วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

โนวัคลั่นพร้อมป้องกันแชมป์ไมอามี

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ 083-792-5426: โนวัคลั่นพร้อมป้องกันแชมป์ไมอามี: "ยอโควิช" คุยฟุ้งมั่นใจเต็มเปี่ยม แถมร่างกายฟิตปั้งก่อนลงป้องกันแชมป์ใน ศึก เทนนิส โซนี อีริคส์สัน โอเพ่น ที่ไมอามี     โนวัค ยอโค...




ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ 083-792-5426: บังคับส่วนราชการประหยัด10%

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ 083-792-5426: บังคับส่วนราชการประหยัด10%: ครม.เห็นชอบมาตรการประหยัดพลังงาน ลดใช้ไฟฟ้าและน้ำมันของภาครัฐ 10% ที่จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา  รองโฆษ...

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ 083-792-5426: จับสปาเกย์ของกลางเป็นถุงยางใช้แล้ว

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ 083-792-5426: จับสปาเกย์ของกลางเป็นถุงยางใช้แล้ว: จับสปาเกย์ย่านสุขุมวิทขายบริการโจ๋งครึ่ม อึ้ง ตร. ส่งสายสืบล่อซื้อจับได้พร้อมของกลางเป็นถุงยางอนามัย "ใช้แล้ว" เมื่อเวลา 22.00 น. ว...

ซ่อมคอมพิวเตอร์นอกสถานที่ 083-792-5426: เร่งผุดรถไฟสายอันดามัน

 เร่งผุดรถไฟสายอันดามัน: ดันเกิดรถไฟสายอันดามันเทียบเท่ายุโรปพร้อมเร่งสางปัญหาท่องเที่ยว     เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต ภ...

บ้านเรือนพังยับ "แผ่นดินไหว" เม็กซิโก-ลูก "โอบามา" ปลอดภัย วันพุธที่ 21 มีนาคม 2555 เวลา 10:04 น. แผ่นดินไหว 7.4 ริคเตอร์ส่งผลบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ทางตอนใต้ของเม็กซิโก 500 หลังคาเรือนได้พังพินาศ เสียหาย ผู้คนแตกตื่นหนีตายจ้าละหวั่น แต่ไม่พบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนบุตรสาวของบารัค โอบามา ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางไปพักผ่อนได้รับความปลอดภัย วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.4 ริคเตอร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโกเมื่อวันอังคารที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นว่า เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนหลายร้อยหลังคาเรือน สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชนในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ซึ่งต่างก็แตกตื่นวิ่งหนีออกจากอาคารที่พักอาศัยมาอยู่บริเวณท้องถนนกันจ้าละหวั่น แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ โดยผู้ว่าการรัฐเกร์เรโรเปิดเผยภายหลังแผ่นดินไหวผ่านพ้นไปแล้ว 2 ชั่วโมงว่า มีบ้านเรือนกว่า 500 หลังได้รับความเสียหายและถูกทำลายทางทิศใต้ของกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ส่วนนายกเทศมนตรีมาร์เซโล เอแบรนด์ แห่งกรุงเม็กซิโก ซิตี้ กล่าวว่า ในระหว่างการใช้เฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่ต่างๆ ยังไม่พบความเสียหายรุนแรง ยกเว้นกระจกหน้าต่างที่อาคารสนามบินนานาชาติได้รับความเสียหายเล็กน้อย และรถไฟบางสายหยุดวิ่งชั่วคราว สำหรับกรุงเม็กซิโก ซิตี้เคยเผชิญแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อปี 2528 ระดับ 8.1 ริคเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตระหว่าง 6,000 – 30,000 ราย ด้าน ทำเนียบขาวสหรัฐรายงานว่า เด็กหญิงมาเรีย บุตรสาววัย 13 ปีของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐปลอดภัย หลังเดินทางไปพักผ่อนช่วงวันหยุดในเม็กซิโก นางคริสติน่า เชค โฆษกส่วนตัวของนางมิเชลล์ โอบามา สุภาพสตรีหมายเลข 1 กล่าวว่า เราสามารถยืนยันได้ว่า มาเรียปลอดภัยและไม่ได้รับอันตราย.


วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.4 ริคเตอร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโกเมื่อวันอังคารที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นว่า เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ได้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนหลายร้อยหลังคาเรือน สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชนในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ซึ่งต่างก็แตกตื่นวิ่งหนีออกจากอาคารที่พักอาศัยมาอยู่บริเวณท้องถนนกันจ้าละหวั่น  แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ  
โดยผู้ว่าการรัฐเกร์เรโรเปิดเผยภายหลังแผ่นดินไหวผ่านพ้นไปแล้ว 2 ชั่วโมงว่า  มีบ้านเรือนกว่า 500 หลังได้รับความเสียหายและถูกทำลายทางทิศใต้ของกรุงเม็กซิโก ซิตี้  ส่วนนายกเทศมนตรีมาร์เซโล เอแบรนด์  แห่งกรุงเม็กซิโก ซิตี้ กล่าวว่า  ในระหว่างการใช้เฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่ต่างๆ ยังไม่พบความเสียหายรุนแรง  ยกเว้นกระจกหน้าต่างที่อาคารสนามบินนานาชาติได้รับความเสียหายเล็กน้อย และรถไฟบางสายหยุดวิ่งชั่วคราว  
สำหรับกรุงเม็กซิโก ซิตี้เคยเผชิญแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงเมื่อปี 2528  ระดับ 8.1 ริคเตอร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตระหว่าง 6,000 – 30,000 ราย ด้าน
ทำเนียบขาวสหรัฐรายงานว่า  เด็กหญิงมาเรีย บุตรสาววัย 13 ปีของประธานาธิบดีบารัค โอบามา  ผู้นำสหรัฐปลอดภัย  หลังเดินทางไปพักผ่อนช่วงวันหยุดในเม็กซิโก  นางคริสติน่า  เชค โฆษกส่วนตัวของนางมิเชลล์ โอบามา สุภาพสตรีหมายเลข 1 กล่าวว่า  เราสามารถยืนยันได้ว่า มาเรียปลอดภัยและไม่ได้รับอันตราย.

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

หุ้นไทยภาคเช้าปิดตลาดลบ 1.15 จุด


เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลาดหุ้นไทย ยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยปิดตลาดช่วงเช้าที่ 1,195.45 จุด ลดลง 1.15 จุด จากวันก่อนหน้า และระหว่างภาคเช้าปรับตัวขึ้นไปสูงสุดที่ 1,197.32 จุด และต่ำสุดที่ 1,193.31 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายภาคเช้ารวม 15,555.63 ล้านบาท ขณะที่ตลาดเอ็มเอไอ ปิดตลาดภาคเช้าที่ 294.54 จุด ลดลง 0.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4549.52 ล้านบาท
ทั้งนี้บทวิเคราะห์ บล.ซิกโก้ ประเมินว่า ตลาดหุ้นวันนี้จะมีแนวรับแรกที่ 1,191-1,185 จุด และแนวรับต่อไปที่ 1,180 จุด ส่วนแนวต้านแรกอยู่ที่ 1,201-1,206 จุด แนวต้านต่อไปอยู่ที่ 1,212 จุด โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้องวันนี้ได้แก่เรื่องสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ที่ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลชั่วคราวเกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำมัน หลังจากที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย และลิเบีย มีผลผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามระยะยาวราคาน้ำมันก็ยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอยู่ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก กระทบกับการลงทุนในอนาคต ในส่วนของตลาดหุ้นไทยนั้น มองเห็นสัญญาณทางเทคนิค มีโอกาสปรับขึ้นทำสถิติใหม่ที่ 1,222 จุด ได้ ดังนั้นในช่วงที่ดัชนีหุ้นไทยอ่อนตัว จึงมีโอกาสเข้าไปเก็บหุ้นได้.

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

มินตรา งง แนน ไม่ร่วมงาน


กลายเป็นประเด็นเมาท์สนั่นไปแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าอดีตคนรักของ น้ำ-รพีภัทร เอกพันธุ์กุล อย่าง แนน-ปิยะดา ตุรงคกุล จะไปป๊ะหน้า มินตรา-ชนิศา เหลี่ยวไชยพันธุ์ ภรรยาของน้ำในงาน “แคริ่ง แฮร์ เอ็กซ์เปิร์ท” ที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ด้วยกัน แต่จู่ ๆ สาวแนนก็ถอนตัวซะงั้น ยิ่งตอกย้ำกระแสว่ามีปัญหากันหรือเปล่า งานนี้สาวมินตรายืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร

มินตรา กล่าวว่า “เรื่องที่พี่แนนไม่มาร่วมงาน ก็ไม่ทราบเหมือนกัน” เหมือนเป็นการตอกย้ำว่ามีปัญหากันหรือเปล่า? “มินตราไม่ทราบเลยค่ะว่าพี่แนนไม่มาเพราะอะไร เราก็มาตามหน้าที่ของเรา” แต่เหมือนตอนแรกเขาคอนเฟิร์มว่ามานะ? “ก็ได้ยินมา แต่มาถึงก็ไม่เจอ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม” เป็นงานคู่ก็รับได้ใช่มั้ย? “รับค่ะ ไม่อึดอัดใจอะไร ตอนแรกก็ได้ยินว่าพี่แนนมาก็รับ ไม่ได้คิดอะไร” ตอนแรกที่คิดว่าพี่แนนมาได้เตรียมตัวเตรียมใจอะไรมั้ย? “ไม่ได้เตรียมอะไรเลย” ได้มีคุยกับพี่แนนมั้ย? “ไม่ได้คุยเลยค่ะ” ได้ถามผู้จัดงานมั้ยว่าทำไมแนนไม่มา เพราะอะไร? “ก็ถามเหมือนกัน แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน” แสดงว่าแนนแคนเซิลกลางงานหรือเปล่า? “ไม่ทราบเลยค่ะ” หลังงานแต่งเพิ่งออกงานนี้เป็นงานแรกหรือเปล่า? “งานแรกค่ะ ก็ตื่นเต้น ตอนรับงานพี่น้ำก็ไม่ว่าอะไร เขาให้เราตัดสินใจเอง” ดูรูปร่างมีน้ำมีนวลขึ้นนะ ไปทำอะไรมา? “หนูเป็นอย่างนี้อยู่แล้วนะ บางทีก็อ้วน บางทีก็ผอม ก็แล้วแต่ เป็นคนกินเก่งด้วย” มีคนทักเยอะมั้ย? “มีตลอดอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะช่วงนี้ มีเรื่อย ๆ อยู่แล้ว เพราะมินตราเป็นคนกินเก่งอยู่แล้ว พออ้วนก็จะกินเพลา ๆ แต่พอผอมก็ทานต่อ” พออ้วนก็เหมือนยิ่งตอกย้ำว่าเราท้อง? “ก็อย่างที่บอกไป พี่น้ำก็บอกเหตุผลไปแล้วว่าที่เราแต่งงานกันเพราะอะไร”
ยืนยันตรงนี้ว่าไม่มีน้องแน่นอน? “(หัวเราะเบา ๆ) ค่ะ” ได้คุยกับพี่น้ำเรื่องข่าวมั้ย? “ไม่ค่อยคุยกันนะ จะไม่เก็บเรื่องพวกนี้มาคิดอยู่แล้ว ก็ดำเนินชีวิตของเราไป” มีแอบเสียใจมั้ยที่คนจับจ้องว่าเราท้องก่อนแต่ง? “ไม่เลย อย่างที่บอกว่าไม่เก็บตรงนี้มาคิดอยู่แล้ว เหมือนเราเข้าใจอยู่แล้วว่าต้องมีข่าวแบบนี้” ชีวิตหลังแต่งงานที่เชียงใหม่เป็นยังไงบ้าง? “ก็แฮปปี้ดี หลังแต่งพี่น้ำก็ดูแลปกติ ก่อนหน้านี้เป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่ เขาดูแลเราสม่ำเสมอเรื่อย ๆ” มีแพลนฮันนีมูนมั้ย? “ก็คงจะไปทะเล อาจจะเป็นที่มัลดีฟส์ เดี๋ยวดูอีกที” จะไปปั๊มทายาทที่โน่นเลยหรือเปล่า? “(หัวเราะ) ฮึ ฮึ ต้องดูอีกทีค่ะ” เห็นพี่น้ำบอกว่าจะเลิกเที่ยว เป็นผู้นำครอบครัวที่ดี รู้สึกยังไงบ้าง? “ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี มีครอบครัวแล้วก็ควรจะเลิกตรงนั้น แต่ก็มีได้นิด ๆ หน่อย ๆ  อย่างปาร์ตี้ก็ได้บ้างเป็นเรื่องปกติค่ะ” จะมีงานฉลองวิวาห์วันที่ 24 มี.ค.นี้ เป็นยังไงบ้าง? “ตอนนี้ให้พี่ ๆ ทีมออร์แกไนซ์ ดัชชี่ ดูแลงานนี้ทั้งหมด ที่ร้าน “คูล เฮ้าส์” ของพี่เวียร์-ศุกลวัฒน์ แถวเลียบทางด่วนรามอินทราค่ะ”.

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

'พิ้งกี้' ปัด 'เฮียฮ้อ' ทุ่มเงินเซ็นสัญญา รอผู้ใหญ่พูดร่วมงาน 'เอ็กแซ็กท์'


เพิ่งจบจากละครเรื่อง “ทองประกายแสด” ทางช่อง 8 ไปหยก ๆ นางเอกสาว พิ้ง กี้-สาวิกา ไชยเดช ก็มีละครเรื่อง “ราชินีลูกทุ่ง” ต่อทันที จนหลายคนมองว่าเป็นนางเอกผูกขาดของอาร์เอสไปแล้ว แถมยังมีข่าวเมาท์อีกว่า เฮียฮ้อ-สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ทุ่มเงินไม่น้อยให้สาวพิ้งกี้เซ็นสัญญาอยู่กับอาร์เอส งานนี้พอเจอสาวพิ้งกี้เลยคว้าตัวมาถามเรื่องนี้เจ้าตัวก็ชี้แจงให้ฟังทั้งหมดว่า

พิ้งกี้ เผยว่า “บทบาทแบบนี้เราเคยได้เล่นมา แต่มันจะแตกต่างตรงสู้ชีวิตแล้วก็จะมีจุดที่เราเข้ามาเป็นนักร้องด้วยการตามหาพ่อ พ่อแต่งเพลงไว้ให้เราไม่รู้คือใครก่อนแม่ตายมีของชิ้นสุดท้ายที่ทิ้งไว้คือเนื้อเพลงเราเลยตามมา” ต้องร้องเพลงลูกทุ่งด้วย? “ใช่ค่ะ ค่อนข้างยากกว่าที่เราเคยเล่นมาก่อน ต้องร้องเพลงอีแซวด้วยเป็นลูกทุ่งที่มีทั้งสมัยก่อนและสมัยใหม่ค่ะ ก็ยากเหมือนกัน” เรื่องนี้เล่นกับฟลุคซึ่งเคยเจอกันแล้ว? “ใช่ค่ะกับพี่ฟลุคจากเรื่องทองประกายแสดแฟน ๆ ก็จะบอกว่าเราคู่กันน้อยไปมาเรื่องนี้ได้คู่กันเห็นบทบาทใหม่ ๆ ก็ดีใจมาเล่นด้วยกันอีก” เหมือนผูกขาดนางเอกช่อง 8 เลย? “กี้ทำงานกับอาร์เอสแล้วสบายใจ เหมือนเป็นครอบครัวใหม่ทำแล้วมีความสุขไม่ได้ผูกขาด ไม่ได้อะไรแต่เป็นการทำงานใหม่ ๆ มากกว่า” มีข่าวว่าเฮียฮ้อจะขอเซ็นสัญญาด้วย? “ไม่มีค่ะ เป็นข่าวโคมลอย กับอาร์เอสไม่จำเป็นต้องเซ็นสัญญาเราก็เล่นอยู่แล้วทำงานด้วยกัน ไม่จำเป็นต้องมีเรื่องเงินอย่างเดียว ทั้งปีเราก็อยู่กับอาร์เอสอยู่แล้ว แต่ข่าวที่บอกได้เงินไม่มีจริง ๆ เราเห็นผลงานอาร์เอสมานาน วันนึงได้มาร่วมงานถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เราไม่ได้เซ็นสัญญากับใครแต่แรก ร่วมงานกับใครที่ไหนก็ได้” แล้วของเอ็กแซ็กท์เรื่อง “มารยาริษยา” ล่ะตกลงได้เล่นหรือเปล่า? “ความคืบหน้าก็มีนะคะ แต่ยังพูดอะไรไม่ได้ ถ้าได้เปิดตัวก็คงเห็นกันค่ะ เอาไว้ผู้ใหญ่บอกเองจะดีกว่า กี้ยังพูดไม่ได้จริง ๆ” แล้วยังมีผลงานอื่นอีกมั้ยที่จะได้เห็น? “เดี๋ยวมีหนังค่ะ แต่เรื่องอะไรต้องรอดูอีกที มีทั้งเรื่องที่เรากำลังฟิตติ้งแล้วกับเรื่องที่กำลังติดต่อต้องรออีกนิดนึง” ของค่ายไหน? “เดี๋ยวเปิดตัวคงได้เห็นกันค่ะ เพราะไม่รู้เดี๋ยวมีการเปลี่ยนแปลงเราก็รอทำงานอย่างเดียว เราเป็นนักแสดง หนูไม่สามารถพูดได้ว่าเราทำไม่ทำ เรามีหน้าที่แสดงอย่างเดียว ถ้าแถลงข่าวบวงสรวงเปิดกล้องก็คงได้เห็นค่ะ” ตอนนี้งานยุ่งมากกว่าเดิม? “ปกติเหมือนนักแสดงทั่วไป อาจมีคอนเสิร์ตจ้างร้องเพลงด้วย” แล้วกับอาร์เอสจะมีโอกาสทำเพลงด้วยกันมั้ย? “เล่นละครเรื่องนี้ก็ได้ทำเพลงนะคะ ร้องเพลงลูกทุ่งก็ฝากเนื้อฝากตัวกับแฟน ๆ ด้วยแล้วกันค่ะ”.

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

ล่าแก๊งแสบ!โปะยาสลบอุ้มสาว"เจ้าของร้านอาหาร"ส่งขายตัวมาเลย์


วันนี้(21 มี.ค.) ขณะที่ ร.ต.ท สุชาติ ทองแกมแก้ว รองสวป.สภ.หาดใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณสถานีขนส่งอำเภอหาดใหญ่ ได้รับแจ้งจาก น.ส. น้ำฝน เพชรรัตน์ อายุ 27 ปี ชาวประจวบคีรีขันธ์ ว่าตนถูกกลุ่มคนร้ายมอมยาแล้วลักพาตัวขึ้นรถตู้ เตรียมนำส่งประเทศมาเลเซีย แต่ีโชคดีที่ไหวตัวหลบหนีรอดออกมาได้
น.ส น้ำฝน ให้การเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ตนและสามีคือนายสาย ทะนารัมย์ ได้เปิดร้านอาหาร ชื่อร้านอาหารเม็ดเงิน อยู่ในจ.ชุมพร  กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่สามีของตนออกไปหาซื้อของในตัวเมือง มีเพียงตนอยู่เฝ้าร้านตามลำพัง กลุ่มคนร้าย 4 คนเป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน จำชื่อได้ 2 คน คือนายเก๋ และหญิงอีก 1 คนชื่อ นา ทำทีเป็นลูกค้าเข้ามานั่งในร้านแล้วสั่งอาหารและเครื่องดื่มกินจนเกือบเที่ยงคืน จึงได้เรียกให้ตนเช็คบิล ขณะที่ตนกำลังคิดค่าอาหาร คนร้ายทั้งหมดได้ลุกจากโต๊ะ และบอกให้ตนเองออกช่วยขยับรถยนต์ จากนั้นหนึ่งในสี่คนร้ายได้นำผ้าปิดจมูกของตนเองจนสลบ  มารู้สึกตัวอีกครั้ง ถูกนำตัวไปกักขังไว้ในโกดังเก็บน้ำมัน ในจ.ปัตตานี  จึงทราบว่าถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัวมา และพยายามส่งข้อความขอความช่วยเหลือทางโทรศัพท์มือถือ  
น.ส. น้ำฝน ให้การต่อไปว่า หลังจากถูกกักขังอยู่ในโกดัง 5 วัน จนถึงวันที่ 20 มี.ค. คนร้ายจึงนำตนขึ้นรถตู้แล้วขับผ่านเข้าไปบริเวณด่านนอกอำเภอสะเดา ตนพยายามสอบถามคนร้ายว่าจะพาตนไปไหน คนร้ายบอกว่าจะพาไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ตนเองได้แต่นั่งร้องไห้ เพราะกลัวจะถูกพาไปขายตัวในประเทศมาเลเซีย ตามที่เป็นข่าว แต่คนร้ายได้จอดรถที่สถานที่แห่งหนึ่ง เหมือนกับนัดหมายกับใครไว้ แต่ปรากฎว่าอีกฝ่ายที่นัดไว้ไม่มา คนร้ายจึงเปลี่ยนใจพาตนย้อนกลับมาจนถึงสถานีขนส่งรถโดยสารเทศบาลนครหาดใหญ่ ตนเองจึงออกอุบายขอเข้าห้องน้ำซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ ร.ต.ท สุชาติ กำลังปฎิบัติหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่ในบริเวณดังกล่าวพอดี จึงรีบเข้ามาขอความช่วยเหลือด้วยความดีใจ  คนนร้ายจึงขับรถหนีไป
เบื้องต้นตำรวจได้พาตัว น.ส.น้ำฝน กลับมาพักผ่อนที่โรงพัก และประสานกับญาติให้มารับตัวกลับไป ต่อมานายสาย สามีได้ขับรถยนต์กระบะเดินทางมารับตัวน้องน้ำฝนที่สภ.หาดใหญ่ ด้วยความดีใจทั้งสองวิ่งเข้ากอดกันทั้งน้ำตา พร้อมกับกล่าวขอบคุณตำรวจที่ให้การช่วยเหลือ นายสาย กล่าวว่ารู้สึกดีใจมากที่แฟนสาวหนีรอดมาได้ ซึ่งต้องถือเป็นโชคไม่เช่นนั้นอาจถูกส่งขายต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อค้าประเวณีก็เป็นได้ จึงอยากฝากเตือนประชาชนให้ระวังกลุ่มคนร้ายแก๊งค์ 18 มงกุฎเหล่านี้อาจไปหลอกลวงคนอื่นต่อ เนื่องจากยังไม่ถูกเจ้าหน้าตำรวจจับกุมและยังหนีลอยนวลอยู่ในขณะนี้.
แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

ล็อก "ร.ต.ท." พร้อมลูกน้อง อมยาบ้าของกลางนับแสนเม็ด


 

ที่ บช.น. เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (21 มี.ค.) พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. พร้อมพวกร่วมกันแถลงข่าวจับกุม ร.ต.ท.เชิงชอบ ราชคม รอง สว.สส.กก.สส.บก.น.3 อายุ 48 ปี ด.ต.สมศักดิ์ ทิพย์รัศมีวงศ์ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ประชาสำราญ อายุ 38 ปี จ.ส.ต.ภัทระ วรชาณันช์ สังกัด สน.จรเข้น้อย อายุ 44 ปี ส.ต.ท.นพดล พันธุ์อารีย์ สังกัด กก.สส.บก.น.3 อายุ 32 ปี และนายชวลิต กำเนิดขอนแก่น อายุ 38 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 305,200 เม็ด ยาไอซ์ 5 ถุง หนัก 5 กิโลกรัม รถกระบะ 1 คัน รถเก๋ง 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ที่กก.สส.บก.น.3 แขวง-เขตมีนบุรี
พล.ต.ท.วินัยเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.น. สืบสวนพบว่าตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.3 ได้ดำเนินการโดยมิชอบในคดียาเสพติด โดยร่วมกันตรวจยึดยาเสพติดจำนวนมาก แต่กลับไม่นำไปดำเนินคดี และไม่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. เข้าสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ พร้อมทั้งตรวจพบยาเสพติดของกลางที่รถของผู้ต้องหา จึงดำเนินคดีกับทั้ง 5 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 คนและพลเรือน 1 คน แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต  นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดี 
สำหรับผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าของยาเสพติดมี 4-5 คน ซึ่งตำรวจรู้กลุ่มขบวนการแล้ว อยู่ระหว่างขยายผลเพื่อติดตามจับกุมต่อไป สำหรับตำรวจทั้ง 4 นายนั้นได้สั่งการให้ บก.น.3 ต้นสังกัดทำเรื่องให้ออกจากราชการไว้ก่อน จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเพิ่งทำเป็นครั้งแรก โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น  
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการแถลงข่าวดังกล่าว ไม่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย มาร่วมในการแถลงข่าวแต่อย่างใด โดยขณะนี้ตัวผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวที่ บช.ปส. เพื่อขยายผลจับกุมพรรคพวกในแก๊งต่อไป.
แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

ซุ่มซัลโวสั่งตาย "ผู้ใหญ่ช้าง" เจ้าของวิทยุชุมชนชื่อดัง


วันนี้ (21 มี.ค.) ร.ต.ท.สมพร ผลดอน ร้อยเวร สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญ  ว่าผู้ใหญ่บ้านบ้านทับช้างหมู่ 4 ตำบล อ.ประจันตคาม ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตระหว่างนำส่งรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 151-52 หมู่ 4 บริเวณหลังบ้านที่ใช้เป็นที่จอดรถพบกองเลือดนองเต็มพื้น ตรวจสอบรถปิกอัพมิตซูบิชิ สีขาว ทะเบียน ฒฌ-98 กรุงเทพมหานคร ที่โครงเหล็กด้านหลังกระบะมีรอยกระสุนปืน 3 รู ใกล้กันพบหมอนรองกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
 ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังนายบัณฑิต ส่องแสง หรือผู้ใหญ่ช้าง อายุ 45 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 และเป็นเจ้าของสถานีวิทยุชุมชนประจันตคาม ชาวบ้านรู้จักกันดีในนาม  “ช.ช้าง เรดิโอ” ถูกยิงด้วยปืนลูกซองบริเวณแผ่นหลัง 9 รู
 
จากการสอบสวนนางพงษ์นภา ส่องแสง ภรรยาผู้ตาย ร่ำไห้น้ำตานองหน้าให้การว่า ก่อนหน้านี้ราว 1 เดือน สามีได้รับจดหมายขู่เอาชีวิต ตั้งแต่นั้นมาสามีจะระวังตัวตลอดโดยจะพกปืนติดตัวตลอดเวลา กระทั่งก่อนเกิดเหตุสามีกับลูกน้อง 4 คน ช่วยกันนำศาลาเรือนไทยลงจากรถปิกอัพ จากนั้นสามีขับรถไปจอดหลังบ้าน ส่วนตนพูดคุยอยู่กับลูกน้องที่หน้าบ้าน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด  ทุกคนคิดว่าสามีทำปืนลั่น แต่ตนเห็นสามีหายไปนานผิดปกติ เลยพากันไปดูพบสามีนอนจมกองเลือดที่ประตูด้านคนขับ จึงช่วยกันนำส่งรพ.ประจันตคาม และเสียชีวิตระหว่างทาง
 เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะบุกเข้ามาแอบซุ่มที่หลังบ้าน ฉวยโอกาสที่ผู้ตายเข้าไปจอดรถเพียงลำพัง ก่อนจะเล็งปืนยิงใส่ผู้ตายเสร็จแล้วหลบหนีไปในความมืด สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องธุรกิจที่ผู้ตายทำหลายอย่าง ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องจักสานและสถานีวิทยุท้องถิ่น ซึ่งจะสืบสวนสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

โจรใต้ลอบกัด ลวงบึ้ม "ทหารพราน" พลีชีพ 1เจ็บ 3


เมื่อเวลา 07.30 น. วันนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.ท.สมใจ สิงห์เกลี้ยง สวส. สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่เสาตอหม้อ สะพานรางรถไฟ บ้านบือราแง หมู่ 9 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง มีเจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย  จึงไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดที่บริเวณเสาตอหม้อลึก 20 ซ.ม. กว้าง 30 ซ.ม.  ตรวจสอบพบเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องชนิดเคโมที่คนร้ายประกอบใส่ในกล่อง เหล็กหนัก 5 ก.ก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร กระจายเกลื่อน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ  ส่วนที่บริเวณร้านน้ำชาฝั่งตรงข้าม พบกองเลือดจำนวนมากกระจายทั่วบริเวณ
ส่วน ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ อส.ทพ.สมชาย คำจุน สังกัด ร้อย ทพ.4807 กรมทหารพรานที่ 48 และผู้ได้รับบาดเจ็บคือ 1.ส.ต.มะตอเฮ แชะ สังกัด ร้อย ร.15112 ฉก.นราธิวาส 31   2.อส.ทพ.อิทธิพล ทองสกุล สังกัด ร้อย ทพ.4807 และ 3.นายอาหามะ เจ๊ะมะ ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดตามบริเวณลำตัว เจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านได้ช่วยกันนำตัวส่ง รพ.เจาะไอร้อง ไปก่อนหน้าแล้ว
สอบสวนเบื้องต้น  นายมูฮำหมัดนูรูดิน สาเมาะ อายุ 40 ปี ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินข้ามสะพานรถไฟเพื่อมานั่งร่วมดื่มน้ำชากับเพื่อนบ้าน พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดซุกอยู่ที่โคนเสาตอม่อดังกล่าว จึงแจ้ง ส.ต.มะตอเฮ ซึ่งลาดตระเวณเส้นทางร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานรวม 20 นายผ่านมาพอดี  ส.ต.มะตอเฮ
เจ้าหน้าที่ทหารจึงเดินเข้าไปตรวจสอบ วัตถุต้องสงสัย ระหว่างนั้นคนร้ายซึ่งแฝงตัวอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุได้ใช้วิทยุสื่อสารจุด ชนวนระเบิด จนเกิดระเบิดขึ้นทำให้ อส.ทพ.สมชาย คำจุน เสียชีวิตคาที่ ทหาร 2 นายได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายอาหามะ ซึ่งนั่งดื่มน้ำชาอยู่ฝั่งตรงข้ามถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บไปด้วย ในชั้นนี้เจ้าหน้าที่คาดว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างสถานการณ์รายวันของ กลุ่มผู้ไม่ไหวังดี.

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

"สงกรานต์"ตื่นเต้นแต่ง "แอฟ" ปัดสินสอด "ร้อยล้าน"


เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (21 มี.ค.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายในงานแถลงข่าว "งานกาชาดประจำปี55 ร.ต.ท.สงกรานต์ เตชะณรงค์ โฆษกกระทรวงไอซีทีและไฮโซชื่อดัง เปิดใจให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าในการจัดงานแต่งงานกับนางเอกสาวชื่อดัง แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 4 พ.ค. นี้ ที่โรงแรมโอเรียลเต็ล ว่า ตอนนี้เตรียมเป็นแพลนเป็นเปเปอร์ กำลังจะทำให้เป็นรูปธรรม อย่างเช่นในเรื่องของการ์ดคาดว่าจะได้ในวันศุกร์นี้ โดยวันเสาร์-อาทิตย์นี้ คงเตรียมไปแจกผู้ใหญ่ ส่วนวันจันทร์ก็จะเป็นแขกคนอื่น
สำหรับการเตรียมงานตนกับแอฟจะแบ่งงานกันทำ เพราะต่างคนต่างยุ่ง ถ้าเรามารอกันก็จะยิ่งไม่เสร็จไปกันใหญ่ ส่วนมากแอฟเขาจะดูแลในส่วนของธีมงาน ชุดที่จะใส่ อาหารที่เลี้ยงแขกผู้เกียรติทุกท่านในวันงาน ตอนนี้มีหลายเรื่องครับ จุกจิกมากเลย เคยสงสัยเวลาเห็นคู่แต่งงานอื่นทะเลาะกัน พอมาทำเองได้มาเห็นสัมผัสงานรายละเอียดเยอะมาก แล้วเราคนไทยสำคัญมากในเรื่องของผู้หลักผู้ใหญ่ ก็ต้องทำอะไรให้ถูกต้องให้รอบคอบ มันก็เลยต้องใช้เวลานิดหนึ่ง
พอยิ่งใกล้ยิ่งตื่นเต้นครับ ตอนแรกๆตกลงปลงใจว่าจะแต่งงานกันก็เกือบครึ่งปีไปแล้ว ก็ไม่ได้อะไรมาก ก็ปล่อยไปเรื่อยๆ พอใกล้เวลาจริงมีกำหนดการที่ชัดเจนแล้วการเตรียมงานต่างๆต้องชัดเจน มันก็กดดันเลยทะเลาะกันบ่อย แต่ก็เป็นเบสิกครับ เพราะเห็นจากเพื่อนผมก็ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ ตอนนี้กลัวมากครับ ช่วงสำคัญคือเราต้องไปเรียนเชิญผู้ใหญ่ทุกท่าน เพื่อนเรา ผู้ร่วมงานของเราทุกท่านอีกแล้วนี่มันก็จะเข้าเดือนเมษายนแล้ว ซึ่งเดือนเมษายนมันจะเป็นช่วงเวลาหยุดเกือบครึ่งเดือน เราก็กลัวว่าเราจะเชิญแขกไม่ทัน
ร.ต.ท.สงกรานต์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนการมีทายาท ถ้ามีเลยก็โอเค แต่ก็ไม่ได้บีบบังคับอะไร เพราะแอฟเขาก็ยังคงอยากจะถ่ายละครอยู่ เขายังสนุกกับงานตรงนี้  ก็ให้เขาไปทำในสิ่งที่เขาชอบให้เต็มที่ก่อน ถ้าเป็นได้ก็อยากให้เขาเป็นแม่บ้าน เขาจะได้ไม่ออกไปเหนื่อยขนาดนั้น ไม่ใช่งานสบายบางทีเห็นในจอสวยงาม พอได้ทำมันเป็นงานที่ใช้เวลาและแรงเยอะ แต่ถ้าเขาอยากเล่นก็คงต้องให้เขาเล่นครับ 
ส่วนสินสอดก็คงไม่ได้มากมายตามที่เป็นข่าว  คงพอดีๆ เดี๋ยวอีกหน่อยมาอยู่ด้วยกันแล้วก็คงต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สินสอดก็เป็นแค่พิธีเฉยๆ พอครับ เพราะอนาคตยังอีกไกล คงไม่ได้ร้อยล้าน เยอะไปนิดหนึ่ง ตอนนี้เตรียมงานไปได้ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ ถ้าการ์ดมาก็ 80-90 เปอร์เซ็นต์ เรื่องชุดพรุ่งนี้ต้องไปลองใหม่พอดีช่วงไหล่มันฟิตคับไป ก็ต้องแก้ ส่วนเจ้าสาวตั้งแต่ไปถ่ายละครนี่ผอมมากเลยครับ ก็บอกเขาให้กินโปรตีนออกกำลังกายหน่อยนะ ใส่ชุดแล้วมันจะได้ดูมีน้ำมีนวลหน่อย ตอนนี้ก็เห็นชุดเจ้าสาวแล้ว ก็สวยดี น่ารักดีเป็นสไตล์เขา.

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

เดลินิวส์เจ๋งกวาด 10รางวัล ประกวดภาพน้ำท่วม "สุรเชษฐ์ วัชรวิศิษฎ์" ชนะเลิศประเภทสื่อมวลชน


วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานปฏิรูปเพื่อสังคมไทยที่เป็นธรรม (สปร.) ได้ประกาศผลการประชุมคณะกรรมการตัดสินการประกวดภาพถ่าย "อุทกภัย 2554 คนไทยไม่ทิ้งกัน" โดยมีการตัดสินกันเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องเมจิค 1 โรงแรมมิราเคิล ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. โดยรางวัลแบ่งออกเป็น 3 ประเภท มีประเภทประชาชนทั่วไป รางวัลชนะเลิศคือนายอนุสรณ์ สนะพันธ์ ชื่อภาพ”จิตอาสา” รับโล่เกียรติยศ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท
ส่วนประเภทนักเรียน นิสิต นักศึกษา รางวัลชนะเลิศคือนายบวรกมล สูนย์กลาง ชื่อภาพ ”ขนส่งประจำทาง” รับโล่เกียรติติยศ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานกรรมากรสมัชชาปฏิรูป พร้อมเงินรางวัล 25,000 บาท
สำหรับประเภทสื่อมวลชน ผู้รับรางวัลชนะเลิศคือนายสุรเชษฎ์ วัชรวิศิษฎ์ หัวหน้าช่างภาพหนังสือพิมพ์เดลินิวส์  ชื่อภาพ ”น้ำใจในวิกฤติ” รับโล่เกียรติยศนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เป็นของนายภมร มานะพรชัย ช่างภาพหนังสือพิมพ์เดลินิวส์  รับโล่เกียรติยศ นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ผอ.สำนักงานปฏิรูปฯ พร้องเงินรางวัล 30,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 2 คือนายสุวสรรค์ ชมแก้ว ช่างภาพหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ รับโล่เกียรติยศ นายมานิจ สุขสมจิตร ประธารกรรมการสื่อสารเพื่อการปฏิรูป พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท
ผู้สื่อข่าวยังรายงานอีกว่า ในประเภทสื่อมวลชน ยังมีรางวัลชมเชยอีก 10 รางวัล โดยทีมช่างภาพหนังสือพิมพ์เดลินิวส์สามารถคว้ารางวัลมาได้อีก 8 รางวัล โดยนายสุรเชรษฎ์ คว้ามาได้อีก 3 รางวัลชื่อภาพ”คุณพระช่วย”,”ร่วม รื้อ รอด”และ”สู้อีกนิดน้อง” ส่วนนายภัทรพงษ์ ฉัตรภัทรศิลป์ คว้ามาได้ 3 รางวัลเช่นกัน ชื่อภาพ”ร่วมแรงร่วมใจ”,”อาสาพาข้าม”และ”ทหารของประชาชน” ขณะที่อีก 2 รางวัลเป็นของนายจามิกร ศรดำ ชื่อภาพ”รวมพลังเรียงแถว”และนายสันติ มฤธนนท์ ชื่อภาพ”ปกป้อง”โดยได้รับเงินรางวัลๆละ 5,000 บาท

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th  

เพิกถอน “ศรีสุข” พ้น "ส.ว.สรรหา" ฐานไม่ไปเลือกตั้ง


วันนี้ ( 21 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมกกต.มีมติเพิกถอนการสรรหาส.ว.ของนายศรีสุข รุ่งวิสัย ส.ว.สรรหาและเสนอศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี พร้อมดำเนินคดีอาญากับสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรที่เสนอชื่อนายศรีสุข เข้ารับการสรรหา
ทั้งนี้กรณีของนายศรีสุขกกต.ได้รับบัตรสนเท่ห์เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมาว่าขณะเข้ารับการสรรหาเป็นผู้เสียสิทธิ์และไม่ได้แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นนทบุรี เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 52  รวมทั้งเมื่อกกต.พบแล้วก็กลับไม่ดำเนินการใดๆ หลังกกต.พิจารณาแล้วก็ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนและคณะกรรมารสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งรายงานให้ทราบว่า ตรวจสอบสอบพบว่าเดิมนายศรีสุขมีภูมิลำเนาอยู่ในจ.นนทบุรี แต่เมื่อมีการเลือกตั้งซ่อมส.ส.นนทบุรีเมื่อวันที่ 25 ม.ค.52  กลับไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยพบว่ามีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้เสียสิทธิ์
ต่อมานายศรีสุขได้ย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ที่เขตบางแค กรุงเทพฯ ซึ่งในวันที่ 29 ส.ค.53 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)และสมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร(ส.ข.) โดยการเลือกตั้งทั้งสองประเภทได้กำหนดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งไว้แตกต่างกันผู้มีสิทธิเลือกตั้งส.ก.จะต้องเป็นผู้ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนไม่น้อยกว่า 1 ปี ส่วนผู้มีสิทธิเลือกตั้งส.ข.จะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 90 วัน
นายภุชงค์ กล่าวต่อว่า จากข้อเท็จจริงพบว่านายศรีสุขได้แจ้งเหตุแห่งการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งส.ก. แต่เมื่อตรวจสอบกับว่านายศรีสุขมีชื่อเข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านเขตบางแคไม่ถึง 1ปี จึงเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิที่จะใช้สิทธิเลือกตั้งส.ก. ทำให้การแจ้งเหตุไม่ถือว่ามีผลตามกฎหมาย จึงถือว่าก่อนวันลงทะเบียนเข้ารับการสรรหาเป็นส.ว. นายศรีสุขเป็นผู้เสียสิทธิ์เลือกตั้งจากการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมส.ส.นนทบุรี เมื่อวันที่ 25 ม.ค.52 กกต.จึงมติให้เพิกถอนการสรรหานายศรีสุข
ส่วนกรณีที่นายประจิตต์ โรจนพฤกษ์ ส.ว.สรรหา ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ของกกต.  โดยได้ดำเนินการตรวจสอบไปพร้อมกับส.ว.สรรหาทั้ง 73 ราย ด้านนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย กล่าวว่า ที่ประชุมกกต.ได้มีมติเอกฉันท์ให้เพิกเพิกถอนสิทธิการสรรหาของนายศรีสุข รุ่งวิสัย ส.ว.สรรหา เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง จึงถือว่าเป็นผู้เสียสิทธิ์การเลือกตั้ง  ตามมาตรา 26 ประกอบมาตรา 27  แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. หลังจากนี้กระบวนการจัดทำคำวินิจฉัยทางสำนักวินิจฉัยคดี ของสำนักงานกกต. จะเขียนคำวินิจฉัยเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 15 วัน
ทั้งนี้ เมื่อศาลฎีกาฯรับคำร้องของกกต.แล้วก็จะมีผลให้นายศรีสุข ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ส.ว.จนกว่าศาลจะมีคำสั่งออกมา  อย่างไรก็ตามถ้าศาลฎีกาฯ มีคำสั่งเพิกถอนการสรรหาและเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งก็จะต้องมีการเปิดรับสมัครการสรรหาส.ว.เข้ามาแทนตำแหน่งที่ว่างลง และจะต้องดำเนินคดีทางอาญากับนายศรีสุขและสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยด้วย

แหล่งที่มาของข้อมูล www.dailynews.co.th .