วันนี้(3 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส. 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดยนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ เรียกประชุมส.ส. 5 จังหวัด ภายหลังเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมที่จ.ยะลาและอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ภายหลังการประชุมนายถาวร เปิดเผยว่า พวกตนจะทำหนังสือยื่นถึงนายกรัฐมนตรี ในวันเดียวกันนี้เพื่อขอให้เปิดประชุมร่วมรัฐสภา อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เพื่อหารือถึงเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนั้นที่ประชุมยังมีมติยื่นกระทู้ถามสดเรื่องนี้ ในที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 5 เม.ย.นี้ด้วย
“ การยื่นหนังสือขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติครั้งนี้ เป็นการขออภิปรายในช่วงการขยายเวลาของสมัยประชุมนิติบัญญัติ แต่หากรัฐบาลอ้างว่าสมัยประชุมนี้ไม่สามารถอภิปรายได้นั้น ผมก็ต้องถามกลับว่าทำไมนำเรื่องปรองดองเข้ามาอภิปรายในช่วงนี้ได้”นายถาวร กล่าว
นายถาวร กล่าวต่อว่า ตนในฐานะเป็นอดีตรมช.มหาดไทย รับผิดชอบแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นว่าการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความแตกต่างกับรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทั้งที่มีพ.ร.บ.ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)เป็นเครื่องมือสำคัญ และเป็นกฎหมายที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากคนในพื้นที่ โดยออกแบบให้นายกฯเป็นผอ.ศอ.บต.โดยตรง เนื่องจากนายกฯ เป็นผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) อยู่แล้ว จึงอยากให้นายกฯ มารับผิดชอบแก้ไขปํญหาโดยตรง เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพทั้งนโยบายและยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหามากขึ้น
นายถาวร กล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้พ.ร.บ.ศอ.บต. เรียกประชุมเดือนละ 1 ครั้งหรือ 2 ครั้ง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาโดยตรง และต้องแต่งตั้งรัฐมนตรีไปนั่งอยู่ในส่วนหน้าเหมือนกับตนที่เคยทำหน้าที่ตรงนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบสถานการณ์จุดใดหละหลวมก็จะได้ขันน๊อต ขณะเดียวกันต้องแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหา คอยติดตามประเมินผลอย่างใกล้ชิดด้วย แต่ที่ผ่านเมื่อไม่มีการติดตามดูแลแก้ไขปัญหา ทำให้แผนปฏิบัติการเกิดความหละหลวม ไม่เป็นไปตามสถานการณ์พิเศษ ซึ่งจะต้องมีการกำหนดเขตเซฟตี้โซน เพราะเรื่องนี้ยังมีความจำเป็น และปฏิบัติการอย่างเคร่งครัด รวมทั้งการทำงานยังต้องมีความเป็นเอกภาพ แต่หากรัฐบาลคิดที่จะแก้ไขปัญหาอยู่บนหอคอยงาช้าง ก็จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ และรัฐบาลต้องจริงใจ จริงจังในการแก้ไขปัญหา เพราะขณะนี้ไม่จริงใจ มองแค่เป็นปัญหาท้องถิ่น การอ้างว่าเหตุระเบิดคาร์บอมที่เกิดขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ยึดทรัพย์กลุ่มค้ายาเสพติด เห็นว่า เป็นข้อแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น แต่เป็นเพราะการทำงานขาดความเป็นเอกภาพมากกว่า ฝ่ายปฏิบัติการด้านความมั่นคงกับฝ่ายการเมืองต่างแย่งชิงการนำ โดยฝ่ายการเมืองอ้างว่าได้ไปเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ และการอ้างเรื่องการปราบยาเสพติด ซึ่งที่ภาคเหนือก็มียาเสพติดจำนวนมาก ทำไมไม่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้น
ด้านนายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากที่มีข่าวปรากฎเรื่องการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อนหน้านี้นั้น ป็นการชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ควรเอาเรื่องในที่ลับมาเปิดเผยในที่แจ้ง เพราะจะกระทบกับนโยบายและสถานการณ์โดยภาพรวม ส่วนข่าวที่ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปประเทศมาเลเซียก่อนหน้านี้ เพื่อขอให้ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐมาเลเซีย เจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ คือสัญลักษณ์ของความรุนแรงในพื้นที่ ขอร้องว่าอย่าเข้ามายุ่ง ส่วนเรื่องนโยบายต่างๆขอให้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการดีกว่า ทั้งนี้ส่วนตัวเชื่อความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากความไม่พอใจท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้ด้วย
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น