วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2555

กพช.ไฟเขียวกู้เงิน 2 หมื่นล้านบาทอุ้มแอลพีจี


วันที่ 23 มี.ค. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบการจัดหาเงินให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเสริมสภาพคล่องของกองทุนฯที่ต้องมีภาระในการชดเชยราคาก๊าซแอลพีจี โดยให้กู้เงินจากสถาบันการเงิน หรือออกตราสารหนี้จำนวน 20,000 ล้านบาท ระยะเวลาชำระหนี้ภายใน 3 ปี ขณะที่วงเงินกู้เดิมจำนวน 10,000 ล้านบาทนั้น ได้เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการชำระคืนหนี้เงินกู้จาก 1 ปีเป็น 3 ปี โดยให้สถาบันบริหารกองทุนพลังงาน (สบพน.) ขอขยายระยะเวลาการชำระหนี้คืนได้ตามความจำเป็น และเหมาะสมหากกองทุนน้ำมันฯมีสภาพคล่องเหลือไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้
รองนายกระบุอีกว่า กองทุนฯ ยังมีภารกิจที่ต้องชดเชยราคาก๊าซแอลพีจี หรือก๊าซหุงต้ม ตามแผนเดิม และมีแผนค่อยๆปรับราคาขึ้นอย่างช้าๆ เพราะในอดีตเราควบคุมราคาไว้ในระดับต่ำมาก น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของราคาขายในประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นจึงต้องปรับตัว ไม่เช่นนั้นก็จะถูกลักลอบ และต้องไปชดเชยผู้บริโภคที่อยู่นอกประเทศ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกู้เงินเข้ามาให้เกิดสภาพคล่อง โดยวงเงินที่กู้นี้จะทำให้กรอบเงินกู้ขยับไปเป็น 30,000 ล้านบาท และเป็นวงเงินที่ไม่มาก เพราะในอดีตเรามียอดเงินที่สูงกว่านี้หลายเท่า ทั้งนี้ที่ประชุมยังพิจารณาแนวทางการประหยัดพลังงานของหน่วยงานภาครัฐ ทั้งการลดการใช้ไฟฟ้า และการลงทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะสามารถลดใช้พลังงานได้ 15% คาดว่าจะใช้วงเงินรวมกว่า 6,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามยังได้สั่งให้กระทรวงพลังงานดำเนินโครงการบริหารจัดการเพื่อการประหยัดพลังงานในอาคารควบคุมภาครัฐ มีโครงการนำร่องการบริหารจัดการเพื่อการประหยัดพลังงานของส่วนราชการ 3 แห่ง คือ บริเวณอาคารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ,มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา โดยคาดว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวจะเป็นตัวอย่างให้กับภาคเอกชน และประชาชนในด้านอนุรักษ์พลังงานได้เพิ่มขึ้น
นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ขยายเวลาการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ของโครงการน้ำงึม3 ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้ง 440 เมกกะวัตต์ ออกไปจากเดิมในเดือนม.ค.60 เป็นหลังเดือนก.พ.61 เนื่องจากพื้นที่โครงการได้รับความเสียหายจากพายุไหหม่า จึงจำเป็นต้องใช้เวลาปรับปรุงและก่อสร้างใหม่ รวมทั้งยังเห็นชอบอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าน้ำงึม1 และโครงการเขื่อนเซเสด โดยลดอัตราค่าไฟที่รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวซื้อจากไทยลง 0.05 ต่อหน่วย.

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น