วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

เกาหลีใต้เริ่มหาเสียงก่อนการเลือกตั้งทั่วไป 11 เม.ย.


วันนี้ (29 มี.ค.) ผู้สมัครของพรรคการเมืองต่างๆ ของเกาหลีใต้ เริ่มเปิดฉากรณรงค์หาเสียงในวันนี้ ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่จะมีขึ้นในวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งจะเป็นการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภา 300 ที่นั่ง โดยผู้สมัครทั้งหมด 924 คนจะชิงที่นั่งการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเรียงเบอร์ 246 ที่นั่ง ส่วนอีก 54 ที่นั่งเป็นแบบสัดส่วน และคาดว่าพรรครัฐบาล แซนูรี หรือ นิวฟรอนเทียร์ (เอ็นเอฟพี) แนวอนุรักษ์นิยม จะรักษาเสียงข้างมากในรัฐสภาไว้ได้
 
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของโพล เรียลมิเตอร์ เผยแพร่ในวันนี้ พบว่า การแข่งขันจะเป็นไปอย่างดุเดือดและสูสี ระหว่างพรรคเอ็นเอฟพี หรือชื่อเดิมพรรคแกรนด์ เนชั่นแนล ที่เปลี่ยนชื่อพรรคเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา และขยับแนวนโยบายไปทางซ้าย กับพรรคเดโมเครติก ยูไนเต็ด (ดียูพี) แนวกลาง-ซ้าย ซึ่งปัจจัยชี้ขาดผลแพ้ชนะน่าจะอยู่ที่การนำเสนอนโยบายทางด้านเศรษฐกิจเป็นหลัก.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

คลิปฮา หมาไล่แมวกลางสนามบาส


เมื่ออยู่ดีๆ ดันมีแมวหลงทางตัวหนึ่ง ซึ่งไม่รู้มาได้อย่างไร ไปปรากฎตัวอยู่กลางสนามบาส ในขณะที่ผู้เล่นทั้ง 2 ฝั่ง กำลังแข่งขันกันอยู่ ซึ่งดูเหมือนเจ้าเหมียวเองก็ตื่นตกใจ จึงได้แต่วิ่งไปวิ่งมาอยู่ในสนาม ก่อนที่เรื่องเฮฮาจะเกิดขึ้น เมื่อมาสคอตประจำทีมมัคคาบี้ ที่เป็นสุนัขชื่อว่า "ดอนนี่" สวมบทพระเอก เข้ามาวิ่งไล่ จนเจ้าเหมียวหนีหัวซุกหัวซุนออกไปจากสนาม
เหมียวคงเข็ดกับกีฬาบาสเกตบอลไปอีกนาน เพราะนอกจากต้องเสี่ยงอันตรายจากลูกบาสและผู้เล่นทั้ง 2 ฝั่งแล้ว ยังมีสุนัขยักษ์คอยวิ่งไล่อีกต่างหาก!!! รับชมคลิปเรียกรอยยิ้มนี้กันได้เลย.


แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

"ยุ่น"ขู่ยิงจรวดโสมแดงหากรุกล้ำเข้าเขตประเทศ


วันนี้ ( 30 มี.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า รมว.กลาโหมของญี่ปุ่น มีคำสั่งให้กองทัพเตรียมพร้อมระบบป้องกันขีปนาวุธ เพื่อยิงทำลายจรวดเกาหลีเหนือทันที หากพบว่าเป็นภัยคุกคามต่อประเทศ ขณะที่แผนการยิงจรวดของรัฐบาลเปียงยางยังคงเดินหน้าต่อไป ท่ามกลางเสียงประณามอย่างรุนแรงจากนานาชาติ
นายนาโอกิ ทานากะ รมว.กลาโหมของญี่ปุ่น ให้สัมภาษณ์ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติคำสั่งดังกล่าว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ภายหลังเกาหลีเหนือยืนกรานจะดำเนินแผนการยิงจรวดขึ้นสู่อวกาศ จากฐานยิงจรวดตงชาง-รี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ในระหว่างวันที่ 12-16 เม.ย. นี้ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบวันเกิด 100 ปี ของนายคิม อิล-ซุง ผู้ก่อตั้งประเทศ และประธานาธิบดีคนแรก
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือทำการซ้อมยิงจรวดพิสัยใกล้ 2 ลำ จากชายฝั่งทางตะวันตก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า เป็นการทดสอบเพื่อยกระดับการยิงจรวดที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
นอกจากนี้ แม้รัฐบาลเปียงยางจะยืนยันว่า จรวดที่กำลังจะส่งขึ้นไปนั้น คือดาวเทียมสำรวจอากาศ แต่สหรัฐ จีน และเกาหลีใต้ เชื่อว่า แท้จริงแล้ว นี่คือแผนอำพรางการทดสอบการยิงขีปนาวุธพิสัยไกลของอีกฝ่าย ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ รวมถึงข้อตกลงความช่วยเหลือด้านอาหารที่ทำไว้กับรัฐบาลสหรัฐอีกด้วย

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

กาหลีใต้จำกัดอายุผู้ชมคอนเสิร์ต “เลดี้ กาก้า” +18


วันนี้ ( 30 มี.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ว่า คณะกรรมการพิจารณาเรตติ้งของเกาหลีใต้ ( เคเอ็มอาร์บี ) ประกาศจำกัดอายุผู้เข้าชมคอนเสิร์ต “เลดี้ กาก้า” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 เม.ย. นี้ ที่สนามกีฬาโอลิมปิก ในกรุงโซลว่า อนุญาตเฉพาะผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีเท่านั้น
บริษัทบัตรเครดิต “ฮุนได การ์ด” ผู้สนับสนุนหลักในคอนเสิร์ตครั้งนี้ เปิดเผยว่า เดิมที มีการกำหนดอายุของผู้เข้าชมไว้ที่ 12 ปีขึ้นไป แต่คณะกรรมการฯกลับมีมติปรับเปลี่ยนกะทันหัน ด้วยเหตุนี้ ผู้ถือบัตรคอนเสิร์ตทุกคน ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถมาติดต่อเพื่อขอรับเงินคืน ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ กลุ่มผู้เคร่งครัดทางศาสนาหลายกลุ่มในเกาหลีใต้ ออกมาต่อต้านคอนเสิร์ตของ “เลดี้ กาก้า” โดยให้เหตุผลว่า นักร้องสาวชื่อดังระดับโลก มักจะแต่งกายไม่เหมาะสมขณะอยู่บนเวที และการแสดงของเธอยังสื่อไปในทางอนาจาร รวมถึงแสดงออกถึงพฤติกรรมรักร่วมเพศ
ทั้งนี้ คอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ “เลดี้ กาก้า เดอะ บอร์น ดิส เวย์ บอลล์” จะเปิดฉากขึ้นที่กรุงโซล ของเกาหลีใต้ เป็นเมืองแรก จากนั้นนักร้องสาว เจ้าของสถิติ มีผู้ติดตามบนทวิตเตอร์มากที่สุดในโลก ถึงกว่า 22 ล้านราย จะทยอยเปิดการแสดงตามเมืองใหญ่อีกหลายเมืองในทวีปเอเชีย รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 25 พ.ค. นี้ด้วย ก่อนมุ่งหน้าต่อไปยังนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

“ซูจี” เชื่อเลือกตั้งซ่อมไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์


วันนี้ ( 30 มี.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่าว่า นางออง ซาน ซูจี เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2534 และหัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ( เอ็นแอลดี ) แถลงว่า ความไม่เป็นธรรมหลายประการที่เกิดขึ้นระหว่างการรณรงค์หาเสียง จะส่งผลต่อความบริสุทธิ์ ยุติธรรมในการเลือกตั้งซ่อม 45 ที่นั่ง ที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์นี้
นางซูจี กล่าวด้วยว่า ชาวพม่ามีความตื่นตัว ต่อการเลือกตั้งซ่อมที่กำลังจะมีขึ้นอย่างมาก แต่ความไม่เสมอภาค ที่พรรคของเธอได้รับ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานั้น เช่น การถูกจำกัดพื้นที่เพื่อหาเสียง เป็นสิ่งที่ยากเกินกว่าจะรับได้ ในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ เธอยังคงยืนยันว่า จะไม่ขอรับตำแหน่งทางการเมืองใดๆในคณะรัฐบาลทหารชุดปัจจุบัน เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญของพม่า บุคคลผู้ประสงค์จะรับตำแหน่งทางการเมือง ต้องสละสิทธิ์ความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อน
ด้านประธานาธิบดี เต็ง เส่ง ออกมากล่าวรับทราบความคิดเห็นของนางซูจี พร้อมทั้งย้ำว่า รัฐบาลทราบเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด และจะพยายามจัดการการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ให้มีความโปร่งใสมากที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลทหารชุดนี้ สร้างความประหลาดใจให้แก่ประชาคมโลก ด้วยการประกาศเชิญคณะผู้สังเกตการณ์ และสื่อมวลชนจากชาติตะวันตก เข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ร่วมกับคณะผู้แทนจากอาเซียน รวมถึงการปล่อยนักโทษการเมืองนับร้อยคน  ลดการคุกคามสื่อ และเปิดโอกาสให้พรรคของนางซูจี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองกระแสหลักอีกครั้ง


แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

แย้มโผรองผบก.-ส.ว.เด็กเส้นวิ่งฝุ่นตลบ


วันนี้ ( 29 มี.ค.)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 30 มี.ค. เวลา 14.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นัดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 5/55 มีวาระเรื่องเสนอเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 1. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผบก.-สว. วาระประจำปี 2554  เรื่องที่ 2. พ.ต.ท.เสริมพร พรหมศรี  ขอให้ ก.ตร.ทบทวนมติ โดยในวาระเรื่องการแต่งตั้ง เป็นการขอ ก.ตร. ยกเว้นหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง กรณียกเว้นคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งในการแต่งตั้ง รองผบก.-สว. หลายราย โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผู้ที่ขอยกเว้นหลักเกณฑ์กรณีนี้ จนทำให้ต้องมีการนัด ก.ตร. แบบแร่งด่วน จนประเด็นที่เหล่าข้าราชการตำรวจจับตามอง เนื่องจากจนถึงจนขณะนี้เหลืออีกเวลาเพียง 3 วันเท่านั้น จะครบกำหนดที่ต้องแต่งตั้งให้แล้วเสร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับโผการโยกย้ายนายตำรวจ ใน บช.น. มีรายงานว่า พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. ร่วมกับรองผบช.น. พิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ รองผบก.-สว. ประจำปี 2554 มีเก้าอี้ที่ว่างระดับ รองผบก. ว่าง 9 ตำแหน่ง ระดับ ผกก. ว่าง 11 ตำแหน่ง รองผกก.มี 12 ตำแหน่ง แต่แบ่งเก้าอี้ให้ พงส.(สบ3) เลื่อนเป็นรองผกก. 3 ตำแหน่ง เหลือ 9 ตำแหน่ง และ สว. มี 29 ตำแหน่ง มีนายตำรวจที่มีสิทธิ์ได้เลื่อนขึ้นตามบัญชีอาวุโส 33 เปอร์เซ็นต์  3 ตำแหน่ง ได้แก่ พ.ต.อ.ศิวโรจน์ สุขัควานนท์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง อาวุโสอันดับที่ 1 คว้าที่นั่งรองผบก. ก่อนเกษียณ พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน และ พ.ต.อ.สมศักดิ์ วิมานรัตน์ ผกก.สน.บางซื่อ เป็น รองผบก.อก.บช.น. พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ รองผบก.น.3 โยกเป็น รองผบก.น.1 พ.ต.อ.พจน์ บุญมาภาค รองผบก.น.7 โยกเป็น รอง ผบก.น.1 

พ.ต.อ.จักษ์ จิตตธรรม ผกก.สน.ท่าเรือ ได้โรงพักดีเด่นเลื่อนขึ้นเป็น รองผบก. พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน พ.ต.อ.สุนทร โตรอด ผกก.สน.หลักสอง พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผกก.สน.บางรัก พ.ต.อ.กิตติพันธุ์ จุนทการ ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.อ.สุรพันธ์ ปัทมะทิน ผกก.ศฝร. ลุ้นขึ้น รองผบก. ส่วนตำแหน่งผกก. นายตำรวจอาวุโสที่เลื่อนตำแหน่งอัตโนมัติ 3 ตำแหน่ง ได้แก่ พ.ต.ท.ถวัลย์ พวงเกษม รองผกก.สส.สน.บางกอกน้อย อาวุโสอันดับที่ 1 พ.ต.ท.พิพัฒน์ บุญเพ็ชร์ รองผกก.สส.สน.บางมด และพ.ต.ท.สมบัติ แก่นวิจิตร รองผกก.สส.สน.หลักสอง

ขณะที่ พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.สายตรวจ 191 ได้รับการการันตีจากผู้บังคับบัญชารักษาเก้าอี้ไว้ได้ พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐผล ผกก.สน.ดอนเมือง คาดว่าโยกเป็นผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.อ.ทรงยศ ถวัลย์กิจดำรงค์ ผกก.สส.ภ.จว.จันทบุรี นายตำรวจใกล้ชิด พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. เป็นผกก.สน.บางรัก พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ลาดกระตบัง นรต.รุ่น 32 เป็น ผกก.สน.วังทองหลาง พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ นรต.รุ่น 46 นายเวร ผบ.ตร. เป็น ผกก.สน.บางนา

ส่วนระดับ ผกก.คุมงานกองกำกับการสืบสวนนครบาลนั้น พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 อาวุโสลำดับ 4 ยังได้รับความไว้วางใจให้ดูแลงานสืบสวนพื้นที่สำคัญนั่งเก้าอีปีสุดท้ายก่อนเกษียณ พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.ภ.3 นายตำรวจคนสนิท ผบช.น. คาดว่าโยกข้ามหน่วยมาเป็น ผกก.สส.บก.2 พ.ต.อ.สุเทพ ภูยานนท์ ผกก.สน.บึงกุ่ม เป็น ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน ผกก.สส.บก.น.4 เลื่อนเป็นรองผบก. เปิดทางให้ พ.ต.อ.อุทัย กวินเดชาธร ผกก.ฝอ.10 ศชต. เด็กในคาถา ผบช.น. โยกข้ามหน่วยจากแดนใต้เป็น ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สส.บก.น.7 นายตำรวจสายคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ข้ามจากฝั่งธนฯ เป็นผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.สส.บก.น.2 ย้ายข้ามหน่วยเป็นผกก.สส.บก.น.6 โดย พ.ต.อ.สุวิชชา จินดาคำ อดีตนายตำรวจติดตามนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ โดนย้ายออกนอกหน่วย พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สส.บก.น.8 ยึดเก้าอี้ที่เดิมไว้ได้ พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผกก.สน.ตลิ่งชัน ผลงานจับยาเสพติดที่ขนส่งสายใต้ใหม่ได้หลายล้านเม็ด เป็น ผกก.สส.บก.น.9

ขณะที่ระดับรองผกก. คาดได้เลื่อนเป็นผกก. ได้แก่ พ.ต.ท.ไชยา คงทรัพย์ สวญ.สน.บางคอแหลม เป็นผกก.ดส.บช.น. พ.ต.ท.สำราญ นวลมา รองผกก.สส.2 บก.สส. พ.ต.ท.วิเชียร แสงพิทักษ์ รองผกก.ป.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.ท.กำธร อุ่ยเจริญ รอง ผกก.เก็บกู้ระเบิด บก.สปพ. คาดขึ้นผกก.ที่เดิม พ.ต.ท.สถิต สังข์ประไพ รองผกก.ป.สน.เตาปูน น้องชาย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รองผบช.น.คาดโยกข้ามมาเป็น รองผกก.ป.สน.ห้วยขวาง

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

“ดีเอสไอ”ยุติสอบ"ปู"เบิกความเท็จปกปิดถือหุ้นชิน



วันนี้ (29 มี.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วรรณพงษ์  คชรักษ์ ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคารดีเอสไอ แถลงผลการตรวจสอบตามคำร้องของนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งรัดการดำเนินคดีอาญากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ นายพานทองแท้  ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร  2 ข้อหาคือร่วมกันแจ้งพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหือเอกสารราชการ (แจ้งข้อความเท็จ) ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานและน่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 267 และฐานร่วมกันแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น ซึ่งควรจะแจ้งในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนในสาระสำคัญ (ปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น) ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์มาตรา 278 โดยอ้างว่าคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ส่งข้อเท็จจริงพร้อมพยานหลักฐานที่ได้จากการตรวจสอบกรณีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นในบริษัท ชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน มายังดีเอสไอเพื่อให้ดำเนินการตามสมควรต่อไป

นายธาริต กล่าวด้วยว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักคดีการเงินการธนาคารพบว่า กรณีแจ้งเท็จนั้นในขณะเกิดเหตุคือปี 2545 – 2547 พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ยังไม่มีบทบัญญัติว่าเลขาก.ล.ต.เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาแม้ภายหลังจะมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายดังกล่าว โดยกำหนดให้เลขาก.ล.ต. กรรมการก.ล.ต.และกรรมการกำกับตลาดทุนเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2551แต่เรื่องดังกล่าวก.ล.ต. เคยมีหนังสือชี้แจงไปยังรมว.คลังแล้วว่าในช่วงเกิดเหตุยังไม่มีบทบัญญัติใดกำหนดให้มีการชี้แจงต่อเลขาก.ล.ต. เป็นความผิดตามกฎหมายต่อเจ้าพนักงาน ขณะนั้นเลขาก.ล.ต.จึงยังไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ดีเอสไอจึงเห็นว่าการกระทำไม่ครบองค์ประกอบความผิด จึงถือว่าไม่เป็นความผิด

นายธาริต กล่าวต่อว่า ส่วนในประเด็นปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น เป็นหน้าที่ของบริษัทชินฯ เป็นผู้จัดทำและข้อมูลที่ใช้รายงานก็มาจากบริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ของประเทศซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งบริษัท ชินฯซึ่งตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่ารายชื่อในขณะนี้เป็นรายชื่อที่ถูกต้องตรงกัน จึงไม่ได้เป็นรายงานอันเป็นเท็จหรือมีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้น ไม่ได้ทำให้ผู้ใดเข้าใจผิดหรือมีความเสี่ยง เพราะในรายงานโครงสร้างผู้ถือหุ้นใช้คำว่า ครอบครัวชินวัตรและผู้เกี่ยวข้องหรือกลุ่มครอบครัวชินวัตรและครอบครัวดามาพงศ์ ซึ่งเข้าใจได้ว่าผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นใคร นอกจากนี้ยังไม่พบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำรายงาน เพราะถือเป็นหน้าที่ของบริษัท ยกเว้นนายบรรณพจน์ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเป็นผู้ลงนามรับรองรายงาน ในฐานะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ

นายธาริต กล่าวอีกว่า จากการพิจารณาคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพบว่า คำพิพากษาดังกล่าวเพิ่งจะเกิดขึ้นภายหลังมีการขายหุ้นไปหมดแล้ว และไม่ปรากฎว่ามีผู้ใดได้รับความเสี่ยง ประกอบกับคำพิพากษาเป็นการตัดสินคดีเกี่ยวกับทรัพย์สิน ไม่ใช่คดีอาญา ดังนั้น ไม่ถือเป็นสาระสำคัญให้เกิดความเข้าใจผิดต่อลงทุน จึงมีคำสั่งให้ยุติเรื่อง เพราะไม่พบการกระทำความผิด
 
“การสั่งยุติเป็นการทำตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ไม่มีใครมาครอบงำหรือสั่งและเพื่อให้เกิดความโปร่งใส จึงได้ทำหนังสือแจ้งให้นายกรณ์กับสำนักนายกรัฐมนตรีให้ทราบเรื่องแล้ว” นายธาริตกล่าว
ส่วนเรื่องที่นายแก้วสรร อติโพธิ และ นพ.ตุลย์  สิทธิสมวงศ์ ร้องว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เบิกความเท็จนั้น ขอเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพว่า หากมีผู้ทะเลาะกันแล้วนำคดีขึ้นฟ้องศาลแล้วจำเลยแพ้คดี ถูกศาลลงโทษจำคุก ไม่ได้หมายความว่า พยานจำเลยทั้ง 10 ปาก จะมีโทษฐานเบิกความเท็จหรือต้องติดคุกไปด้วย เพราะศาลจะตัดสินลงโทษตามดุลยพินิจในการชั่งน้ำหนักพยานจะเป็นความผิดหรือไม่ต้องพิจารณาจากองค์ประกอบที่เป็นสาระสำคัญเท่านั้น 
 
ส่วนกรณีศาลฎีกาตัดสินว่าการถือหุ้นแทน นายธาริต ชี้แจงว่า เป็นคนละส่วนกัน ศาลตัดสินถูกต้องแล้ว แต่เป็นการตัดสินให้ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน โดยการยึดหรือริบเทรัพย์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนคดีปกปิดโครงสร้างเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามว่าคำพิพากษาของศาลตัดสินเชื่อว่า มีการถือครองหุ้นแทนกัน นายธาริตกล่าวว่า  ศาลไม่ได้เชื่อว่ามีการปกปิดโครงสร้าง แต่เชื่อว่าเป็นการถือแทนคนอื่น โดยเป็นการถือแทนโดยบุคคลในครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์ ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้ฝ่ายค้านเชื่อว่ามีการปกปิด แต่สำหรับ ดีเอสไอ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่มีการปกปิดเพราะรายงานตามทะเบียนของตาดหลักทรัพย์

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th



ปะทะเดือดวิสามัญจีนฮ่อ ตร.ยึดยาบ้า6หมื่นเม็ด


เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 29 มี.ค. ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก พ.ต.ท.ชลเทพ ไหมไชย สารวัตรเวร สภ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 5 ว่าได้วิสามัญผู้ต้องหาค้ายาเสพติด 1 ราย บริเวณบ่อดิน หมู่ที่ 7 บ้านแม่ใจ ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจึงได้รายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและพบกับเจ้าหน้าที่ชุดวิสามัญยืนรออยู่แล้ว บริเวณที่เกิดเหตุพบศพชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายซิงหลง แซ่กุ๋ย อายุ 26 ปี ชาวจีนฮ่อ อยู่บ้านเลขที่ 730 หมู่ที่ 9 บ้านสันมะกอกหวาน ต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ใกล้กันนั้นพบยาบ้า 6 หมื่นเม็ด และอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก
จากการสอบสวนได้ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 5 ได้ติดตามขบวนการค้ายาเสพติดของผู้ตายมานานแล้ว จนกระทั่งสามารถติดต่อล่อซื้อยาบ้าจำนวน 6 หมื่นเม็ดได้สำเร็จ โดยนัดส่งมอบของบริเวณดังกล่าว เมื่อถึงเวลานัดหมาย มีรถยนต์กระบะมาจอดส่งผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเดินเข้าไปเพื่อติดต่อซื้อยาเสพติดตามที่ตกลงกันไว้ ปรากฏว่านายซิงหลง ผู้ตายเกิดไหวตัวโดยชักอาวุธปืนพกประจำกายออกมายิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ทำให้เกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที พอเสียงปืนสงบลง ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่านายซิงหลง ได้ถูกอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ยิงเข้าตามลำตัว และเสียชีวิต จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ทราบดังกล่าว หลังการสอบสวนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกและตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเตรียมรวบรวมข้อมูลก่อนดำเนินการตามมาตรการด้านยึดทรัพย์ และด้านคดีอื่นๆ ตามกฎหมายต่อไป.


แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ฮือฮาหวยจิ้งจกห้อยหัว-ต้นไทรให้เลขเด็ด








วันนี้(30มี.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บ้านเลขที่ 3 ถนนราษฎร์ดำรง เขตเทศบาลเมืองสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ตั้งแต่เช้าตรู่ได้มีนักเสี่ยงโชค และคอหวยจากทุกสารทิศหลั่งไหลมาดูรูปภาพ และคลิปจิ้งจกห้อยหัวเป้นจำนวนมาก บางคนถึงกับนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้บูชา ต่างนั่งมองยืนมองตีเป็นเลขเด็ดตามธรรมเนียม โดยวาดหวังกันว่าจะได้เลขเด็ดติดไม้ติดมือกลับไปเหมือนเช่นเคย โดยเลขเด็ดที่นิยมกันในวันนี้ได้แก่ 22, 099, 516, 42
สำหรับเลขเด็ดที่ก่อนหน้านี้บรรดาเซียนหวยนิยมซื้อกันมากในงวดนี้คือ 33 บ้านเลขที่จิ้งจกห้อยหัวนำโด่งด้วย ตามด้วยเลขที่นิยมแห่ซื้อกันคือ 11 22 33 44 55 77 88 99 ส่วนเลขดังอื่นๆ คือ 28-48 จากครบรอบ 48 ปี นสพ.เดลินิวส์ ในวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ก็ยังนิยมตามกันอยู่มาก ปรากฏว่าเหล่าเซียนหวยได้แห่กันหาซื้อลอตเตอรี่ ทำให้ขณะนี้ตัวเลขกลุ่มดังกล่าว ราคาราคาพุ่งถึงใบละ 120-150 บาท แม่ค้ายิ้มร่าจากการขายสลากได้
ส่วนที่วัดทับกระดาน ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี บริเวณศาลาทรงไทยกลางน้ำใกล้กับต้นไทรทอง ซึ่งเป็นที่ตั้งหุ่นรูปของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีแฟนเพลงนำดอกไม้ธูปเทียนมาสักการะกันแน่นขนัด และพากันเสี่ยงเซียมซีขอเลขเด็ด แต่บางส่วนได้ขูดหาเลขเด็ดจากต้นไทร มองออกมาเป็นเลข 913-713-25-52 ซึ่งคอหวยบอกว่าจะนำไปแทงหวยในงวดวันที่ 1 เม.ย.ที่จะถึงนี้

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ฮือฮา พบลูกไก่มี 4 ขา อยู่เพียง 2 ชั่วโมงตาย


วันนี้( 30 มี.ค.) ดาบตำรวจวรวุธ บิลและหมัน อายุ 42 ปี ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อยู่บ้านเลขที่ 171/2 หมู่ 11 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูลูกไก่ฟักออกมาแล้ว มี 4 ขา ดาบตำรวจวรวุธ ฯ ได้กล่าวว่า ตนเองได้เลี้ยงแม่ไก่พันธุ์ไก่ชน เพศเมีย มานาน 1 ปีเศษ และเมื่อประมาณต้นเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา แม่ไก่ที่เลี้ยงไว้ได้ออกไข่มา จำนวน 10 ฟอง และแม่ไก่ได้ฟักไข่อยู่นานถึง 28 วัน  ต่อมาวันนี้ ดาบตำรวจวรวุธ ได้เดินไปดูไข่ที่แม่ไก่นั่งฟัก พบว่าไข่ที่แม่ไก่ฟักได้ออกเป็นตัว จำนวน 9 ตัว และไข่เสียไป 1 ฟอง ลูและ1ใน9พบว่าลูกไก่มีลักษณะแปลกกว่าตัวอื่นๆ คือมีขา จำนวน 4 ขา ขาข้างขวามี 2 ขา มีเล็บ 4 เล็บ เท่ากัน ส่วนขาข้างซ้ายขาหน้ามีเพียงท่อนโค่นขาเท่านั้น และข้างซ้ายหลังมีขาและเล็บครบ สร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่กันมาขอดู บางคนก็เอาไปตีเป็นเลขหวยกัน ส่วนใหญ่จะฟันธงเลข 40 - 171    ซึ่งลูกไก่ตัวดังกล่าวหลังจากฟักตัวออกมาอยู่ได้เพียง 2 ชั่วโมง ก็เสียชีวิต.


แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th