เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 มี.ค. จากสถานการณ์หมอกควันในจังหวัดเชียงรายที่กลับมาสร้างปัญหาด้านสุขภาพและทัศนวิสัยการใช้ยวดยานให้กับประชาชนทั่วไป โดยมีการวัดค่าฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนสูงเกินค่าความปลอดภัยต่อสุขภาพที่กำหนดไว้ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยเมื่อวานนี้ (19มี.ค.) วัดได้ 431.6 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรในพื้นที่ อ.แม่สาย และวัดได้ 267.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่ อ.เมืองเชียงราย
ดังนั้นจังหวัดเชียงรายโดยนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมกับกองทัพอากาศ โดย พล.อ.ท.ธงชัย แฉล้มเขตร รองเสนาธิการทหารอากาศ ได้นำเครื่องบินบรรทุกน้ำจำนวน 2 ลำ ที่มาประจำอยู่ที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ออกทำการบินโดยมี นาวาอากาศตรีอำนาจ ปวงสุข ผบ.หมวดบิน 1 ฝ่ายยุทธการ ฝูงบิน 416 กองบิน 46 พิษณุโลก นำเครื่องบิน 2 ลำ พร้อมลูกเรือจำนวน 26 นาย ออกปฎิบัติการนำน้ำบรรทุกเครื่องบินออกโปรยในอากาศเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับชั้นอากาศ เป็นวันที่ 2 หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมาได้ทดลองปฎิบัติการโปรยน้ำในพื้นที่ตัวเมืองเชียงรายไปแล้วจำนวน 3 เที่ยว
โดยแต่ล่ะเที่ยวสามารถบรรทุกน้ำได้ประมาณ 2,000 ลิตร ซึ่งได้รับการสนับสนุนน้ำจากรถดับเพลิงของการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายคอยเติมน้ำให้ตลอดเวลา และในวันนี้จะขึ้นบินนำน้ำไปโปรยในเขต อ.แม่สาย เพื่อลดระดับค่าฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ที่ปกคลุมอย่างหนาแน่น โดยจะเน้นในตามย่านชุมชนและบริเวณเรียบชายแดนด้านหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองอำเภอแม่สาย คาดว่าจะบรรเทาปัญหาได้ส่วนหนึ่ง
ทางด้านนายยุทธนา จิตรอบอารีย์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย กล่าวว่าปัญหาหมอกควัน มีผลกระทบต่อการบินของเครื่องบินที่ใช้บริการยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงบ้างบางส่วน เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงจากเดิมที่มีอยู่กว่า 10 กิโลเมตร เหลือประมาณ 2 กิโลเมตร ทำให้ทางการท่าอากาศยานได้เตือนให้นักบินเพิ่มความระมัดระวังในการบินโดยเฉพาะการลงจอดเพื่อความปลอดภัยแล้ว แต่โดยรวมยังสามารถบินขึ้น-ลง ได้ตามปกติยังไม่ถึงขึ้นที่มีการงดบินหรือเลื่อนการขึ้นลงของเครื่องบินแต่อย่างไร
ขณะที่นายอภิชา ตระสินธิ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย กล่าวว่าผลกระทบจากหมอกควันนั้น พบว่าทำให้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวลดลงเล็กน้อยเพราะที่ผ่านมานักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ได้จองที่พักล่วงหน้าและมีการยกเลิกโปรแกรมการท่องเที่ยวส่วนน้อยราว 10 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตนจึงอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายในเรื่องควบคุมการเผาทุกชนิดรวมทั้งเพื่อทำการเกษตรอย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้มีปัญหาซ้ำซากทุกปี.
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น