"กิเลนผยอง" ไล่ตีเจ๊า "แรบบิท" หืดจับท้ายเกม

"ลีซอ" ยิงทีมเก่า ส่วน "โคเน่ โมฮัมเหม็ด" ฮีโร่ ซัดตีเสมอนาทีที่ 80

ศึกลูกหนัง “ไทยพรีเมียร์ลีก 2012” เลกแรก เมื่อวันที่ 28 มี.ค. อีก 3 คู่ มีผลดังนี้

  ที่สนาม สพล.ชลบุรี “สุภาพบุรุษโล่เงิน” เพื่อนตำรวจ แพ้ “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาน 0-2 จากการทำประตูของ เคลย์ตัน ซิลวา นาทีที่ 63, 66

  ที่สนามกองทัพบก “ตรากงจักร” อาร์มี่ ยูไนเต็ด เฉือนเอาชนะ “กูปรีอันตราย” อีสาน ยูไนเต็ด 1-0 จากการทำประตูของ ธาตรี สีหา นาทีที่ 52

  ที่สนาม เอสซีจี (เมืองทองธานี) “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด เสมอกับ “แรบบิท” บางกอกกล๊าส 2-2 โดย บางกอกกล๊าส ออกนำ 1-0 จาก ซารูตะ นาทีที่ 37 จากนั้น “เจ้าถิ่น” ตามตีเสมอเป็น 1-1 จากจุดโทษของ อัดนัน บาราคัต นาทีที่ 42 ก่อนที่ ธีรเทพ วิโนทัย จะมาโหม่งให้ “กระต่ายแก้ว” ขึ้นนำ 2-1 นาทีที่ 52 แต่ โคเน่ โมฮัมเหม็ด ก็มายิงตีเสมอให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด 2-2 ในนาทีที่ 80

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

มิลานเจ๊าจืดบาร์ซา,เสือใต้บุกชนะ2-0

ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา มีลงสนามฟาดแข้งกัน 2 คู่ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันพุธที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา มีลงสนามฟาดแข้งกัน 2 คู่ เอซี มิลาน เปิดรังเจ๊าจืด บาร์เซโลนา ส่วน บาเยิร์น บุกต้อนนิ่ม มาร์กเซย 2-0

ที่สนามซาน ซิโร สเตเดี้ยม ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี "ปิศาจแดงดำ" เอซี มิลาน เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "แชมป์เก่า" บาร์เซโลนา ที่นำทัพโดย ลิโอเนล เมสซี สตาร์หมายเลขหนึ่งโลกคนปัจจุบัน

รูปเกมเป็น "บาร์ซา" ที่ครองบอลบุกได้มากกว่า ขณะที่ มิลาน เน้นแพ็กเกมเหนียวแน่นตั้งแต่ตรงกลางสนามไปจนถึงหน้าปากประตูของตัวเอง ทำให้ บาร์เซโลนา ปั้นเกมรุกไม่ถนัด เมื่อตัดบอลได้ก็อาศัยจังหวะโต้กลับเล่นงานผู้มาเยือน

เกมโดยรวมค่อนข้างทันกัน เพราะเคยพบกันมาแล้ว 2 นัด ในรอบแบ่งกลุ่ม สุดท้ายก็ทำอะไรกันไม่ได้ มีแค่จังหวะหวาดเสียวไม่กี่ครั้งเท่านั้นตลอด 90 นาที หมดเวลาเสมอกันไปจืดชืด 0-0

ส่วนที่ประเทศฝรั่งเศส โอลิมปิก มาร์กเซย ทีมดังจากลีกเอิง เปิดรังดวลฝีเท้ากับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก ยอดทีมจากศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี

ฟอร์มในช่วงนี้ของทั้งสองทีมสวนทางกัน บาเยิร์น ฟอร์มกำลังร้อนแรง 5 นัดหลังสุด ชนะ 4 เสมอ 1 ยิงได้ 22 เสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น ขณะที่ มาร์กเซย อยู่ในช่วงฟอร์มสุดย่ำแย่ 8 นัดหลังสุด ไม่ชนะใครเลย แพ้ไปถึง 7 เกม ทำให้เป็น "เสือใต้" ที่บุกมาเอาชนะไปได้อย่างสวยสดงดงาม 2-0 ได้ประตูจาก มาริโอ โกเมซ นาที 44 และอาร์เยน ร็อบเบน นาที 69 โอกาสผ่านเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายสดใสมาก เนื่องจากนัดหน้าจะได้กลับไปเล่นที่บ้านของตัวเอง แพ้ 0-1 ก็ยังผ่านเข้ารอบ

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

"เมโล"โชว์นำนิกส์ถล่มเมจิก

"เมโล"เหมา 25คะแนนนำ "นิกส์"เปิดบ้านชนะ"เมจิก"108-86คะแนน และชนะ 8จาก 9เกม ขณะที่ "แรพเตอร์ส" คืนฟอร์มสอย "นักเกตส์"หยุดสถิติแพ้ 9เกมรวด

การแข่งขันบาสเกตบอลเอ็นบีเอ สหรัฐ นัดประจำวันพุธที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) นิวยอร์ก นิกส์ ยังแรงไม่เลิก เปิดเมดิสัน สแควร์ การ์เดน ถล่มเอาชนะ ออร์แลนโด เมจิก ขาดลอย 108-86 คะแนน ทำให้ นิกส์ ชนะ 8 จาก 9 เกมหลังสุด โดยเกมนี้คาร์เมโล แอนโธนี ซูเปอร์สตาร์คนเก่งของเจ้าถิ่น รับบทฮีโร่ เหมาคนเดียว 25 คะแนน

อิมาน ชัมเพิร์ต มี 25 คะแนนให้ นิวยอร์ก เช่นกัน ช่วยให้ทีมขึ้นนำมิลวอกี บักส์ 2 เกมครึ่งในการแย่งอันดับ 8 ของสายตะวันออก ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายเข้าไปเพลย์ออฟ อีกทั้งยังตามหลังฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส และบอสตัน เซลติกส์ แค่ 2 เกมครึ่งเช่นกันในการแย่งอันดับ 1 ของกลุ่มแอตแลนติก ดิวิชั่น

ด้าน เมจิก มี จาเมียร์ เนลสัน ทำ 17 คะแนน และ เจ.เจ. เรดิค 15 คะแนน แต่ทีมโดนรันรวดเดียวถึง 21 คะแนน ในควอเตอร์ 3 ทำให้ ออร์แลนโด แพ้เกมแรก หลังชนะมา 3 เกมรวด

ส่วน โตรอนโต แรพเตอร์ส หาฟอร์มเก่งเจอเสียที หลังเปิดบ้านเอาชนะ เดนเวอร์ นักเกตส์ 105-96 คะแนน ทำให้เจ้าถิ่นหยุดสถิติเลวร้าย แพ้มา 9 เกมรวดลงได้สำเร็จ โดยอังเดร บาร์กานี ทำคนเดียว 26 คะแนน ให้แรพเตอร์ส บวกกับ โฮเซ คัลเดรอน ที่ทำ 10 คะแนน กับ 10 แอสซิสต์ ขณะที่ เดนเวอร์ มี ไท ลอว์สัน ทำสูงสุด 26 คะแนน 9 แอสซิสต์

สำหรับผลคู่อื่น ชิคาโก บุลล์ส ชนะ แอตแลนตา ฮอว์กส์ 98-77, บอสตัน เซลติกส์ ชนะ ยูทาห์ แจซซ์ 94-82, นิวเจอร์ซีย์ เนตส์ ชนะ อินเดียนา เพเซอร์ส 100-84, ดิทรอยต์ พิสตันส์ ชนะ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส 87-75, มินนิโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส์ ชนะ ชาร์ลอตต์ บ็อบแคตส์ 88-83

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

"ริโอ"ตอกกลับ"วิเอรา"อย่าพูดมาก

"ริโอ" สุดเดือด ตอกกลับ "วิเอรา" เงียบปากดีกว่า หลัง "ปั๊ต" ออกโรงจวก "ผีแดง" มักได้รับผลประโยชน์จากผู้ตัดสิน

ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังตัวเก๋าของ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงตอบโต้ ปาทริค วิเอรา อดีตนักเตะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่ตอนนี้เป็นผู้บริหารสโมสร ซึ่งออกมาโจมตีทีมผีแดงว่า มักจะได้รับผลประโยชน์จากการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน

ก่อนหน้านี้ "ปั๊ต" ซึ่งเป็นอดีตกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส และ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล เคยออกมาโจมตี แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้วรอบหนึ่ง ด้วยการตั้งข้อสงสัยเรื่องที่ทีมผีแดง เรียกตัว พอล สโคลส์ อดีตกองกลางของทีม ที่แขวนสตั๊ดไปแล้ว กลับมาใช้งานอีกครั้ง และล่าสุด วิเอรา ก็เปิดปากจวกโจทย์เก่าอีกครั้ง ด้วยการระบุว่า ผู้ตัดสินส่วนใหญ่ในพรีเมียร์ลีกมักจะตัดสินเข้าข้าง แมนฯ ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม เฟอร์ดินานด์ ได้ออกมาตอบโต้ วิเอรา อย่างเผ็ดร้อนผ่านทาง "ทวิตเตอร์" ส่วนตัวว่า "ทำไม วิเอรา ถึงกังวลเกี่ยวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นักนะ 2 คอมเมนต์ ในรอบ 1 สัปดาห์ โอ้ อะไรมันจะขนาดนั้น เงียบไปดีกว่ามั้งพี่ชาย"

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

"อซาเรนกา"แพ้แล้ว-นาดาลชนเมอร์เรย์

"อซาเรนกา" แพ้แล้ว "บาร์โตลี" ดับซ่า 2 เซตรวด ปิ๋ว 8 คน "โซนี อีริคส์สัน" ที่สหรัฐ และแพ้เป็นแมตช์แรกของปี ขณะที่ชายเดี่ยว "นาดาล" เข้าตัด "เมอร์เรย์" ตามคาด

ศึกเทนนิส เอทีพี ทัวร์ และ ดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ รายการโซนี อีริคส์สัน โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 9,656,100 เหรียญ (ราว 290 ล้านบาท) ที่ไมอามี, ฟลอริดา, สหรัฐ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เป็นประเภทชายเดี่ยว รอบก่อนรองชนะเลิศ ปรากฏว่า ราฟาเอล นาดาล มือ 2 ของโลก และของรายการ จากสเปน เฉือนเอาชนะ โจ วิลฟรีด ซองกา มือวางอันดับ 6 จากฝรั่งเศส อย่างสนุก 2-1 เซต 6-2, 5-7, 6-4 ทำให้ "ราฟา" ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ แอนดี เมอร์เรย์ มือวางอันดับ 4 จากสกอตแลนด์ ที่ชนะ ยานโก ทิปซาเรวิช มือ 9 จากเซอร์เบีย 2-1 เซต 4-6, 6-3, 6-4 ต่อไป
 

ด้านประเภทหญิงเดี่ยว รอบ 8 คน ปรากฏว่า เกิดการพลิกล็อกครั้งใหญ่ เมื่อ วิคตอเรีย อซาเรนกา มือ 1 ของโลก และของรายการ จากเบลารุส แพ้ต่อ มาริยง บาร์โตลี จอมอึดมือ 7 จากฝรั่งเศส 2 เซตรวด 3-6, 3-6 ทำให้ "วิกา" วัย 22 ปี ซึ่งเป็นแชมป์เก่า แพ้เป็นแมตช์แรกของปีค.ศ.2012 หลังจากชนะรวดมา 26 แมตช์ และคว้าแชมป์มาแล้วถึง 4 รายการ นับตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้ ขณะที่ บาร์โตลี วัย 27 ปี ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปพบกับ อักนีซกา รัดวานสกา มือ 5 จากโปแลนด์ ที่พลิกเอาชนะ วีนัส วิลเลียมส์ จอมเก๋าของเจ้าถิ่น 2-0 เซต 6-4, 6-1 ต่อไป

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

"เรือใบ"ทุ่ม2พันล้านล่า"ฟัลเกา"

"เรือใบสีฟ้า" โชว์รวยอีกรอบ เตรียมทุ่มไม่อั้นกว่า 2,000 ล้าน กระชากตัว "ฟัลเกา" เสริมแดนหน้า "เดอะ ซัน" แฉ ตั้งโต๊ะคุยกับเอเย่นต์ส่วนตัวแล้ว

"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี ทีมมหาเศรษฐีแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าวเตรียมทุ่มเงินก้อนโตถึง 42 ล้านปอนด์ (ราว 2,100 ล้านบาท) เพื่อซื้อตัว ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้าทีมชาติโคลอมเบียของ "ทีมตราหมี" แอตเลติโก มาดริด มาเสริมทัพ ในช่วงหน้าร้อนนี้
 

ดาวยิงเนื้อหอม เพิ่งย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต ในโปรตุเกส มาร่วมทัพ แอต. มาดริด เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวถึง 34 ล้านปอนด์ (ราว 1,700 ล้านบาท) และสามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดยยิงไปแล้ว 25 ประตู จากการลงเล่น 36 เกม ในฤดูกาลนี้
 

ขณะที่ โรแบร์โต มันชินี ผู้จัดการทีม แมนฯ ซิตี กำลังมองหากองหน้าคนใหม่มาเสริมทัพ เพื่อแทนที่ของ เอดิน เซโก หัวหอกทีมชาติบอสเนีย ที่คาดว่าจะย้ายออกจากถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยมค่อนข้างแน่ หลังจากจบฤดูกาล
 

"เดอะ ซัน" สื่อดังของอังกฤษ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของ แมนฯ ซิตี ได้เปิดการเจรจากับ จอร์จ เมสเดส นายหน้าของ ฟัลเกา เกี่ยวกับการย้ายมาเล่นให้กับทีมเรือใบสีฟ้า ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ล่าสุดยังไม่ได้ข้อสรุปใด ๆ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ ฟัลเกา จะย้ายมาเล่นกับ แมนฯ ซิตี เพราะนอกจากจะได้ค่าเหนื่อยเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังจะได้เล่นกับสโมสรที่ใหญ่กว่า ซึ่งจะทำให้มีโอกาสติดทีมชาติอย่างต่อเนื่องมากกว่าด้วย

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

แมนฯซิตีเลหลังขายเชโก

"แมนฯ ซิตี" จ่อโละทิ้ง "เชโก" "ยูเว่-มาดริด" จ้องรวบต่อ

นสพ. เดลี เมล์ รายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี ตัดสินใจโละทิ้ง เอดิน เชโก กองหน้าร่างยักษ์ออกจากสโมสรหลังจบฤดูกาล เป็นการส่งสัญญาณให้ ยูเวนตุส และ รีล มาดริด ที่มีข่าวว่ากำลังให้ความสนใจศูนย์หน้าชาวบอสเนียรายนี้

เชโก มีโอกาสลงสนามอย่างจำกัดในฤดูกาลนี้ ทำให้เขาเริ่มมองหาต้นสังกัดใหม่ โดย โฮเซ มูรินโญ กุนซือ "ราชันชุดขาว" อยากได้อดีตดาวยิงโวล์ฟสบวร์ก มาเสริมทีมในกรณีที่อาจจะขาย กอนซาโล ฮิกัวอิน ส่วน ยูเวนตุส ก็ต้องการกองหน้าในแบบที่ เอซี มิลานมี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

สุริยัน พลาดยก 3 จบเห่ เข็มขัดกระเด็น

“เจ้าไมค์” สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย เข็มขัดแชมป์โลกกระเด็ด หลังพลาดโดน 2 นับในยก 3 เป็นจุดเปลี่ยนทำให้พ่ายแต้ม โยตะ ซาโตะ เสียแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต WBC ที่ญี่ปุ่น

  “เจ้าไมค์” สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย ขึ้นสังเวียน ป้องกันแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต (115 ปอนด์) สภามวยโลก(WBC) กับ โยตะ ซาโตะ ผู้ท้าชิงรองอันดับ 3 ชาวญี่ปุ่น   เมื่อ 27 มี.ค.  ที่ผ่านมา ที่โครักคูเอ็นฮอลล์ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เปิดฉากการชก 2 ยกแรก ซาโตะ ผู้ท้าชิงที่สูง 171 ซม. สูงกว่าแชมป์โลกชาวไทยถึง 10 ซม. คอยคุมจังหวะดักชก ดักแย็บ ขณะที่ สุริยัน พยามโยกหลอกหาจังหวะเข้าต่อยระยะใกล้ แต่ ซาโตะ หนีเร็วไล่ไม่ทัน ขึ้นยก 3 จังหวะที่พยายามเบียดเข้าต่อย สุริยัน พลาดโดนหมัดขวาตรง แล้วถูกซ้ำอีกชุด ทรุดไปให้กรรมการนับ 8 พอลุกขึ้นมา ก็พยายามเดินลุยแลกหมัดหวังเรียกคะแนนคืน แต่พลาดโดนบวกหมัดร่วงถูกนับ 8 อีกครั้ง

  ยก 4 สุริยัน พยายามเดินลุยอัดลำตัว แต่โดย ซาโตะ ใช้ช่วงชกที่ยาวกว่าดักชกได้หมายหมัด ยก 5-6 สุริยัน เดินบี้อัดลำตัวสลับใบหน้าได้ดี จน ซาโตะ ทำท่าอ่อนออกอาการ แต่ยก 7 กลับมาโดนดักต่อยจากวงนอกหน้าหงายอีก จากนั้นยก 8 ต้นชก ซาโตะ ดักต่อยได้สวย ๆ แต่ปลายยก โดน สุริยัน อัดจนอ่อน ยก 9-10 ซาโตะ มาฮึดแลกด้วย กัดฟันต่อยตามเสียงเชียร์ เล่นเอา สุริยัน โดนไปเยอะเหมือนกัน แต่ก็บวกหมัดสู้ตลอด

  ยก 11-12 สุริยัน พยายามเดิบบดเดินบี้ อัดลำตัวสลับใบหน้า แต่ ซาโตะ ก็คอยบวกหมัดโต้ได้ตลอด แลกกันดุเดือดท่ามกลางเสียงเชียร์ ซาโตะ จากแฟนมวยเจ้าถิ่นกระหึ่ม ครบ 12 ยก กรรมการรวมคะแนนให้ ซาโตะ ชนะคะแนน เป็นเอกฉันท์ได้เป็นแชมป์โลกคนใหม่ในรุ่นนี้ทันที พร้อมร่ำให้ด้วยความดีใจหลังจากทราบผลการชก

  สำหรับการให้คะแนนของกรรมการ 3 คน แจ บอง คิม จากเกาหลีใต้ ให้ ซาโตะ ชนะ  114-112 คะแนน, เรนาเต้ แดนซิโก้ จากฟิลิปปินส์ ให้ ซาโตะ ชนะ 116-110 และ มาตี้ แซมม่อน จากสหรัฐ ให้ ซาโตะชนะ 114-112 โดย “เสี่ยฮุย” นายสุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการนักชกไทย เผยว่า จะสนับสนุนให้ สุริยัน สู้ต่อไป เพราะมี 2 อ็อปชั่นให้แก้มือ และครั้งนี้ สุริยัน ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว เพียงแต่วันนี้โชคไม่ได้อยู่ข้างเรา

ด้าน สุริยัน ที่กลายเป็นอดีตแชมป์โลกกล่าวว่า หมัดขวาของ ซาโตะ ไม่หนักมาก เพียงแต่ตนพลาดไปโดนจัง ๆ เท่านั้น และเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกมการชกเปลี่ยน แต่ก็ยอมรับว่า ซาโตะ เป็นนักชกที่เก่งที่สุดที่จนเคยเจอมา ขณะที่ ซาโตะ เผยว่าดีใจที่สุดที่ล้มแชมป์โลกที่เก่งมากอย่าง สุริยัน ได้ และขอมอบชัยชนะให้พี่น้องชาวญี่ปุ่นทุกคน โดยเฉพาะผู้ประสบภัยสึนามิ ซึ่งบ้านเกิดของตนก็ได้รับภัยสึนามิด้วย

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไก่อัดโบลตัน/ทอฟฟี่บุกเชือดแมวดำลิ่วตัดเชือกเอฟเอ

“ไก่เดือยทอง” ผ่านฉลุยเข้ารอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ หลังเปิดรังอัด “โบลตัน 3-0 ในรอบ 8 ทีม รอบรองฯ ดวล “เชลซี” ส่วน “เอฟเวอร์ตัน” บุกทุบ “แมวดำ” 2-0 ผ่านเข้าไปดวลแข้ง “หงส์แดง”

ไก่ทุบโบลตันนิ่มลิ่วตัดเชือกเอฟเอ
ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันอังคารที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เปิดรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน รับการมาเยือนของ “เดอะ ทร็อตเตอร์ส” โบลตัน วันเดอเรอร์ส โดยเกมคู่นี้ถูกเลื่อนมาจากเมื่อวันเสาร์สุดสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ที่ ฟาบริซ มูอัมบา นักเตะ โบลตัน หมดสติกลางสนามเนื่องจากอาการหัวใจวาย ในช่วงปลายครึ่งแรก จนเกมดังกล่าวต้องถูกยกเลิก ก่อนจะกลับมาเตะกันใหม่ในวันนี้
เกมนัดนี้ ผลปรากฏว่าเป็น “ไก่เดือยทอง” เจ้าถิ่น ที่เอาชนะไป 3-1 โดยได้ประตูจาก ไรอัน เนลเซน นาที 74, แกเรธ เบล นาที 77 และ หลุยส์ ซาฮา นาทีที่ 90 ส่วนทีมเยือนได้ประตูเดียวจาก เควิน เดวีส์ ในนาทีที่ 89 จากชัยชนะในเกมนี้ ส่งผลให้ สเปอร์ ได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ โดยจะเข้าไปเจอกับ เชลซี ที่สนามเวมบลีย์ ในวันอาทิตย์ที่ 15 เม.ย. นี้

ทอฟฟี่แจ่มบุกถอนขนแมวดำลิ่วเจอหงส์
ส่วนอีกคู่ เป็นการเล่นในนัดแข่งใหม่ “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ เปิดรัง สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ รับการมาเยือนของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน หลังจากเกมแรกเสมอกันมา 0-0 โดยเกมนี้เป็น เอฟเวอร์ตัน ที่บุกมาชนะ 2-0 โดยได้ประตูจาก นิกิซา เยลาวิช นาทีที่ 24 และการทำเข้าประตูตัวเองของ เดวิด วอห์น นักเตะของ ซันเดอร์แลนด์ ในนาทีที่ 57 ส่งผลให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ได้ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปทำศึก “เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์” กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โดยจะฟาดแข้งกันที่สนามเวมบลีย์ ในวันเสาร์ที่ 14 เม.ย. นี้

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

เชลซี/ชุดขาวควงแขนคว้าชัยนอกบ้านส่อลิ่วตัดเชือกชปล.

กาลู” ซัดประตูโทนนำ “เชลซี” บุกเฉือน “เบนฟิกา” 1-0 ในเกมรอบ 8 ทีม “แชมเปี้ยนส์ ลีก” นัดแรก โอกาสลิ่วตัดเชือกสูง เช่นเดียวกับ “ราชันชุดขาว” ที่บุกยำ “อาโปเอล” ขาดลอย 3-0

เชลซีเจ๋งบุกเฉือนเบนฟิกา1-0
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา “เหยี่ยวลิสบอน” เบนฟิกา ยอดทีมจากลีกโปรตุเกส เปิดสนาม เอสตาดิโอ ดา ลุซ ในกรุงลิสบอน รับการมาเยือนของ “สิงห์สำอาง” เชลซี ยักษ์ใหญ่จากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยเจ้าถิ่นมี ออสการ์ คาร์โดโซ ดาวยิงทีมชาติปารากวัยลงเป็นกองหน้า ขณะที่ทีมเยือนนั้น โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ กุนซือชั่วคราวของทีมเลือกใช้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ลงเล่นเป็นหัวหอกตัวเป้า ขณะที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เป็นตัวสำรอง

เริ่มครึ่งแรก ทั้ง 2 ทีมเล่นกันได้อย่างสูสี แต่ยังยิงประตูกันไม่ได้ จบ 45 นาทีแรกเสมอ 0-0 เข้าสู่ครึ่งหลัง ถึงนาทีที่ 75 ทีมเยือนมาได้ประตูชัยจากจังหวะที่ ตอร์เรส เปิดให้ ซาโลมง กาลู ชาร์จจ่อ ๆ ตุงตาข่าย จบเกม เชลซี บุกชนะ 1-0 กุมความได้เปรียบก่อนกลับไปเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถิ่นของตัวเองในเกมนัดที่ 2 ในวันพุธที่ 4 เม.ย. นี้

ชุดขาวบุกถลุงอาโปเอล3-0จ่อลิ่ว
ส่วนอีกคู่ อาโปเอล นิโคเซีย ทีมม้ามืดจากไซปรัส เปิดสนาม นีโอ จีเอสพี ในกรุงนิโคเซีย รับการมาเยือนของ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด อดีตแชมป์รายการนี้ 9 สมัยจากสเปน โดยเกมนี้ครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0 แต่ในครึ่งหลัง ทีมเยือนมาเร่งเครื่องยิง 3 ประตูจาก คาริม เบนเซมา คนเดียว 2 ลูกในนาทีที่ 74 และ 90 ส่วนอีกลูกเป็นผลงานของ กากา ในนาทีที่ 82 จบเกม รีล มาดริด บุกชนะ 3-0 กุมความได้เปรียบก่อนกลับไปเล่นนัดที่ 2 ที่ถิ่น ซานติอาโก เบร์นาเบว ของตัวเองในวันพุธที่ 4 เม.ย. นี้

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th