วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ศธ.ยันไม่ปรับเกณฑ์รับนร.ปีนี้เพื่อความโปร่งใส-ยุติธรรม




กระทรวงศึกษาธิการยืนยันไม่ปรับเกณฑ์รับนักเรียนปีนี้ เพื่อความยุติธรรมทุกฝ่ายและโปร่งใสอย่างแท้จริง
วันนี้ ( 17 พ.ค.)  ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช  รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีผู้ปกครองและนักเรียน ม.3 ร.ร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบการแทรกสิทธิ์เข้าเรียนต่อระดับ ม.4 ของนักเรียน ม.3 เดิมที่ศธ.ได้ออกประกาศการรับนักเรียนไปแล้วตั้งแต่เดือนมกรคาว่า ขั้นตอนการรับนักเรียนในโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูง 280 โรงเรียน มีขั้นตอนและหลักเกณฑ์อย่างไรบ้าง  ขณะที่ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดมหกรรมตลาดนัดเรียนต่อชั้น ม.1 และ ม.4 ที่เมืองทองธานี เพื่อให้นักเรียนได้ลองทดสอบข้อสอบของโรงเรียนที่ตั้งใจจะเข้าเรียน เพื่อมีความชัดเจนแล้วว่า ศธ.รักษาความยุติธรรมในส่วนนี้

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า  ทั้งนี้ สพฐ.ยังมีโรงเรียนคู่พัฒนาและโรงเรียนเครือข่าย โดยเฉพาะนักเรียนที่สอบเข้าโรงเรียนที่มีอัตราการแข่งขันสูงไม่ได้ สามารถเลือกเข้าเรียนได้ เพราะเวลานี้ที่นั่งยังไม่เต็ม แต่เข้าใจว่าผู้ปกครองต้องการให้ลูกหลานเข้าเรียนในโรงเรียนดี ๆ เด็กจึงต้องแข่งขันกัน ดังนั้นการที่ตนประกาศให้ทุกเรื่องทุกขั้นตอนต้องมีความโปร่งใสเป็นเรื่องที่ยุติธรรมที่สุดแล้ว แต่ถ้าจะต้องไปปรับอะไรต่าง ๆ ให้รองรับความต้องการของทุกคน จะก่อให้เกิดความไม่ยุติธรรม เกิดการฝากเด็กคะแนนไม่ถึงเข้าเรียน ทำให้เด็กที่สอบได้ถูกเบียดหลุดออกไป

“แต่ละโรงเรียนจะมีเกณฑ์รับม.3 เดิมขึ้น ม.4 เป็นรายกรณีไป แต่ส่วนใหญ่จะใช้เกณฑ์ 80 เปอร์เซ็นต์ หมายถึง ม.3 ขึ้น ม.4 โรงเรียนเดิมได้ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ด้วย อาทิ ต้องมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าที่โรงเรียนนั้น ๆ กำหนด ส่วนที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นการสอบ แน่นอนว่าจะต้องมีเด็กที่ไม่ได้รับการคัดเลือก เพราะถ้าคัดเลือกหมดคงไม่ต้องมีการสอบ อย่างไรก็ตามเด็กที่พลาดหวังยังสามารถเรียนต่อได้ในโรงเรียนคู่พัฒนา และโรงเรียนเครือข่าย”  รมว.ศึกษาธิการ  กล่าว

ตร.สภ.นครชัยศรี จับยาบ้าได้ระเบิดแถม






ตร.สภ.นครชัยศรี พร้อมกำลังชุดปราบปรามยาเสพติดเข้าจับกุม 2 หนุ่มอาชีพรับจ้างพบของกลางยาบ้า 6 เม็ด ระเบิดเอ็ม 26 หรือลูกเกลี้ยง และลูกระเบิดแบบทำเอง 4 ลูก สารภาพยาบ้าซื้อมาจำหน่าย ส่วนระเบิดเป็นของเพื่อนที่เสียชีวิตไปแล้วฝากไว้
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 17 พ.ค.55  พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาร รอง ผกก.ป.สภ.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พร้อมกำลังชุดปราบปรามยาเสพติดเข้าจับกุม นายเก่ง เหล็งยินดี อายุ 33 ปี อาชีพรับจ้างฆ่าไก่ อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 1 ต.ศรีมหาโพธิ์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และนายอำพันธ์ ชูราศี อายุ 42 ปี อาชีพรับจ้างเดินสายไฟ อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ 5 ต.ศรีมหาโพธิ์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พร้อมของกลางยาบ้า 6 เม็ด ระเบิดเอ็ม 26 หรือลูกเกลี้ยง  และลูกระเบิดแบบทำเอง 4 ลูก โดยจับกุมได้บริเวณเพิงพัก หมู่ 2 ต.ศรีมหาโพธิ์ อ.นครชัยศรี จึงรายงาน พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ สกุลวิวรรธน์ ผกก.สภ.นครชัยศรี เข้ามาสอบปากคำ ให้การรับสารภาพยาบ้าซื้อมาจำหน่ายให้กับเพื่อนร่วมงาน ส่วนระเบิดเป็นของนายอนุชิต หรือโอเว่น อำพา อายุ 22 ปี ฝากไว้ก่อนถูกคนร้ายยิงถล่มเสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 พ.ค.55 เวลา 05.30 น.

พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาร รอง ผกก.ป.สภ.นครชัยศรี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากสายลับ จะมีการซื้อขายยาบ้าบริเวณดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าไปดักซุ่มและก็เจอผู้ต้องสงสัยจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และขยายผลต่อไปที่นายอำพันธ์ฯ พาเข้าไปค้นในห้องนอนพบระเบิดดังกล่าว เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีวัตถุระเบิดต้องห้ามไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย


ฆ่าโหดอดีตผญบ.เมืองเพชรดับสยองกลางตลาด





มือปืนอำมหิต บุกยิงถล่มอดีตผู้ใหญ่บ้านกลางเมืองท่ายางดับสยอง พุ่งเป้าขัดแย้งหลายอย่าง ตร.เร่งสืบสวนล่าตัวคนร้ายมารับผิด
วันนี้ (18พ.ค.) เวลา 06.00 น. พ.ต.ท.ประมินทร์ ชวนคำ สารวัตรเวร สภ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตาย ที่บริเวณหน้าร้านเอ็มดีโฟนช๊อบ ถนนตลาดเทศบาลท่ายาง เขตเทศบาลต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวัฒน์ สุวรรณนิกขะ ผกก. พ.ต.ท.ไชยกร ศรีหล้าเดโช รอง ผกก. สวป. กองพิสูจน์หลักฐานเพชรบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี


ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า สีบอรนซ์ทอง ทะเบียน บธ 660 เพชรบุรี จอดเปิดไฟฉุกเฉิน ที่กระบะท้ายรถพบศพนายมานะ คชกูล อายุ 47 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.บางจาก อ.เมือง จ.เพชรบุรี สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ที่หลัง คอ ชายโครง และต้นขา รวม 6  นัด  นอกจากนี้พบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. ตกกระจายเกลื่อน 7 ปลอก ปลอกกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม.  1 ปลอก  และหัวกระสุน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายมานะ  มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายของตามตลาดนัด และปกติจะมาขายของที่ตลาดนัดท่ายางทุกวันอังคารและวันศุกร์  โดยก่อนเกิดเหตุช่วงเช้ามืดนายมานะ กำลังขับรถกระบะมาส่งของให้น้องสาว และระหว่างที่ขนของลงใส่รถเข็น  มีคนร้ายขับรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น หมายเลขทะเบียน มาประกอบข้างผู้ตาย จากนั้นเปิดฉากยิงถล่มใส่จนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว


ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจากหลายประเด็นทั้งเรื่องขัดแย้งส่วนตัว สงสัยมีเรื่องขัดแย้งเกี่ยวกับธุรกิจมืดหรือขัดแย้งในวงการพนันขันต่อ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เพื่อไว้ใช้เป็นแนวทางติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.

ฮือฮาแฝด 3 ขวบแต่งงานแก้เคล็ด สินสอด 1 แสน-ทอง 10 บาท





ฮือฮาแฝด 3 ขวบแต่งงาน สินสอด 1 แสน-ทอง 10 บาท พ่อแม่เผยทำตามความเชื่อที่ถือปฏิบัติกันมาของคนไทย ที่เชื่อว่าคนที่คลอดลูกออกมาเป็นฝาแฝดชายหญิง จะต้องทำพิธีแต่งงานให้มิฉะนั้นคนใดก็คนหนึ่งจะต้องตาย
เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่บ้านแหลม หมู่ 2 ต.บ้านแหลม จ.สุพรรณบุรี ได้มีการจัดงานแต่งงานเด็กฝาแฝดชายหญิง จึงไปตรวจสอบพบบ้านดังกล่าวเป็นบ้านทรงไทยหลังใหญ่ ที่ลานหน้าบ้านมีการกางเต๊นตั้งโต๊ะไว้คอยรับแขก และมีคณะแม่ครัวกำลังสาละวนกับการปรุงอาหารไว้ถวายพระและเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน ที่บนบ้านพระสงฆ์ 9 รูปกำลังสวดเจริญพุทธมนต์ โดยมีคู่บ่าวสาวตัวน้อย นั่งรับน้ำพุทธมนต์จากพระสงฆ์ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและมีแขกเหรื่อมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก


จากการสอบถาม นายมลชัย มีแก้ว ผญบ.หมู่ 8 ต.สาลี เล่าว่าตนเป็นพี่ชาย นายศิริลักษณ์ มีแก้ว อายุ 27 ปีซึ่งแต่งงานกับนางอัญชลี มีแก้ว อายุ 25 ปี หลังแต่งงานกันทั้งคู่ได้ช่วยกันประกอบอาชีพเกษตรกรรม จากนั้นน้องสะใภ้ได้ตั้งท้องและคลอดบุตรออกมาเป็นฝาแฝดชายหญิงโดยหลานชายชื่อ ด.ช.ธนวัฒน์ หรือน้องเซี๊ยะ หลานสาว ชื่อ ด.ญ.วรรณวนัช หรือน้องหมวย ทั้งคู่อายุ 3 ขวบ กับ 6 เดือน หลังจากคลอดแล้วหลานทั้งก็เลี้ยงง่ายเหมือนเด็กปกติ แต่ด้วยความเชื่อและถือปฏิบัติกันมาของคนไทย ที่เชื่อว่าคนที่คลอดลูกออกมาแล้วเป็นฝาแฝดชายหญิง จะต้องทำพิธีให้ทั้งคู่แต่งงานมิฉะนั้นไม่คนใดก็คนหนึ่งจะต้องเสียชีวิต ดังนั้นบิดามารดาของตนและญาติๆ จึงปรึกษากันแล้วกำหนดจัดพิธีแต่งงานให้กับหลานตามความเชื่อของคนโบราณขึ้นในวันนี้


การจัดพิธีแต่งงานครั้งนี้ได้นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูปจากวัดป่าพฤกษ์ มาประกอบพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ ถวายภัตตาหารเช้า จากนั้นก็มีขบวนแห่ขันหมาก มีคณะแตรวงมาแห่สร้างสีสัน มีพิธีผูกแขนตามประเพณีไทยทุกอย่าง มีการจัดทำอาหารคาวหวานเลี้ยงแขกที่มาร่วมงาน และที่สำคัญคือการแต่งงานครั้งนี้มีสินสอดเป็นเงินสดจำนวน 100,000 บาทสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือน้ำหนักรวม 10 บาทสร้างความฮือฮาและสร้างความยินดีให้กับแขกที่มาร่วมเป็นอย่างยิ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น


ทางด้านนายศิริลักษณ์ มีแก้ว และนางอัญชลี มีแก้ว สองสามีภรรยา บิดามารดาของน้องเซี๊ยะ และน้องหมวย กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่า รู้สึกตื่นเต้นและยินดีที่มีญาติผู้ใหญ่และแขกจำนวนมากมาร่วมงานแต่งของลูกชายลูกสาวฝาแฝดของตน ที่จัดงานขึ้นก็เพราะรักและเป็นห่วงลูกทั้งสองคน ที่คนโบราณเชื่อว่าเมื่อมีลูกแฝดชายหญิงต้องให้แต่งงานกันไม่เช่นนั้นลูกคนใดคนหนึ่งจะต้องมีอันเป็นไป ตนกลัวว่าจะเสียลูกคนใดคนหนึ่งไปจึงปรึกษาปู่ย่าตายายว่าจะจัดงานให้กับลูก โดยกำหนดเอาวันนี้ซึ่งเป็นวันดีจัดงานขึ้นและตนรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ






วาระแห่งชาติ อีกก้าวย่างของสหกรณ์ไทย - ทิศทางเกษตร




คณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ได้มีรายงานผลการศึกษา เรื่องการส่งเสริมและสนับสนุนให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติในโอกาสทศวรรษครบ 100 ปี ของการสหกรณ์ไทย ขณะเดียวกันปี 2555 ทางองค์การสหประชาชาติก็ได้ประกาศให้เป็นปีสหกรณ์สากลด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้กำหนดให้ปี 2555 เป็นปีแห่งการพัฒนาขบวนการสหกรณ์ไทยเป็นวาระแห่งชาติ

นายสมชาย  ชาญณรงค์กุล  อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์  เปิดเผยว่า ในการดำเนินงานดังกล่าวจะเป็นไปภายใต้แนวทางการสนับสนุน พัฒนาและการรวมกลุ่มของประชาชนด้านเศรษฐกิจและสังคมด้วยวิธีการสหกรณ์ จะให้มีการขยายเครือข่ายความร่วมมือเพื่อยกระดับการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการสหกรณ์ของคนในชาติทุกระดับ จะมีการปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวกับงานส่งเสริมสหกรณ์ให้มีเอกภาพและมีส่วนร่วมจากขบวนการสหกรณ์มากขึ้น รวมทั้งจะมีการปรับทิศทางการส่งเสริมสหกรณ์ ด้วยการมุ่งเน้นการกำหนดและพัฒนามาตรฐานสหกรณ์องค์กรภาครัฐจะมีการสนับสนุนด้านงบประมาณกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขบวนการสหกรณ์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาและปรับปรุงกฎหมายสหกรณ์เพื่อให้เอื้อต่อการส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ ภายใต้อุดมการณ์หลักการ และวิธีการสหกรณ์อย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะเป็นแม่งานหลักในการผลักดันและเดินหน้า ร่วมกับสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ชุมนุมสหกรณ์ระดับชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. กพร.  คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์  กระทรวงการคลัง และกระทรวงศึกษาธิการอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เดินหน้าผลักดันให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติอย่างเต็มที่  โดยในครึ่งปีแรกของปี 2555 จะเป็นการระดมความคิดเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจากบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รอบด้าน ซึ่งทุกฝ่ายได้เห็นตรงกันว่า ระบบสหกรณ์เป็นระบบที่มีความเข้มแข็ง เป็นระบบที่มีศักยภาพอยู่ในตัว  ซึ่งการจะสนับสนุนให้เติบโตต่อไปและจะมีการกำหนดทิศทางที่ชัดเจนและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

และล่าสุดทาง กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติทั้งหมด 6 ชุด ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ คณะอนุกรรมการจัดการงานชุมชนและครอบครัวด้วยวิธีการสหกรณ์ คณะอนุกรรมการด้านการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบการผลิต การตลาดและการเงินของสหกรณ์ คณะอนุกรรมการด้านการจัดการเรียนรู้การสหกรณ์ทั้งในระบบและนอกระบบการศึกษา คณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาและปรับปรุงกฎหมายสหกรณ์ คณะอนุกรรมการด้านการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งจะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และจัดทำข้อตกลงความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกาศการพัฒนาขบวนการสหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติในเดือนกรกฎาคม  2555 นี้

สหกรณ์ไทยได้ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อ 96 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนให้แก่เกษตรกรและราษฎรที่ยากไร้ในชนบท ประสบความสำเร็จและมีการขยายผลด้วยการจัดตั้งสหกรณ์เพิ่มขึ้น กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค ปัจจุบันทั่วประเทศมีสหกรณ์ทั้งหมด 7,018 แห่ง มีสมาชิกมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 16 ของประชากรทั้งประเทศ มีปริมาณธุรกิจรวม 2.05 ล้านล้านบาท

ขบวนการสหกรณ์จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และได้รับการกำหนดให้อยู่ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันในมาตรา 84 (9) ที่ว่า “รัฐต้องส่งเสริมสนับสนุนและคุ้มครองระบบสหกรณ์ให้เป็นอิสระ...” และยังเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องทุกยุคทุกสมัยอย่างต่อเนื่องตลอดมา.

พฤษภาคมไข่ไก่ ปรับตัวสูงขึ้น





รายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ไข่ไก่ในบางพื้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไก่ไข่ที่สำคัญของภาคกลาง พบว่า ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์ม ไข่ขนาดใหญ่ เบอร์ 1 ราคาอยู่ระดับ 2.80–3.00 บาท ต่อฟอง ขณะที่ราคาไข่ไก่ตลาดสด เบอร์ 1 ราคาอยู่ระดับ 3.20 บาทต่อฟอง

โดยช่วงเดือนเมษายนนั้น สภาพอากาศร้อนส่งผลกระทบต่อสภาพการเลี้ยงไก่ไข่ในโรงเรือนแบบเปิด บนบ่อปลาที่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ส่งผลให้ไก่ไข่กินอาหารได้น้อย ผลผลิตที่ได้มีขนาดเล็ก ประมาณ เบอร์ 2 เบอร์ 3 เบอร์ 4 ซึ่งสวนทางกับผู้บริโภคที่ต้องการไข่ขนาดใหญ่ ประกอบกับช่วงปี 2553 มีการเปิดนำเข้าพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ อย่างเสรี ส่งผลให้ผลผลิตจำนวนมากออกสู่ตลาด และพบว่า เกษตรกรจำเป็นต้องขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่พ่อค้าขายส่งกำหนด เช่น ไข่ไก่เบอร์ 4 ขายได้ราคา 1.50 บาทต่อฟอง ไข่ไก่เบอร์ 5 ขายได้ราคา 1.10 บาทต่อฟอง เพื่อระบายไข่และให้ฟาร์มตนเองอยู่รอด

และจากสถานการณ์ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มที่ตกต่ำนี้ ส่งผลกระทบต่อการนำไก่สาวขึ้นกรง ทั้งที่ราคาไก่สาวลดลงเหลือ 90–100 บาทต่อตัวจากราคาประมาณ 150 บาทต่อตัวในปีก่อน ส่วนต่างของราคาไข่ไก่กับต้นทุนอาหารแตกต่างกันมาก จนเกษตรกรบางรายจำเป็นต้องปลดไก่ลงก่อนกำหนด  ในสถานการณ์ดังกล่าว จึงเสนอแนะให้เกษตรกรเน้นการบริหารจัดการ โดยเฉพาะในเรื่องค่าจ้างแรงงาน ยกตัวอย่างเช่น การหารายได้เพิ่มจากแรงงานที่มีอยู่ ในยามที่แรงงานว่างจากงานเกษตรในฟาร์ม เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนที่เกษตรกรแบกรับอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเดือนพฤษภา คมราคาไข่ไก่จะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากสถานศึกษาเปิดภาคเรียน และการบริโภคไข่ไก่จะกลับมาเหมือนเดิม.




หนุนเกษตรกรผลิตก๊าซชีวภาพ





รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยถึงผลการศึกษาความคุ้มค่าในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาด ว่า การจัดทำกลไกการพัฒนาที่สะอาด  เป็นกลไกหนึ่งที่กำหนดขึ้นภายใต้พิธีสารเกียวโตเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยในเบื้องต้นได้กำหนดสัญญาซื้อขายคาร์บอนเครดิตเฉพาะปีที่ 1-2 ไว้ที่ราคา 17 ดอลลาร์ สหรัฐต่อตัน สำหรับ 253,500 ตันแรก และหลังจากนั้นจะซื้อขายในราคาตลาด ซึ่งแม้ว่าฟาร์มสุกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโครงการดังกล่าว มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนและการดำเนินการค่อนข้างสูง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาถึงความคุ้มค่าของการลงทุน โดยศึกษาจากฟาร์มสุกรที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 10 ฟาร์ม และกำหนดให้อายุโครงการเท่ากับ 10 ปี มีอัตราคิดลดร้อยละ 7.00

จากวิเคราะห์ทางการเงินของการลงทุนในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาด ที่เข้าร่วมโครงการของกรมปศุสัตว์ทั้งกรณีที่มีเงินอุดหนุนและไม่มีเงินอุดหนุน พบว่า  มูลค่าปัจจุบันสุทธิ มีค่า 188.16 และ 131.00 ล้านบาท  อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน มีค่าเท่ากับ 1.56 และ 1.36 และมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน เท่ากับร้อยละ 45 และ 25 ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การลงทุนในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาดในภาพรวม  ทั้งกรณีมีเงินอุดหนุนและไม่มีเงินอุดหนุนมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน

หากวิเคราะห์ถึงความอ่อนไหวของโครงการทั้ง 2 กรณีข้างต้น  พบว่า การลงทุนในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาดจะไม่คุ้มค่า หากผลตอบแทนของโครงการลดลงมากกว่า ร้อยละ 63 และ 54 ตามลำดับ และหากต้นทุนในการลงทุนของโครงการดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 56 และ 39 ตามลำดับ

นอกจากนี้ จากการศึกษายังพบว่า ราคาตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตในปัจจุบันมีความผันผวนสูง ดังนั้น การก่อตั้งกองทุนคาร์บอนเครดิตจึงเป็นประเด็นที่ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำมาพิจารณาในการส่งเสริม โครงการการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาด.

เดินหน้าพัฒนาหุบกะพง - เกษตรทั่วไทย





การประชุมแนวทางการบริหารจัดการน้ำและการดำเนินงานด้านสหกรณ์โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง ของ 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยมีนายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เป็นประธานในการประชุม ณ ห้องประชุม 201 อาคารสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการน้ำ และแนวทางการดำเนินงานด้านสหกรณ์ของโครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง

นายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการสำนักงาน กปร. เปิดเผยภายหลังจากการประชุมว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมที่ทำเนียบองคมนตรี เพื่อมอบหมายหน้าที่ดูแล แก้ไขปัญหา และพัฒนาพื้นที่โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง ซึ่งประสบปัญหาด้านแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำ การประชุมในครั้งนี้ก็เพื่อติดตามความคืบหน้า

“การหารือในวันนี้มีอยู่ 2 เรื่อง ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากพื้นที่โครงการเป็นพื้นที่แห้งแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาแหล่งน้ำผิวดินที่มีอยู่ อีกส่วนหนึ่งคือการซ่อมแซมระบบ และสถานีสูบน้ำเดิม ให้สามารถใช้การได้ ส่วนปัญหาระบบการบริหารจัดการ จะให้มีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับราษฎรในพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ ประเด็นที่สอง การดำเนินงานของสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์หุบกะพงเป็นโครงการตามพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากพิจารณาภาพรวม เรื่องระบบบัญชี หรือเรื่องอื่น ๆ นั้นยังถือว่ามีกำไรอยู่ แต่สหกรณ์ยังไม่สามารถบริการได้อย่างทั่วถึง จึงควรมีการบริหารจัดการที่ครบวงจร ขยายสมาชิกในพื้นที่ให้มากขึ้น ทุกครอบครัวในโครงการควรเป็นสมาชิกสหกรณ์ทั้งหมด เพื่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันซื้อ รวมกลุ่มกันขาย จะทำให้เป็นประโยชน์แก่ราษฎรในพื้นที่อย่างเต็มที่  โดยสำนักงาน กปร. จะเข้าไปสนับสนุนเพิ่มเติมในการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานบางส่วน และส่งเสริมการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต และการประกอบอาชีพของสมาชิกสหกรณ์  อาทิการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย การส่งเสริมด้านปศุสัตว์ และการส่งเสริมอุตสาหกรรมในครัวเรือนเป็นต้น” รองเลขาธิการ กปร. กล่าว

สำหรับโครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพงนั้น ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาใหญ่ และตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นโครงการตามพระประสงค์ที่เกิดขึ้นจากแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อจัดหาที่ดินและที่ทำการปฏิรูปที่ดิน พัฒนาที่ดินที่ว่างเปล่า แล้วจัดสรรให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินในการเพาะปลูกเป็นของตนเองเข้าทำการประกอบอาชีพการเกษตรแผนใหม่ แต่มิได้ให้กรรมสิทธิ์ในการถือครองที่ดินแต่อย่างใด รวมทั้งจัดตั้งศูนย์สาธิตและทดลองการเกษตร เพื่อศึกษาหาข้อมูลในด้านการปลูกพืชและการเลี้ยงสัตว์ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเกษตรในพื้นที่แห้งแล้ง ตลอดจนเป็นการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดิน จัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตร โดยใช้หลักและวิธีการสหกรณ์ แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของสมาชิก ตั้งแต่การเริ่มผลิตจนถึงการจำหน่ายสู่ท้องตลาด นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งให้การศึกษา การส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ต่าง ๆ ให้แก่เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปอีกด้วย

ทางด้านนายสุเทพ  น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ว่า เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา พื้นที่จังหวัดเพชรบุรีมีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างน้อย ดังนั้นน้ำที่ส่งด้วยระบบแรงโน้มถ่วงของโลกจึงขาดแคลนไปด้วย ต้องอาศัยการสูบน้ำด้วยกระแสไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และสถานีสูบน้ำด้วยกระแสไฟฟ้าขาดการดูแล และมีการใช้งานมาร่วม 40 ปีจึงมีความชำรุด

“กรมชลประทานจะเข้าไปดูแลในเรื่องน้ำอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริเป็นไปตามเป้าหมาย ขั้นต้นจะทำการซ่อมแซมสถานีสูบน้ำด้วยกระแสไฟฟ้าให้แล้วเสร็จเร็วภายในปีงบประมาณ 2555 นี้ โดยจะใช้งบประมาณจากสำนักงาน กปร. ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งใช้งบประมาณปกติของกรมชลประทานเอง” รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว.

แสดงความคิดเห็น

สุดยอดเทคโนโลยีของเอชพี อัลตร้าบุ๊กสีเงินบางเฉียบ




ขณะนี้สเปกเตอร์มีวางขายแล้วตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ราคา 999.99 ดอลลาร์สหรัฐ


เป็นเวลาสองวันที่ได้มาเป็นหนึ่งในนักข่าวจากทั่วโลกประมาณ 700 คนที่เอชพี (HP) เชิญมาร่วมงาน เอชพี โกลบอล อินฟลูเอนเซอร์ ซัมมิต 2012 (HP Global Influencer Summit 2012) ณ ศูนย์การแสดงสินค้าเซี่ยงไฮ้ เอกซโป เซ็นเตอร์ เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 9-10 พ.ค. 2555

ภายในงานเอชพีได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ทั้งโน้ตบุ๊ก อัลตร้าบุ๊ก และเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรก หลังประกาศควบรวมกลุ่มธุรกิจการพิมพ์และเพอร์ซันแนล ซิสเต็มส์ เอชพี อย่างเป็นทางการ

เอชพี ได้เผยโฉมคอมพิวเตอร์ตระกูลอัลตร้าบุ๊ก (Ultrabook) และสลีคบุ๊ก (Sleekbook) รุ่นใหม่ ออกแบบให้บางเฉียบและน้ำหนักเบา

เอชพี เอนวี่ สเปกเตอร์ เอ็กซ์ที (HP ENVY SpectreXT) เป็นอัลตร้าบุ๊กระดับพรีเมี่ยม สำหรับใช้งานแบบอัลตร้าโมบายล์ ให้ใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาพ่วงไปกับดีไซน์ที่สวยงาม

เอนวี่ สเปกเตอร์ สร้างกระแสฮือฮาทันทีที่เปิดตัว ด้วยรูปทรงบางสีเงิน จึงถูกตั้งคำถามว่า เลียนแบบแมคบุ๊กแอร์หรือเปล่า ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายออกแบบของเอชพี ตอบเหมือนกันว่า ไม่ได้เลียนแบบใคร การออกแบบอัลตร้าบุ๊กของเอชพีนั้นเด่นที่ดีไซน์และเทคโนโลยีภายในตัวเครื่อง

ขณะนี้สเปกเตอร์มีวางขายแล้วตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ราคา  999.99 ดอลลาร์สหรัฐ

เอชพี เอนวี่ สลีคบุ๊ก (HP ENVY Sleekbook) และ เอชพี เอนวี่ อัลตร้าบุ๊ก (HP ENVY Ultrabook) เน้นดีไซน์และสมรรถนะ เพื่อความบันเทิง  มีจอแสดงผลขนาด 14 และ 15.6 นิ้ว

อัลตร้าบุ๊ก รุ่น เอชพี อีลิทบุ๊ก โฟลิโอ 9470 เอ็ม (HP EliteBook Folio 9470m) สำหรับใช้งานธุรกิจ ซึ่งเอชพี ได้ออกแบบโดยเน้นระบบรักษาความปลอดภัย ใช้ง่าย รองรับการใช้งานด้านไอที

มร.เจมส์ โมตัน รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของเอชพี กล่าวว่า ขณะนี้เอชพีมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอัลตร้าบุ๊กครบที่สุด  สำหรับการใช้งานส่วนบุคคลและองค์กร

ในกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป หรือ ตลาดคอน ซูมเมอร์ เอชพีมีโน้ตบุ๊กใหม่ตระกูล เอชพี พาวิลเลี่ยน (HP Pavilion ) ออกแบบแนวโมเสก (Mosaic) เพื่อไม่ให้ซ้ำใคร

ทั้งนี้  การออกแบบ เอชพี โมเสก (HP Mosaic ) เป็นแนวคิดผสมผสานงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ต่อยอดมาจากปรัชญาการออกแบบ “MUSE” ทั้งในด้านทฤษฎีสี การเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยม และรูปทรงที่สวยงาม เพื่อเป็นแนวทางการออกแบบรูปแบบใหม่ เหมือนกับเอาชิ้นส่วนโมเสกเล็ก ๆ มาวางรวมกันจะกลายเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเอชพี
 
เช่น โน้ตบุ๊ก เอชพี พาวิลเลี่ยน เอ็ม 6 ตัวเครื่องเพรียวบาง เหมาะสำหรับพกพาใช้งานภายนอกได้ทั้งวัน เน้นใช้งานแบบโมบิลิตี้  ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมสีเงินขัดลายพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ ไฮเดฟ
ฟินิชั่นขนาด 15.6 นิ้ว และเทคโนโลยีบีท ออดิโอ  พร้อมลำโพงคู่ และซับวูฟเฟอร์

หน่วยประมวลผล มีให้เลือกทั้งอินเทลและเอเอ็มดี  คีย์บอร์ดเรืองแสง และกราฟิกการ์ดแยก เพื่อให้การทำงานที่ต้องการการประมวลผลขั้นสูงทำได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัด ราคาประมาณ  749 ดอลลาร์สหรัฐ  จะวางจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ช่วงไตรมาสที่ 3 ปีนี้

เอชพี พาวิลเลี่ยน ดีวีซีรีส์  และ เอชพี พาวิลเลี่ยน จีซีรีส์ เน้นรูปแบบเรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพใช้งานครบ โดยโน้ตบุ๊ก เอชพี พาวิลเลี่ยน ดีวีซีรีส์  ตัวเครื่องเพรียวบาง ขอบเรียวมนไร้รอยต่อ แรงบันดาลใจในการออกแบบได้จากหลักพลังงานจลน์ (kinetic energy) ทำให้พาวิลเลี่ยน ดีวี6 และ พาวิลเลี่ยน ดีวี 7  ตัวเครื่องเป็นพื้นผิวโลหะสวยงาม

ส่วน พาวิลเลี่ยน จีซีรีส์ เป็นโน้ตบุ๊ก รูปแบบเรียบง่าย ออกแบบให้ลาดเอียงและเล่นระดับ ใช้โครเมียมมาเน้นความสวยงาม และตัวเครื่องมีให้เลือกหลายสี

ราคาพาวิลเลี่ยน ดีซีรีส์  ประมาณ 699, 749 และ 849 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนจี 6 และจี 4 มีวางจำหน่ายแล้ว

นอกจากนี้ เอชพี ได้เปิดตัวระบบเครื่องลูกข่ายที่มีเทคโนโลยี เพาเวอร์ โอเวอร์ อีเธอร์เน็ต (Power over Ethernet) ใช้ประโยชน์จากสายแลนเพียงสายเดียว โดยเอชพีและ 3 M ได้ทำงานร่วมกัน ออกแบบสายแลนให้เป็นสายไฟและสายแลนในเส้นเดียวกัน เพื่อลดปัญหาเรื่องหาปลั๊กไฟไม่ได้ และลดสายรุงรัง ซึ่งระบบไฟก็จะมาในสายแลน ทำให้การติดตั้งใช้งานทำได้รวดเร็ว

ส่วนเครื่องพิมพ์ เป็นเครื่องพิมพ์โมบายล์แบบออล-อิน-วันเครื่องแรกของโลก สำหรับนักธุรกิจที่ต้องการโซลูชั่นขนาดกะทัดรัดและทนทาน สำหรับการพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสาร สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา

เอชพียืนยันว่า หลังการควบรวมกลุ่มธุรกิจการพิมพ์เข้าด้วยกันจะทำให้เกิดการลงทุนและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น.

ไว-ไฟ โก : มาเธอร์บอร์ดเน็ตเวิร์กอัจฉริยะ




เอซุส ผู้ผลิต มาเธอร์บอร์ด ที่ครองตลาดเป็นรายใหญ่ ได้เปิดตัวมาเธอร์บอร์ดซีรีส์ 7 รวม 4 รุ่น ในจำนวนนี้ที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ เอซุส พี 8 แซด 77-วีดีลักซ์ (ASUS P8Z77-V DELUXE) บอร์ดสำหรับการใช้งานทั่วไป ที่โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ หรือคุณสมบัติ “ไว-ไฟ โก” (Wi-Fi GO!)

มาเธอร์บอร์ด หรือ เมนบอร์ด คือแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน จึงเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนซีพียูหรือหน่วยประมวลผลกลาง

การนำเอาระบบไวไฟ ควบรวมไว้ในมาเธอร์บอร์ด เพื่อประโยชน์แก่การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก เป็นครั้งแรกและเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเอซุส จึงทำให้ พี 8 แซด 77-วีดีลักซ์ เป็นแผงวงจรที่ไม่ธรรมดา

ธนพันธ์ ศักดิพลพงศ์ ผจก.ผลิตภัณฑ์กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลตฟอร์ม กล่าวระหว่างแนะนำ ฟีเจอร์ Wi-Fi Go! ของเมนบอร์ดนี้ว่า จะช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างสะดวก ง่ายดาย ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์พีซี เป็นได้ทุกอย่างตามต้องการ โดยแสดงให้เห็นว่า เมื่อมีเมนบอร์ดดังกล่าวและกำหนดสิทธิของผู้ใช้เรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้อุปกรณ์อื่น เช่นแท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือ ทั้งแอนดรอยด์และไอโอเอส (ไอโฟน ไอแพด) ก็เชื่อมต่อ สั่งงาน หรือแสดงผลเช่นเดียวกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ด้วยสัญญาณไว-ไฟ รวมถึงบนหน้าจอโทรทัศน์ ให้ทำงานได้แบบเดียวกับคอมพิวเตอร์ หรือชมภาพยนตร์ วิดีโอ ได้ตามปกติ ด้วยเทคโนโลยีสตรีมมิ่งคอนเทนต์ ผ่านระบบ ดีแอลเอ็นเอ โดยแท็บเล็ต จะกลายเป็นคอมพิวเตอร์พกพา หรือรีโมตคอนโทรล ได้เป็นไว–ไฟ ฮอตสปอต เชื่อมต่ออุปกรณ์ไร้สายภายในบ้านได้ทุกจุด โดยไม่ต้องใช้เราท์เตอร์เพิ่มเติม

เมื่อเชื่อมต่อกันได้แล้ว จะทำงานได้เหมือนพีซีทุกประการ ไม่ติดข้อจำกัดที่บางรุ่น บางยี่ห้อ ที่ปกติใช้โปรแกรมจาวาไม่ได้ ก็สามารถแสดงผลขึ้นมาได้

ธนศักดิ์แสดงให้ชมด้วยว่า ทั้งแท็บเล็ตทรานสฟอร์มเมอร์ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 ไอศกรีม แซนด์วิช และโทรศัพท์มือไอโฟน 4 มีเพียงสมาร์ทโฟน วินโดว์ส เท่านั้น ที่ใช้ระบบนี้ไม่ได้

นอกจากไว-ไฟ โก มาเธอร์บอร์ดรุ่นเดียวกัน ยังติดตั้งระบบระบายอากาศอัจฉริยะแบบใหม่ แฟน เอกซเปอร์ต 2 (Fan Xpert 2) ที่สามารถสแกนลักษณะการใช้งานพัดลมด้วยการวัดระดับความเร็ว และตั้งระดับความเร็วของพัดลมแต่ละตัวได้ โดยคลิกเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยลดเสียงรบกวนให้น้อยลงได้เกือบถึง 0 เดซิเบล

สำหรับอีก 3 รุ่นที่เหลือ ได้แก่รุ่น อาร์โอจี แมกซิมัส วี ยีน  (ROG Maximus V GENE) ใช้ชิปเซ็ต อินเทลแซด 77 (Intel Z77) เวอร์ชั่นล่าสุด เพื่อความแรง มีความโดดเด่นเพื่อการโอเวอร์คล็อก ด้วย เอกซตรีม เอนจิน ดิจิ พลัสทู (Extreme Engine DIGI+ II) เหมาะสำหรับการเล่นเกม และการโอเวอร์คล็อก รุ่น เอซุส เซเบอร์ทูธ แซด 77 (ASUS SABERTOOTH Z77) ใช้ชิปประมวลผลเจนเนอเรชั่น 3 รุ่นล่าสุดของ อินเทล ไอวี บริดจ์ (Intel Ivy Bridge) เพื่อการใช้งานที่มีเสถียรภาพแก่ยูสเซอร์ ตัวบอร์ดใช้วัสดุโครงสร้างที่แข็งแรงมั่นคงระดับเดียวกับที่ใช้ในอุปกรณ์สรรพาวุธทหาร มีจุดเด่นที่ความทนทาน เหมาะกับการใช้งานเป็นเวิร์กสเตชั่นที่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และ รุ่น เอซุส พี 8 เอช 77 วี (ASUS P8H77-V) ใช้ชิปเซ็ต อินเทล เอช 77 เอกซเพรส (Intel H77 Express) เมนบอร์ดที่เน้นความประหยัด ด้วยราคาต่ำสุด เมื่อเทียบกับรุ่นอื่น

พร้อมกับการเปิดตัวมาเธอร์บอร์ด ครั้งนี้ มนต์ธีร์ วุฒิรงค์ ผจก. ประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลตฟอร์ม แจ้งว่า เอซุส ได้ขยายขอบข่ายการรับประกันสินค้ามาเธอร์บอร์ดของเอซุสในกรณี นันซีไอดี (Non-CID) หรือความเสียหายจากใช้ผิดวิธี ทุกเงื่อนไข เช่นการโอเวอร์คล็อก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นเงื่อนไขการรับประกันที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม และเปิดช่องทางสื่อสาร ผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ www.facebook.com/ASUS.DIY ให้ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของเอซุส มาพูดคุย สอบถาม และแบ่งปันประสบการณ์ในการใช้สินค้า เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีระหว่างกลุ่มลูกค้าและบริษัทอีกด้วย.

“โชว์โนลิมิต”ปั้นนักพัฒนาไทยสร้างเกมบนเฟซบุ๊ค




“โชว์โนลิมิต”ปั้นนักพัฒนาเกมคนไทยสร้าง “เกมชนด้วง” เล่นบนเฟซบุ๊ค หวังกวาดผู้เล่นสองแสนราย จากปัจจุบันที่มีคนไทยเล่นเฟซบุ๊ค 14 ล้านคน พร้อมพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่นเล่นในสมาร์ทโฟน ไอแพดในอนาคต
วันนี้ (16พ.ค.) ที่ดิจิทัล เกตเวย์ สยามสแควร์  นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทโชว์ไร้ขีด จำกัด หรือโชว์โนลิมิต ในฐานะผู้อำนวยการสร้างเกมชนด้วง เปิดเผยว่า  บริษัทได้เปิดตัวเกมชนด้วง ซึ่งเป็นโซเชี่ยลเกม หรือเกมที่เล่นบนเครือข่ายสังคมออนไลน์คือเฟซบุ๊ค พัฒนาโดยฝีมือคนไทย คือ นายโกวิทย์ ชนะเคน ที่ผ่านเวทีประกวดพัฒนาเกมและได้รับรางวัลมาแล้วมากมายหลายเวที โดยเกมชนด้วงนี้เป็นเกมประเภทแอ็คชั่น อาร์พีจี เกมแรกและเกมเดียวในประเทศไทยบนเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาเหมาะสมกับทุกวัย และยังสามารถเล่นแข่งกับเพื่อนบนเฟซบุ๊ค เล่นกับระบบเอ็นพีซีของเกม  หรือเล่นแข่งกับผู้เล่นจากทั่วทุกมุมโลกได้



“เกมนี้ใช้เวลาในการพัฒนา 3 เดือน ใช้งบประมาณในการสร้างเกมประมาณ 1 ล้านกว่าบาท เป็นการดึงเอาวัฒนธรรมพื้นบ้านทางภาคเหนือที่มีการจับด้วงมาชนกัน นำมาทำเป็นเกมบนคอมพิวเตอร์ ตั้งเป้าหมายจะมีผู้เล่นไม่น้อยกว่า 2 แสนคน จากปัจจุบันที่มีคนไทยเล่นเฟซบุ๊คประมาณ 14 ล้านคน นอกจากนี้หากเกมนี้ประสบความสำเร็จก็เตรียมที่จะพัฒนาเป็นแอพพิลเคชั่นให้สามารถเล่นได้บนสมาร์ทโฟนและแท็ตเล็ตด้วย”



ด้านนายโกวิทย์ ชนะเคน ผู้พัฒนาเกมชนด้วง กล่าวว่า เกมนี้ได้พัฒนาเองประมาณ 85% อีก 15 %  อาทิ การลงเสียง และดนตรี ประกอบจะเป็นทีมงานของบริษัท  ในอนาคตมีจะมีการพัฒนาลูกเล่นใหม่ๆต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เล่นไม่รู้สึกเบื่อ เช่น การเพิ่มรูปแบบเขาด้วงให้ผู้เล่นได้เลือกเพิ่มขึ้นและพัฒนาให้สามารถชาด้วงพร้อมกันทีละหลายๆคู่ และเตรียมพัฒนาเกมใหม่ๆที่เล่นบนเฟซบุ๊คเพิ่มเติมด้วย

ตร.พร้อมรับมือเสื้อแดง คาดชุมนุมไม่ต่ำกว่าครึ่งแสน




เสื้อแดงย้อนระลึกแยกราชประสงค์ รอง ผบช.น.แจง พร้อมดำนวยการความปลอดภัย คาดไกว่าครึ่งแสน "แม้ว" วีดิโอลิงค์ 3 ทุ่ม งานเลิกตี 2
วันที่ (18 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.น. ดูแลงานความมั่นคง กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดง ได้นัดชุมนุมและรวมตัวกันที่บริเวณแยกราชประสงค์ ในวันที่ 19 พ.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบ 2 ปี การสลายการชุมนุมว่า เบื้องต้นในการดูแลใช้กำลัง  บก.น. 5  บก.น.6  ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ บก.อคฝ.  บก.สปพ.(191) ช่วยดูแล และมี บก.น.3 และบก.น.8ช่วยสนับสนุนอีก บก.ละ.1 กองร้อย นอกจากนี้ได้มีการประสาน นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และนายชาย ศรีวิกรณ์ แกนนำผู้ค้าราชประสงค์ ขอความร่วมมือไม่ให้นำรถไปจอดในพื้นที่จัดงาน โดยในส่วนของสี่แยกราชประสงค์ไม่อยากให้รถไปจอด เพราะหากมีรถไปจอด 30-40 คัน ก็ขวางที่มวลชนยืนได้กว่า 1,000 คนแล้ว

โดยในส่วนของรอบนอกมีด่าน 4 ด่าน มีการ์ดนปช. ร่วมกับตำรวจ 191 เพื่อตรวจค้นอาวุธและของมึนเมา คือ 1.ด่านแยกชิดลม บริเวณหน้าโรงเรียนมาแตร์เดอี 2.ด่านแยกประตูน้ำ 3.ด่านแยกเฉลิมเผ่า หน้ากองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และ4.ด่านแยกราชดำริ ถอยไปจากสารสินเลย รพ.ตำรวจ  ส่วนบนสะพานลอยเชื่อมระหว่างเซ็นทรัลเวิลด์ เกสรพลาซ่า โดยสกายวอล์คเป็นของ 191 ดูแล โดยขอให้ตำรวจแต่งเครื่องแบบชัดเจนเพราะเป็นจุดสูงข่ม  นอกจากนี้มีจราจร สายสืบหาข่าว หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) และอื่นๆ คาดว่าใช้กำลังกว่า 1,000 นายขึ้นไป


พล.ต.ต.เมธี กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจประเมินว่ามีไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคนขึ้นไป  สำหรับเวทีที่ตั้ง จะไม่ให้ตั้งทับสี่แยกขอให้ถนนพระราม 1 ผ่านได้ จะให้ท้ายเวทีอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์หันหน้าไปทางประตูน้ำ แต่หากมวลชนมากก็จะปิดการจราจรโดยปริยาย ส่วนของเวทีทางกลุ่มเสื้อแดงบอกว่ายาวประมาณ 18 เมตร สำหรับกิจกรรมที่บอกมาในคืนนี้ประมาณ 01.00 น. จะเอาเวทีบางส่วนมาลง โดยจะใช้เวลาติดตั้ง 3-4 ชั่วโมง โดยให้จราจรกลาง และสน.ลุมพินี คอยดูแล โดยจะลงบางส่วนแต่ยังไม่ปิดการจราจร สายๆจึงเริ่มติดตั้ง ด้านกิจกรรมที่เปิดเผย คาดว่าไม่เกิน 13.00 น. จะติดตั้งเวทีเสร็จ 14.00 น. จะมีการจัดระบบมวลชนว่าใครนั่งจุดไหน ทำอะไรบ้าง จากนั้นเวลา  15.00 น. เริ่มทำพิธีสงฆ์ ทั้งสวดบังสุกุล ถวายสังฆทาน  เวลา 16.00 น. ก็ปราศรัยหาเสียง อาจมีดนตรีสอดแทรก “เจ๋ง ดอกจิก” เป็นคนคุมคิว  เวลา 20.00 น. น่าจะมีวีดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  เวลา 21.00 น. จะมีการจุดเทียนรำลึก จากนั้นก็ปราศรัยและเลิกเวลา 02.00 น.

พบรถเก๋ง ผกก.ไทรงาม จอดทิ้งทุ่งนา จ.พิษณุโลก คาดกำลังมามอบตัวแต่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน




พบรถเก๋ง ผกก.ไทรงาม จอดทิ้งทุ่งนา จ.พิษณุโลก คาดกำลังมามอบตัวแต่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน เชื่อยังกบดานในไทย "ปานศิริ" สั่งเร่งไล่ล่า ยันตำรวจไม่ช่วยหลบหนีแน่นอน ชี้ผลสอบยังไม่พบนำเงินไปใช้วิ่งเต้นซื้อตำแหน่ง แต่ยังไม่รู้นำเงิน 1.2 ล้านไปใช้อะไร แฉโยงผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น
ความคืบหน้ากรณีปล้นรถขนเงินธนาคารกสิกรไทย สาขาอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งมี พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เป็นหัวหน้าทีมปล้น ซึ่งล่าสุดมีกระแสข่าวว่าหลบหนีกบดานที่ประเทศพม่าแล้ว และยังลือสะพัดว่าสาเหตุการปล้นครั้งนี้เพราะ พ.ต.อ.พิจิตร ต้องการเงินไปวิ่งเต้นซื้อตำแหน่ง ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้ (18 พ.ค.) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ชุดติดตามจับกุมพบรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ดของ พ.ต.อ.พิจิตร จอดอยู่ในทุ่งนาแห่งหนึ่ง บริเวณถนนสายบ้านบอ-บ้านดินเหนียว ห่างจากถนนสายหลัก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ที่จะไป อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ และห่างจาก สภ.ไทรย้อย จ.พิษณุโลก ประมาณ 6 กม. ได้สั่งการให้ ผบก.จว.กำแพงเพชร และหน่วยงานพิสูจน์หลักฐาน ลงไปหาหลักฐานภายในรถอย่างละเอียดแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่า รถคันดังกล่าวมาจอดได้ประมาณ 2 วันแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่จะเดินทางเพื่อเข้ามอบตัว แต่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหันจึงได้จอดรถทิ้งไว้และหลบหนีไป นอกจากนี้พบว่ารถคันดังกล่าวจอดห่างจากจุดเกิดเหตุปล้นรถขนเงินประมาณ 5 กม. และเป็นรถที่ทีมปล้นใช้หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเงินที่ได้จำนวน 2.1 ล้านบาท พ.ต.อ.พิจิตรทำหน้าที่แบ่งเงินเอง โดยพ.ต.อ.พิจิตรได้เงิน 1.2  ล้านบาท ที่เหลือแบ่งให้ลูกน้องคนละประมาณ 2 แสน


พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวต่อว่า ทางชุดสืบสวนเชื่อว่า พ.ต.อ.พิจิตรยังอยู่ในประเทศและอยู่ระหว่างติดตามจับกุม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีทางช่วยให้ผู้ต้องหาหลบหนีแน่นอน ขณะนี้ได้ประสานไปยังเขตชายแดน และส่งหมายจับไปทุกที่ให้ดำเนินการจับกุมหากพบตัว


เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า ปมสาเหตุการปล้นรถขนเงินในครั้งนี้ เป็นการนำเงินไปซื้อขายตำแหน่ง ผกก.สภ.แม่สอด พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนยังไม่พบประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนสั่งการให้ พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด โดยเฉพาะช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็น ผกก.สภ.ไทรงาม มีข้อสังเกตหรือความผิดปกติอะไรหรือไม่ เบื้องต้น พ.ต.อ.พิจิตร ได้รับการแต่งตั้ง เป็นผกก.ไทรงาม เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2554 ซึ่งเป็นการแต่งตั้งนอกวาระประจำปี เนื่องจากพ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม อดีต ผกก.สภ.ไทรงาม เสียชีวิต


พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวด้วยว่า พ.ต.อ.พิจิตร เองมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินไปใช้บางอย่าง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ ขณะเดียวกันก็พบการเกี่ยวโยงกับผู้มีอิทธิพล และชุดทำงานชุดนี้ก็เป็นชุดทำงานของผู้มีอิทธิพลคนดังกล่าว  เคยก่อเหตุหลายครั้งในพื้นที่ บช.ภ. 6 ส่วนกระแสข่าวที่ว่าได้จับกุม ส.ต.อ.นารายณ์ ทิพย์ปรีชาธร ผบ.หมู่งานสืบสวน บช.ภ.จว.นครสวรรค์ ได้แล้วนั้น พล.ต.อ.ปานศิริ บอกว่า ขณะนี้ยังจับกุมคนร้ายได้ 3 รายเท่านั้น


รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังการปล้นครั้งนี้ เป็นผู้มีอิทธิพล จ.ภาคกลางตอนบน ต่อเนื่องภาคเหนือตอนล่าง จ.อุทัยธานี นครสวรรค์ กำแพงเพชร ซึ่งพ.ต.อ.พิจิตร เคยทำงานให้กลุ่มนี้ รวมถึงทีมปล้นส่วนหนึ่ง ผู้มีอิทธิพลดังกล่าวก็ส่งคนมาให้ พ.ต.อ.พิจิตร สั่งการ

ตร.แถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติ มูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท




ตร.แถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติ ทั้งชาวจีน ชาวไต้หวันและพม่า รวม 7 คน พร้อมของกลางอื้อ มูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้าน เผยเป็นการขยายผลจากกรณีตำรวจจีนจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นคนไทยและไต้หวัน ที่มณฑลกวางตุ้ง


ที่ สน.บึงกุ่ม วันนี้ (18 พ.ค.) เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น. 4 แถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชาวจีน ชาวไต้หวันและชาวพม่า ที่ พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา ผกก.สน.วังทองหลาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง จับกุมตัวมาได้ 7 คน ประกอบด้วย นาย เสี่ยน เซ็ง เว่ยอายุ 40 ปี ชาวจีน นายลีเซียง อายุ 30 ปี ชาวจีน นายเฉิน เห่อ ปิง อายุ43 ปี ชาวใต้หวัน นายยู ซุน ซิง อายุ 33 ปี ชาวจีน นายกัว เว่ย เซ็ง อายุ 40 ปี ชาวจีน นายอู๋ เซ็ง ซอง อายุ 29 ปี ชาวจีน และนายซื่อ ตี๋ อายุ 31 ปี ชาวพม่า ทั้งหมดถูกจับได้ที่บ้านพักเลขที่ 46/1 ซอยรามคำแหง 21 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. พร้อมของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 23 เครื่อง โทรศัพท์จำนวน 23 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 12 เครื่อง โน๊ตบุ๊คจำนวน 2เครื่อง เครื่องคิดเลขจำนวน 3 เครื่อง

ด้านพล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น. 4 เปิดเผยว่า คอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้เป็นการขยายผลมาจากการที่ตำรวจประเทศจีน จับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นคนไทย และไต้หวัน ที่มณฑลกวางตุ้ง เมื่อหลายวันก่อน แล้วสืบทราบได้ข้อมูลว่าที่ประเทศไทยมีการเช่าบ้านเป็นฐานปฏิบัติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไว้โทรหลอกลวงผู้อื่นเพื่อให้โอนเงินหลายแห่งรวมทั้งบ้านเลขที่ 46/1 ซอยรามคำแหง 21 จึงส่งกำลังตำรวจเฝ้าสังเกตุการณ์ และขอหมายค้นและจับกุมได้ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน โดยผู้ต้องหามาเช่าไว้แล้ว 8 เดือน สำหรับกลุ่มนี้คาดว่าสร้างความเสียหายประมาณอยู่ที่ 100 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดีที่ บก.ปอศ ต่อไป

พระเอก“ป๋อ-ณัฐวุฒิ” วิวาห์หวาน นางร้าย“เอ๋-พรทิพย์




พระเอก “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สะกิดใจ” วิวาห์หวาน นางร้าย “เอ๋-พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์” สินสอดเงินสด 5 ล้าน กับแหวนเพชร 1.08 กะรัต เผยพบกันครั้งแรกในละคร “หลงทางรัก” ก่อนที่จะเริ่มคบหาดูใจกันในละครเรื่อง “มนต์รักลูกทุ่ง” หลังแต่งยังไม่คิดฮันนีมูน เพราะต่างคนต่างมีงาน แต่อยากมีลูกเร็วๆ หญิงหรือชายก็ได้

ที่ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแชงกรีล่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (18 พ.ค.) ได้มีพิธีมงคลสมรสระหว่างพระเอกชื่อดัง “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ” กับ ดารานางร้ายสาวสวย “เอ๋-พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์” โดยเมื่อได้ฤกษ์เวลา 07.14 น. ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว ป๋อ-ณัฐวุฒิ ยกขบวนขันหมากฝ่าด่านประตูเงินประตูทองมาหาเจ้าสาว เอ๋-พรทิพย์ ไหว้ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว จากนั้นเวลา 07.59 น. ได้ฤกษ์ฝ่ายเจ้าบ่าวมอบเงินสด 5 ล้านบาทให้กับญาติผู้ใหญ่ของเจ้าสาว จากนั้นเจ้าบ่าวสวมแหวนหมั้นซึ่งเป็นแหวนเพชร 1.08 กะรัตให้เจ้าสาว เสร็จจากพิธีสวมแหวนหมั้นแล้วจึงเป็นการไหว้ญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย จนเวลา 10.09 น. ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายทำพิธีปูที่นอนส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอบนห้องพักของโรงแรม


ต่อมา ที่ห้องแกรนด์บอลรูมที่ตกแต่งใหม่ให้มีบรรยากาศแบบงานวัดสมัยก่อน มีการเปิดเพลงยุคเก่ารวมทั้งเพลง “งานวัด” ของวงเพื่อน เสียงดังกระหึ่ม มีกาลเล่นต่างๆทั้งหนังกลางแปลง ชิงช้าสวรรค์ ลิเก จนกระทั่งเมื่อเวลา 16.45 น. วันเดียวกัน ป๋อ เดินควงแขน เอ๋ เข้ามาที่ห้องเพื่อให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว โดยพระเอกหนุ่ม เปิดเผยความรู้สึกว่า วันนี้ตนมีความสุขมากที่ได้ทำตามฝันของคุณพ่อที่อยากเห็นลูกได้แต่งงานมีครอบครัว ถึงขนาดป่วยยังยอมไปผ่าตัดเพื่อมางานนี้ เห็นคุณพ่อฝ่าด่านประตูเงินประตูทองอย่างมีความสุข


ป๋อ กล่าวต่อว่า วันนี้ ตนพูดกับเอ๋ว่า หลังจากวันนี้ไป ตนจะพยายามเป็นคนดีที่ดีขึ้นกว่านี้ ตนรู้ดีว่าตนมีจุดด้อยในตัว เป็นคนก้าวร้าว บางทีก็หยาบคาย มีหลายครั้งที่ทำให้เอ๋ต้องเสียใจร้องไห้ แต่ถ้าเอ๋จะร้องไห้ในวันนี้ ก็เป็นเพราะความปิติ และวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เอ๋จะร้องไห้


ส่วน เอ๋ กล่าวว่า ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูด เขาจะทำได้หรือเปล่า แต่แค่เขาพูดตนก็รู้สึกดีแล้ว เพราะเขาคิดที่จะทำอะไรเพื่อเอ๋ และในวันนี้ตนรู้สึกดีใจมากที่สามารถลบคำสบประมาทของหลายๆคนที่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่พระเอกกับนางร้ายจะแต่งงานกัน แต่วันนี้เป็นไปได้แล้ว


เมื่อถามป๋อว่า ประทับใจอะไรในตัวเจ้าสาว พระเอกหนุ่มที่รับบท “พ่อเลี้ยงภูชิต” ในละคร รักประกาศิต ของทีวีช่อง 3 กล่าวว่า เพราะเอ๋เป็นคนที่ไว้ใจได้ นักแสดงมักเดินทางไปทำงานต่างจังหวัด การที่เราต้องนั่งคิดว่าเขาจะไปคุยกับใครที่ไหนทำอะไร เอ๋ เป็นคนเดียวที่เราไว้เนื้อเชื่อใจตลอด เขาไม่เปิดโอกาสให้ใคร เป็นคนรักเดียวใจเดียวแค่นี้ก็พอแล้ว ส่วนการเจอกันของเราครั้งแรกเจอกันในละครเรื่อง “หลงทางรัก” และเริ่มรักกันเมื่อตอนถ่ายละครเรื่อง “มนต์รักลูกทุ่ง” ที่ตนรับบทเป็น “ไอ้คล้าว” ส่วนเอ๋แสดงเป็น “สายใจ” นางร้ายในเรื่อง


ขณะที่ เอ๋ กล่าวถึงความประทับใจในป๋อว่า เท่าที่ตนเห็นเขาเป็นคนที่หลายคนรัก ทีมงานกองถ่ายก็รักเขา พี่นักข่าวๆก็รักเขา ตนจึงรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ต้องมีอะไรดีแน่นอนถึงมีแต่คนรักคนชอบ พอได้มาสัมผัสเขาก็รู้ว่าเขาเป็นคนดีมากๆ และเขาเป้นคนรักครอบครัว ตนรู้สึกว่าผู้ชายที่มีพื้นฐานรักครอบครัวเขาต้องสามารถดูแลเราได้แน่


ผู้สื่อข่าวถึงเรื่องฮันนีมูน ทั้งป๋อ และเอ๋ กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะต่างคนยังมีต้องทำ แต่สิ่งสำคัญคืออยากมีลูกเร็วที่สุด อยากให้ลูกรีบมาเกิดกับเราได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ป๋อ ยังกล่าวติดตลกกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้เอ๋เป็นภรรยาตนแล้ว พิธีตอนเช้าจดทะเบียนสมรสเป็นนางพรทิพย์ สะกิดใจ และผู้ใหญ่ก็ส่งเราเข้าหอเรียบร้อยแล้วด้วย

ปิกอัพชนประสานรถทัวร์ ตาย2สาหัส2


 


ปิกอัพขับส่ายไป-มา เสียหลักเฉี่ยวชนรถขนหมู พุ่งประสานกับรถ บขส.ที่วิ่งสวนมาอีกคันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ บาดเจ็บสาหัส 2
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 18 พ.ค. พ.ต.ท.ธวัช  รื่นเกษร  สว.ส  สภ.ศรีสัชนาลัย  ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน 3 คัน  หมู่ที่ 1 ตำบลดงคู่  ถนนอุตรดิตถ์ – ศรีสัชนาลัย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เร่งไปช่วยชีวิตพบผู้บาดเจ็บสาหัส  2 ราย  คือนายสุนทร  ขุดขำ บ้านอยู่ที่ตำบลไผ่ล้อม อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ กับนายวงค์เพชร  เผ้าหอม บ้านอยู่ตำบลบ้านเดื่อ จังหวัดหนองคาย  
     
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่  บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 47 -48    ขณะที่รถทัวร์ที่มีผู้โดยสารเกือบเต็มคัน กำลังมุ่งหน้าส่งผู้โดยสารที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ นายสังวาล   อ้นฟู คนขับรถ บขส.99 ทะเบียน 14-6511 กรุงเทพ ฯ กล่าวว่า เห็นรถยนต์สีแดง ทะเบียน บค.1279 อุตรดิตถ์ วิ่งสวนมา รถมีลักษณะขับส่ายไป – มา  จากนั้นได้ไปเฉี่ยวชนกับรถขนหมู ทะเบียน บน.8933 กำแพงเพชร  ที่วิ่งอยู่ข้างหน้า จนต้านข้างและล้อหลังด้านขวาเสียหาย จากนั้น รถคันดังกล่าว  ที่วิ่งมาด้วยความเร็ว ได้เสียหลักประสานกับรถ บขส.99 ที่ตนขับ จนทำให้ประตูที่ผู้โดยสารขึ้นและลงเสียหาย และยังทำให้ด้านหน้าของรถปิกอัพพังยับ  ส่วนคนขับปิกอัพและผู้โดยสารที่นั่งคู่มาด้านหน้า เสียเสียชีวิตคาที่ ทราบชื่อคือนายสุริยา  บรรณารักษ์ และนายธงไชย  มุธุตา บ้านอยู่ตำบลบ้านเดื่อ จังหวัดหนองคายทั้งสองคน นายสังวาล   อ้นฟู กล่าวที่ยังมีอาการไม่หายตื่นเต้น
         
พ.ต.ท.ธวัช  รื่นเกษร  กล่าวว่า  สาเหตุคาดว่ารถยนต์ปิกอัพ สีแดง ทะเบียน 1279 อุตรดิตถ์ จะเสียหลัก  เนื่องจากมีฝนตก  นอกจากนี้ในรถยนต์ยังพบขวดสุรา  ทั้งผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตคงอยู่ในอาการมึนเมา เพราะได้กลิ่นสุราติดตัว  เมื่อขับรถมาที่เกิดเหตุจึงไปชนกับขนหมูที่บรรทุกมาเต็มคัน โดยมีนายชัยรัตน์  เทียรเงิน  ผู้ขับ  และยังบอกอีกว่ารถยนต์คันที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิติขับส่ายไป-มา  นอกจากนี้ยังทราบอีกว่า ทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต  มีอาชีพทำงานรับจ้างอยู่ที่อุตรดิตถ์ประเภทอ๊อก เชื่อม เนื่องจากอุปกรณ์การทำงานอยู่หลังรถ  และมีหนึ่งใน สี่ เคยมาทำงานอยู่ที่อำเภอศรีสัชนาลัย   และมักจะมานั่งดื่มกินกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นประจำ ในวันนี้คงจะชวนกันมาดื่มกินที่เดิม  แต่ก็ประสพอุบัติเหตุเสียก่อน ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 คน นั้นนั่งอยู่ท้ายกระบะของรถ  เพียงแค่สาหัส  สาเหตุที่ชัดเจนนั้นต้องรอให้ผู้บาดเจ็บอาการดีขึ้นจะสอบปากคำอีกครั้ง.

ซัมซุงแซงโนเกียขึ้นอันดับ1โลกมือถือ





ซัมซุงของเกาหลีใต้ แซงโนเกียของฟินแลนด์ ที่ครองอันดับ 1 บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือของโลก 14 ปีติดต่อกัน ได้เป็นผลสำเร็จ
วันนี้ (16 พ.ค.) สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ว่า บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ของอังกฤษ เผยผลสำรวจด้านการสื่อสารโทรคมนาคมในวันนี้ โดยระบุว่า ค่ายโทรศัพท์มือถือ ซัมซุง ของเกาหลีใต้ สามารถโค่น โนเกีย ของฟินแลนด์ ที่ครองอันดับ 1 บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่สุดของโลกนาน 14 ปีติดต่อกัน ได้เป็นผลสำเร็จ โดย บริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ มียอดขายโทรศัพท์มือถือทั่วโลก 86.6 ล้านเครื่อง ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ส่วนโนเกียขายได้ 83 ล้านเครื่องเศษๆ ส่วนอันดับ 3 โทรศัพท์ไอโฟน ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ แห่งสหรัฐอเมริกา มียอดขายราว 33 ล้านเครื่อง ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 8 %

ผลสำรวจเผยแพร่เมื่อเดือนที่แล้ว โดย บริษัทสแตรทจี แอนนาไลติก แห่งเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา พบว่า ซัมซุงแซงหน้าโนเกียที่กำลังประสบปัญหา ขึ้นแท่นบริษัทที่มียอดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือมากที่สุดในโลก ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 โดยครองส่วนแบ่งยอดจำหน่าย 25 % ของตลาดโลก ส่วนโนเกียอยู่ที่ 22 % และในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ โนเกียยังอยู่อันดับ 3 สำหรับยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟน รองจากซัมซุงและไอโฟน.

ฟอร์บส์ยก“เจนนิเฟอร์ โลเปซ”ดาราผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก




วัดรายได้และการปรากฎตัวตามสื่อต่าง ๆ ทั้งนิตยสาร โทรทัศน์ อินเตอร์เนต เบียดเลดี้ กาก้า แชมป์เก่าร่วงไปอยู่อันดับที่ 5
วันนี้ ( 17 พ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า นิตยสาร ฟอร์บส์ เผยรายชื่อบุคคลผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก 100 อันดับ ประจำปี 2555 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยวัดจากรายได้ และการปรากฏตัวตามสื่อต่างๆทั้งนิตยสาร โทรทัศน์ และอินเตอร์เน็ท  ซึ่งผู้ที่ครองอันดับ 1 ในปีนี้ ได้แก่ เจนนิเฟอร์ โลเปซ นักร้อง-นักแสดงชื่อดังชาวอเมริกัน เชื้อสายละติน ขณะที่ เลดี้ กาก้า แชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ตกลงไปอยู่อันดับที่ 5

ขณะที่ตัวแทนของ ฟอร์บส์ ให้เหตุผลว่า โลเปซประสบความเร็จอย่างมาก และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกับการทำหน้ากรรมการตัดสินการประกวดร้องเพลงในรายการ “อเมริกัน ไอดอล” ซีซั่นล่าสุด รวมถึงอัลบั้มชุดล่าสุดของเธอที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และแสดงถึงการกลับคืนสู่วงการเพลงอย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยเพลงฮิตอย่าง“ออน เดอะ ฟลอร์” ที่สามารถครองอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงหลายประเทศทั่วโลก

ส่วนอันดับที่ 2 เป็นของ โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรรายการทอล์คโชว์ชื่อดัง ตามมาด้วย จัสติน บีเบอร์ และริฮานนา ในอันดับที่ 3 และ 4 ตามลำดับ.

โลกผวาอีกโสมแดงสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใกล้เสร็จ




ภาพจากดาวเทียมชี้ชัด "เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์" เกาหลีเหนือสร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์ ทำโลกผวาซ้ำไม่เลิก
วันนี้ ( 17 พ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า เว็บไซต์ 38north.org ของสถาบันสหรัฐ-เกาหลี แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ แห่งสหรัฐ เผยแพร่ภาพถ่ายผ่านดาวเทียมที่ได้รับการบันทึกไว้เมื่อวันที่ 30 เม.ย. แสดงความคืบหน้าการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลเบาของเกาหลีเหนือ ซึ่งอาจใช้เพื่อการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ขณะที่ความคืบหน้าดังกล่าวสร้างความหวาดระแวงให้กับบรรดาชาติมหาอำนาจตะวันตก ว่ารัฐบาลเปียงยางอาจมีแผนทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ แม้ผู้เชี่ยวชาญจะมองว่า เตาปฏิกรณ์ตัวใหม่นี้ต้องใช้เวลาพัฒนาอีกหลายปีกว่าจะสามารถดำเนินการได้ เนื่องจากยังขาดการติดตั้งอุปกรณ์สำคัญอีกหลายชิ้น รวมถึงกังหันผลิตกระแสไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ เตาปฏิกรณ์ตัวดังกล่าวจะสามารถผลิตพลูโตเนียม หนึ่งในธาตุที่ใช้ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นาย คิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ประกาศยอมระงับการทดลองผลิตอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อแลกกับข้อตกลงความช่วยเหลือด้านอาหารจากรัฐบาลสหรัฐ แต่กลับฝ่าฝืนด้วยการยิงจรวดพิสัยไกลปล่อยดาวเทียมเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ซึ่งนานาชาติเชื่อว่า เป็นแผนอำพรางการยิงทดสอบขีปนาวุธ แม้จะไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม

อดีตผบช.ทหารบอสเนียขึ้นศาลโลกไต่สวนคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์




วันนี้ (17 พ.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ว่า ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ทำการพิจารณาคดีที่ นาย รัตโก มลาดิก อดีตผู้บัญชาการทหารของบอสเนีย เป็นผู้บงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อันโหดเหี้ยม ซึ่งถือเป็นการสังหารหมู่ประชาชนที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา


อัยการของไอซีซีตั้งข้อหานายมลาดิก 11 กระทง รวมทั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ก่ออาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากการเป็นผู้นำการสังหารหมู่ชายและเด็กชายชาวบอสเนีย เชื้อสายมุสลิมกว่า 8,000 คน ที่เมืองเซเบรนิกา ซึ่งเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างแท้จริง และการปิดล้อมกรุงซาราเยโว ระหว่างสงครามยูโกสลาเวียระหว่างปี 2535-2538 คร่าชีวิตพลเรือนกว่า 100,000 ราย และทำให้ประชาชนอีกกว่า 2.2 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย


การไต่สวนคดีของนายมลาดิก ที่มีขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังอดีตผู้บัญชาการทหารวัย 70 ปี ยืนกรานปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ในการขึ้นศาลเป็นครั้งแรกเมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ได้รับการถ่ายทอดสดกลับไปยังกรุงซาราเจโว ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา ท่ามกลางการเฝ้ารอชมด้วยใจจดจ่อของบรรดาสมาชิกในครอบครัว ญาติพี่น้อง และบุคคลใกล้ชิดของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว


ทั้งนี้ การพิจารณาคดีจะมีขึ้นอีกครั้งในวันนี้ ก่อนคณะตุลาการของไอซีซีจะประกาศคำตัดสินในวันที่ 29 พ.ค. นี้ ซึ่งหากมีความผิดจริงตามฟ้อง โทษที่นายมลาดิกจะได้รับ คือ จำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากไอซีซีไม่มีบทลงโทษประหารชีวิต และไม่มีการกำหนดบทลงโทษสูงสุดไว้.

กก.ดส.จับพ่อค้าจีนลอบขายกุมารทอง


   


เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (18 พ.ค.) ที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล กก.ดส.บช.น. พ.ต.อ.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.ดส พ.ต.ท.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผกก.ดส. พ.ต.ท.สุทิน สวนดอกไม้ รอง ผกก.ดส. พ.ต.ท.คฑายุทธ โรจน์วงศ์สุริยะ สว.กก.ดส. พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว นายโจว ฮอง ฮุน ชาวอังกฤษสัญชาติจีนไต้หวัน อายุ 28 ปี พร้อมด้วยของกลางซากศพทารกจำนวน 6 ศพ โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานลักลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


พ.ต.อ.วิวัฒน์ เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับการร้องเรียนว่ามีการนำซากศพทารกมาทำกุมารทอง แล้วมีการเสนอขายผ่านทางเว็บไซต์ของต่างประเทศว่าเป็นกุมารทองที่ทำพิธีในประเทศไทย จึงได้ทำการสืบสวน ประกอบกับมีผู้ร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ให้ไปตรวจสอบ ว่ามีชายชาวต่างชาติมาเปิดห้องพักที่โรงแรมเอ็มไพร ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร มีพฤติการณ์รับซื้อซากศพทารก แต่ก็ไม่พบชายดังกล่าว


ต่อมามีผู้ร้องเรียนมายัง กก.ดส. ให้ไปตรวจสอบสถานที่ดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากได้ยินเสียงเด็กร้องให้ช่วยเหมือนถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเดินทางไปตรวจสอบสถานที่พักตามที่ดีได้รับแจ้งมาอีกครั้ง โดยประสานกับทางโรงแรมพร้อมนำข้อมูลชายต้องสงสัยให้ดู จนทราบว่าชายชาวต่างชาติลักษณะต้องสงสัยพักที่ห้องเลขที่ 613 โรงแรมเอ็มไพร ทราบชื่อว่า นายโจว ฮอง ฮุน เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพัก พบซากศพทารกจำนวน 6 ศพ มีการลงอักขระ มัดสายสิญจน์ บรรจุกล่อง ใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางสีดำ ภายในตู้เสื้อผ้าของโรงแรม โดยผู้ต้องหารับว่าได้ซื้อซากศพทารกนี้มาจากชายชาวไต้หวันที่อยู่ในประเทศไทย เป็นจำนวนเงินทั้งหมด 2แสนบาท เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อนำกลับไปขายยังประเทศไต้หวันให้คนบูชา ในราคาซากละ 1.5 แสน ถึง 2 แสนบาท

โดยเชื่อกันว่าหากบูชาแล้วจะร่ำรวยเงินทอง ทำการค้าเจริญรุ่งเรือง ซึ่งเป็นที่นิยมในต่างประเทศ ซึ่งตนเพิ่งเคยทำครั้งแรก แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเนื่องจากตรวจสอบพบ นายโจว เดินทางเข้าไทยตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบัน รวม 16 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำซากทารกไปตรวจสอบที่ รพ.ศิริราช เบื้องต้นยืนยันว่าเป็นซากมนุษย์จริง เตรียมสอบขยายผลเพื่อเตรียมออกหมายจับคนทำกุมารทองรายนี้ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหานายโจว และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ตร.พร้อมรับมือเสื้อแดง คาดชุมนุมไม่ต่ำกว่าครึ่งแสน



เสื้อแดงย้อนระลึกแยกราชประสงค์ รอง ผบช.น.แจง พร้อมดำนวยการความปลอดภัย คาดไกว่าครึ่งแสน "แม้ว" วีดิโอลิงค์ 3 ทุ่ม งานเลิกตี 2

วันที่ (18 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.น. ดูแลงานความมั่นคง กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดง ได้นัดชุมนุมและรวมตัวกันที่บริเวณแยกราชประสงค์ ในวันที่ 19 พ.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบ 2 ปี การสลายการชุมนุมว่า เบื้องต้นในการดูแลใช้กำลัง  บก.น. 5  บก.น.6  ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ บก.อคฝ.  บก.สปพ.(191) ช่วยดูแล และมี บก.น.3 และบก.น.8ช่วยสนับสนุนอีก บก.ละ.1 กองร้อย นอกจากนี้ได้มีการประสาน นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และนายชาย ศรีวิกรณ์ แกนนำผู้ค้าราชประสงค์ ขอความร่วมมือไม่ให้นำรถไปจอดในพื้นที่จัดงาน โดยในส่วนของสี่แยกราชประสงค์ไม่อยากให้รถไปจอด เพราะหากมีรถไปจอด 30-40 คัน ก็ขวางที่มวลชนยืนได้กว่า 1,000 คนแล้ว


โดยในส่วนของรอบนอกมีด่าน 4 ด่าน มีการ์ดนปช. ร่วมกับตำรวจ 191 เพื่อตรวจค้นอาวุธและของมึนเมา คือ 1.ด่านแยกชิดลม บริเวณหน้าโรงเรียนมาแตร์เดอี 2.ด่านแยกประตูน้ำ 3.ด่านแยกเฉลิมเผ่า หน้ากองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และ4.ด่านแยกราชดำริ ถอยไปจากสารสินเลย รพ.ตำรวจ  ส่วนบนสะพานลอยเชื่อมระหว่างเซ็นทรัลเวิลด์ เกสรพลาซ่า โดยสกายวอล์คเป็นของ 191 ดูแล โดยขอให้ตำรวจแต่งเครื่องแบบชัดเจนเพราะเป็นจุดสูงข่ม  นอกจากนี้มีจราจร สายสืบหาข่าว หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) และอื่นๆ คาดว่าใช้กำลังกว่า 1,000 นายขึ้นไป


พล.ต.ต.เมธี กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจประเมินว่ามีไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นคนขึ้นไป  สำหรับเวทีที่ตั้ง จะไม่ให้ตั้งทับสี่แยกขอให้ถนนพระราม 1 ผ่านได้ จะให้ท้ายเวทีอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์หันหน้าไปทางประตูน้ำ แต่หากมวลชนมากก็จะปิดการจราจรโดยปริยาย ส่วนของเวทีทางกลุ่มเสื้อแดงบอกว่ายาวประมาณ 18 เมตร สำหรับกิจกรรมที่บอกมาในคืนนี้ประมาณ 01.00 น. จะเอาเวทีบางส่วนมาลง โดยจะใช้เวลาติดตั้ง 3-4 ชั่วโมง โดยให้จราจรกลาง และสน.ลุมพินี คอยดูแล โดยจะลงบางส่วนแต่ยังไม่ปิดการจราจร สายๆจึงเริ่มติดตั้ง ด้านกิจกรรมที่เปิดเผย คาดว่าไม่เกิน 13.00 น. จะติดตั้งเวทีเสร็จ 14.00 น. จะมีการจัดระบบมวลชนว่าใครนั่งจุดไหน ทำอะไรบ้าง จากนั้นเวลา  15.00 น. เริ่มทำพิธีสงฆ์ ทั้งสวดบังสุกุล ถวายสังฆทาน  เวลา 16.00 น. ก็ปราศรัยหาเสียง อาจมีดนตรีสอดแทรก “เจ๋ง ดอกจิก” เป็นคนคุมคิว  เวลา 20.00 น. น่าจะมีวีดีโอลิงค์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  เวลา 21.00 น. จะมีการจุดเทียนรำลึก จากนั้นก็ปราศรัยและเลิกเวลา 02.00 น.

พบรถเก๋ง ผกก.ไทรงาม จอดทิ้งทุ่งนา จ.พิษณุโลก คาดกำลังมามอบตัวแต่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน




พบรถเก๋ง ผกก.ไทรงาม จอดทิ้งทุ่งนา จ.พิษณุโลก คาดกำลังมามอบตัวแต่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน เชื่อยังกบดานในไทย "ปานศิริ" สั่งเร่งไล่ล่า ยันตำรวจไม่ช่วยหลบหนีแน่นอน ชี้ผลสอบยังไม่พบนำเงินไปใช้วิ่งเต้นซื้อตำแหน่ง แต่ยังไม่รู้นำเงิน 1.2 ล้านไปใช้อะไร แฉโยงผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น



ความคืบหน้ากรณีปล้นรถขนเงินธนาคารกสิกรไทย สาขาอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งมี พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ ผกก.สภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เป็นหัวหน้าทีมปล้น ซึ่งล่าสุดมีกระแสข่าวว่าหลบหนีกบดานที่ประเทศพม่าแล้ว และยังลือสะพัดว่าสาเหตุการปล้นครั้งนี้เพราะ พ.ต.อ.พิจิตร ต้องการเงินไปวิ่งเต้นซื้อตำแหน่ง ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันนี้ (18 พ.ค.) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ชุดติดตามจับกุมพบรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ดของ พ.ต.อ.พิจิตร จอดอยู่ในทุ่งนาแห่งหนึ่ง บริเวณถนนสายบ้านบอ-บ้านดินเหนียว ห่างจากถนนสายหลัก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ที่จะไป อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ และห่างจาก สภ.ไทรย้อย จ.พิษณุโลก ประมาณ 6 กม. ได้สั่งการให้ ผบก.จว.กำแพงเพชร และหน่วยงานพิสูจน์หลักฐาน ลงไปหาหลักฐานภายในรถอย่างละเอียดแล้ว เบื้องต้นได้รับรายงานว่า รถคันดังกล่าวมาจอดได้ประมาณ 2 วันแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่จะเดินทางเพื่อเข้ามอบตัว แต่เกิดเปลี่ยนใจกะทันหันจึงได้จอดรถทิ้งไว้และหลบหนีไป นอกจากนี้พบว่ารถคันดังกล่าวจอดห่างจากจุดเกิดเหตุปล้นรถขนเงินประมาณ 5 กม. และเป็นรถที่ทีมปล้นใช้หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเงินที่ได้จำนวน 2.1 ล้านบาท พ.ต.อ.พิจิตรทำหน้าที่แบ่งเงินเอง โดยพ.ต.อ.พิจิตรได้เงิน 1.2  ล้านบาท ที่เหลือแบ่งให้ลูกน้องคนละประมาณ 2 แสน


พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวต่อว่า ทางชุดสืบสวนเชื่อว่า พ.ต.อ.พิจิตรยังอยู่ในประเทศและอยู่ระหว่างติดตามจับกุม ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีทางช่วยให้ผู้ต้องหาหลบหนีแน่นอน ขณะนี้ได้ประสานไปยังเขตชายแดน และส่งหมายจับไปทุกที่ให้ดำเนินการจับกุมหากพบตัว


เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า ปมสาเหตุการปล้นรถขนเงินในครั้งนี้ เป็นการนำเงินไปซื้อขายตำแหน่ง ผกก.สภ.แม่สอด พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนยังไม่พบประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนสั่งการให้ พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผบช.ภ.6 ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด โดยเฉพาะช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็น ผกก.สภ.ไทรงาม มีข้อสังเกตหรือความผิดปกติอะไรหรือไม่ เบื้องต้น พ.ต.อ.พิจิตร ได้รับการแต่งตั้ง เป็นผกก.ไทรงาม เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2554 ซึ่งเป็นการแต่งตั้งนอกวาระประจำปี เนื่องจากพ.ต.อ.เกริกฤทธิ์ นิยมเสริม อดีต ผกก.สภ.ไทรงาม เสียชีวิต


พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวด้วยว่า พ.ต.อ.พิจิตร เองมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินไปใช้บางอย่าง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ ขณะเดียวกันก็พบการเกี่ยวโยงกับผู้มีอิทธิพล และชุดทำงานชุดนี้ก็เป็นชุดทำงานของผู้มีอิทธิพลคนดังกล่าว  เคยก่อเหตุหลายครั้งในพื้นที่ บช.ภ. 6 ส่วนกระแสข่าวที่ว่าได้จับกุม ส.ต.อ.นารายณ์ ทิพย์ปรีชาธร ผบ.หมู่งานสืบสวน บช.ภ.จว.นครสวรรค์ ได้แล้วนั้น พล.ต.อ.ปานศิริ บอกว่า ขณะนี้ยังจับกุมคนร้ายได้ 3 รายเท่านั้น


รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังการปล้นครั้งนี้ เป็นผู้มีอิทธิพล จ.ภาคกลางตอนบน ต่อเนื่องภาคเหนือตอนล่าง จ.อุทัยธานี นครสวรรค์ กำแพงเพชร ซึ่งพ.ต.อ.พิจิตร เคยทำงานให้กลุ่มนี้ รวมถึงทีมปล้นส่วนหนึ่ง ผู้มีอิทธิพลดังกล่าวก็ส่งคนมาให้ พ.ต.อ.พิจิตร สั่งการ

ตร.แถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติ มูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้านบาท




ตร.แถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวต่างชาติ ทั้งชาวจีน ชาวไต้หวันและพม่า รวม 7 คน พร้อมของกลางอื้อ มูลค่าความเสียหายประมาณ 100 ล้าน เผยเป็นการขยายผลจากกรณีตำรวจจีนจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นคนไทยและไต้หวัน ที่มณฑลกวางตุ้ง

ที่ สน.บึงกุ่ม วันนี้ (18 พ.ค.) เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น. 4 แถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชาวจีน ชาวไต้หวันและชาวพม่า ที่ พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา ผกก.สน.วังทองหลาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง จับกุมตัวมาได้ 7 คน ประกอบด้วย นาย เสี่ยน เซ็ง เว่ยอายุ 40 ปี ชาวจีน นายลีเซียง อายุ 30 ปี ชาวจีน นายเฉิน เห่อ ปิง อายุ43 ปี ชาวใต้หวัน นายยู ซุน ซิง อายุ 33 ปี ชาวจีน นายกัว เว่ย เซ็ง อายุ 40 ปี ชาวจีน นายอู๋ เซ็ง ซอง อายุ 29 ปี ชาวจีน และนายซื่อ ตี๋ อายุ 31 ปี ชาวพม่า ทั้งหมดถูกจับได้ที่บ้านพักเลขที่ 46/1 ซอยรามคำแหง 21 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. พร้อมของกลาง เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 23 เครื่อง โทรศัพท์จำนวน 23 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 12 เครื่อง โน๊ตบุ๊คจำนวน 2เครื่อง เครื่องคิดเลขจำนวน 3 เครื่อง

ด้านพล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น. 4 เปิดเผยว่า คอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้เป็นการขยายผลมาจากการที่ตำรวจประเทศจีน จับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นคนไทย และไต้หวัน ที่มณฑลกวางตุ้ง เมื่อหลายวันก่อน แล้วสืบทราบได้ข้อมูลว่าที่ประเทศไทยมีการเช่าบ้านเป็นฐานปฏิบัติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไว้โทรหลอกลวงผู้อื่นเพื่อให้โอนเงินหลายแห่งรวมทั้งบ้านเลขที่ 46/1 ซอยรามคำแหง 21 จึงส่งกำลังตำรวจเฝ้าสังเกตุการณ์ และขอหมายค้นและจับกุมได้ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกัน โดยผู้ต้องหามาเช่าไว้แล้ว 8 เดือน สำหรับกลุ่มนี้คาดว่าสร้างความเสียหายประมาณอยู่ที่ 100 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะส่งผู้ต้องหาพร้อมของกลางดำเนินคดีที่ บก.ปอศ ต่อไป

กองทัพคุยเขมรสางปมร้อนชายแดน




กองทัพไทยตั้งจนท.อาวุโสคุยเขมรแก้ปมชายแดน เน้นประสานงานรื้อฟื้นฝึกร่วมบรรเทาสาธารณภัยปลายปี โชว์สัมพันธ์แนบแน่น


วันนี้ (17 พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย –กัมพูชาว่า ขณะนี้ไม่รู้สึกห่วงอะไร อีกทั้งได้แต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่อาวุโสของทั้งสองประเทศประชุมพูดคุยกัน ฝ่ายไทยมี พล.อ.วรพงษ์   สง่าเนตร เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยควบคุมบังคับบัญชาพร้อมเจ้าหน้าที่ระดับเจ้ากรมฯ ที่เกี่ยวข้องร่วมในคณะ และในปลายปีนี้จะมีการฝึกร่วมบรรเทาสาธารณภัย ไทย-กัมพูชา โดยมีประเทศมาเลเซียมาเข้าร่วมฝึกด้วย อย่างไรก็ดี ขณะนี้สองประเทศเริ่มมีความสนิทสนมกัน มีการหารือระดับท้องถิ่นมากขึ้นมาตามลำดับจนถึงระดับรัฐบาล  และไม่นานมานี้ได้เปิดเมืองคู่แฝดสี่แห่ง ฝั่งตรงข้าม จ.สุรินทร์ จึงแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้น

ค้นแหลกทุกหน่วยไม่เจอมุมสวิงกิ้ง-โต้โคโยตี้เป็นคลิปเก่า




ขณะที่ทหารเกณฑ์ที่พบว่าเป็นชายในภาพรับโชว์คนเดียว ส่วนคลิปโคโยตี้เต้นเปลือยโชว์ในสถานที่คล้ายค่ายทหาร มทภ.1 แจง เป็นคลิปเก่า 5 ปีแล้ว สงสัยพวกหวังดิสเครดิต
วันนี้ (17 พ.ค.) พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ผู้ช่วยผู้บัญชาทหารบก ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีกลุ่มชายคล้ายทหารร่วมเพศกับหญิงสาวในสถานที่คล้ายหน่วยทหาร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถหาสถานหน่วยทหารในภาพได้ ซึ่งต้องเร่งดำเนินการหาข้อมูลต่อไป ส่วนกรณีที่พลทหารออกมายอมรับแล้วนั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ควรให้เกียรติหน่วยทหารด้วย

ด้านพล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบสถานที่และฝ่ายอาคารให้ละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้ พร้อมยืนยันว่าขวัญกำลังใจของทหารกองทัพภาคที่ 3 ยังเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งยังให้กำลังใจผู้บังคับกองพันทหารม้าที่ 26 (ผบ.ม.พัน.26)ว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัวของทหารเกณฑ์คนนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับกองพันขอให้สบายใจได้

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้พบชาย 1 ในภาพ ซึ่งเป็นพลทหารสังกัด ม.พัน 26 โดยพลทหารนายนี้ ได้รับสารภาพว่า มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวตามรูปดังกล่าวจริง แต่กระทำในบ้านพัก ไม่ได้กระทำในหน่วยทหาร และร่วมเพศกับหญิงสาวเพียงคนเดียว ไม่มีทหารเกณฑ์คนอื่นร่วมด้วย นอกจากนี้พลทหารนายนี้ไม่รู้จักกับหญิงสาวว่า เป็นใคร มาจากไหน เพียงแต่ได้รับการชักชวนมามีเพศสัมพันธ์ด้วยเท่านั้น และยังไม่รู้จักกลุ่มชายที่แต่งกายคล้ายทหารที่เหลือในชุดภาพเลย อย่างไรก็ตามจากกรณีที่ค่ายทหารใน จ.เพชรบูรณ์ ถูกจับตาเป็นพื้นที่ต้องสงสัย ทำให้แม่ทัพภาคที่ 3 ได้สั่งการให้ตรวจสอบเทียบรูปภาพหน่วยทหารในแต่ละกองร้อย แต่ปรากฏว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบว่า มีกองร้อยหน่วยใดมีสถานที่เหมือนในภาพที่เผยแพร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่สื่อมวลชนมีการนำเสนอว่า พลทหารในสังกัด ม.พัน 26 เป็น 1 ในทหารที่อยู่ในชุดภาพฉาว ทำให้กำลังพลใน ม.พัน 26 หลายนายรู้สึกเสียใจกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองพัน ซึ่งทหารอยากขอความเป็นธรรมว่า อย่าประณามหน่วยเพราะเรื่องดังกล่าวเป็นความผิดส่วนบุคคล และไม่ได้เกิดขึ้นในหน่วยทหาร แต่เป็นบ้านพักของทหารม้า ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว

ส่วนกรณีมีการนำคลิปวิดีโอสาวโคโยตี้โชว์เต้นเปลือยกายในสถานที่คล้ายค่ายทหารมาเผยแพร่ออกอากาศทางรายการข่าวสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง โดยในคลิปเป็นเหมือนงานเลี้ยงสังสรรค์ในหน่วยทหารโดยมีนักดนตรี และแดนเซอร์ร่วมเต้นสนุกกับชายแต่งกายคล้ายทหาร ซึ่งในช่วงท้ายของคลิปแดนเซอร์หญิงเริ่มเต้นยั่วยวนและถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นจนหมด โดยกลุ่มชายสวมชุดคล้ายกับทหารมีการขึ้นไปบนเวทีร่วมเต้นกับแดนเซอร์เปลือยคนดังกล่าวด้วย ท่ามกลางเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน

เกี่ยวกับกรณีนี้ พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 1 กำลังตรวจสอบอยู่ แต่เท่าที่ดูไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่เกิดมาประมาณ 5 ปีแล้ว ซึ่งหากคลิปที่เกิดขึ้นเป็นสถานที่ในหน่วยทหารจริงถือว่าผิดวินัยและไม่เหมาะสม ทั้งนี้ทุกคนต้องเข้าใจเรื่องราวและเห็นใจทหารที่ทหารได้ทำในเรื่องดีๆ ซึ่งอาจจะเสียวินัยไปบ้างแต่ไม่ใช่ประเด็นใหญ่โตมาก เป็นภาพความสนุกสนานหลังจากการฝึกแต่อาจจะไม่เหมาะสม สื่อไม่ควรไปตามกระแส เพราะอาจส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจทหาร คนดีๆจะเสียกำลังใจ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ผู้บังคับบัญชากำชับแล้วว่า ไม่ควรเกิดขึ้นอีก ซึ่งต้องพยายามค้นหาบุคคลที่กระทำไม่เหมาะสมมาลงโทษต่อไป ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ช่วงที่ผ่านมามีการปล่อยภาพที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของทหาร ซึ่งอาจเป็นบุคคลที่ไม่หวังดี ต้องการทำให้ภาพลักษณ์ของทหารได้รับความเสื่อมเสีย.

Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว!


 รหัสดู BAILEA






Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 1



Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 2



Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 3



Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 4



Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 5



Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 6



Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 7



Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 8



Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 9



Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 10

Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 11



Nyan Koi! รักน้องต้องมีเหมียว! ตอนที่ 12 ตอนจบ





END


กกต.ประกาศรับรองแล้วส.ส.เขต5ปทุมธานี





นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ได้เป็น ส.ส.เขต 5 ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ สมใจนึก ขณะที่ยังมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการติดป้ายหาเสียงค้างอยู่ที่จังหวัด
วันนี้ (17 พ.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ ภุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยว่า ในวันนี้ ที่ประชุม กกต.ได้มีมติประกาศรับรองสถานภาพการเป็น ส.ส.ของนายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ส.ส. เขต 5 ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากที่ชนะการเลือกตั้งไปเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่ง กกต. ได้ประกาศรับรองไปก่อนภายในเวลา 30 วัน ตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด เพราะยังมีเรื่องร้องเรียนค้างอยู่ที่จังหวัด เกี่ยวกับการติดป้ายหาเสียงของนายเกียรติศักดิ์ ที่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งสำนวนยังไม่ถูกส่งมายัง กกต.กลาง สำหรับสาเหตุที่ล่าช้านั้น เนื่องจากผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ จ.ปทุมธานี เสียชีวิตภายหลังการเลือกตั้งเพียงไม่กี่วัน.


ศาลรธน.มีมติ7ต่อ1ให้"จตุพร"สิ้นสภาพส.ส.เหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง







ศาลรธน.มีมติ7ต่อ1ให้"จตุพร"สิ้นสภาพส.ส.เหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2555 เวลา 11:28 น.

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 ให้ "จตุพร พรหมพันธุ์" สิ้นสภาพความเป็น ส.ส.เหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
วันที่ 18 เม.ย. เวลา 10.30 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เป็นประธาน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กรณีที่ไม่ได้เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.2554 เนื่องจากขณะนั้น ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (4) ประกอบมาตรา 101(3) หรือไม่


ทั้งนี้ในการอ่านคำวินิจฉัยนั้นคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มอบให้นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และนายนุกรักษ์ มาปราณีต ตุลาการศาลนัฐธรรมนูยเป็นผู้อ่าน โดยใช้เวลาในการอ่านคำวินิจฉัยประมาณ 45 นาที ซึ่งมติตุลาการมีเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 ให้นายจตุพร สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็นส.ส.สนับแต่วันที่ศาลมีควินิจฉัย

เนื่องจากเห็นว่าการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นตามพ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 19  มาตรา 8 และ มาตรา20 มีเจตนา ให้ผู้ที่จะเป็นสมาชิกต้องคงเป็นสมาชิกไว้โดยตลอด ไม่เฉพาะในวันสมัครรับเลือกตั้งหรือวันเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งการที่รัฐธรรมนูญมตรา 100 (3 )ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้ที่ถูกคุมขังโดยหมายของศาลหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นบุคคลมิให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ก็เพราะมีเจตนาให้ผู้ที่จะเป็นสมาชิกพรรคปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของวินัยและกฎหมาย เพื่อให้สมาชิกพรรคมีระเบียบวินัยรวมทำกิจกรรมทางการเมือง คุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคกฎหมายจึงไม่ได้มีเจตนาให้มีอยู่เฉพาะในขณะสมัครเท่านั้น แต่จะต้องมีอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อนายจตุพร ถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาลซึ่งป็นคำสั่งที่ชอบโดยกฎหมาย จึงทำให้นายจตุพร ขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรค ที่มีผลทำให้สมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายจตุพรสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (4)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่ทราบคำวินิจฉัยมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่มารอฟังคำตัดสินและให้กำลังใจนายจตุพร ได้พากันส่งเสียงโห่ร้องด้วยความไม่พอใจ

The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ


รหัสดู sorykub




The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 1 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่2 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 3 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่4 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่5 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่6 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 7 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 8 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 9 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 10 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 11 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 12 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 13 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 14 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 15 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 16 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 17 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 18 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 19 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 20 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 21 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 22 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 23 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 24 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 25 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 26 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 27 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่ 28 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่29 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่30 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่31 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่32 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่33 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่34 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่35 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่36 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่37 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่38 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่39 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่40 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่41 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่42 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่43 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่44พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่45 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่46 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่47 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่48 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่50 พากษ์ไทย

   The Law of Ueki แสบซ่าผ่ากฏเทพ ตอนที่51 พากษ์ไทย

เคดิต Megic~

ทาร์จังจ้าวป่า


 รหัสดู ไม่มีครับ



ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่1 

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่2

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่3

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่4

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่5

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่6

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่7

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่8

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่9

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่10

ททาร์จังจ้าวป่า ตอนที่11

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่12

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่13

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่14

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่15

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่16

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่17

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่18

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่19

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่20

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่21

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่22

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่23

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่24

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่25

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่26

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่27

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่28

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่29

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่30

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่31

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่32

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่33

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่34

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่35

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่36

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่37

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่38

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่39

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่40

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่41

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่42

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่43

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่44

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่45

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่46

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่47

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่48

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่49

ทาร์จังจ้าวป่า ตอนที่50 ตอนจบ



credit  watachiwa1Immortal

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว


รหัสดู ไม่มีครับ



Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่1-2

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่3-4

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่5-6

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่7-8

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่9-10

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่11-12

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่13-14

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่15-16

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่17-18

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่19-20

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่21-22

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่23-24

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่25-26

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่27-28

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่29-30

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่31-32

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่33-34

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่35-36

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่37-38

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่39-40

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่41-42

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่43-44

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่45-46

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว ตอนที่47-48 จบทีวีซีรี่



Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว Tha movie part1

Orange Road ถนนสายนี้เปรี้ยว Tha movie part2 [ตอนจบ]





เครดิต  Assassin1

Elfen Lied




 รหัสดู ไม่มีครับ













Elfen Lied ตอน 1

Elfen Lied ตอน 2

Elfen Lied ตอน 3

Elfen Lied ตอน 4

Elfen Lied ตอน 5

Elfen Lied ตอน 6

Elfen Lied ตอน 7

Elfen Lied ตอน 8

Elfen Lied ตอน 9

Elfen Lied ตอน 10

Elfen Lied ตอน 11

Elfen Lied ตอน 12

Elfen Lied ตอน 13 จบ






เครดิต  Assassin1