วันเสาร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

โฆษกเพื่อไทย เปิดหลักฐานสำเนาเช็ค-บัญชีเงินฝาก จับผิด ปชป.รับเงินบริจาคอีสวอร์เตอร์





โฆษกเพื่อไทย เปิดหลักฐานสำเนาเช็ค-บัญชีเงินฝาก จับผิด ปชป.รับเงินบริจาคอีสวอร์เตอร์
วันนี้ (23 พ.ค.)นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยนำสำเนาบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยกระทรวงการคลัง และสำเนาเช็คสั่งจ่ายของบริษัทอีสวอร์เตอร์  มาแสดงต่อสื่อมวลชนพร้อมแถลงว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเงินบริจาคเข้าพรรคจำนวน 1 ล้านบาทจากบริษัทอีสวอร์เตอร์นั้นขัดต่อกฎหมาย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง แต่พรรคประชาธิปัตย์ยังอ้างว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเป็นเพียงตัวกลางในการรับบริจาคจากบริษัทอีสวอร์เตอร์นำไปบริจาคให้กับสำนักนายกรัฐมนตรี ข้ออ้างนี้ขัดต่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เนื่องจากบริษัทอีสวอร์เตอร์บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์โดยไม่มีเงื่อนไขเป็นตัวกลางเพื่อผ่านไปยังรัฐบาล หากมีหลักฐานก็ให้นำมาแสดง


นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตามหลักฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติว่าการให้ย่อมสมบูรณ์ต่อเมื่อส่งมอบทรัพย์สินที่ให้จึงถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้วและถือเป็นทรัพย์ของพรรคประชาธิปัตย์ และตนมีข้อสงสัยว่าการกล่าวอ้างเป็นตัวกลางในการรับเงินบริจาคเหตุใดจึงเก็บเงินไว้ถึง 1 เดือนเศษ ซึ่งทราบว่าฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ได้ทักท้วงว่าการรับเงินบริจาคจากบริษัทที่รัฐถือหุ้นขัดต่อกฎหมายมีโทษถึงยุบพรรค จึงได้หาทางพ้นผิดนำเงิน 1 ล้านบาทไปมอบให้กับสำนักนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์จะเลี่ยงหรือหนีความจริงไม่พ้น สุดท้ายคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องเป็นคนกลางสอบข้อเท็จจริง


“จากหลักฐานที่มีพบว่าพรรคประชาธิปัตย์ไปเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทยชื่อช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคในขณะนั้น มีนางอัญชลี วานิชเทพบุตร เป็นเหรัญญิกและนายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ผอ.พรรค เมื่อวันที่ 2 พ.ย.53 ต่อมาวันที่ 15 พ.ย. 53 บริษัทอีสวอร์เตอร์ได้บริจาคเงินจำนวน 1 ล้านบาทโดยเป็นเช็คที่ขีดคร่อมที่อยู่และผู้ถือทิ้งซึ่งหมายถึงว่าเงินจะต้องนำเข้าบัญชีนี้เท่านั้น ซึ่งตั้งข้อสงสัยว่าบริษัทอีสวอร์เตอร์น่าจะได้รับการติดต่อให้บริจาคเงิน เพราะเป็นการเปิดบัญชีรอล่วงหน้า เรื่องนี้ยังไม่นับถึงดอกเบี้ยระหว่างที่เงินอยู่ในธนาคาร 1 เดือนหายไปไหน นี่เป็นการจับโกหกคำโตของผู้นำและแกนนำพรรคประชาธิปัตย์” นายพร้อมพงศ์ กล่าว


โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ ยื่นฟ้อง ป.ป.ช.ดำเนินการเอาผิดต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่สั่งฟ้องคดีล้มเจ้าว่า ในแง่กฎหมายเป็นสิทธิทำได้ แต่หากเป็นการกลั่นแกล้งใส่ความเจ้าพนักงานโดยไม่เป็นธรรม นายสุเทพอาจโดนฟ้องกลับได้ตามประมวลกฎมายอาญา  มาตรา 200 เพราะการสั่งไม่ฟ้องผ่านการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ทั้งคณะไม่ใช่การทำตามอำเภอใจของนายธาริตคนเดียว เข้าใจว่าน่าจะเป็นการฟ้องแก้เกี้ยวมากกว่าเพราะยังคาใจที่ดีเอสไอสั่งฟ้องคดีรุกที่ดินเขาแพง เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น