานที่ที่เราจำเป็นต้องไปมีดังนี้
* ในสถานีตำรวจ จะมีการปล่อยแก็ซพิษในแต่ละห้องเป็นระยะๆ ให้ระวังไว้ให้ดี หากเจอปล่อยแก็ซพิษให้รีบวิ่งหนีออกจากห้องนั้นทันที เพราะมันจะทำให้เกจไวรัสพุ่งเร็วมากๆ
1 - เข้าไปยังห้อง Reception Desk (โรงพักฝั่งตะวันตก) สำรวจอ่านไฟล์ที่ตั้งอยู่บนเก้าอี้ จะมีรหัสเซฟอยู่ข้างใน
2 - กลับมายังห้องโถง แล้วไปโรงพักฝั่งตะวันออก (1F Lobby) จากนั้นเข้าประตู East Office ไป ในห้องทำงานจะมีเซฟวางอยู่ที่พื้น กดใช้รหัสกับเซฟอันนั้นจะได้ตราเสี้ยวพระจันทร์อันแรกมา (ถ้าไม่เปิดอ่านไฟล์ จะสำรวจเพื่อใส่รหัสไม่ได้นะครับ)
3 - ถ้าเจอเพื่อนของเรา ลองสำรวจดูในช่องไอเทมของเค้า จะมีตราเสี้ยวพระจันทร์อันที่ 2 อยู่ หยิบมาซะ (เพื่อน 2 คนจะมีคนละอัน เจอใครก็หยิบมาให้หมด ทีนี้เราจะมีตราเสี้ยวพระจันทร์ 3 อันแล้ว แต่ทว่าเพื่อนเราบางครั้งก็อยู่ไม่เป็นที่นะครับ ลองเดินหาดู)
4 - จาก East Office เดินไปหลังห้อง จะมีประตูสองฝั่ง เข้าฝั่งที่ออกหลังสถานีตำรวจ จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดอ้อมมาขึ้นชั้น 2 จะมาโผล่ยัง 2F East hall
5 - ใน 2F East hall วิ่งตรงมาเรื่อยๆ เข้าประตูด้านตรงข้าม เพื่อเข้ามายัง Waiting Room
6 - ใน Wainting Room จะเห็นลัง (ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี) วางอยู่กลางห้อง ให้ดันจนเลื่อนไปห้องอีกฝั่ง จากนั้นให้วิ่งกลับลงมาที่ East Office
7 - ด้านหลังของ East Office ให้เข้าประตูอีกฝั่ง เพื่อมายัง 1F East hall
8 - จาก 1F East hall ให้วิ่งตามทางมาเรื่อยๆ จนสุดทางเจอบันได เดินลงไปยัง B1F East hall
9 - ในชั้นนี้ วิ่งตามทางมาเรื่อยๆ จนเจอทางแยก เดินไปฝั่งขวามือของตัวละคร เข้าประตูแรกที่เห็น เป็นห้อง Substation Room
10 - ในห้อง Substation Room สำรวจให้ทั่วจะเจอโต้ะทำงาน ที่ในลิ้นชัก เราจะได้เอกสารมา
11 - ออกจากห้อง Substation Room จากนั้นวิ่งตามทางมาเรื่อยๆจนสุดทาง เพื่อเข้ามายังลานจอดรถ (Underground Parking Garage)
12 - ในลานจอดรถไม่มีอะไรมาก วิ่งไปเข้าประตูสุดทางอีกฝั่ง (สังเกตไฟสีแดงเหนือประตู) เพื่อไปยัง B1F West hall
* ถ้าสำรวจในลานจอดรถให้ทั่ว จะพบลังไม้วางอยู่ที่พื้น เราสามารถดันเพื่อเปิดทางลับ ที่เชื่อมกับหน้าสถานีตำรวจได้
13 - ใน B1F West hall วิ่งตามทางเชื่อมไปเรื่อยๆ จนสุดทาง จะเข้าสู่คุก
14 - คุกห้องในสุด เราจะเจอ Ben (นักข่าวที่คงจะจำกันได้จาก Biohazard 2) เข้าไปคุย เราจะให้เอกสารไปเพื่อแลกกับตราเสี้ยวพระจันทร์อันที่ 4 มา
15 - วิ่งย้อนกลับมาที่ห้องโถง (main hall) ของสถานีตำรวจอีกครั้ง (ใช้ทางลัดตรงลานจอดรถจะเร็วกว่าวิ่งย้อนทางเดิม) ตอนนี้จะนำตราเสี้ยวพระจันทร์ทั้ง 4 อันไปใช้กับรูปปั้นตรงกลางห้องก่อนก็ได้ จากนั้นปีนขึ้นบันไดลิง ไปยังระเบียงชั้น 2
* ตราวงกลมรูปม้ายูนิคอร์น เราสามารถนำไปใช้กับรูปภาพ ที่สุดทางเดินของโรงพักฝั่งตะวันออกเพื่อเอาปืนกับกระสุนได้
16 - วิ่งไปทางระเบียงฝั่งตะวันออก (ฝั่งขวา) เพื่อเข้าสู่ห้อง Waiting Room
17 - ตรงนี้คงจะจำลังที่เราเพิ่งเลื่อนมาแล้วได้ดี เหยียบขึ้นลังไป เพื่อหยิบตราเสี้ยวพระจันทร์อันที่ 5 บนตู้
18 - นำตราเสี้ยวพระจันทร์ที่ได้ มาใช้กับรูปปั้นตรงห้องโถงของสถานีตำรวจ จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น
19 - วิ่งออกมาหน้าโรงพัก สำรวจเก็บพวงกุญแจที่พื้น จากนั้นวิ่งลงไปที่คุกชั้นใต้ดิน (ใช้ทางลัดไปโผล่ที่ลานจอดรถ แล้วเข้าประตูที่มีไฟสีแดง จะเร็วกว่าวิ่งลงไปปกติ) ก่อนจะถึงคุกจะเกิดเหตุการณ์ที่ตำรวจเรียกให้ทุกคนกลับมายังห้องโถง ก็ให้วิ่งกลับมา ก็จะเกิดเหตุการณ์ ที่ฝูงซอมบี้พังประตูหน้าโรงพักเข้ามา ให้ฆ่าให้หมดก็เป็นอันสิ้นสุดเรื่องราว
(เนื้อเรื่องนี้ทำให้เรารู้ด้วยว่าทำไม Marvin ถึงต้องติดอยู่ในโรงพัก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงก่อนที่ Claire กับ Leon จะโผล่มานั่นเอง)
--------------------------------------------------------------------------------
End of the Road (เนื้อเรื่องของ David)
1 - ออกนอกห้องมายัง Central Passage I
2 - ใน Central Passage I สังเกตศพที่นอนอยู่บนพื้น ใกล้ๆกันจะเห็นปุ่มกดรหัสอยู่ข้างฝา เข้าไปสำรวจ เพื่อดูรอยเลือดบนปุ่มจะได้ตัวเลขมา 3 ตัว จากนั้นวิ่งตามทางมาเรื่อยๆ เข้าประตูตรงสุดทางมายัง East Passage I
3 - ใน East Passage I เข้าประตูห้อง Reference Room ไป
4 - ในห้อง Reference Room สำรวจได้กุญแจจากโต้ะทำงาน
5 - ออกจากห้อง Reference Room ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้นของเกม (Waiting Room) กดใช้กุญแจกับอีกประตูที่ตอนแรกเปิดไม่ได้ จะเข้ามายัง Experimentation chamber
6 - เข้าประตูหลังห้อง เราจะมาโผล่ที่ Central Passage 2
7 - ใน Central Passage 2 ตรงสุดทางจะมีประตูที่ต้องล็อครหัสอยู่ ให้นำตัวเลขทั้ง 3 ตัวที่ได้จาก Central Passage I มาเรียงลำดับกด (เช่น 123 , 312 เป็นต้น สลับกันไปเรื่อยๆ) จะมีตัวเลขชุดนึงที่ใช้เปิดประตูได้ แต่อย่าเพิ่งเข้าไป ให้เดินย้อนมาเข้าอีกประตูที่จะพาเรามายัง West Passage ก่อน
8 - ใน West Passage สุดทางเดินฝั่งนึงจะเป็นห้องล็อครหัส เราสามารถนำตัวเลข 3 ตัวที่ใช้เปิดประตูตรง Central Passage 2 มาใช้เปิดตรงนี้ได้ (เข้าไปเก็บปืนข้างใน) ส่วนอีกประตูที่สามารถเข้าได้ในโซนนี้คือห้อง Lasor emission room
9 - ในห้อง Lasor emission room สำรวจที่จอมอนิเตอร์ (ใกล้ๆกับบานกระจก) เพื่อกดปิดเลเซอร์ จากนั้นรีบย้อนกลับมายัง Central Passage 2 เพื่อไปเข้าห้อง Lasor emission room อีกฝั่ง
10 - ในห้อง Lasor emission room อีกฝั่ง ให้เข้าประตู ใกล้ๆ เพื่อมายัง Central Passage 3
11 - ใน Central Passage 3 จะสำรวจได้คีย์การ์ด LV1 ที่ตกอยู่บนพื้น (ใกล้ๆกับเปลวเพลิง) กดใช้คีย์การ์ดกับประตูตรงสุดทาง จะย้อนกลับมายัง Central Passage 2
12 - วิ่งย้อนกลับไปเรื่อยๆจนถึง Central Passage 1 จะมีอีกประตูที่ต้องใช้ คีย์การ์ดปลดล็อค เข้าไปเป็นห้อง Experiment Lab
13 - ขึ้นบันไดไปชั้น 2 เข้ามายังห้อง Observation mezzanine
14 - หยิบ MO Disc บนโต้ะ จากนั้น เข้าประตูหลังห้อง เพื่อมายังทางลงบันได (Stairwell)
15 - วิ่งลงบันไดมาเรื่อยๆ เข้าประตูห้องข้างล่าง จะมาโผล่ที่ Central Passage 4
16 - เข้าประตูตรงสุดทางย้อนกลับมายัง Central Passage 1 จุดนี้เราสามารถเข้าไปในห้อง Main frame ใกล้ๆได้
17 - กดใช้ MO Disk กับคอมพิวเตอร์ในห้อง Main frame จากนั้นวิ่งย้อนกลับมาที่ห้อง Observation mezzanine
18 - กดใช้ MO Disk กับคอมพิวเตอร์ในห้อง Observation mezzanine (ตัวซ้ายสุด) จากนั้นนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์อีกตัวในห้อง ที่มีนักวิทยาศาสตร์กำลังกดอยู่ Tyrant ก็จะถูกปล่อยออกมา
19 - วิ่งย้อนกลับไปยัง East Passage 1 ตรงนี้ ประตูที่ก่อนหน้านี้เข้าไม่ได้ (เนื่องจากเป็นคีย์การ์ด LV2 ) ก็จะสามารถเปิดได้แล้ว เข้าไปเพื่อมายัง East Passage 2
20 - เราจะเห็นกำแพงใน East Passage 2 แตกอยู่ แต่ยังทำอะไรไม่ได้ ให้วิ่งต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเข้าประตูมายัง East Passage 3
21 - วิ่งต่อไปอีกจนถึง East Exit จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ให้รีบไปหยิบคีย์การ์ด LV2 จากศพนักวิทยาศาสตร์
22 - ย้อนกลับมาตรง East Passage 3 ให้เข้าประตูตรงกลาง ซึ่งเป็นห้อง Nursery สำรวจให้ทั่ว ไอเทมสำคัญที่ต้องหยิบมาก็คือ แท่งเหล็ก
22 - วิ่งย้อนกลับมาที่ East Passage 2 นำแท่งเหล็กไปใช้กับจุดกำแพงแตก จากนั้นก็คลานเข้าไปในรู จะมาโผล่ที่ห้อง Special research room
23 - ในห้องนี้ไม่มีอะไร เข้าประตูอีกฝั่งของห้องมายัง East Passage 1 กดใช้คีย์การ์ด LV2 กับประตูตรงสุดทาง เพื่อไปยัง Passage in front of elevator
24 - วิ่งไปเรื่อยๆ เข้าประตูมายัง Underground waterwork
25 - เข้าประตูไปยัง Drainage area จะพบศพนักวิทยาศาสตร์ตกอยู่ด้านล่าง
26 - วิ่งอ้อมตามทางมาเรื่อยๆ เข้าไปยัง Maintenance room
27 - เข้าประตูสุดห้องไปยัง Underground waterworks
28 - ตรงนี้จะเข้าได้ 2 ประตู ให้ไปทาง Floodage Control room
29- ในห้อง Floodgate Control room ให้ดันลังไปยังจุดรูปวงกลมบนพื้น แล้วก็โดดลงไป จะลงมายัง Emergency materials storage
30 - วิ่งไปสุดห้อง ตรงแถวๆ รถยก ปีนลังขึ้นไปจะเห็นช่องอากาศ เข้าไปจะมาโผล่ที่ Maintenance passage 3
31 - วิ่งไปสุดทาง ปีนขึ้นบันไดลิงมายัง Old waterway
32 - ตรงนี้ทางจะวนไปวนมา แต่สุดท้าย ก็จะวกกลับมาบรรจบที่เดียวกัน ที่สุดทางโดดลงไปยัง Dranaige area
33 - ที่ Drainage area จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทำให้เรามาโผล่ที่คูน้ำ (จุดเดียวกับเนื้อเรื่อง outbreak ของภาคแรก) ตรงนี้คงจำกันได้ดี วิ่งตามทางมาเรื่อยๆ สุดทาง ปีนบันไดลิงขึ้นไป จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น
34 - ตรงนี้จะมีคนลอบยิงเรา ให้รีบวิ่งไปเข้าประตูอีกฝั่ง จากนั้นเข้าประตูไป Apple Inn front lobby (จุดเดียวกับเนื้อเรื่อง Hellfire ของภาคแรก) เพื่อมาเซฟเกมก่อน (ใครจะไม่ทำก็ได้นะ) จากนั้นกลับออกมาที่ถนน วิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ (รีบวิ่งนะ) จนถึงประตู (อยู่ฝั่งทางขวา) เข้าไปยัง Construction site
35 - ตรงจุดนี้ไม่มีอะไร (ให้ระวังระเบิดบนพื้นให้ดี) วิ่งไปเข้าประตูสุดทาง มายัง Under the highway overpass
36 - วิ่งตามถนนขึ้นไปเรื่อยๆ สังเกตแผนที่จะเห็นประตูทางเข้าตึก มายัง Office building 1F
37 - จะเกิดเหตุการณ์ขึ้น หลังจากนั้นจะมีการนับถอยหลัง ที่เหลือก็ใช้สัญชาติญาณการอยู่รอดเอาเองนะครับ ^^ (แนะให้นิดนึง ว่าจะให้จบจริงๆ ก็วิ่งหนี Tyrant ไปเรื่อยๆ จนถึง Main Street North แล้วรีบวิ่งเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์)
------------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น