เปิดตัว “ลุงพยงค์ ทรัพย์มีชัย” ช่างตีเคียวถวายในหลวงสุดปลื้มครบ 16 ปี ที่ทรงเสด็จฯเกี่ยวข้าวถุงมะขามหย่อง จำได้ในหลวงตรัส”ยึดถือวิถีเดิมเอาไว้ให้ยั่งยืน อยากให้เคียวและมีดมีลวดลายไทย เมื่อไปอยู่เมืองนอกจะได้รู้ว่ามีดของเราไปถึงเมืองนอกแล้ว ” เป็นแรงทำให้ไม่ทิ้งอาชีพเดิม เฝ้ารอชื่นชมพระบารมีอีกครั้ง
วันนี้ ( 13 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 170/3 บ้านต้นโพธิ์ ม. 6 ต.ท่าช้าง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านของนายพยงค์ ทรัพย์มีชัย อายุ 59 ปี ช่างตีเคียวที่ตีเคียวถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าบรมราชินีนาถ ในการเสด็จทรงเกี่ยวข้าวที่ทุ่งมะขามหย่อง ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2539 ซึ่งบ้านของนายพยงค์ เป็นบ้านที่ก่อด้วยปูนสองชั้นหลังไม่ใหญ่นัก และข้างบ้านมีโรงงานเล็กๆ สำหรับทำมีดและเคียว รอบๆโรงงานมีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเกี่ยวข้าว และในพระอิริยาบถต่างๆ มากมาย โดยนายพยงค์ กำลังตีเคียวอย่างตั้งอกตั้งใจ
นายพยงค์ เปิดเผยว่ารู้สึกปลาบปลื้มและดีใจที่ทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถจะเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่องอีก ซึ่งตนยังจำเหตุการณ์ครั้งนั้นย่างแม่นยำ วันที่พระองค์ทรงเกี่ยวข้าวในแปลงนาเป็นวันที่ 14 พ.ค.2539 ซึ่งก็ครบ 16 ปีพอดี ตนดีใจที่ได้เห็นพระองค์ใช้เคียวที่ตนได้ทำขึ้นกับมือ ซึ่งก่อนที่จะถึงวันเสด็จตนได้รับมอบหมายจากทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้ทำเคียวจำนวน 2 เล่มเพื่อถวายทั้งสองพระองค์ เป็นเคียวที่ทำจากสแตนเลสตีด้วยมือใช้เวลาประดิดประดอยอยู่หลายวัน ส่วนที่ยากที่สุดคือการ”แทงและ” ซึ่งหมายถึงการใช้ตะไบแทงเข้าไปในส่วนโค้งไล่ให้มีความคม ซึ่งการแทงและเคียวนี้เองทำให้หาคนที่จะมาทำเคียวยากขึ้น ตอนนี้ตนก็ทำเคียวอยู่คนเดียว คนงานไม่มีใครอยากทำเพราะเป็นงานประณีต หนัก และอาจจะต้องอดทน ตนเห็นคนอื่นเขาใช้เครื่องมืดในการทำมีดและเคียว ทำให้ได้งานมากขึ้น จึงพยามยามที่จะดิ้นรนซื้อเครื่องตี
นายพยงค์ ทุกวันนี้ต้องตีเคียวและมีดวันละ 30 เล่มเพื่อขายพ่อค้าคนกลาง แต่เมื่อนึกถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งที่เสด็จทุ่งมะขามหย่อง และได้ทอดพระเนตรการตีเคียวและมีดของตน พระองค์ยังรับสั่งว่าเคียวของตนสวยมาก ขอให้ยึดหลักวิถีการทำแบบเดิมๆเอาไว้ เพราะการตีมีดมีลักษณะพิเศษของตัวมันเอง และถ้าเป็นไปได้ อยากเห็นด้ามมีดหรือเคียวของเราเป็นลวดลายไทยๆ เพราะเมื่อเวลาของเหล่านี้ไปอยู่เมืองนอก เราจะรู้ทันทีว่าของเราไปอยู่ถึงเมืองนอกแล้ว.. พระราชดำรัสของพระองค์ทำให้ตนเกิดกำลังใจอย่างมาก นอกจากนี้ยังเชื่อว่าทั้งสองพระองค์ห่วงเกษตรกร และยังจำเป็นที่ต้องใช้เคียว แม้ว่าทุกวันนี้จะมีรถเกี่ยวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเสด็จทอดพระเนตรการตีมีดที่บ้านนายวิทยา กิจสุวรรณ ในหมู่บ้านอรัญญิก และยังให้กำลังใจกับคนตีมีด ซึ่งก่อนหน้านั้นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ก็ทรงเสด็จมาก่อน ตนยังได้ถวายเคียวให้พระองค์ และยังได้รับถุงสีทองมีเงินเหรียญอยู่ 4 บาทเก็บจนทุกวันนี้
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น