เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไอออกหมายเรียกไปถึงหัวหน้าหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) เข้าให้ปากคำคดีทุจริตเบิกจ่ายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนว่า ดีเอสไอได้เตรียมพนักงานสอบสวนที่จะสอบปากคำร่วมกับพนักงานอัยการคดีพิเศษ เริ่มตั้งแต่ช่วง 10.00 น. ซึ่งขณะนี้ยังได้รับการติดต่อจากกระทรวงสาธารณสุขว่าจะส่งผู้ใดเข้าให้ปากคำ โดยดีเอสไอต้องการให้ทั้ง 3 หน่วยงานชี้แจงถึงอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน รวมถึงหลักเกณฑ์การควบคุมดูแล และข้อมูลความผิดปกติในการเบิกจ่ายยาแก้หวัดของแต่ละโรงพยาบาลตามอำนาจหน้าที่ โดยจำเป็นต้องชี้แจงจนสิ้นข้อสงสัย
นายธาริต กล่าวอีกว่า ดีเอสไอยังได้มีหมายเรียกไปถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลและเจ้าของคลีนิครวม 11 แห่ง ซึ่งกำชับให้ผู้บริหารต้องเข้าให้ปากคำพร้อมพยานหลักฐานด้วยตัวเอง โดยแบ่งการให้ปากคำในวันที่ 19 เม.ย. จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี จ.อุดรธานี โรงพยาบาลทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ โรงพยาบาลกมลาไสย จ. กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลภูสิงห์ ศรีสะเกษ โรงพยาบาลดอยหล่อและโรงพยาบาลฮอด จ.เชียงใหม่ ส่วนอีก 5 แห่ง กำหนดเข้าให้ปากคำวันที่ 20 เม.ย. ประกอบด้วย โรงพยาบาลนวมินทร์ 1 กรุงเทพฯ โรงพยาบาลสยามราษฎร์ จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ คลินิกแพทย์สุพรชัย จ.ลพบุรี คลีนิคหมอสัมพันธ์เวชกรรม จ.เชียงใหม่
นายธาริต กล่าวต่อว่า หลังขั้นตอนการให้ปากคำแล้ว ดีเอสไอจะทยอยแจ้งข้อกล่าวหาหากพบว่ามีพยานหลักฐานพบกระทำความผิดชัดเจน โดยคดีดังกล่าวมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 6 ฉบับ คือ ประมวลกฎหมายอาญา , พ.ร.บ. ยา , พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท , พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ , พ.ร.บ.การปราบปรามการฟอกเงิน และพ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เบื้องต้นดีเอสไอจะเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องนำหลักฐานเข้าชี้แจงอย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากกลุ่มผู้บริหารโรงพยาบาลแล้วจะเรียกเภสัชกรในโรงพยาบาลต่าง ๆ เข้าให้ปากคำด้วย ทั้งนี้คาดว่าภายในเดือน เม.ย.นี้ จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ถูกกล่าวหาล็อตแรกจำนวนหลายรายได้แน่นอน
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น