ที่พรรคเพื่อไทย วันนี้(9เม.ย.) พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานประชุม ส.ส.ของพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ในระหว่างวันที่ 10-11 เม.ย.นี้ โดย ส.ส.ของพรรคเข้าร่วมประชุมบางตา เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ อาทิ นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม เป็นต้น ทั้งนี้ในที่ประชุม นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ได้รายงานผลการประชุมวิปรัฐบาลให้ได้รับทราบว่าจะพยายามให้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด หรือไม่เกินภายในวันที่ 12 เม.ย. โดยขอให้ ส.ส.อภิปรายอยู่ในประเด็นที่กำหนดไว้เท่านั้น
จากนั้นเวลา 14.00 น. ภายหลังการประชุม นายเสนาะ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกังวลที่อาจจะเกิดความวุ่นวายในสภาฯ ระหว่างการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 ว่า คิดว่าไม่น่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้น มีอะไรก็ควรพูดกันตรง ๆ และเราก็พยายามอย่าไปมีเรื่องกัน โดยตนได้กำชับ ส.ส.ที่เป็นลูกหลานทุกคนแล้วว่าอยากให้ปรองดองกัน ส่วนใครจะตีรวนในสภาฯ ก็ถือเป็นเรื่องของแต่ละคน ทั้งนี้เราพยายามจะให้การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วเสร็จภายในไม่เกินวันที่ 12 เม.ย. ก่อนที่จะไปถึงขั้น ส.ส.ร. ทั้งนี้เราไม่ได้เร่งรีบอย่างที่มีข้อสังเกต แต่ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน โดยมี ส.ส.ที่ขอแปรญัตติไว้มากกว่า 170 คน แต่ได้กำชับแล้วให้พูดเฉพาะประเด็นเท่านั้น โดยเฉพาะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล
“ เราจะทำการบ้าน ไม่ทำการเมือง เพราะอาสาเข้ามาทำงาน และมาเป็นรัฐบาล ต้องทำการบ้านให้ดีที่สุด อย่าไปตามการเมืองมากเกินไป” นายเสนาะ กล่าวและว่า ส่วนเรื่องแนวทางการสร้างความปรองดองนั้น ตนเห็นว่าไม่จำเป็นต้องไปพูดถึงอดีตว่าเกิดจากใคร เพราะถ้าทำอย่างนั้นก็ไม่จบ โดยเฉพาะตัวประธานสภาฯ และกรรมาธิการปรองดอง จะไปชี้ผิดหรือถูกไม่ได้ การปรองดองต้องลืมเรื่องเก่า และทำทุกอย่างให้เป็นไปตามขั้นตอน ลบทั้งหมดออกไป ให้บ้านเมืองสามารถเดินหน้าไปได้
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเข้าสู่สภาฯในช่วงเดือน ส.ค.มองอย่างไร นายเสนาะ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการที่จะไปออกกฎหมายเพื่อมาทำเรื่องปรองดอง เพราะคนเขาทะเลาะกันจะไปออกกฎหมายมาบังคับ มันไม่ถูก แต่ควรเอาเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯมานั่งพูดคุยกันดีกว่า อย่างไรก็ตามยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย จะเดินหน้าเรื่องการสร้างความปรองดองต่อไป เพราะถือเป็นหน้าที่ของเรา ถ้าไม่เริ่มทำวันนี้ จะต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ถึงจะแก้ไขปัญหาได้ ส่วนเรื่องการนิรโทษกรรมคดีความที่ คตส.ตัดสินไปนั้น ตนมองว่าต้นเรื่องทั้งหมดของเรื่องนี้ มาจากการบริหารบ้านเมืองที่ไม่เท่าเทียมกัน เหมือนพ่อแม่ที่รักลูกไม่เท่ากัน ดังนั้นเราต้องกลับไปแก้ไขที่ตรงกัน ก็เหมือนกับคดีที่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาต่อไป
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุมพรรคเพื่อไทยได้ย้ำให้ส.ส.ทุกคนเข้าร่วมการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ในวาระ 2 อย่างพร้อมเพรียงกัน เนื่องจากเป็นการประชุมเรื่องสำคัญคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ หากอยู่กันไม่ครบองค์ประชุม ภาพลักษณ์จะเสียหายได้ เบื้องต้นกำหนดให้แปรญัตติ 2 วันคือ วันที่ 10-11 เม.ย. โดยจะเปิดโอกาสให้แปรญัตติกันอย่างเต็มที่ไปก่อน หากเวลาไม่พอใจจริงๆ ก็จะเสนอให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ขยายเวลาเพิ่มในวันที่ 12 เม.ย
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงผลการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า พรรคเพื่อไทยได้กำหนดท่าทีและทำความเข้าใจกับสมาชิกเพื่อเตรียมการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... วาระที่ 2 ในการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 10 เม.ย.โดยได้ย้ำกับสมาชิกว่าเรื่ององค์ประชุมเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการประชุม 2 วันคือ 10-11 เม.ย.โดยมีผู้ขอแปรญัตติไว้ถึง 172 ท่าน ก็ได้มีการขอร้องสมาชิกพรรคและ ส.ส.รัฐบาลให้อภิปรายโดยใช้เวลาน้อยที่สุด และใช้เหตุใช้ผลในการอภิปราย เพื่อไม่ให้เกิดการประท้วงและเกิดการตีรวนจากฝ่ายค้าน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่สมาชิกพรรรประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุว่ารัฐบาลมัดมือชกในการกำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคยืนยันว่าการกำหนดวันประชุมรัฐสภานั้นเป็นอำนาจของประธานรัฐสภา หากจะขยายเวลาการประชุมรัฐสภานั้นก็เป็นสิ่งที่ประธานรัฐสภาจะวินิจฉัย ไม่ควรมาทำลายชื่อเสียงรัฐบาลและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ด้วยการกล่าวหาอย่างไร้เหตุผล
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สำหรับรายงานกมธ.ปรองดอง ที่ได้ผ่านการพิจารณาของสภามาแล้วนั้น รัฐบาลควรที่จะเร่งนำไปปฏิบัติโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ทั้งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม หรือ พ.ร.บ.ปรองดอง ก็ได้ ซึ่งหากดำเนินการขณะนี้คาดว่าจะเสนอเข้าสู่สภาได้ในเดือนส.ค.-ก.ย.ได้ เพราะวันนี้รัฐบาลมีความชอบธรรมมาก เพราะก่อนหน้านี้หลายฝ่ายพยายามยื้อเวลามานาน แต่วันนี้จบแล้ว เพราะทุกอย่างได้ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 300 กว่าเสียงมาแล้ว และแม้พรรคร่วมฝ่ายค้านเองก็ยังออกเสียงสนับสนุนเห็นด้วยกับการดำเนินการเรื่องการปรองดอง จึงไม่ควรยื้อเวลาโดยการสานเวนาหรือรับฟังความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติมอีก.
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น