สวัสดีครับเพื่อนๆ นี่ก็ใกล้ถึงเทศกาลน้ำหลากเกมไหลกันแล้วนะครับ ดูเหมือนช่วงสิ้นปีนี่จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด สำหรับชาวเกมเมอร์ของทุกแพลทฟอร์มกันเลยนะครับ ยังไงก็เตรียมเงินในกระเป๋าไว้ให้ดีละกัน "เตรียมออมตั้งแต่วันนี้ เพื่อความสนุกที่จะมีในวันข้างหน้า 555" อ่ะ...นอกเรื่องไปหน่อย คราวนี้ผมจะมารีวิวเกม Bionic Commando Rearmed (ต่อไปขอเรียกเป็นตัวย่อ BCR) ครับ ซึ่งเป็นเกม Remake (ทำขึ้นใหม่อีกครั้ง) ของเกมเก่าแก่อายุร่วม 20 ปีที่แล้วในชื่อ Bionic Commando สมัยที่เกมยังเป็น 2มิติ หยาบๆ อยู่ ซึ่งถือว่าโด่งดังมากของ CAPCOM ในสมัยนั้น มาถึงตอนนี้ BCR ได้รับการเนรมิตขึ้นใหม่โดยสตูดิโอ GRIN ที่เคยฝากผลงานไว้กับเกม Ghost Recon Advance Warfighter ทั้ง 2 ภาค บนพีซีนั่นเองครับ ส่วนผลจะออกมาเป็นยังไง ไปดูกันต่อ
ประเภท - Platformer
ผู้พัฒนา - GRIN
ผู้จัดจำหน่าย - CAPCOM
วันวางจำหน่าย - 14 สิงหาคม 2008
ผู้พัฒนา - GRIN
ผู้จัดจำหน่าย - CAPCOM
วันวางจำหน่าย - 14 สิงหาคม 2008
ความต้องการขั้นต่ำของระบบ - ระบบปฏิบัติการ Windows XP sp2 หรือ Vista
- ต้องการ DirectX 9.0c
- หน่วยประมวลผลระดับ Pentium 4 @ 2.0GHz หรือ Athlon XP 2200 ขึ้นไป
- หน่วยความจำ 512 MB
- การ์ดแสดงผล GeForce 6600 GT หรือ การ์ด ATI ที่คุณสมบัติเทียบเท่าขึ้นไป
- การ์ดเสียงที่รองรับ DirectX 9.0c
- เนื้อที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ 370 MB
- ต้องการ DirectX 9.0c
- หน่วยประมวลผลระดับ Pentium 4 @ 2.0GHz หรือ Athlon XP 2200 ขึ้นไป
- หน่วยความจำ 512 MB
- การ์ดแสดงผล GeForce 6600 GT หรือ การ์ด ATI ที่คุณสมบัติเทียบเท่าขึ้นไป
- การ์ดเสียงที่รองรับ DirectX 9.0c
- เนื้อที่ว่างบนฮาร์ดดิสก์ 370 MB
เนื้อเรื่องใน BCR นั้นจะดึงมาจากต้นฉบับเลย คือตัวผู้เล่นสวมบทเป็น Commando หนุ่ม ชื่อ Spencer ที่ต้องรับหน้าที่บุกตะลุยตามสถานที่ต่างๆ ไปช่วยเหลือยอดสายลับ Joseph Gibson หรือฉายา "Super Joe" จากเงื้อมือของนายพล Generalissimo Killt และกองกำลังฝ่าย Imperial ของเขา รวมถึงยึดพื้นที่ของ FSA (Federal States of America) จากแผนการชั่วร้ายของนายพลบ้าอำนาจคนนี้กลับมาด้วย
จากภาพรวมของ BCR นั้นทางผู้พัฒนายังคงรักษาคอนเซปต์ของเกมภาคต้นฉบับไว้ได้อย่างครบถ้วน จะมีเปลี่ยนบ้างเล็กน้อยในบางอย่าง และมีคุณสมบัติเพิ่มเติมในอีกหลายๆส่วน รูปแบบการเล่นจะเป็นแบบมุมมองด้านข้างในแบบ 2 มิติ (Side - Scrolling) เหมือนต้นฉบับ แต่จริงๆแล้วเป็น 3 มิติเต็มรูปแบบตามยุคสมัย ส่วนวิธีการเล่น ฉากต่างๆในเกม แผนที่ ศัตรู บอส เหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเกมต้นฉบับนั้นจะมีอะไรบ้าง ลองไปดูกันครับ
- อ่ะ เอารวมๆ ทั้งเรื่องของกราฟฟิค และเสียงประกอบ แน่นอนครับ ทำใหม่หมด ดังที่กล่าวไปแล้ว ดนตรีประกอบก็ด้วย แต่ยังคงรักษาความเป็น midi อยู่บ้าง คือยังรู้สึกเหมือนว่ากำลังฟังเพลงประกอบเกมในสมัยก่อนอยู่ เพียงแต่มันถูกสร้างขึ้นมาใหม่ให้มีรายละเอียดเสียงที่ดีกว่า และใช้เทคโนโลยีเสียงในปัจจุบัน
- ระดับความยากในเกมที่สามารถเลือกได้ ง่าย ปานกลาง ยาก และโคตรยาก ต้นฉบับไม่มี (คงไม่แปลก) สำหรับระดับ ง่าย นั้นผู้เล่นจะมีตัวช่วย มันจะเป็นบล็อกกล่องใสๆ วางเรียงรายอยู่ตามจุดที่ยากๆของเกม เพื่อช่วยไม่ให้ผู้เล่น ตกลงไป และใช้แขนกลยึดเกาะได้ สรุปคือลดความยากของฉาก และศัตรูส่วนใหญ่จะอยู่กับที่ และไม่ค่อยมีการตอบโต้ สำหรับ ปานกลาง จะเหมือนกับระดับง่ายทุกอย่างยกเว้นฉาก ที่จะไม่มีบล็อกใสๆช่วยอีกต่อไป ส่วนระดับ ยาก นอกจากฉากที่ไม่มีบล็อกช่วยแล้ว ศัตรูยังไม่อยู่เฉยอีกด้วย ทั้งยิงทั้งปาระเบิดกันเต็มที่ และผมขอเว้นไว้สำหรับระดับ โคตรยาก เพราะผมไม่สามารถจริงๆที่จะปลดล็อกความยากระดับนี้ได้ ดังนั้นเพื่อนๆคนไหนสามารถก็ขอเชิญเพิ่มเติมที่คอมเม้นท์ด้านล่างเลยนะครับ ว่ามันต่างจากสามระดับแรกยังไง
- ระบบ checkpoint คือเกมมีระบบเซฟอัตโนมัติให้แก่ผู้เล่น ตามจุดต่างๆในเกม เช่น พวกประตูเข้าออกต่างๆ เมื่อผู้เล่นตายก็จะมาเกิดใหม่ตรงจุดนั้นๆล่าสุด จนกว่าจะหมด extra life ถึงจะต้องเริ่มต้นฉากใหม่ สำหรับแผนที่ปฏิบัติการณ์นั้นก็มีการเซฟฉากที่ผ่านแล้วให้ผู้เล่นเช่นกัน ของเดิมไม่มีครับ ถ้าชีวิตหมดก็ Game Over ไปเลย
- ศัตรู และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในส่วนของ AI แน่นอนครับจะต้องดีกว่าของต้นฉบับแน่นอน แต่ไม่ต้องเอาไปเทียบกับเกมอื่นนะครับ เพราะผู้พัฒนายังคงรูปแบบการเล่นเดิมๆไว้ ซึ่งรูปแบบเดิมๆนั่นก็ไม่ได้เน้นในเรื่องของ AI ศัตรูอยู่แล้ว มันเป็นเกมที่เน้นไปที่ความยากของฉาก เน้นการใช้แขนกล ใช้หัวคิดในการโค่นศัตรู ดังนั้นไม่ต้องหวังว่าจะได้ AI ฉลาดๆครับ เพราะมันไม่ใช่ประเด็น สำหรับชนิดของศัตรูนั้นก็มีเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งทหารต่อสู้ระยะประชิด ทหารมือระเบิด ทหารช่างบังคับหุ่น ฯลฯ รวมไปถึงพวกบอสในฉากต่างๆด้วยที่เปลี่ยนไป แต่ตัวหลักๆยังคงอยู่
- Mini game ที่เพิ่มเข้ามา ในส่วนที่ผู้เล่นอยู่ในห้องสื่อสารภายในฉาก ที่สามารถเลือกที่จะ hack ข้อมูลที่ศัตรูคุยกันได้ โดยจะตัดเข้าสู่ mini game ที่ผู้เล่นจะต้องดีดลูกบอลสีไปยังจุดหมายที่เกมกำหนดไว้ให้ได้ ซึ่งเมื่อทำได้ ผู้เล่นก็จะได้รับรางวัลเป็นพลังชีวิตบ้าง คะแนนโบนัสบ้างแล้วแต่ แต่ถ้าหากทำไม่ได้ สัญญาณเตือนภัยจะดังขึ้น สิ่งที่จะตามมาก็คือหน่วยสนับสนุกของศัตรูก็จะยกโขยงกันมาเพียบ ซึ่งในภาคต้นฉบับไม่มี จะมีเพียง dialog ของศัตรูคุยกันให้อ่านเท่านั้น
- ระบบ แถบพลังชีวิต ดีแล้วที่มีระบบนี้เข้ามา ไม่อย่างนั้นเกมนี้จะยากขึ้นไปอีกหลายเท่า ซึ่งธรรมดาก็ยากอยู่แล้ว แถบพลังเพิ่มได้จากการเก็บไอเท็มพยาบาลที่ตกจากศัตรูของเรา ภาคต้นฉบับนั้นในฉากแรกๆ จะโดนโจมตีทีเดียวตาย แล้วเริ่มใหม่หมด (โหด) ยกเว้นว่าจะเก็บก้อนพลังจากศัตรู ก็จะทนการโจมตีได้ตามจำนวนก้อนพลังนั้น คล้ายกัน แต่ภาคดั้งเดิมก็ไม่มีระบบพลังชีวิตอยู่ดี
- Challenge Room เป็นฉากพิเศษที่เพิ่มเข้ามาท้าทายความสามารถของผู้เล่น มีลักษณะคล้ายๆกับ VR-Mission ในเกมซีรี่ Metal Gear Solid ผู้เล่นจะต้องพยายามไปให้ถึงเส้นชัย โดยใช้แขนกลที่มีด้วยวิธีการใดก็ได้ให้ใช้เวลาน้อยที่สุด มีตั้งแต่ฉากที่ง่ายไปจนยาก ซึ่งตรงนี้เป็นส่วนที่ยากที่สุดในเกมเลยในความคิดผม ต้องใช้ทั้งเทคนิคการใช้แขน ความเร็ว และความแม่นยำอย่างมาก
- Data Base เป็นศูนย์รวมข้อมูลแทบทุกอย่างในเกมไว้ให้ผู้เล่นได้เข้ามาอ่าน ซึ่งมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เล่นเยอะมากๆ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลของฉากทุกฉาก เป็นมายังไง ลักษณะพื้นที่เป็นยังไง, ข้อมูลของศัตรูทุกแบบ โจมตียังไง เก่งแค่ไหน จะเจอเมื่อไหร่, ข้อมูลของอาวุธ ไอเท็มพิเศษ ความสามารถพิเศษ ของตัว Commando, ชีวประวัติบุคคลสำคัญตามท้องเรื่อง และอีกหลายๆส่วน เป็นส่วนเพิ่มเติมจากต้นฉบับที่น่าชื่นชมครับ
- Co-Op และ Multiplayer เป็นส่วนที่แทบจะขาดไม่ได้แล้วสำหรับเกมในสมัยนี้ เมื่อผู้พัฒนานำมาใส่ลงใน BCR นี้ก็ยิ่งเติมเต็มความสนุกให้กับเกมได้เป็นอย่างดี สำหรับ Co-Op นั้นรองรับผู้เล่นได้ 2 คน เล่นตามเนื่อเรื่องไปพร้อมๆกัน ในแบบเกม Contra (คงไม่มีใครไม่รู้จัก) และส่วน Multiplayer ที่รองรับผู้เล่นถึง 4 คน มีโหมดการเล่นหลายแบบ เช่น Deathmatch, Last Man Standing, Don't Touch The Floor เป็นต้น สามารถเลือกตัวละครสำคัญๆในเกมมาเล่นได้ ไม่ว่าจะเป็น นายพล Killt หรือสายลับ Super Joe เป็นต้น ฉากที่มีให้เล่นก็พอประมาณ ไม่มากไม่น้อย เสียดายอยู่อย่างเดียวคือมันไม่สามารถเล่น Multiplayer ผ่านระบบ Lan หรือ Internet ได้ มีเพียงแค่การแบ่งหน้าจอเล่นกันเท่านั้น
- Medals เป็นส่วนเพิ่มเติมตามสมัยนิยมนั่นเอง เป็นเหมือนหอเชิดชูเกียรติ เวลาที่ผู้เล่นทำภารกิจ หรืออะไรที่พิเศษๆได้สำเร็จ ก็จะได้รับรางวัลเป็นสัญลักษณ์อย่างนั้นอย่างนี้ ตามแต่ตัวเกมจะกำหนดมา ซึ่งมีทั้งสิ่งที่ทำได้ง่ายและยากเช่นเดียวกับ Challenge Room
ความรู้สึกกับเกมนี้? ดีมากครับ เป็นเกม Remake ที่ทำได้ดีจริงๆ ทั้งในส่วนของการรักษารูปแบบเกมเดิมๆไว้ และทั้งส่วนเพิ่มเติมและส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีทั้งหลาย ผมว่าแฟนพันธุ์แท้ Bionic Commando จะต้องชอบแน่ๆ กราฟฟิคภายในเกมความคมชัดของเท็กซ์เจอร์และเอฟเฟคต่างๆสะดุดตามาก ส่วนด้านเสียงนั้นก็โอเคได้มาตรฐาน เท่าทีเล่นมาผมยังไม่เจอข้อผิดพลาด (Bug) ใดๆในเกม อาจเป็นเพราะระบบการเล่นที่ง่ายๆ ไม่มีอะไรมากก็เป็นได้ จึงไม่เกิดปัญหา นอกเหนือจาก มินิเกมในห้องสื่อสารแล้ว ผมยังชอบมินิเกมในส่วน Meet the enemy อีกด้วย เป็นส่วนที่ผู้เล่นจะเจอเวลาอยู่ในหน้าจอแผนที่ ซึ่งจะมีรถบรรทุกทหารของฝ่ายผู้ร้าย วิ่งไปมาระหว่างพื้นที่ ถ้าผู้เล่นไปเจอเข้า เกมจะตัดสู่มินิเกมในมุมมองแบบด้านบน (Top-Down Scrooling) ในมุมมองแบบนี้ แขนกลที่เคยใช้ยึดเกาะ จะกลายมาเป็นอาวุธ และเอาไว้ป้อมกันตัวจากกระสุนปืนด้วย แต่ข้อจำกัดนึงที่อาจจะก่อปัญหาให้กับผู้เล่นหลายๆคนก็คือการที่ตัวเกมไม่ได้มีตัวเลือกในการปรับกราฟฟิคในเกมใดๆ นอกเหนือไปจากค่าความละเอียด (Resolution) ตรงนี้เป็นปัญหากับผู้ที่ไม่มีการ์ดจอที่ไม่รองรับ Pixel Shader 3.0 เพราะว่ากราฟิคภายในเกมต้องใช้ครับ แล้วทำไมไม่ทำเกมให้รองรับระบบที่ต่ำกว่านี้ล่ะ? อาจจะเป็นที่ขนาดของตัวเกมที่เล็ก เพียง 300 กว่า MB ทางผู้พัฒนาคงตั้งใจไว้อยู่แล้ว เพราะถ้ามีตัวเลือกที่มากขึ้น ครอบคลุมขึ้น ข้อมูลจะต้องเพิ่มขึ้นตาม เช่น ถ้ามีตัวเลือกให้ใช้เท็กซ์เจอร์ได้แบบ ต่ำ, กลาง, สูง เท็กซ์เจอร์ในเกมชิ้นหนึ่งก็จะต้องทำมาถึงสามแบบคือแบบต่ำ, กลาง, และสูง แล้วในเกมมีเท็กซ์เจอร์ตั้งไม่รู้กี่ชิ้น ก็คูณ 3 กันเข้าไปคงจะเยอะไม่น้อยครับ แล้วทำไมล่ะ ใหญ่ก็ไม่เป็นไรนี่เดี๋ยวนี้เกมก็ใหญ่ๆทั้งนั้นไม่เห็นมีปัญหา? ตรงนี้คงเพราะเกมนี้เขาให้ซื้อกันผ่านการดาวน์โหลดครับ ไม่ได้ทำมาเป็นแผ่นขาย ถ้าตัวเกมใหญ่ คงไม่เป็นมิตรกับการซื้อขายทางออนไลน์เป็นแน่ อีกทั้งเกมนี้ก็ไม่ใช่เกมใหม่ เป็นเพียงเกมที่ Remake เพื่อปลุกกระแสให้กับเกมที่เป็นที่คาดหวังแก่ทาง CAPCOM ซึ่งก็คือ Bionic Commando ตัวใหม่ สามมิติเต็มรูปแบบนั่นเอง ดังนั้นต้องทำใจครับ
เอาล่ะครับผมให้คะแนนเลยแล้วกัน 9.5/10 ครับ มันอาจดูสูงไป แต่ต้องมองในมุมที่มันเป็นเกม Remake ครับ เอาต้นฉบับ เทียบกับของใหม่ อารมณ์ในการเล่นคงเดิมไม่ได้แย่ลง แต่มีส่วนเพิ่มเติมเข้ามาอีกหลายอย่างที่ดี แต่ถ้ามองเกมนี้ในมุมอื่น คะแนนคงไม่ใช่แบบนี้ครับ ดังนั้นอย่าเชื่อในคะแนนมากครับ เพื่อนๆลองเล่นเองดีกว่า สุดท้ายที่อยากจะบอกคือ ไม่ควรพลาดสำหรับแฟน Bionic Commando
เพื่อนๆคนไหนอยากจะคอมเมนท์เพิ่มเติมจากนี้ หรือมีอะไรที่อยากจะแนะนำเพิ่มเติม อย่ารอช้านะครับ คอมเมนท์มาเลยเพื่อประโยชน์แก่เพื่อนๆคนอื่นต่อไป ^^ ตอนนี้ผมขอไปเตรียมรับมือกับคลื่นเกมระรอกใหม่ก่อนนะครับ สวัสดีครับ
***** เผื่อเพื่อนๆคนไหนอยากจะลองเล่นเกมในเวอร์ชั่นต้นฉบับนะครับ เชิญโหลดได้ที่ด้านล่างครับ
แถมท้ายด้วยวิดีโอรูปแบบการเล่นหลักๆครับ
เหตุการณ์ meet the enemy ในเกมครับ
การเล่นโดยทั่วไปของเกมครับ
mini-game แบบ puzzle ที่ห้องสื่อสารในเกม
การต่อสู้กับหนึ่งใน บอส ของเกม (SPOIL ALERT!)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น