วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตะลึง!ถ่ายติดวิญญาณโชเฟอร์ตุ๊กตุ๊กสุดชัด


วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายวีระ ภูลำไย อายุ 18 ปี ชาว ต.แหลมฟ้าฝ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการว่า ได้ถ่ายภาพติดวิญญาณของลุงโชเฟอร์รถตุ๊กตุ๊กที่เกิดอุบัติเหตุถูกรถสองแถวชนเสียชีวิตไว้ได้ โดยมีหลักฐานเป็นภายถ่ายในโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อเจโฟน จึงรีบเดินทางไปพิสูจน์เรื่องราวลี้ลับทันที โดยพบว่าภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือของนายวีระเป็นภาพของชายสูงอายุ รูปร่างผอมสูง ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ กำลังยืนเอามือเท้าสะเอว มองดูซากรถตุ๊กตุ๊กในสภาพพังยับเยิน 
 
นายวีระ เล่าอย่างตื่นเต้นว่า ช่วงบ่ายวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกับเพื่อนกำลังขี่รถ จยย.ไปหาพี่ชายที่บ้านพักย่านวัดแหลมใน ต.แหลมฟ้าผ่า มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกันและมีผู้เสียชีวิต ที่บริเวณปากซอยอำเภอ หน้าสวนอาหารบุญชู หมู่ 6 ต.แหลมฟ้าผ่า ด้วยความที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ จึงชักชวนเพื่อนขี่รถ จยย.ไปดู แต่เมื่อไปถึงพบเพียงซากรถตุ๊กตุ๊กจอดอยู่ที่ริมถนน โดยไม่มีใครอยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุแม้แต่คนเดียว เบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยได้เคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตออกไปแล้ว จึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปรถตุ๊กตุ๊กไว้ 2 รูป เพื่อเก็บไปให้คนที่บ้านและเพื่อน ๆ ในกลุ่มดู
 
หนุ่มเมืองปากน้ำ เล่าต่อว่า หลังจากนั้นก็ไม่ได้เปิดภาพในโทรศัพท์มือถือ จนกระทั่งในช่วงเช้าวันนี้ตนได้หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูเล่น เมื่อเปิดเข้าไปเห็นภาพรถที่ถ่ายไว้ในวันเกิดเหตุถึงกับต้องตกตะลึง เมื่อพบว่ามีชายยืนอยู่ข้างรถทั้งที่จำได้ว่าขณะที่ถ่ายรูปในวันเกิดเหตุไม่มีใครยืนอยู่ จึงรีบนำภาพในโทรศัพท์ไปให้เพื่อนๆ และแม่ค้าที่ตลาดดู ซึ่งทุกคนต่างพากันตกใจและพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชายในภาพคือนายวิชา พริ้งชัยภูมิ โชเฟอร์รถตุ๊กตุ๊กที่ถูกรถชนเสียชีวิต เนื่องจากก่อนนายวิชา จะเสียชีวิต แม่ค้าในตลาดหลายคนเคยใช้บริการรถตุ๊กตุ๊กของลุงวิชาว่าจ้างให้ไปส่งตามที่ต่าง ๆ สร้างความตกตะลึงและทำให้ทุกคนที่ทราบเรื่องต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา ถึงเรื่องราวอันน่าขนลุกในครั้งนี้
 
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่านายกรกต พริ้งชัยภูมิ อายุ 27 ปี ลูกชายของลุงวิชาได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.จักรพงศ์ ขุนพรหม พงส.(สบ 3) สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เพื่อขอเอกสารเกี่ยวกับการเสียชีวิตของบิดา จึงเดินทางไปที่โรงพัก พร้อมนายวีระ เจ้าของภาพถ่ายติดวิญญาณ เมื่อไปถึงนายวีระ ได้นำภาพถ่ายให้นายกรกต ดู ซึ่งทันทีที่เห็นภาพถ่ายในโทรศัพท์ นายกรกต ถึงกับร้องไห้ออกมา และยืนยันว่าชายคนดังกล่าวในภาพคือพ่อของตน สร้างความขนลุกขนพองให้กับทุกคนในโรงพักทั้งตำรวจที่เข้าเวรอยู่ รวมทั้งประชาชนที่มาติดต่อราชการด้วย
 
นายกรกต กล่าวว่า ชายที่ปรากฏในภาพถ่ายคือพ่อตนแน่นอน กางเกงที่สวมใส่ก็เป็นชุดที่พ่อสวมในวันเกิดเหตุ ส่วนภาพที่เห็นนั้นคิดว่าพ่อคงเป็นห่วงรถ เนื่องจากโดยปกติพ่อจะเป็นคนรักรถมาก จะล้างรถทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็นทุกวันหลังจากเลิกงาน เพราะเป็นรถที่ใช้หาเลี้ยงชีพมานานหลายปี พ่อคงอาลัยและเป็นห่วงรถจึงมาดูเป็นครั้งสุดท้าย.

พระราชินีเสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลวันมาฆบูชา


วันนี้ 7 (มี.ค.) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา และทรงสดับพระธรรมเทศนา ซึ่งสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม แสดงถวายเรื่อง สัมมาสติกถา หรือ การเจริญสติโดยชอบ ณ พระอุโบสถวัดพิชยญาติการาม แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน

ขณะเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ไปในการทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในโอกาสนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา โดยเสด็จในการนี้ด้วย

ส่วนที่องค์พระปฐมเจดีย์  อ.เมือง จ.นครปฐม  พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีบรรพชาเยาวชนผู้รับทุนมูลนิธิ ร่วมจิตน้อมเกล้าฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสทรงเจริญ พระชนมพรรษา 80 พรรษา

สถานที่ในข่าว


ปลูกมะนาว บนต้นตอส้มต่างประเทศทนน้ำท่วม - บอกกล่าวเล่าขาน


ที่ผ่านมาในอดีตการปลูกมะนาวของเกษตรกรไทยนิยมปลูกโดยใช้กิ่งตอนหรือกิ่งปักชำโดยคิดว่าต้นเจริญเติบโตและให้ผลผลิตเร็ว โดยไม่ได้นึกถึงปัญหาในเรื่องของระบบรากที่ไม่แข็งแรงเพราะมีแต่รากฝอย เมื่อต้นมะนาวเริ่มให้ผลผลิตเต็มที่มักจะพบปัญหาว่าต้นมะนาวทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากมีภาระเลี้ยงผลมาก ที่สำคัญในปี พ.ศ.2554 ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบปัญหามหาอุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ภาคการเกษตรได้รับความเสียหายอย่างยับเยิน เกษตรกรที่ปลูกมะนาวโดยใช้กิ่งตอนน้ำท่วมขังเพียงไม่กี่วัน พบว่าต้นมะนาวยืนต้นตายเกือบทั้งหมด ในขณะที่เกษตรกรที่ปลูกต้นมะนาวโดยใช้กิ่งเสียบยอดบนต้นตอส้มต่างประเทศรอดตายหลายรายเนื่องจากมีระบบรากที่แข็งแรง

ในแวดวงของนักวิชาการเกษตรและเกษตรกรผู้ปลูกมะนาวในเชิงพาณิชย์ต่างก็ยอมรับกันว่า มะนาวพันธุ์แป้นดกพิเศษซึ่งมีลักษณะผลและคุณภาพเหมือนกับพันธุ์แป้นรำ ไพทุกประการ แต่ผลผลิตดกกว่า 4-5 เท่า ในอายุต้นที่เท่ากันและมีการติดผลเป็นพวง เป็นพันธุ์ที่ตลาดต้องการผลผลิตมากที่สุด เนื่องจากพันธุ์ที่ออกดอกและติดผลง่าย ขนาดของผลค่อนข้างโต เปลือกผลบางและมีปริมาณน้ำในผลมาก มีอายุตั้งแต่ออกดอกจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ที่สำคัญมะนาวพันธุ์แป้นดกพิเศษสามารถบังคับให้ออกฤดูแล้งได้ง่ายมาก ในช่วงปลายปี 2554 เป็นต้นมาจนมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ราคามะนาวแป้นดกพิเศษขายจากสวนได้ราคาแพงมากเฉลี่ยผลละ 2-3 บาท เมื่อขายถึงผู้บริโภคราคาเฉลี่ยผลละ 5 บาท นับเป็นปีทองของชาวสวนมะนาวอีกครั้งหนึ่ง
การทำสวนมะนาวที่ปลูกด้วยกิ่งตอนนั้นอายุไม่ยืนยาว เฉลี่ยอายุประมาณ 3-5 ปีก็ตาย เกษตรกรจำเป็นต้องปลูกใหม่ ถ้าคิดการลงทุนปลูกใหม่ก็มีค่าใช้จ่ายมิใช่น้อย ทางเลือกใหม่ของเกษตรกรที่คิดจะลงทุนปลูกมะนาวแป้นอย่างยั่งยืน โดยที่ต้นมะนาวควรจะมีอายุยืนอย่างน้อย 10 ปีขึ้นไป  ควรจะใช้ต้นตอส้มต่างประเทศ เช่น ทรอยเยอร์, สวิงเกิล, โวลคา-เมอเรียน่า ฯลฯ เป็นต้นตอซึ่งมีข้อมูลยืนยันทางวิชาการว่าทนทาน
โรครากเน่าและโคนเน่าได้ดี เนื่องจากมีระบบรากที่แข็งแรงและมีรากแก้ว เทคนิคในการเสียบยอดให้ใช้ต้นตอส้มทรอยเยอร์ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 เซนติเมตร ตัดยอดต้นตอส้มให้สูงจากพื้นดินประมาณ 15 เซนติเมตร จากนั้นนำกิ่งมะนาวพันธุ์แป้นดกพิเศษเสียบยอดด้วยวิธีการผ่าลิ่มให้แผลมีความยาวประมาณ 1 นิ้ว ใช้เวลาประมาณ 45 วัน ยอดที่เสียบจะแตกยอดใหม่ออกมา

เป็นที่ทราบกันดีว่าการปลูกมะนาวในเชิงพาณิชย์ในปัจจุบันนี้ตลาดมีความต้องการมะนาวพันธุ์แป้นรำไพและพันธุ์แป้นดกพิเศษมากที่สุด และการเลือกใช้กิ่งพันธุ์มะนาวได้เปลี่ยนจากการใช้กิ่งตอนมาใช้กิ่งเสียบยอดบนต้นตอส้มต่างประเทศ เนื่องจากต้นมีความสมบูรณ์แข็งแรงและอายุยืนยาวกว่าปลูกด้วยกิ่งตอน.

แสดงความคิดเห็น


ชงครม.จัดซื้อ"แท็บเล็ต"แบบลงนามเอ็มโอยู


เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) กล่างถึงการจัดซื้อแท็บเล็ตว่า  ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ภูเก็ตวันที่ 20 มี.ค.นี้ ตนจะเสนอเรื่องการจัดซื้อคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตามโครงการ One Tablet PC Per Child โดยจะเปลี่ยนวิธีการจัดซื้อจากระบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (Government to Government) หรือจีทูจี มาเป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือเอ็มโอยู ซึ่งการปรับเปลี่ยนดังกล่าวเป็นไปตามข้อหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และกระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งจะเสนอต่อคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ(กวพ.) เพื่อขอจัดซื้อโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการประมูลผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ หรือ อีอ๊อกชั่น ทั้งนี้การจัดซื้อดังกล่าวทางกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ลงนามในเอ็มโอยู และกระทรวงไอซีทีจะเป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อ
ศ.ดร.สุชาติ กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดซื้อ เนื่องจากแต่ละหน่วยงานให้คำจำกัดความของระบบจีทูจีไม่เหมือนกัน บางหน่วยงานเห็นว่าจะต้องมีความเข้มกว่านี้ โดยรัฐบาลจีนจะต้องนำแท็บเล็ตมาส่งให้แก่รัฐบาลไทย ซึ่งตนเห็นว่าจะให้รัฐบาลจีนมารับผิดชอบและรับประกันบริษัทที่ได้รับเลือกคงทำไม่ได้ แต่รัฐบาลจีนจะคอยช่วยเหลือและดูแลให้ได้ และที่สำคัญการจัดซื้อด้วยวิธีเอ็มโอยูจะเป็นการป้องกันการวิ่งเต้นติดสินบนในการประมูลด้วย ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าเวลาที่เหลืออีก 2 เดือนจะแจกให้แก่นักเรียนไม่ทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 นั้น ตนเองก็รู้สึกเป็นห่วงเหมือนกัน แต่ก็จะพยายามทำให้ทันก่อนเปิดภาคเรียน
ต่อข้อถามว่า การเปลี่ยนมาใช้การจัดซื้อด้วยวิธีเอ็มโอยูเพื่อป้องกันการวิ่งเต้น แสดงว่าก่อนหน้านี้มีการวิ่งเต้นติดสินบนแล้วใช่หรือไม่ ศ.ดร.สุชาติ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ตนหมายความว่าถ้าไม่ซื้อภายใต้รัฐบาลต่อรัฐบาล และให้จัดซื้อภายในก็อาจจะเกิดปัญหาที่เราคาดไม่ถึง และการจัดซื้อในครั้งนี้เป็นโครงการแรกที่มีการจัดซื้อแท็บเล็ตเป็นล้านเครื่อง จึงกลัวว่าจะมีการวิ่งเต้นให้สินบนจากการประมูล

“อั้ม-นัท”โต้ออกงานคู่ถี่ เขินไม่กล้ารับละครคู่กัน



ตั้งแต่เปิดตัวเรียกกันว่า “แฟน” ก็ดูเหมือนว่าความรักของพระเอกหนุ่ม อั้ม-อธิชาติ ชุมนานนท์ กับหวานใจรุ่นพี่อย่าง สาว นัท-มีเรีย เบนเนเดดตี้ จะหวานขึ้นทุกวัน ๆ แถมยังควงกันออกงานคู่ถี่อีกด้วย ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวทั้งคู่ในงาน “ฉลองครบรอบ 65 ปี เวสป้า” ที่สนามม้านางเลิ้ง ทั้งคู่เลยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า

อั้ม เผยว่า “มางานนี้ก็ต้องเรียกเขาว่าน้องก๊อยครับ สก๊อย (หัวเราะ)” นัทเสริม “วันนี้ก็เปลี่ยนบรรยากาศนะคะ ปกติก็จะอยู่แต่ในห้องแอร์ วันนี้ก็ได้บรรยากาศแบบขี่เวสป้า รอบกรุงเลย” ตัดสินใจนานมากไหมกว่าจะรับงานคู่กัน? “จริง ๆ งานนี้ไม่ได้ตัดสินใจนานหรอกค่ะ เพราะด้วยคอนเซปต์แล้วเราชอบ เพราะอั้มก็ขี่มอเตอร์ไซค์ เราก็เป็นสก๊อยอยู่ (หัวเราะ)” อั้มเสริม “ตอนแรกเขาก็กลัวร้อนอยู่ แต่พอไป ๆ มา ๆ โพสท่าถ่ายรูปตลอดทางเลย” ช่วงนี้ดูออกงานคู่กันบ่อยขึ้น? อั้มรีบตอบ “จริง ๆ ก็คือเวลาเราได้ แล้วงานเราก็ไม่ได้บ่อยมาก ตั้งแต่เจอกันคราวที่แล้วเอง” จริง ๆ มีติดต่อมาเยอะไหม? นัท : “จริง ๆ ก็มีติดต่อมาบ้าง แต่ว่าเราไม่สามารถไปได้ทุกงาน ก็มีที่ไม่ได้ไปบ้างเหมือนกัน แต่งานนี้คอนเซปต์มันน่ารัก แล้วก็ได้ทำกิจกรรมที่ทำให้รู้ว่าจริง ๆ ประเทศไทยมีอะไรน่าดูเยอะ” หลังจากงานช่อง 3 หลายคนมองว่าเราหวานขึ้น เพราะอั้มตอนเตะบอล อั้มพูดว่า “ลูกนี้เพื่อนัท”? อั้มรีบตอบ “คือปีหน้าเนี่ยจะพูดตอนยิงเข้าแล้ว ดีไหมครับ” ไปเชียร์กันถึงขอบสนามเลย? “เป็นธรรมดาค่ะ นัทว่าไม่ว่าใครนะ เราว่าใครคบกัน ก็ต้องไปให้กำลังใจกันอยู่แล้วเนอะ แต่วันนั้นอาจจะโดนแซวหน่อย เพราะว่าคุณอั้มพูดไปนิดหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ก็ไม่หรอกค่ะ เขาแกล้ง ๆ”

จริง ๆ มีงานถ่ายแบบติดต่อมาบ้างไหม เพราะว่าซัมเมอร์แล้ว? นัท : “ไม่มี ๆ ค่ะ เพิ่งถ่ายเมื่อเดือน ก.พ. ก็ยังไม่มีอะไร ตอนนี้เป็นงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปก่อนค่ะ ก็ขอบคุณที่ให้ความสนใจและติดตาม” แล้วงานโฆษณาล่ะ? นัท : “ก็ต้องลองไปถามดูนะคะ คือเราก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องงานคู่หรอกค่ะ แต่ถ้ามีก็จะลองดูอีกทีนะคะ ว่าอันไหนมันเหมาะกับเรา” ถ้าเป็นงานละครติดต่อมาจะรับไหม? “ถ้าให้นัทเล่นละครสองคน นัทยังไม่กล้าเล่นนะในความรู้สึก คืออั้มเขาได้ เพราะเขาเล่นละครบ่อย แต่นัทนาน ๆ เล่นที” อั้มเสริม “ก็อาจจะต้องมีปรับตัวกันบ้าง เพราะว่าเวลาคนที่ใกล้ชิดสนิทกัน ต้องทำงานด้วยกัน ก็ต้องมีเขิน ๆ บ้างเป็นธรรมดา กลัวบทตบจูบจะเล่นไม่ได้” นัทกล่าวต่อ “ถ้างานละครยังไม่มีค่ะ เอาเป็นงานอื่น ๆ ดีกว่านะ ค่อย ๆ เขยิบ ๆ ไปดีกว่าค่ะ (ยิ้ม)”.

แสดงความคิดเห็น


ผู้คุมตาไวตะครุบโจ๋แสบแอบโยนมือถือข้ามคุก


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 มี.ค. นายนิมิต ทัพวนานต์ ผบ.เรือนจำอ่างทอง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำสามารถควบคุมตัวคนร้ายลักลอบแอบโยนสิ่งของเข้ามาในเรือนจำอ่างทอง จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าทีเรือนจำกำลังควบคุมตัวนายนก (นามสมมติ) อายุ 19 ปี พร้อมของกลางห่อกระดาษที่โยนเข้ามาในเรือนจำ 1 ห่อใหญ่ ภายในมีโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง ที่ชาร์จแบตเตอรี่ 3 เครื่อง ซิมโทรศัพท์ 1 ซิม และมีดดาบอีก 1 เล่ม
       
จากการสอบสวนนายกฤษณะ อ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรกโดยได้รับการติดต่อจากนายสถาพร หรือเต้ ดาวยกให้นำโทรศัพท์ไปโยนข้ามกำแพงเรือนจำและจะมี น.ช.จักกาจ ดาวยก พี่ชายนายสถาพร ติดอยู่ในเรือนจำมาคอยรับ โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 1 หมื่นบาท โดยมีนายสถาพร เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนตนเป็นคนซ้อนท้าย เพื่อโยนโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำ แต่มีผู้คุมเรือนจำผ่านมาเห็น จึงถูกจับกุมไว้ได้ และส่งตัวไปดำเนินคดีต่อไป.
วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม 2555 เวลา 23:00 น.
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 มี.ค. นายนิมิต ทัพวนานต์ ผบ.เรือนจำอ่างทอง เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำสามารถควบคุมตัวคนร้ายลักลอบแอบโยนสิ่งของเข้ามาในเรือนจำอ่างทอง จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าทีเรือนจำกำลังควบคุมตัวนายนก (นามสมมติ) อายุ 19 ปี พร้อมของกลางห่อกระดาษที่โยนเข้ามาในเรือนจำ 1 ห่อใหญ่ ภายในมีโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง ที่ชาร์จแบตเตอรี่ 3 เครื่อง ซิมโทรศัพท์ 1 ซิม และมีดดาบอีก 1 เล่ม
       
จากการสอบสวนนายกฤษณะ อ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรกโดยได้รับการติดต่อจากนายสถาพร หรือเต้ ดาวยกให้นำโทรศัพท์ไปโยนข้ามกำแพงเรือนจำและจะมี น.ช.จักกาจ ดาวยก พี่ชายนายสถาพร ติดอยู่ในเรือนจำมาคอยรับ โดยจะได้รับค่าจ้างครั้งละ 1 หมื่นบาท โดยมีนายสถาพร เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนตนเป็นคนซ้อนท้าย เพื่อโยนโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำ แต่มีผู้คุมเรือนจำผ่านมาเห็น จึงถูกจับกุมไว้ได้ และส่งตัวไปดำเนินคดีต่อไป.

“นุ่น”รับเคยทะเลาะ “ท็อป”ถี่ แต่ดีขึ้นแล้ว-คบแบบไม่คาดหวัง


เป็นอีกคู่รักที่คบหากันมานานพอสมควร สำหรับ ท็อป-พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร และ นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ที่ล่าสุดหนุ่มท็อปได้บอกว่าช่วงนี้ทะเลาะกันถี่และไม่เข้าใจกัน งานนี้สาวนุ่น ยอมรับว่าจริง แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว เพราะต่างคนต่างโตและมีเหตุผลมากขึ้น รวมทั้งเลิกคาดหวังซึ่งกันและกัน ส่วนเรื่องวิวาห์ต้องพับไปก่อน เพราะยังไม่เคยได้คิด
กันเลย

นุ่น เผยว่า “ก็เคยทะเลาะกันถี่จริง แต่ตอนนี้ก็ดี มันแตกต่างกันอยู่แล้ว คนเราไม่มีความเห็นที่มันสอดคล้องกันได้ทุกเรื่อง แต่ว่าเราใช้เวลาและพยายามปรับความเข้าใจ ตอนนี้ก็มีบ้าง แต่นุ่นว่ามันเหมือนเราลดความคาดหวัง และสบาย ๆ มากขึ้น ช่วงนี้ก็เลยสบาย” ไม่ได้รุนแรงขนาดมีปากเสียง? “ไม่มีค่ะ มันเป็นเรื่องของความเห็นมากกว่า คือไม่อยากพูดคำนี้เลย แต่รู้สึกว่าตัวนุ่นเองแก่แล้ว (หัวเราะ) และมีเหตุผลมากขึ้น ก็ใช้เหตุผลมาคุยกันแบบผู้ใหญ่” หลังจากทะเลาะกันมีปรับตัวเข้าหากันมากกว่าเดิมมั้ย? “นุ่นว่ามันคงแก่และเหนื่อยเลยไม่มีแรงทะเลาะหรือเปล่า ล้อเล่นนะคะ โตมากกว่าค่ะ เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไร ก็เป็นเรื่องปกติของคู่รัก คืออย่างรุ่นคุณพ่อคุณแม่บางทีความเห็นก็ไม่ตรงกัน ก็เป็นปกติ ไม่ได้เก็บมาซีเรียส” คุยเรื่องแต่งงานกันบ้าง
มั้ย? “ไม่เคยเลยค่ะ โชคดีมาก แต่ส่วนมากที่คุยก็จะเป็นเวลาที่ออกงานแล้วเราชอบโดนถาม คือเรื่องแต่งงาน คงอีกนาน เพราะว่าเรายังไม่ได้คิดเลยค่ะ”.

แสดงความคิดเห็น