วันนี้ ( 23 เม.ย.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงการสอบสวนคดีลักลอบนำเข้าซูโดอีเฟดรีนจากประเทศเกาหลีด้วยการสำแดงเท็จว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) กำชับให้ดีเอสไอทำงานอย่างรอบคอบและรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจนเพราะถือเป็นการสั่งซื้อและลักลอบนำเข้าล็อตใหญ่ โดยร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่าไม่ขัดข้องที่จะเสนอให้บอร์ดกคพ. รับเป็นคดีพิเศษเพิ่มเติม เพราะไม่ได้เป็นคดีที่มีความเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับการลักลอบนำยาแก้หวัดออกจากระบบของโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม ในชั้นการสืบสวนเบื้องต้นพบบริษัทที่ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ระบุว่าเป็นผู้สั่งซื้อและนำเข้าซูโดอีเฟดรีนน้ำหนัก 40 ตัน ให้การปฏิเสธว่าถูกแอบอ้างนำชื่อบริษัทไปใช้สั่งซื้อยาจากประเทศเกาหลี พร้อมชี้แจงว่าบริษัทประกอบอาชีพนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์และนำเข้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ดังนั้น ดีเอสไอจะส่งพนักงานสอบสวนไปขอข้อมูลจากประเทศเกาหลีเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่าบุคคลใดเป็นผู้สั่งและลักลอบนำเข้าผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของสนามบินโดยสำแดงเท็จ
นายธาริต กล่าวอีกว่า ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้เรียกประชุมทำความตกลงความร่วมมือปราบยาเสพติด 4 หน่วยงานประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) และดีเอสไอ โดยกำชับให้ทั้ง 4 หน่วยงานทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดและการเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้กำลังเนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีความเข้าใจผิดในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจท้องที่กับส่วนกลาง โดยในส่วนของดีเอสไอจะเข้าไปดำเนินการเฉพาะคดียาเสพติดรายใหญ่ที่รับไว้เป็นคดีพิเศษเท่านั้น ส่วนคดียาเสพติดทั่วไปยังเป็นหน้าที่ของตำรวจท้องที่และบช.ปส.
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น