.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จ.ภูเก็ต ว่าตั้งแต่ช่วงเช้าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีบรรดากลุ่มคนเสื้อแดงจากจ.ภูเก็ตและ จ.พังงา ทยอยเดินทางมาให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ครม.ตั้งแต่ช่วงเช้า
นอกจากนี้ยังมีตัวแทนภาคประชาชนกลุ่มต่างๆ หลายกลุ่ม เดินทางมารอยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ทำให้พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ต้องลงมาสั่งการกำกับดูแลความปลอดภัยด้วยตัวเอง โดยไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้ามายังพื้นที่ที่ใช้ประชุมครม. กันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ให้เข้ามาในพื้นที่การประชุมครม. ทั้งนี้การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ดูแลประจำทุกจุด รวมทั้งมีการตั้งจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์ไว้บริเวณทางเข้าด้านหน้าของมหาวิทยาลัย เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
นอกจากนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังได้จัดรถตรวจวัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ รวมทั้งสุนัขดมกลิ่น มาดูแล โดยบุคคลที่จะเข้า-ออกบริเวณอาคารสำนักงานอธิการบดี ซึ่งเป็นที่ประชุมครม. จะต้องติดบัตรแสดงตนและผ่านเครื่องเอ็กซเรย์เพื่อตรวจวัตถุระเบิดก่อน ทางด้านพล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รอง ผบช.ภ.8 เปิดเผยว่า การดูแลรักษาความปลอดภัยสำหรับการประชุมครม.สัญจรครั้งนี้ ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานนำเสนอแผนปฏิบัติการตาปี 14/2555 ซึ่งอิงตามแผนรักษาความปลอดภัย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือแผนกรกฎ 52 และการรับทราบข้อมูลทางการข่าวในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการเตรียมพร้อมแก้ปัญหากรณีที่อาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
ทั้งนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมาถึงสถานที่ประชุมในเวลา 08.20 น. โดยได้ลงจากรถตั้งแต่บริเวณประตูทางเข้า เพื่อพบปะกับกลุ่มชาวบ้านที่มามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ และของที่ระลึก บางรายก็เข้าไปขอสวมกอด และตะโกนให้สู้ ๆ พร้อมระบุว่าคนใต้ก็รักนายกรัฐมนตรี ทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ถึงกับยิ้มหน้าบาน และกล่าวขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ พร้อมบอกว่า รัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนกับประชาชนในทุกๆพื้นที่โดยไม่เลือกปฏิบัติอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังได้มีตัวแทนกลุ่มสหสาขาวิชาชีพสุขภาพโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (รพ.มอ.) นำโดยนายมนูญ หมวดเอียด เข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนมติ ครม.ปี 2541 ที่ไม่ให้บรรจุบุคลากรเป็นข้าราชการในมหาวิทยาลัย เนื่องจากต้องการลดอัตรากำลัง ทำให้บุคคลากรที่เข้าทำงานหลังปี 41 มีสถานภาพเป็นพนักงานและลูกจ้างชั่วคราวเท่านั้น ส่งผลให้บุคลากร ทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความรู้เฉพาะอาชีพ ซึ่งต้องทำงานหนักเกิดความเลื่อมล้ำในสังคม เมื่อเทียบกับวิชาชีพเดียวกันที่สังกัดกระทรวงอื่น และขาดขวัญกำลังใจ โดยนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องไว้ พร้อมกล่าวว่า จะรับเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาดู
ขณธเดียวกันยังมีกลุ่มเครือข่ายผู้หญิงจาก จ.ภูเก็ต ได้มอบช่อดอกไม้และรูปปั้นจำลองท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร วีรสตรีแห่งเมืองถลาง ก่อนจะขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยดูแลและให้ความเป็นธรรมกับนางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมที่ถูกย้ายไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โดยตัวแทนเครือข่ายผู้หญิง กล่าวว่าว่า นางพนิตาเป็นคนดี ทำงานร่วมกับกลุ่มสตรีภูเก็ตมาโดยตลอด จึงอยากขอให้นายกรัฐมนตรีให้ความเป็นธรรมด้วย
แหล่งที่มาข้อมูล www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น