รอง
ผวจ.ภูเก็ตตรวจพื้นที่หลังแผ่นดินเขย่าภูเก็ต 4.3 ริกเตอร์พบบ้านเสียหาย 11 หลัง เตรียมประกาศเขตภัยพิบัติ ชาวบ้านผวาหนีตายชั่วชีวิตเพิ่งเจอ
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 16 เม.ย. นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผอ.สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม และธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี (ทธ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.7 ริกเตอร์ เมื่อเวลา 17.17 น. ทางตอนเหนือของเกาะสุมารตรา ประเทศอินโดนีเซีย แต่ชาวจ.ภูเก็ตรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนมากกว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหว 8.6 ริกเตอร์เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น ว่า จากการตรวจสอบของกรมทรัพยากรธรณี พบว่าสาเหตุที่ชาวภูเก็ตรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนนั้น เป็นเพราะเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.3 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ในบริเวณ อ. ถลาง จ.ภูเก็ต ในเวลาไล่เลี่ยกันกับแผ่นดินไหวที่อินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นแผ่นดินไหวระดับกลาง ไม่รุนแรงมากนักผู้ที่อาศัยอยู่ทั้งภายในอาคาร และนอกอาคาร จะรู้สึกถึงการสั่นสะเทือน และวัตถุห้อยแกว่งไกว ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจ
นายเลิศสิน กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุของแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวส่วนหนึ่งของรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยที่ทอดผ่าน จ.สุราษฎร์ธานี พังงา และทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดแผ่นดินไหวบนบก ที่ผ่านมาเคยเกิดในทะเลเมื่อนานมาแล้ว ขณะนี้กรมทรัพากรธรณีกำลังส่งเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบความเสียหายอยู่ เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่บ้านสะปำ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เสียหาย 20-30 หลัง
กรมทรัพยากรธรณีขอให้ประชาชนในพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของบ้านเรือน หากพบความเสียหายมากให้ย้ายออกหรือหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว และให้เพิ่มความระมัดระวังเนื่องจากอาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กหรืออาฟเตอร์ช็อกขนาด 3 ริกเตอร์กว่าๆ ตามมาได้อีก ทั้งนี้รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย โอกาสเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงมากที่สุดนั้น ไม่น่าจะเกิน 5-6 ริกเตอร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุดังกล่าว นอกจากบ้านเรือนเสียหายแล้วประชาชนในเกาะภูเก็ต รวมทั้งนักท่องเที่ยว ตามโรงแรม และ รีสอร์ทต่างอพยพหวั่นเกิดสึนามิ ถนนสายต่างๆในเกาะภูเก็ตการจราจรเป็นอัมพาต
ต่อมาเวลา 20.00 น. นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผวจ. นายวรวุฒิ ทรงยศ นายกเทศมนตรีตำบลศรีสุนทร ตลอดจนเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจสอบสภาพบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านลิพอน-บางขาม หมู่ 2 ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ซึ่งได้รับความเสียหายจากกรณีแผ่นดินไหวบนบก ศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง ขนาด 4.3 ริกเตอร์ หลังเกิดแผ่นดินไหวตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ขนาด 5.4 ริกเตอร์ โดยมีเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายนำตรวจสอบ เช่น นายถาวรและนางดวงใจ ตรีสุข เจ้าของบ้านเลขที่ 101/2, นางชุม นิยมพงษ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 133,นายชัยสิทธิ์ จินะเสนา เจ้าของบ้านเลขที่ 100/4 เป็นต้น โดยบ้านแต่ละหลังมีรอยร้าวบริเวณผนังบ้านด้านหลังบ้านหน้าห้องน้ำและห้องครัว
นายวรวุฒิ กล่าวว่า จะประสานผู้นำชุมชนแต่ละพื้นที่ เพื่อประเมินผลและรายงานขอความช่วยเหลือจากทางอำเภอและจังหวัดต่อไป ขณะนี้ ทางเทศบาลศรีสุนทรได้จัดสรรงบประมาณให้ความช่วยเหลือแก่ชาวบ้านแล้ว หากเกิดแผ่นดินไหวอีก ตนและคณะได้เตรียมแผนอพยพชาวบ้านจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังที่ปลอดภัย ซึ่งจัดเตรียมที่สูง ในบริเวณเขตอุทยานเขาพระแทว
ด้านนางชุม นิยมพงษ์ อายุ 56 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 133 เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุอยู่ในบ้านกับหลานอีก 2 คน รู้สึกเหมือนบ้านสั่น และมีเสียงดังมากคล้ายๆ เสียงระเบิด ด้วยความตกใจรีบพาหลานๆ ออกมาอยู่หน้าบ้าน พร้อมเพื่อนบ้านอีกหลายคน ที่ผ่านมาตลอดชั่วอายุไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ตกใจมากกลัวบ้านพัง
ขณะที่นางดวงใจ ตรีสุข เจ้าของบ้านเลขที่ 101/2 บอกว่า ขณะเกิดเหตุนั่งอยู่ในบ้านรู้สึกเหมือนบ้านสั่น ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยความตกใจก็รีบออกมาจากตัวบ้าน และเมื่อเหตุการณ์สงบก็เข้าไปตรวจสอบพบรอยร้าวหลายจุดบริเวณผนังบ้าน
ด้านนายสมเกียรติ กล่าวว่า จากการสำรวจบ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านลิพอน-บางขาม พบบ้านเรือนได้รับความเสียหายเบื้องต้น 11 หลัง ส่วนใหญ่มีรอยร้าวบริเวณผนังบ้านจนถึงพื้นบ้านความยาว 2-3 เมตร อันเป็นผลมาจากแรงสั่นสะเทือน ทางเทศบาลฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อรายงานให้ผู้ว่าฯ ได้รับทราบอย่างเป็นทางการ และจะประกาศเขตภัยพิบัติ คาดว่าจะดำเนินการได้ในวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) โชคดีที่เกิดความเสียหายไม่มาก แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง ไม่เฉพาะในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.ศรีสุนทรเท่านั้น แต่รวมถึงพื้นที่อื่นๆ เช่น ป่าตอง กะตะกะรน กมลา ไม้ขาว แหลมตุ๊กแก เป็นต้น รวมทั้งติดตามข้อมูลการรายงานผลการตรวจวัดระดับน้ำที่เกาะเมียง จ.พังงา ของทัพเรือภาคที่ 3 ด้วย.
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น