วันนี้(3 เม.ย.)นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้ให้สัมภาษณ์ว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้รับแจ้งจากประชาชนในหลายพื้นที่ว่าขณะนี้มีการใช้สารฟอร์มาลีนในการแช่ผักโดยเฉพาะ คะน้า ผักกาดขาว ผักกาดหอม ถั่วฝักยาว แตงกวา หน่อไม้ ยอดมะพร้าวและผลไม้อีกหลายชนิด รวมทั้งสัตว์น้ำ และเนื้อ เพื่อให้สามารถเก็บรักษาไว้ให้นานเหมือนสภาพสด ไม่เน่าเปื่อยเพื่อหลอกตาผู้ซื้อ ทำให้ผู้บริโภคได้รับสารดังกล่าว ซึ่งเป็นสารอันตรายต่อร่างกายถ้าสะสมในปริมาณที่มาก อาจจะถึงแก่ชีวิตได้ และเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศซึ่งเป็นสารเคมีที่ไม่อนุญาตใช้ในอาหาร มีการอนุญาตให้ใช้ในทางด้านอุตสาหกรรมสิ่งทอเพื่อเป็นน้ำยาอาบผ้าไม่ให้ย่น และใช้ฆ่าเชื้อโรคและเชื้อราในการเก็บรักษาธัญพืชหลังการเก็บเกี่ยวและใช้เป็นการป้องกันแมลงเท่านั้น เพราะถ้ามีการสะสมเข้าไปในร่างกายจะทำให้มีผลต่อระบบหายใจคือ แสบจมูก เจ็บคอ ไอ หายใจไม่ออก ปอดอักเสบ ตลอดจนคลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะบ่อย น้ำท่วมปอด และมีผลต่อผิวหนัง ผื่นและคัน เพราะนอกจากต้องซื้อของแพงแล้วอาจทำให้เสียชีวิตได้
นายนริศ กล่าวอีกว่า ดังนั้นคณะกรรมาธิการฯ จึงมีมติดังนี้ 1. ให้กระทรวงสาธารสุขและกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ( บก.ปทส.)ได้ตรวจสอบการใช้สารฟลอมูลีนของ ทุกตลาดและทุกผู้ประกอบการที่ขายผลไม้ ผัก และเนื้อ และหากพบการกระทำผิดก็ให้ดำเนินคดีโดยเด็ดขาด 2. ให้ประชาชนระมัดระวังในการเลือกซื้อผลไม้ ผัก และเนื้อ โดยการดมกลิ่น และสังเกตอย่างใกล้ชิด ถ้ามีกลิ่นฉุนจนแสบจมูกและมีสภาพสดเกินความเป็นจริงก็ไม่ควรซื้อมาบริโภค และแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น