วันนี้ (24 มี.ค.) เวลา 15.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินซอน กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี โดยมีผู้แทนระดับสูงจากรัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย รอให้การต้อนรับ ต่อมาเวลา 16.30 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางออ ไปยังสุสานแห่งชาติกรุงโซล (Seoul National Cemetery) เพื่อวางพวงมาลา ก่อนเดินทางต่อไปยังทำเนียบประธานาธิบดี (Cheong Wa Dae) เพื่อเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วยการตรวจแถวทหารเกียรติยศ และลงนามในสมุดเยี่ยม
จากนั้นเวลา 17.30 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ หารือทวิภาคีเต็มคณะกับนายลี เมียง บัค ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี โดยสาระสำคัญของการหารือสรุปได้ดังนี้ทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องกันว่า จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขและการบริหารจัดการ น้ำ เพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งมากจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก และจะให้ความร่วมมือ สนับสนุนการสร้างระบบการจัดการบริหารทรัพยากรน้ำของประเทศไทยต่อไป รวมทั้งจะร่วมลงนามเกี่ยวกับข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการจัดการบริหารทรัพยากรน้ำ โดยองค์กรที่เกี่ยวข้องจากทั้งสองประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะลงนาม เกี่ยวกับข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนาและขยายความร่วมมือทางทหารระหว่างรัฐบาล และจะตกลงกันว่าจะสนับสนุนร่วมมือในด้านการแก้ไขและบูรณะฟื้นฟูเหตุการณ์ภัย พิบัติทางธรรมชาติ และ ยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการพัฒนาด้านทหารแก่ประเทศไทยอย่างใกล้ชิด นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรียังได้เสนอให้รื้อฟื้นการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-เกาหลีใต้ เพื่อช่วยผลักดันการค้าให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และได้แสดงความประสงค์เชิญให้เกาหลีลงทุนในไทยให้มากขึ้นโดยเฉพาะด้าน อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมเรื่องจักรและผลิตภัณฑ์โลหะ อุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมต่อเรือและการขนส่งทางเรือ และด้าน Digital Contents และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของไทย เช่น การพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงและเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงในภูมิภาคด้วย รวมทั้งขอให้เกาหลีพิจารณาสนับสนุนการนำเข้าสินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น ไก่สดแช่แข็ง ผลไม้ นอกเหนือจากข้าวและสินค้าเกษตรอื่นๆ
ภายหลังการหารือนายกรัฐมนตรีและนายอี มยอง-บัก ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ได้ร่วมกันเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวง กลาโหมไทย – กระทรวงกลาโหมว่าด้วยความร่วมมือทางทหาร ก่อนจะร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และเลี้ยงอาหารค่ำแบบรัฐพิธี (State Dinner) ที่ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี.
แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น