ปชป.เย้ยพท.ทำนิรโทษกรรมเพื่อ"แม้ว"อย่างเดียว ฟันธงต้นเหตุความขัดแย้งในปัจจุบันเริ่มจากคดีซุกหุ้นของพ.ต.ท.ทักษิณ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้(9 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช แถลงถึงการสร้างความปรองดองว่า รัฐบาลในฐานะผู้มีบทบาทสำคัญกลับละเลยข้อเสนอที่จะนำไปสู่ความปรองดองอย่างแท้จริง เห็นได้จากท่าทีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อ้างความปรองดองบังหน้าเพื่อจะหยิบฉวยเฉพาะบางข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า แต่กลับไม่เลือกหลายๆข้อ อาทิ ให้ชะลอสร้างบรรยากาศการปรองดอง หรือจัดการสานเสวนาทั่วประเทศ โดยอ้างว่าเสียเวลา เช่นเดียวกับที่เคยหยิบบางข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่ให้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ แต่กลับละเลยจะพูดถึงสิ่งที่คอป.สรุปว่าต้นเหตุความขัดแย้งในปัจจุบันเริ่มจากคดีซุกหุ้นของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
“ที่หัวหน้าปชป.เสนอให้นิรโทษกรรมทุกคนยกเว้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เพราะต้องการพิสูจน์ว่าเป้าหมายในการนิรโทษกรรมอยู่ที่พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ซึ่งการออกมาปฏิเสธแบบเลี่ยงบาลีของคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายคือการทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณจริงๆ” นายเทพไทกล่าว
นายสกลธี ภัททิยกุล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนเห็นแนวทางการเดินเกมเพื่อนำไปสู่การออกกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทยแล้วเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง เพราะจากการแถลงข่าวของนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ทางพรรคเพื่อไทยจะรีบเร่งรวบรัดเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมออกมาโดยอ้างว่าผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาแล้ว และบอกปัดข้อเสนอการจัดเวทีเสวนารับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนตามที่หลายฝ่ายได้ตั้งข้อเสนอแนะ แสดงให้เห็นถึงการใช้เสียงแบบพวกมากลากไปโดยไม่ฟังคำทัดทานจากฝ่ายอื่นๆ อยากถามไปยังพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะโฆษกที่ออกมาแถลงว่าถ้าเร่งทำกันโดยลากกันไปอย่างนี้แล้วเกิดความรุนแรงขัดแย้งขึ้นมาใหม่ในบ้านเมืองจะกล้ารับผิดชอบกันหรือไม่ และขนาดตัวหลักในการปรองดองอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ยอมลดราวาศอกและยอมรับความผิดที่ได้กระทำไว้ หากแต่จะเป็นการแสร้งปรองดองเพื่อฟอกตัวให้พ้นผิดก็เท่านั้น อยากให้พรรคเพื่อไทยใจเย็นๆ อีกสักหน่อยถ้าอยากจะให้เจ้านายท่านกลับมาอย่างเท่ก็ควรที่จะใช้เวลาทำให้มันถูกต้องชอบธรรมในทุกๆ ด้าน ในเรื่องนี้ก็อยากเห็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แสดงภาวะผู้นำออกมาสักครั้งหนึ่ง ท่านจะอ้างว่าหนูไม่รู้ไม่เห็นไม่อยู่ในสคริปไม่ได้เพราะคนที่เป็นคู่ขัดแย้งสำคัญในการปรองดองครั้งนี้และกำลังจะได้รับประโยชน์จากการนิรโทษกรรมนั้นเป็นพี่ชายแท้ๆ ของท่านเอง.
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น