วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

“บิ๊กอ็อด” ยืนยันต้องจัด “เซฟตี้โซน” พื้นที่เสี่ยงใต้


ที่รัฐสภา วันนี้(5เม.ย.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมภายหลังการชี้แจงกระทู้ถามในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงมาตรการและการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ว่า จะนำการจัดตั้งเซฟตี้โซนมาใช้ในพื้นที่อีกครั้งหลังจากที่ก่อนหน้าที่ทำมาแล้วก็ผ่อนผันไป เนื่องจากประชาชนร้องขอเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อการท่องเที่ยว การค้าและการเข้าออกในพื้นที่ แต่ตอนนี้หากไม่ทำคงไม่ได้แล้วเนื่องจากเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะมีอันตราย แต่จะจัดพื้นที่เซฟตี้โซนได้ต้องหารือกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เสียก่อน อย่างไรก็ตามคงต้องมีความเข้มข้นในการป้องกันพื้นที่ๆเกรงว่าจะเป็นอันตราย โดยเฉพาะเขตชุมชน อย่างเช่น จ.ยะลา จะเสนอรูปแบบจัดเซฟตี้โซนให้ประชาชนได้เห็นว่าจะใช้แบบไหนดี ทั้งนี้ยังไม่ถึงขั้นประกาศเคอร์ฟิวแต่การตรวจค้นจะเข้มข้นเพื่อรักษาชีวิตของประชาชน ดังนั้นประชาชนจะต้องอดทนและเสียเวลานิดหน่อย เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม            
เมื่อถามว่าหน่วยงานข่าวกรองได้รายงานมาให้ทราบหรือยังถึงการก่อเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่มี แต่ก็เริ่มมีข่าวว่าต้องมีความระมัดระวังในช่วงต่อไปนี้มากขึ้น และต้องมองในจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวมากๆ ได้แจ้งเตือนไปยังจังหวัดที่มีชื่อในงานข่าวไปแล้ว รายละเอียดที่เหลือพูดไม่ได้
 พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอให้มีการเยียวยาแก่บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำจากเจ้าหน้าที่นั้น รัฐก็จะ ให้การเยียวยาแต่บุคคลที่ได้รับการกระทำจากผู้ก่อความรุนแรงแบบนี้ จะรวบรวมข้อมูลเสนอ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยพิจารณาต่อไป         
เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่าเหตุการณ์ที่โรงแรมลีการ์เด้นไม่ได้เกิดจากระเบิด เพราะไม่เจอสะเก็ดระเบิดนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่าเป็นระเบิด ผู้ก่อความรุนแรงวางระเบิดตรงกลางรถ ทำให้เกิดเป็นหลุมขึ้นมา หน้ารถก็ตกลงหลุมไปอีกชั้นหนึ่ง โดยครั้งนี้ไม่ได้มีการวางระเบิดไว้ท้ายรถยนต์เหมือนทุกครั้ง แต่วางไว้บนเบาะนั่ง
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีแนวทางสานต่อแนวความคิดของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่อยากให้ขยายโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” อย่างไร พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เป็นโครงการที่ดี ตนเคยพบกับท่านและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกทาง จะทำให้เด็กใหม่ๆ เข้าใจสภาพของความเป็นไทย เด็กจะได้รับการแลกเปลี่ยนและทำให้มีความเข้าใจที่ดี คนรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้จะมีประโยชน์มากในอนาคต

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น