วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

เปิดภาพสเก็ตช์มือปืนเหี้ยมยิงแสกหน้า "วิศวกร" ดับคาแท็กซี่


จากกรณีที่นายจิรโรจน์ รักวงษ์วาน อายุ 30 ปี ชาวสุพรรณบุรี วิศวกรของบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) ถูกคนร้ายขับรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว ตามประกบและลงมาจ่อยิงอย่างโหดเหี้ยม จนเสียชีวิตภายในรถแท็กซี่ บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 6 ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 17 เม.ย. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. เดินทางมาที่ สน.ห้วยขวาง เพื่อเข้าร่วมประชุมวางแนวทางการสืบสวนและหาตัวผู้ต้องหา พร้อม พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ.นิติพันธุ์ โรหิโตปการ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.อรรถพร สุริยเลิศ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.
ต่อมาเวลา 16.00 น. พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เมื่อช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำพยาน พร้อมได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการสเก็ตภาพผู้ต้องสงสัยที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้แล้ว หลังจากที่ได้ภาพก็จะทำการออกหมายจับทันที ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แบ่งงานกันทำ โดยมีตำรวจฝ่ายสืบสวน บช.น. และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง กระจายกำลังกันออกหาข้อมูล รวมทั้งหารถคันก่อเหตุ พร้อมผู้ต้องหา เบื้องต้นข้อมูลรถที่ใช้ก่อเหตุเป็นทะเบียนจริง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลอะไรได้มาก คาดว่าน่าจะได้ตัวคนร้ายในไม่ช้า
ด้าน พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง กล่าวว่า เบื้องต้นทราบที่อยู่ของผู้ก่อเหตุแล้ว น่าจะอยู่ย่านมีนบุรี ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบส่วนเร่งค้นหาอยู่ พร้อมประสานกับตำรวจทางหลวง และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตามด่านผ่านแดนต่างๆ แล้วให้ช่วยสอดส่องรถที่มีลักษณะดังกล่าวแล้ว คาดว่าอีกไม่นานคงได้ตัวคนร้าย ส่วนสาเหตุนั้น น่าจะมาจากเรื่องแย่งกันจีบผู้หญิง หรือไม่ก็มีการกระทบกระทั่งกันในสถานบริการ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ตัดปมสังหารอื่นๆ ทิ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพหน้าเจ้าของรถคันก่อเหตุไปให้พยานดู ซึ่งพยานยืนยันว่าไม่ใช่คนที่ลงมือยิงวิศวะหนุ่มดับคารถ โดยคาดว่าอาจเป็นเพื่อนของเจ้าของรถที่เป็นคนลงมือ สำหรับประวัติของนายจิรโรจน์ รักวงษ์วาน อายุ 30 ปี ทำงานเป็นเป็นวิศวกร บริษัทซีพี มหาชนจำกัด ประจำประเทศจีน จบปริญญาตรี คณะวิศวะกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น