วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555

คุกสาวแสบหลอกชาวบ้านลงขัน245ปี


วันนี้ (12 เม.ย) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีฉ้อโกงทรัพย์ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้องนายสิมิลัญจ์ หรือภัทรภูมิ ภูมิชนน์ อายุ 42 ปี และ น.ส.พาฝัน หรือเบญญทิพย์ เดโชชัย อายุ 36 ปี ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน
           
โดยคำฟ้องโจทก์บรรยายฟ้องสรุปว่า ระหว่างวันที่ 15 ส.ค.2545-17 มิ.ย.2547 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งสองกับพวกอีกหลายคนที่ศาลลงโทษแล้วได้บังอาจเจตนาทุจริตหลอกลวงประชาชนโดยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ ชักชวนประชาชนให้นำเงินมาร่วมลงทุนธุรกิจส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศ และธุรกิจทำเครื่องเบญจรงค์ส่งจำหน่ายต่างประเทศ โดยจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 120 ต่อปี  ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ ทำให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินมาลงทุนกับจำเลยรวม 49 ราย รวมเป็นเงิน 68,457,000 บาท  ทั้งที่ความจริงแล้วจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งแรงงาน และส่งเครื่องเบญจรงค์จำหน่ายต่างประเทศแต่อย่างใด  เหตุเกิดที่ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี และที่อื่นเกี่ยวพันกัน เบื้องต้นจำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะได้ตกเป็นผู้เสียหายด้วย เนื่องจากถูกน้องชายและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นน้องสะใภ้หลอกให้นำเงินมาลงทุนหลายแสนบาท ส่วนจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ
            
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานโจทก์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้เสียหายเบิกความยืนยัน สอดคล้องกันว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้ชักจูงให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ ส่วนจำเลยที่ 1 ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่ามีส่วนร่วมกระทำผิด จึงพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 5 ปี จำนวน 49 กระทง รวม 245 ปี โดยลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 122 ปี 6 เดือน ซึ่งตามกฎหมายกำหนดโทษจำคุกไว้สูงสุด 20 ปี  และให้คืนเงินจำนวน 68,457,000  บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 คืนให้ผู้เสียหาย  ส่วนนายสิมิลัญจ์ จำเลยที่ 1 พิพากษาให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์.



แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น