วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555

บทสรุปเกมส์ Castlevania : Symphony of the Night (PS1)





Story-Line 
- Richter -

Final Stage "Bloodlines"



เริ่มต้นจะเล่นเป็น Richter ซึ่งเข้ามาปราบ Dracula
Boss : Dracula

HP : 600
Boss : Dracula

HP : 1,200
หลังจากที่ Richter ปราบ Dracula ได้
เขาก็จะหายตัวไป ในปี ค.ศ.1792
และหลังจากนั้นอีก 5 ปีต่อมา
จะเริ่มเล่นในบทบาทของ Alucard
โดยค่าพลังเริ่มต้นต่างๆ ของ Alucard จะขึ้นอยู่กับ Richter
หาก Richter ปราบ Dracula ได้โดยใช้เวลาน้อย และเสีย HP น้อย
จะทำให้ค่าพลังเริ่มต้นของ Alucard ออกมาดี
หาก Richter ปราบ Dracula ได้โดยไม่ใช้ Heart เลย
หรือ Richter ต้องให้ Maria มาช่วยปราบ Dracula
ก็จะส่งผลให้ค่าพลังเริ่มต้นของ Alucard เปลี่ยนไป

- Alucard -

Entrance
เมื่อเข้ามาในปราสาท เดินไปทางขวาเรื่อยๆ จะเจอ Death
ซึ่ง Death จะขโมย Item ของ Alucard ไปทั้งหมด (ซึ่งสามารถเก็บคืนได้ภายหลัง)

(* Note : มีวิธีทำให้ไม่โดน Death ขโมย Item ได้ด้วย)
เดินต่อไปจะเจอ Relic : Cube of Soe

Cube of Soe - ทำให้เมื่อทำลายเชิงเทียน จะมีโอกาสได้ Item
เดินกลับไปห้องที่เจอ Death จะพบกับ
Option Boss : Gaibon and Slogra

Level : 6
HP : 200 (x2)
Exp : 200 (x2)
ด้านบนของห้องที่เจอ Death
หากกระโดดลงไปด้านซ้าย (ต้องกระโดดดีๆ)
จะสามารถลงไปยังห้องลับด้านซ้ายได้
จากนั้นจะเข้าสู่โซน Alchemy Laboratory
Alchemy Laboratory

เดินต่อไปจะมีทางลับด้านล่าง (WallSecret02)
และด้านซ้ายที่กำแพง สามารถทำลายเข้าไปได้

ภายในโซนนี้จะเจอ Gaibon และ Slogra อีกครั้ง
แต่คราวนี้เป็น Boss
Boss : Gaibon and Slogra

Level : 6
HP : 200 (x2)
Exp : 200 (x2)
วิธีปราบ
ให้จัดการตัวที่อยู่บนพื้นก่อน
และสามารถใช้โล่ห์ป้องกันลูกไฟได้
ใช้ขวานขว้างเมื่อศัตรูอยู่กลางอากาศ
เดินต่อไปจะเข้าสู่โซน Marble Gallery
Marble Gallery

เมื่อเดินไปถึงนาฬิกายักษ์ จะเจอกับ Maria

เธอเข้ามาสำรวจปราสาท และถามเกี่ยวกับ Alucard
แต่ Alucard บอกเพียงแค่ชื่อ Alucard เท่านั้น
แล้วเธอก็จากไป
ลงไปด้านล่างซ้ายของนาฬิกา จะมี Relic : Spirit Orb ให้เก็บ
Spirit Orb - ทำให้เห็นความเสียหายที่เกิดกับศัตรู
จากนั้นกลับไปที่นาฬิกายักษ์ และเดินต่อไปทางขวา จะเจอโซนใหม่
Outer Wall

เมื่อถึงโซน Outer Wall เดินลงไปด้านล่าง
ด้านซ้ายมือจะเจอกับ Armor Lord
ให้ใช้ท่า "Hellfire" วาร์ปผ่านมันไป เข้าห้องด้านซ้ายมือ

ภายในให้ทำลายกำแพงด้านซ้ายมือ จะเจอกับ Pot Roast

แต่ความลับยังไม่หมดเท่านั้น
ให้ยืนรออยู่ในซอกกำแพงที่เพิ่งทำลายไปประมาณ 30 วินาที

จะสามารถลงไปยังห้องด้านล่างได้ (WallSecret03)

ซึ่งมี Item ดีๆ ให้เก็บคือ
Jewel Knuckles และ Mirror Cuirass
กลับไปยังด้านบน จะเจอห้อง Save อยู่ด้านซ้ายมือ
เมื่อเดินออกมาด้านขวา จะเจอกับ Boss
Boss : Doppleganger10

Level : 10
HP : 120
Exp : 500
เป็น Alucard ตัวปลอม
ซึ่งสามารถขว้างมีดได้ (Sub-weapon)
วิธีปราบ
ใช้ดาบ Red Rust โจมตี
จะทำให้มันติดสถานะต้องสาบ (Curse)
ทำให้มันไม่สามารถโจมตีได้ (แต่ยังคงขว้างมีดได้)
หรือจะใช้นาฬิกาหยุดเวลาก็ได้ (Stopwatch)
ส่วนวิธีโจมตี คือ ให้รอจังหวะที่มันกระโดด
ให้กระโดดสวน แล้วก็โจมตี จะทำให้มันตกลงไปบนพื้น
และรอจังหวะมันกระโดดอีก ทำสลับไปเรื่อยๆ
ระวัง บางครั้งมันอาจแปลงร่างเป็นค้าวคาวพุ่งโจมตีได้ด้วย
จากนั้นเดินไปด้านขวาจะเจอลิฟต์ แต่ยังใช้ไม่ได้
เดินขึ้นไปด้านบนจะมีสวิตช์ เมื่อสับสวิตช์แล้ว ลิฟต์จะใช้ได้

เข้าไปภายในลิฟต์ จะเก็บ Relic : Soul of Wolf ได้
ซึ่งสามารถแปลงร่างเป็นหมาป่าได้

ด้านบนจะมีทางวาร์ปรูป "ปู" ไปโผล่บริเวณโซน Entrance (ทางวาร์ปรูป "ม้า")

ให้วาร์ปกลับมายังโซน Outer Wall อีกครั้ง
ด้านซ้ายของลิฟต์ จะมีทางเข้าไปยังโซนใหม่

Long Library

เดินขึ้นไปด้านบนขวา จะพบ Relic : Faerie Scroll
ซึ่งทำให้สามารถเห็นชื่อของศัตรูได้

จากนั้นไปด้านซ้ายสุดของห้องสมุด จะเจอร้านค้า

ให้ซื้อ Jewel of Open - 500 g (Relic : Jewel of Open เป็น Relic อันหนึ่งด้วย)
ทำให้สามารถเปิดประตูสีฟ้าได้ (Magically Sealed)

และให้ซื้อสิ่งจำเป็นอื่นๆ เช่น
Castle Map - 103 g (ทำให้เห็นแผนที่)
Library Card - 500 g (ใช้กลับมายังร้านค้าอีกครั้ง)
กลับไปเข้าห้องวาร์ปรูป "ปู" กลับไปยังโซน Entrance
ไปยังโซน Alchemy Laboratory
ด้านซ้ายมือจะมีประตูที่มีเวทย์มนต์ปิดผนึกอยู่

แต่เมื่อมี Jewel of Open จะสามารถผ่านเข้าไปได้
เข้าไปจะเจอ Maria อีกครั้ง

เธอบอกว่า เมื่อก่อนเธอเคยเข้ามาในปราสาทนี้
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม
เมื่อออกไปจะเจอโซนใหม่
Royal Chapel

จะมีบันไดให้เดินขึ้นไปด้านขวาบน
บนสุดจะเจอ Bone Pillar ที่มี Spiked Ball อยู่ด้านบน
ซึ่งตรงนี้หากเก็บ Level จาก Spiked Ball
จะได้ Exp มากถึงครั้งละ 300 กว่าๆ เลยทีเดียว
วิธีทำคือ ให้ใช้ Jewel Knuckles
และเข้าไปใกล้ๆ (ใกล้มากๆ) แล้วนั่งลง กดปุ่ม "โจมตี" ค้างเอาไว้
จะทำให้โจมตีได้รัวๆ

จากนั้นผ่านไปยังห้องทางด้านขวาจะเจอห้องสารภาพบาป (Confession Room)
สามารถนั่งบนเก้าอี้ได้ (กดปุ่ม "บน")
และจะมีวิญญาณ ออกมาพูดคุยด้วย
แต่บางตัวจะเป็นวิญญาณร้าย ให้ระวังด้วย
หากนั่งเก้าอี้ซ้ายมือ และเจอวิญญาณที่ใส่เสื้อคลุมสีน้ำเงิน
ให้นั่งฟังเขา เมื่อเขาจากไป จะได้รับ Grape juice

จากนั้นผ่านหอคอยไปทางขวามือเรื่อยๆ
จนไปถึงห้องหนึ่ง จะเจอ Boss
Boss : Hippogryph

Level : 16
HP : 800
Exp : 800
วิธีปราบ
ให้รอจังหวะที่ Hippogryph ลงมาที่พื้น
ใช้ Jewel Knuckles โจมตี และกดปุ่ม "โจมตี" ค้างไว้
จะเป็นการโจมตีรัวๆ
เมื่อปราบได้จะเจอ Maria อีกครั้ง
เธอจะให้ช่วยหา Richter Belmont ที่หายตัวไป
และเธอเชื่อว่า Richter อยู่ในปราสาทแห่งนี้

เดินต่อไปทางขวาจะเจอโซนใหม่
Castle Keep

ด้านขวาสุดจะมีห้องวาร์ปรูป "สิงโต"
ขึ้นลิฟต์ไปด้านซ้ายจะได้ Relics : Leap Stone
ทำให้สามารถกระโดดได้ 2 ครั้งอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งกำแพงด้านบนสามารถทำลายได้

จากนั้นให้กลับไปยังนาฬิกายักษ์กลางปราสาทอีกครั้ง
ให้รอเวลาสักครู่ใหญ่ๆ
รูปปั้นด้านซ้ายบนจะเลื่อนออก สามารถปีนขึ้นไปได้
โดยใช้ความสามารถกระโดด 2 ครั้ง

เมื่อเข้าไปจะเจอโซนใหม่
Olrox's Quarters

เมื่อเข้าไปจะเจอห้องที่มีดาบขนาดยักษ์ (Spectral Sword)
ห้องด้านขวาล่าง สามารถทำลายกำแพงเข้าไปได้ (WallSecret04)

ห้องด้านขวาบน จะไปต่อยังห้องวาร์ปอีกห้อง (ห้องวาร์ปรูป "แพะ")
ส่วนด้านซ้ายล่าง จะมีเชิงเทียนที่มี Sub-weapon "Stopwatch"

ให้เก็บแล้วนำกลับไปใช้ยังนาฬิกายักษ์กลางปราสาท
จะทำให้รูปปั้นด้านขวามือเลื่อนออกไป
สามารถปีนขึ้นไปได้

ภายในนั้นจะมี อุปกรณ์ที่มีชื่อ Alucart อยู่ด้วย
มีทั้ง ดาบ, โล่ห์ และเกราะ
ซึ่งเมื่อสวมใส่รวมกันแล้ว จะได้รับ Luck เพิ่มขึ้นอีก +30

เมื่อเก็บของครบแล้ว กลับไปยังห้องที่มีดาบยักษ์เฝ้าอยู่
ด้านซ้ายมือจะมีทางไปต่อ และจะเจอโซนใหม่

Colosseum

ด้านบนจะมีทางลับซ่อนอยู่บนเพดาน (WallSecret05)
ซึ่งสามารถใช้เวทย์อะไรก็ได้ทำลาย แต่ยังไม่สามารถปีนขึ้นไปได้
 
ด้านล่างจะเจอศัตรูที่เป็นโครงกระดูกสีเหลืองตัวใหญ่ (Paranthropus)

ซึ่งบางครั้งจะ Drop : Ring of Varda ซึ่งดีมากๆ
แต่โอกาสได้ต่ำมากๆ เช่นเดียวกัน เพราะเป็น Bug
(แนะนำว่าควรไปเก็บในตอนหลังจะดีกว่า)
ด้านซ้ายล่างของโซนนี้จะมี Shield Rod ซ่อนอยู่
แต่จะมี "ฝูง" ศัตรูเฝ้าเอาไว้
ไม่ว่าจะเป็น Armor Lord หรือ Bone Musket (โครงกระดูกยิงปืน)

วิธีผ่าน ให้ยืนบริเวณทางเข้า (ที่เป็นพื้นสูง จะไม่โดนศัตรูโจมตี)
แล้วใช้ท่า "Soul Steal" ทำลายศัตรูชุดแรกบริเวณด้านหน้า
ส่วนศัตรูชุดหลัง Armor Lord ให้ขว้าง Sub-Weapon
ไม่ว่าจะเป็น Holy Water หรือ "ปืน" (Agunea) ก็ได้
แต่ระหว่างนั้น ให้ถือโล่ห์ป้องกันกระสุนปืนด้วย
ด้านในสุดจะมี Shield Rod
* Note : Shield Rod มีพลังพิเศษซ่อนอยู่
คือ ต้องถือ Shield Rod ไว้ที่มือข้างหนึ่ง
และมืออีกข้างหนึ่ง ให้ถือโล่ห์ไว้ โล่ห์อะไรก็ได้
เมื่อกดปุ่ม โจมตี 2 ปุ่มพร้อมกัน
Shield Rod จะดึงพลังที่ซ่อนอยู่ในโล่ห์ออกมา
ซึ่งพลังนั้น จะแตกต่างกันไปตามโล่ห์ที่ถืออยู่
จากนั้นเข้าไปตรงกลางของโซนนี้ จะเจอกับ Richter ???

แต่เขากลับบอกว่า เขาเป็นเจ้าของปราสาทหลังนี้
และ Alucard เป็นผู้บุกรุก จึงเรียกลูกสมุนออกมาจัดการ
Boss : Minotaurus and Werewolf
Minotaurus
Level : 18
HP : 300
Exp : 400
Werewolf
Level : 18
HP : 260
Exp : 300
เมื่อปราบได้ ห้องด้านขวาจะมี Relic : Form of Mist
ทำให้สามารถแปลงร่างเป็นหมอกได้
หมอก สามารถลอยผ่านลูกกรงได้ และหลบการโจมตีได้ทุกชนิด
ต่อไปให้กลับไปยังโซน Long Library
หากรีบสามารถใช้ประตูวาร์ปรูป "ม้า" หรือ Library Card กลับไปได้
เมื่อไปถึง บริเวณก่อนเจอร้านค้า จะมีทางให้กระโดด 2 ชั้นขึ้นไปได้

ด้านบนสุดจะมีทางลับ สามารถดันชั้นหนังสือผ่านเข้าไปได้ (WallSecret06)

ด้านล่างสุดจะเจอบอส
Boss : Lesser Demon

Level : 20
HP : 400
Exp : 100
Immune : Dark
Weak : Holy
ในระหว่างการต่อสู้ Lesser Demon จะเรียกปีศาจออกมาได้
และหนึ่งในนั้นคือ Mudman (No. 61)

ซึ่ง Mudman จะเจอเฉพาะในตอนต่อสู้กับ Lesser Demon เท่านั้น
เพราะฉะนั้น หากจะเก็บสะสมรายชื่อของศัตรู
ก็ให้รอจนกว่า Lesser Demon จะเรียก Mudman ออกมา
จากนั้นลงไปด้านล่าง จะเจอลูกกรง
ให้แปลงร่างเป็นหมอกลอดผ่านไป
ด้านในจะเจอ Relic : Soul of Bat
ทำให้สามารถแปลงร่างเป็นค้างคาวได้

กลับออกมาที่บริเวณก่อนเจอร้านค้าอีกครั้ง
ด้านบนสุด ตอนนี้สามารถแปลงร่างเป็นค้างคาวบินขึ้นไปได้
ห้องด้านซ้ายจะมี Relic : Faerie Card

ซึ่งเมื่อได้มาแล้ว ต้องกดใช้
จะสามารถเรียก Faerie ออกมาช่วยเหลือได้
โดย Faerie เป็น Familar ชนิดหนึ่ง
ซึ่งสามารถเรียกใช้ Familar ได้ครั้งละ 1 ตัวเท่านั้น
จากนี้ เมื่อสามารถแปลงร่างเป็นค้างคาวได้แล้ว
จะสามารถบินไปที่ไหนในปราสาทก็ได้
ให้กลับไปเปิดแผนที่และเก็บ Item ที่เหลือให้ครบ
- กลับไปยังนาฬิกายักษ์
แปลงร่างเป็นค้างคาวบินขึ้นไป
ด้านขวาจะมี Relic : Gravity Boots

ทำให้สามารถทำ Super Jump ได้
โดยการกดปุ่ม "ล่าง" "บน + กระโดด"
- กลับไปยังโซน Colosseum
บริเวณ WallSecret05 จะสามารถขึ้นไปได้แล้ว

ด้านในจะมี Holy Sword
(หากเล่นในภาค Japan จะเจอ Familar : Nose Demon)
- กลับไปยังโซน Royal Chapel
ใช้ Super Jump หรือแปลงร่างเป็นค้างคาว
แล้วเก็บ Item กับเปิดแผนที่ให้หมด
- กลับไปยังโซน Alchemy Lab

ด้านบนของห้องจะมีทางลับขึ้นไป จะมี Relic : Skill of Wolf
- ด้านบนขวาของห้องที่เคยสู้กับ Boss : Gaibon and Slogra

จะมี Relic : Bat Card
ทำให้เรียก "ค้าวคาว" ออกมาช่วยต่อสู้ได้
(ค้างคาวเป็น Familar เช่นเดียวกับ Faerie)
- ด้านหน้าโซน Entrance
ที่มีก้อนหินใหญ่ ด้านบนจะมีทางขึ้นไป Holy Mail
- และบริเวณก้อนหินใหญ่
ให้แปลงร่างเป็นหมาป่า เดินเข้าจากทางซ้าย ออกไปทางขวา

แล้วแปลงร่างเป็นค้างคาว บินกลับจากขวาไปออกทางซ้าย

จะพบว่า กำแพงด้านซ้ายล่างของห้องเปิดออกแล้ว

ด้านในจะมี Jewel Sword ซึ่งทำให้ศัตรูกลายเป็น Jewel ได้
- ทางเข้าด้านหน้าของปราสาท ด้านบนจะมี Relic : Power of Wolf

เมื่อเก็บของได้ครบหมดแล้ว ให้กลับไปยังโซน Olrox อีกครั้ง

Olrox
กลับไปยังโซน Olrox อีกครั้ง
บริเวณใกล้ๆ กับทางวาร์ป จะมีช่องให้ขึ้นไปได้

เมื่อขึ้นไป จะเจอกับโซน Olrox ที่แท้จริง
ด้านซ้ายล่าง จะมีทางเชื่อมต่อไปยังโซน Royal Chapel
โดยต้องทำลายรูปปั้นที่ขวางทาง

และทางบริเวณนั้นจะมีเพดานที่สามารถทำลายได้ (WallSecret07)

ด้านบนจะมี Relic : Sword Card
ทำให้สามารถเรียก Familar "ดาบ" ออกมาได้

(ในภาค Japan จะเป็น Sprite Card แทน)
(ส่วน Sword Card ในภาค Japan จะอยู่ห้องด้านขวาสุด)
ด้านบนซ้ายของโซนนี้จะเจอ Boss : Olrox
Boss : Olrox

Level : 25
HP : 666
Exp : 500
Strong : Dark
Boss : Olrox (2nd From)
Level : 26
HP : 800
Exp : 2,000
Weak : Holy (เฉพาะส่วนหัว)
วิธีปราบ
หากได้รับดาบ Were Bane มาจาก Hunting Girl ในโซน Colosseum
ซึ่งเมื่อกด "ล่าง" "ล่าง+หน้า" "หน้า+โจมตี" จะเป็นการฟันรัวๆ
จะปราบได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
เมื่อ Olrox แปลงร่าง และยิงแสงเลเซอร์
ให้ใช้ท่า "Hellfire" วาร์ปหลบได้
เมื่อปราบได้ ห้องด้านซ้ายจะได้ Relic : Echo of Bat

ทำให้เมื่อแปลงร่างเป็นค้าวคาวแล้ว จะยิงแสงในที่มืดได้
จากนั้นกลับไปยังโซน Marble Gallery
ใกล้ๆ กับทางเดินที่เป็นห้องยาวๆ
จะมีประตูสีฟ้า ที่ลงอาคมไว้ (ประตูที่ต้องใช้ Relic : Jewel of Open เปิด)
เข้าไป ภายในจะมีสวิตช์ ให้เหยียบ

จะทำให้พื้นที่เป็นประตูสีแดงเปิดออก

เดินลงไปด้านล่าง จะเป็นห้องให้เข้าไปเก็บ Item
ส่วนด้านซ้ายจะมีทางลงไป เป็นโซนใหม่

Underground Caverns

เมื่อลงไปทางด้านซ้ายมือจะมีกำแพงลับซ่อนอยู่
ทำลายเข้าไปได้ (WallSecret08)

และในส่วนด้านซ้ายล่าง
หากเล่นในระบบ Saturn จะมีทางเพิ่มขึ้นมา

* - - Begin Saturn Version Only - - *

Cursed Prison
ในโซนนี้จะมีศัตรูและอาวุธใหม่ๆ
แต่ไม่มีอะไรมากมาย
หากไปด้านซ้ายสุด จะไปโผล่ยังโซน Marble Gallery
แต่ให้กลับไปยังโซน Underground Caverns อีกครั้ง

* - - End Saturn Vesion Only - - *

จากนั้นไปทางด้านขวา จะมีทางลงไปด้านล่าง
ด้านขวาสุดจะเจอห้อง Save สีม่วง ???
เมื่อเข้าไปจะเจอกับโซนใหม่ ???

Nightmare

จะเจอ Lisa ซึ่งเป็นแม่ของ Alucard
เธอบอกว่าจะยอมตายเพื่อไถ่โทษ
และบอกให้ Alucard รับฟังข้อความสุดท้ายของเธอ
นั่นคือให้ไถ่บาปให้แก่มนุษย์ โดยการฆ่า...

แต่ Alucard ไม่เชื่อ เพราะแม่ของเขาจะไม่พูดเช่นนี้
และเป็นเช่นนั้นจริงๆ Lisa คือ Succubus ปลอมตัวมา
Boss : Succubus

Level : 25
HP : 666
Exp : 2,000
Strong : Dark
จากนั้นจะกลับมายังโซน Underground Caverns อีกครั้ง
ลงไปด้านล่างขวา จะเจอ Scylla Wyrm โจมตี

เมื่อปราบได้ ขึ้นไปยังห้องด้านบนจะเจอกับ Scylla
Boss : Scylla

Level : 14
HP : 200
Exp : 500
Weak : Thunder
Absorb : Water
วิธีปราบ
ให้ยืนอยู่บนแท่น แล้วใช้ท่า "Hellfire" ยิงใส่
โดยให้ใช้ท่าที่ปล่อยลูกไฟดำ 2 ลูก จะรุนแรงมากกว่า
(โดยการกด "บน" ในขณะที่หายตัว)

Underground Caverns
เมื่อปราบ Boss : Scylla ได้แล้ว ไปด้านซ้ายเรื่อยๆ จะเจอน้ำตก
ห้องด้านซ้ายน้ำตกจะมีสวิทต์
เมื่อกดจะมีโครงกระดูก (Skeleton Ape) ออกมา
มันจะขว้างถังไม้ไปโดนสะพาน ทำให้สะพานไม้พัง
ให้รอสักพักจะมีข้อความปรากฎขึ้นมา
บอกว่า "มีบางอย่างปรากฎใกล้ๆ กับสะพานไม้"

จากนั้นไปทางซ้ายมือของน้ำตก
เดินไปสักครู่จะเจอทางขึ้น ซึ่งจะไปเชื่อมกับโซน Entrance

หากเล่นในระบบ Saturn บริเวณทางเข้า ด้านหน้าของปราสาท
จะมีประตูเล็กๆ บนพื้นเปิดอยู่ สามารถลงไปได้

* - - Begin Saturn Version Only - - *

Underground Garden
(โซนนี้สามารถมาเข้าได้ทุกเมื่อ หลังจากที่ไปโซน Alchemy Laboratory แล้ว)
ซึ่งด้านล่างจะมีบอสอยู่ด้วยตัวหนึ่ง
Boss : Skeleton Leader
Level : 36
HP : 444
Exp : 250
Weak : Holy
เมื่อปราบได้ให้กลับไปยังโซน Underground Caverns อีกครั้ง

* - - End Saturn Vesion Only - - *

กลับลงมายังโซน Underground Caverns
ไปต่อด้านซ้ายจะเจอ Ferryman (คนแจวเรือ)

(บริเวณนี้จะมีเชิงเทียนที่มีถุงเงิน $2,000 ซ่อนอยู่ด้วย)
นั่งเรือไปจนถึงฝั่งด้านซ้าย
จะมี Relic : Merman Statue

กลับไปยังหน้าห้องก่อนที่จะเจอกับ Scylla Wyrm
พื้นด้านล่างสามารถทำลายลงไปได้ (WallSecret09)

ลงไปจะเจอคนแจวเรืออีกครั้ง
(หากมาก่อนที่จะมี Merman Statue จะไม่เจอคนแจวเรือ)

นั่งเรือผ่านไปอีกฝั่งหนึ่ง จะเจอ Relic : Holy Symbol
ซึ่งทำให้สามารถอยู่ในน้ำได้โดย HP ไม่ลด

สำรวจพื้นที่ใต้น้ำให้หมด
แล้วกลับไปยังสะพานไม้ (อยู่ก่อนถึงน้ำตก)
คราวนี้จะมี โครงกระดูกถือถังไม้อยู่ใกล้ๆ
ให้ล่อมันมาบริเวณสะพานไม้
แล้วให้มันโยนถังไม้ให้โดนสะพานไม้
จะทำให้สะพานไม้พัง สามารถลงไปได้ จะเจอโซนใหม่

[size=+3]Abandoned Mine

ลงไปจะเจอบอสทันที
Boss : Cerberos

Level : 24
HP : 800
Exp : 1,500
Weak : Ice
Absorb : Fire
วิธีปราบ
ง่ายมาก ให้ยืนบนแท่น
แล้วขว้าง Sub-weapon ลงมา
ไม่ว่าจะเป็น "Holy Water" หรือ "มือ" ก็ได้
ห้องทางด้านขวาจะมี สวิตช์ อยู่บนมุมด้านขวา
แต่ยังไม่สามารถกดเปิดได้
ให้ลงมาด้านล่าง ห้องด้านซ้ายจะมี Relic : Demon Card

ซึ่งเป็น Familar ให้เรียกใช้ Demon
แล้วกลับไปยังสวิตท์ด้านบน
Demon จะกดสวิตท์ให้ (WallSecret10) สามารถเข้าไปยังห้องด้านขวาได้

ห้องด้านขวาล่าง บริเวณกำแพงด้านซ้ายสามารถทำลายได้
เข้าไปจะเป็นห้องลับ (WallSecret11)

กลับไปยังทางแยก ด้านขวาจะมีทางวาร์ป (รูปงู)
ลงไปด้านล่าง จะเจอโซนใหม่
Catacombs

ไปทางด้านซ้ายจะเจอห้อง Save
ห้องด้านซ้ายห้องเซฟ สามารถทำลายกำแพงได้
จะมี Cat-eye Circlet ซ่อนอยู่
ไปทางด้านขวา จะเจอห้องที่มืด
ให้แปลงร่างเป็นค้างคาว แล้วยิงโซน่า (กดปุ่ม "สามเหลี่ยม")
จะสามารถเห็นทางได้ ซึ่งมีแต่หนาม

ให้บินหลบหนามไปทางด้านขวา จนสุดทาง
ด้านในสุดจะเจอเกราะ Spike Braker
ซึ่งเมื่อสวมใส่ สามารถเดินลุยดงหนามได้

ไปต่อทางด้านซ้ายมือ
ห้องด้านบนจะมีกำแพงที่สามารถทำลายเข้าไปได้ (WallSecret12)

ไปต่อจะเจอบอส
Boss : Granfaloon (Core)

Level : 28
HP : 400
Exp : 3,000
Strong : Dark
Weak : Holy
Boss : Granfaloon (Shell)
HP : 400
Strong : Dark
วิธีปราบ
Granfaloon จะมีเปลือก (Shell) ป้องกันอยู่
ต้องทำลายเปลือกนอกก่อน จึงจะสามารถโจมตีส่วนกลางได้
ให้ขึ้นไปยืนบนแท่นทางด้านซ้ายมือ
แล้วใช้ท่า "Hellfire" หรือ "Tetra Spirit" โจมตี
หรือใช้ Sub-weapon "Axe" หรือ "Holy Cross" ก็ได้

4 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากครับ ไม่มีต่อแล้วหรอครับ เสียดายมากเลย T T

    ตอบลบ
  2. โหย...พึงขุดมาเล่น...อ่านกำลังเพลินเลย...ไม่มีต่อเหรอครับ

    ตอบลบ
  3. บทสรุปแบบเต็มเคยมีไม่รู้เก็บไว้ตรงไหนล่ะตอนสู้กะตัวใข้แซ้บอทใหญ่ประดับและชุดจำไม่ได้ล่ะให้ใส่อะไรบางหลังจากสู้เสร็จแล้วไปเล่นปราสาทกลับหัวหลังจากปราบบอสของปราสาทกลับหัวแล้วเซพเกมเล่นต่อเซพเดิมให้ใสชื่อตัวแซ้ได้ตัวเขามาเล่น

    ตอบลบ
  4. ขาดแฟรี่การ์ดอีกตัวนึง

    ตอบลบ