วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ชนสนั่นเก๋งแม่พิมพ์ของชาติบวกพ่วง18ล้อดับ 3 เจ็บ 2





สลดเหตุครูสาวพาแม่ กับ น้อง กลับจากห้างดัง ที่ลพบุรี แต่รถเกิดเสียหลักกินเลน พุ่งชนประสานงาพ่วงบรรทุกแร่ เสียชีวิต 3 ศพ สาหัส อีก 2 แรงปะทะทำให้รถพ่วงชนเสาไฟและรั้วชาวบ้านจนเกิดเพลิงลุกไหม้
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. พ.ต.ท.สัญญา บุญสุวรรณ สวส.สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนกันและไฟลุกไหม้รถบรรทุกใกล้บ้านเรือนระชาชนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายบริเวณหลัก ก.ม.ที่ 12 บนถนนสาย พระพุทธบาท-บ้านหมอ ท้องที่ หมู่ 2 ต. บ้านหมอ จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วย รถดับเพลิงของเทศบาล ต.บ้านหมอ และ เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิปอเต็กตี๊งประจำบ้านหมอ


ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุก ทะเบียน 70-3238 นครปฐม ส่วนลูกทะเบียน 70-3239 นครปฐมเสียหลักพลิกตะแคงหันหัวไปทาง อ.พระพุทธบาท ชนรั้วบ้านชาวบ้านและเสาไฟฟ้าริมถนนทำให้ไฟลุกไหม้อยู่เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิงไม่นานนักก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ห่างกันไม่มากนักบริเวณกลางถนนพบรถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวีคสีดำ ทะเบียน ญฉ-6044 กทม. หันหัวไปทาง อ.บ้านหมอ สภาพพังยับเยินในรถเก๋งผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย

ทราบชื่อ น.ส.ศิริพรรณ วัดกุด อายุ 25 ปี (คนขับ) พักอยู่บ้านเลขที่ 31/1 ม.1 ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เป็นครูอัตราจ้างอยู่ที่ ร.ร.อ่างทองปัทมโรจน์ จ.อ่างทอง และ นางอรสา น้อยอ่าง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.1 ต.โคกลำพาน อ.เมือง จ.ลพบุรี (นั่งเบาะหลัง) และ นางอุไรพร วัดกุด อายุ 50 ปี มารดา น.ส.ศิริพรรณ ปัจจุบันเป็นครูอยู่ที่ ร.ร.วัดหนองพันเรือ อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา กระเด็นออกจากตัวรถมาสภาพคอหักร่างแหลกเหลว เสียชีวิตกับพื้นถนน รวมผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ศพ

เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำส่ง รพ.บ้านหมอ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกพลมืองดีช่วยกันงัดรถหามส่ง รพ.พระพุทธบาทก่อนแล้ว อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน ทราบชื่อต่อมาว่า น.ส.อรวรณ น้อยอ่าง อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ร.ร.พิบูลย์วิทยาลัย จ.ลพบุรี ส่วนนายชัยวัฒน์ บุญสองอาย 49 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 140 ม.3 ต.หัวโพธ์ อ.บางแพ จ.ราชบุรี คนขับรถบรรทุกพ่วงคันเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกไฟลวกที่บริเวณด้านหลังและแขน รวมถึงเส้นผมบนศีรษะถูกนำส่ง รพ.บ้านหมอ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บพากันไปทำธุระที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี จนมาประสพอุบัติเหตุ โดบผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเล่าว่า รถยนต์เก๋งวิ่งมาด้วยความเร็วมุ่งหน้า อ.บ้านหมอ ได้เสียหลักกินเลน พบมีรอยเบรกข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามในขณะที่ รถยนต์บรรทุกพ่วงบรรทุกแร่ลิกไนท์เต็มคันมุ่งหน้าไปทาง อ.พระพุทธบาทเพื่อส่งลิกไนท์ให้กับโรงปูนแห่งหนึ่งในย่านนั้นพอดี จึงเป็นเหตุให้รถทั้งสองคันชนประสานงากันอย่างจังเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้รถบรรทุกพ่วงเสียหลักพุ่งเข้าชนรั้วบ้านและเสาไฟฟ้าริมทางหักทับหลังคาบ้านเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นจากถังก๊าซที่อยู่ด้านหลังหัวพ่วงมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

วาระแห่งชาติ อีกก้าวย่างของสหกรณ์ไทย - ทิศทางเกษตร





คณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ได้มีรายงานผลการศึกษา เรื่องการส่งเสริมและสนับสนุนให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติในโอกาสทศวรรษครบ 100 ปี ของการสหกรณ์ไทย ขณะเดียวกันปี 2555 ทางองค์การสหประชาชาติก็ได้ประกาศให้เป็นปีสหกรณ์สากลด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้กำหนดให้ปี 2555 เป็นปีแห่งการพัฒนาขบวนการสหกรณ์ไทยเป็นวาระแห่งชาติ

นายสมชาย  ชาญณรงค์กุล  อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์  เปิดเผยว่า ในการดำเนินงานดังกล่าวจะเป็นไปภายใต้แนวทางการสนับสนุน พัฒนาและการรวมกลุ่มของประชาชนด้านเศรษฐกิจและสังคมด้วยวิธีการสหกรณ์ จะให้มีการขยายเครือข่ายความร่วมมือเพื่อยกระดับการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการสหกรณ์ของคนในชาติทุกระดับ จะมีการปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวกับงานส่งเสริมสหกรณ์ให้มีเอกภาพและมีส่วนร่วมจากขบวนการสหกรณ์มากขึ้น รวมทั้งจะมีการปรับทิศทางการส่งเสริมสหกรณ์ ด้วยการมุ่งเน้นการกำหนดและพัฒนามาตรฐานสหกรณ์องค์กรภาครัฐจะมีการสนับสนุนด้านงบประมาณกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขบวนการสหกรณ์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาและปรับปรุงกฎหมายสหกรณ์เพื่อให้เอื้อต่อการส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ ภายใต้อุดมการณ์หลักการ และวิธีการสหกรณ์อย่างเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะเป็นแม่งานหลักในการผลักดันและเดินหน้า ร่วมกับสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ชุมนุมสหกรณ์ระดับชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. กพร.  คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ กระทรวงพาณิชย์  กระทรวงการคลัง และกระทรวงศึกษาธิการอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เดินหน้าผลักดันให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติอย่างเต็มที่  โดยในครึ่งปีแรกของปี 2555 จะเป็นการระดมความคิดเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจากบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รอบด้าน ซึ่งทุกฝ่ายได้เห็นตรงกันว่า ระบบสหกรณ์เป็นระบบที่มีความเข้มแข็ง เป็นระบบที่มีศักยภาพอยู่ในตัว  ซึ่งการจะสนับสนุนให้เติบโตต่อไปและจะมีการกำหนดทิศทางที่ชัดเจนและเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง

และล่าสุดทาง กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติทั้งหมด 6 ชุด ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนสหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ คณะอนุกรรมการจัดการงานชุมชนและครอบครัวด้วยวิธีการสหกรณ์ คณะอนุกรรมการด้านการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบการผลิต การตลาดและการเงินของสหกรณ์ คณะอนุกรรมการด้านการจัดการเรียนรู้การสหกรณ์ทั้งในระบบและนอกระบบการศึกษา คณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาและปรับปรุงกฎหมายสหกรณ์ คณะอนุกรรมการด้านการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ ซึ่งจะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และจัดทำข้อตกลงความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกาศการพัฒนาขบวนการสหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติในเดือนกรกฎาคม  2555 นี้

สหกรณ์ไทยได้ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อ 96 ปีที่แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนให้แก่เกษตรกรและราษฎรที่ยากไร้ในชนบท ประสบความสำเร็จและมีการขยายผลด้วยการจัดตั้งสหกรณ์เพิ่มขึ้น กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค ปัจจุบันทั่วประเทศมีสหกรณ์ทั้งหมด 7,018 แห่ง มีสมาชิกมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 16 ของประชากรทั้งประเทศ มีปริมาณธุรกิจรวม 2.05 ล้านล้านบาท

ขบวนการสหกรณ์จึงได้รับการยอมรับว่าเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และได้รับการกำหนดให้อยู่ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันในมาตรา 84 (9) ที่ว่า “รัฐต้องส่งเสริมสนับสนุนและคุ้มครองระบบสหกรณ์ให้เป็นอิสระ...” และยังเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องทุกยุคทุกสมัยอย่างต่อเนื่องตลอดมา.

เผยเดือนมี.ค.55หนี้สาธารณะทะยาน4.473 ล้านล้านบาท





เป็นหนี้ของรัฐบาล 3.268 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 124,814.18 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ ลดลง 877 ล้านบาท
วันนี้ ( 17 พ.ค.)  นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้างจนถึงสิ้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 4.473 ล้านล้านบาทหรือคิดเป็น 41.43% ของจีดีพี เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 122,045.24 ล้านบาท โดยเป็นหนี้ของรัฐบาล 3.268 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 124,814.18 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ ลดลง 877 ล้านบาท

ขณะที่หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.036 ล้านล้านบาท ประกัน ลดลง 2,977.64 ล้านบาท และหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน รัฐบาลค้ำประกัน162,544.80 ล้านบาท ลดลง 668.30 ล้านบาท ส่วนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินนั้นไม่มีหนี้คงค้าง โดยมีหนี้ของรัฐบาลที่กู้โดยตรง เพิ่มขึ้นจากหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 97.64 ล้านบาท เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทเพิ่มขึ้นสุทธิ 129.47 ล้านบาท และการชำระคืนสกุลเงินเหรียญแคนาดาและเงินเยนทำให้ยอดหนี้คงค้างในรูปเงินบาทลดลง 31.83 ล้านบาท ส่วนหนี้ในประเทศ เพิ่มขึ้นจากการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 70,110 ล้านบาท และการออกตั๋วเงินคลัง 40,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หนี้ที่รัฐบาลกู้เพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 2,230.09 ล้านบาท เนื่องจากการไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกภายใต้ พ.ร.ก. ช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูระยะที่ 2 ก่อนกำหนดโดยใช้เงินจากบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ขณะที่หนี้เงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ เพิ่มขึ้นจากการกู้เงินล่วงหน้า 15,000 ล้านบาท

สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน ลดลงจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และการเคหะแห่งชาติไถ่ถอนพันธบัตร 539 ล้านบาท และ 2,000 ล้านบาทตามลำดับ อีกทั้งรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลค้ำประกัน เบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่าง ๆ มากกว่าการชำระคืน ต้นเงินกู้ 239.52 ล้านบาท ส่วนหนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ลดลงจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคออกพันธบัตร 730 ล้านบาท และไถ่ถอน 75 ล้านบาท รัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลไม่ค้ำประกันเบิกจ่ายจากแหล่งเงินกู้ต่าง ๆ น้อยกว่าชำระคืนต้นเงินกู้ 680.92 ล้านบาท.

โครงการบ้านหลังแรกอืด ธอส.ปล่อยกู้ได้แค่ 3,000 ล้านบาท





ยังเหลือวงเงินสินเชื้อที่รออนุมัติอีก 500 ล้านบาท จากเป้าหมายรวมสินเชื่อจะปล่อยให้ได้ 2 หมื่นล้านบาท
วันนี้ ( 17 พ.ค.) นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ตั้งเป้าหมายจะเร่งปล่อยสินเชื่อโครงการบ้านหลังแรกให้ได้ 10,000 ล้านบาทภายในปีนี้ หลังจากที่ผ่านมายังปล่อยสินเชื่อโครงการนี้ไม่ได้มากนัก แม้จะเปิดตัวมาแล้วหลายเดือนหรือเพียง 3,000 ล้านบาท และยังเหลือวงเงินสินเชื่อที่รออนุมัติในขณะนี้อีก 500 ล้านบาท จากเป้าหมายรวมสินเชื่อจะต้องปล่อยให้ได้ 20,000 ล้านบาท

“ธนาคารจะใช้นโยบายเชิงรุกมากขึ้น จากเดิมที่ให้ลูกค้าวิ่งเข้ามาขอสินเชื่อเอง เป็นธนาคารเข้าไปติดต่อกับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีขนาดสินเชื่อไม่เกินยูนิตละ 1 ล้านบาท เพื่อให้ส่งลูกค้าเข้ามาใช้สินเชื่อในโครงการนี้ เช่น โครงการของแอลพีเอ็น และขณะนี้กำลังก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ 1,000 ยูนิตเฉลี่ยราคายูนิตละ 800,000-900,000 บาท”  นายวรวิทย์  กล่าว


นายวรวิทย์  กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ธนาคารเตรียมอนุมัติโครงการสินเชื่อที่ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือน และขณะนี้คณะกรรมการธอส.กำลังพิจารณา จะช่วยเติมเต็มให้โครงการบ้านหลังแรกมียอดสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย เนื่องจาก ผู้ที่ไม่มีสลิปเงินเดือนนั้น จะเป็นกลุ่มที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ไม่ได้มีงานประจำ แต่มีรายได้จากการประกอบอาชีพของตัวเอง เช่น อาชีพค้าขาย และ รับจ้าง เป็นต้น ดังนั้น คนกลุ่มนี้ จึงถือว่า เป็นกลุ่มเป้าหมายเช่นกัน.

พิษฝนถล่ม"มันนี่เอ็กโป"วันแรกสุดกร่อย




แม้อัดแคมเปญกระหน่ำยังไร้ผล ด้านแบงก์กรุงศรีคิดสินเชื่อบ้าน ดอกเบี้ย 0% ต่อปี 3 เดือนแรก สินเชื่อบุคคล 0% ต่อปี 2 เดือนแรก เอสเอ็มอี 0% ต่อปี 3 เดือนแรก
วันนี้ ( 17 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานมหกรรมการเงินครั้งที่ 12  หรือมันนี่เอ็กโป 2012 จัดขึ้นโดยวารสารการเงินธนาคาร ระหว่างวันที่ 17-20 พ.ค.ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในวันนี้เป็นแรกบรรยากาศ ไม่ค่อยคึกคัก เนื่องจากเป็นช่วงวันทำงานปกติ ประกอบกับในช่วงบ่ายฝนตกหนัก การเดินทางไม่สะดวก  ทำให้รถติดอย่างหนัก จึงมีผู้เข้าร่วมงานน้อย  แม้ว่าสถาบันการเงิน ธุรกิจประกันชีวิต ประกันภัย  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือบลจ. บริษัทหลักทรัพย์ หรือบล. บริษัทผู้ค้าทองคำ และโกลด์ฟิวเจอร์สจะเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร รวมทั้งมีแคมเปญจูงใจลูกค้าที่ทำธุรกรรมการเงินในงานเป็นจำนวนมาก ทั้งรับสิทธิ์ลุ้นรับรถยนต์ มอเตอร์ไซด์ ทองคำแท่ง ไอแพด ไอโฟน และแพกเกจท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ผู้จัดงานคาดการณ์ว่า จะมีคนเข้าชมงานประมาณ 900,000 คนและมีธุรกรรมเกิดขึ้นในงานกว่า 120,000 ล้านบาท  และหวังว่าในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้จะมีผู้เข้าร่วมงานมากกว่าวันแรก

สำหรับแคมเปญเงินฝากประจำที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยมีการต่อคิวยาวคือ เงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยพิเศษ 3.5% ต่อปีของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย สำหรับบุคคลธรรมดาที่มาเปิดบัญชีตังแต่ 50,000 บาทขึ้นไปและไม่เกิน 500,000 บาทกำหนดผู้ที่รับคูปองฝากเงินวันละ 1,500 คน โดยเพียงวันแรกยอดคนต่อคิวเกินโควต้าที่กำหนดไว้แล้ว ขณะที่เงินฝากประจำ 4 เดือน ดอกเบี้ย 3.5% ของธนาคารเกียรตินาคินมีลูกค้าให้ความสนใจอย่างมาก  โดยกำหนดเงินฝากเริ่มต้นที่ 100,000 บาทและสูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท

ส่วนธนาคารออมสินชูกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยสูงพิเศษ ไม่หักภาษีสำหรับผู้ฝากที่เป็นบุคคลธรรมดา เช่น เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 109 วัน อัตราดอกเบี้ย 2.85% ต่อปี เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 11 เดือน ดอกเบี้ย 3% เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 99 วัน ดอกเบี้ย 2.75%  โดยเงินฝากทุกประเภทเปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ส่วนเงินฝากประจำ 5 เดือนดอกเบี้ย 3.4 %  ทั้งนี้ในด้านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือธ.ก.ส.ออกแคมเปญเงินฝากอุ่นใจ ซึ่งเป็นเงินฝากระยะสั้น 4 เดือน ดอกเบี้ย 3% กำหนดฝากขึ้นต่ำ 100,000 บาท สุงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อบัญชี

นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด กล่าวว่า  สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.9% นาน 1 ปี  ขณะที่สินเชื่อเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอีมอบวงเงินกู้สูงสุด 150% หรือเลือกลงทุนในกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี  รับสิทธิลุ้นแพ็คเกจทัวร์ฮ่องกง เมื่อลงทุนทุก 1 ล้านบาท และลุ้นแพ็คเกจทัวร์ญี่ปุ่น เมื่อลงทุนทุก 3 ล้านบาท

ด้าน นายประดิษฐ์ เลี่ยวศิริกุล  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจสาขา ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า จุดเด่นของแคมเปญคือสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยพิเศษตลอด 3 ปีแรก 4.22% ต่อปี  และเปิดตัวประกันบ้านชัวร์ 100% คุ้มครองภัยธรรมชาติทั้งน้ำท่วม แผ่นดินไหว พายุและลูกเห็บ

ขณะที่ นายกฤษฏา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า  เครือกสิกรไทยให้บริการผลิตภัณฑ์การเงินหลากหลาย โดยสินเชื่อบ้านคิดดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ผ่อนชำระนานถึง 50 ปี พร้อมรับสิทธิ์ลุ้นรางวัลใหญ่รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส 5 และไอแพดมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท  ส่วนสินเชื่อรถช่วยผ่อนต่ำสุดอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 2 เดือน  พร้อมเปิดตัวบัตรเดบิตแองกรี้เบิร์ดส์สเปซ

นายกฤษณ์  จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า  มีบริการสินเชื่อบ้านกรุงศรี: อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 3 เดือนแรก  สินเชื่อบุคคลกรุงศรี สไมล์ แคช อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 2 เดือนแรก  เอสเอ็มอี  อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี 3 เดือนแรก และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จากกรุงศรี ออโต้.

ศธ.รับชุดนักเรียนแพงคุมไม่ได้





ร้านค้าอัพชุดนักเรียน งบฯค่าเครื่องแบบปี55ปรับตามไม่ทัน โยนผู้ปกครองรับภาระ ศธ.ชี้อยู่เหนือการควบคุม



วันนี้ ( 10 พ.ค.) ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ(ศธ.) กล่าวถึงกรณีร้านค้าได้มีการปรับเพิ่มราคาเครื่องแบบนักเรียนประมาณ10-20 บาททำให้ราคาเฉลี่ยต่อชุดอยู่ที่ประมาณ260 บาทว่าในปีการศึกษา2555นี้ศธ.ได้จัดสรรงบประมาณซื้อชุดนักเรียนไปให้ โรงเรียนแล้ว โดยอยู่ในงบประมาณโครงการเรียนดี เรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ซึ่งการปรับเพิ่มราคาชุดนักเรียนนั้นอาจจะกระทบต่อผู้ปกครองบ้าง แต่ในปีนี้ศธ.คงไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ ส่วนการตั้งงบประมาณที่จะจัดซื้อชุดนักเรียนในปีหน้านั้น ตนจะให้พิจารณาปรับเพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับราคาชุดนักเรียนที่มีราคาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามจากนโยบายของรัฐบาลที่ปรับเพิ่มเงินเดือนระดับปริญญาตรี15,000 บาทนั้น หากผู้ปกครองนักเรียนได้รับการปรับเงินเดือนในส่วนนี้ก็อาจจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก

ด้านดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวว่า เรื่องนี้ผู้ปกครองต้องไปบริหารจัดการเอง เพราะเป็นปัจจัยที่เหนือการควบคุมของศธ.และในปีหน้าอาจจะต้องเสนอเพิ่มเงินค่าชุดนักเรียนให้สอดคล้อง กับค่าครองชีพที่ปรับเพิ่ม ส่วนการจัดซื้อหนังสือเรียนของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)นั้นแม้การแจกแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่1 จะไม่ทันช่วงต้นของภาคเรียนแรกแต่ก็คงไม่กระทบอะไรเพราะทางโรงเรียนก็ยังจัด ซื้อหนังสือเรียนตามปกติ เนื่องจากสพฐ.ไม่ได้สั่งห้ามโรงเรียนซื้อหนังสือและตอนนี้ก็โอนงบจัดซื้อให้โรงเรียนแล้ว

ยิ่งใหญ่งานมหกรรมชุดนักเรียนถูกรับเปิดเทอมใหม่





กระทรวงศึกษาธิการ หั่นงบสนับสนุนในการศึกษากว่า 42,000 ล้าน เปิดงานมหกรรมชุดนักเรียน จัดร้านดังจำหน่ายในราคาถูก
วันนี้ ( 17 พ.ค.) เวลา 08.30 น. ที่บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)  ศ.ดร.สุชาติ  ธาดาธำรงเวช  รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมเปิดงานมหกรรมชุดนักเรียนราคาถูก เพื่อลูกหลานไทย  โดยนำชุดนักเรียนราคาถูกกว่าท้องตลาดมาจำหน่ายให้กับผู้ปกครองนักเรียน

ศ.ดร.สุชาติ  กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลชุดมีนโยบายให้ ศธ.จัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ โดยจัดสรรจัดสรรงบประมาณให้จำนวนกว่า 42,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษา ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานรวม 5 รายการ ประกอบด้วย ค่าจัดการเรียนการสอน ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน ค่าหนังสือเรียน และค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพเรียน เพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมกันและเป็นการแบ่งเบาภาระผู้ ปกครอง แต่ขณะนี้มีการปรับตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจนทำให้สินค้าบางชนิดปรับราคาสูงขึ้น รวมถึงเครื่องแบบนักเรียน ดังนั้นเพื่อเป็นการตรึงราคาและช่วยผู้ปกครองประหยัดรายจ่ายด้านการศึกษา ศธ.จึงจัดมหกรรมขายชุดนักเรียนราคาถูก


ด้านนายบำเหน็จ ทิพย์อักษร รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากร ทางการศึกษา(สกสค.)ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการองค์การค้าของสกสค. กล่าวว่า ชุดนักเรียนขององค์การค้าฯที่นำมาจำหน่ายจะมีหลายราคาและหลายแบบตาม คุณภาพของเนื้อผ้า และจะลดจากราคาปกติตั้งแต่ 28-36% อาทิเช่น ชุดนักเรียนระดับประถมศึกษาจาก 250 บาทลดเหลือ 180 บาท ระดับมัธยมศึกษา จาก 350 บาทลดเหลือ 225 บาท ซึ่งนอกจากผู้ปกครองจะหาซื้อได้ภายในงานมหกรรมชุดนักเรียนบริเวณหน้าศธ.แล้ว ยังหาซื้อได้ที่ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ทุกสาขา


รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับราคาชุดนักเรียนที่นำมาจำหน่ายนั้น มีหลากหลายราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพเนื้อหา ยี่ห้อ เช่น ชุดนักเรียนระดับประถมศึกษาของยี่ห้อสมใจนึก จำหน่ายชุดละ 150 บาท เป็นต้น โดยมีผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนหนึ่งให้ความสนใจมาเลือกซื้อชุดนักเรียนให้ บุตรหลานก่อนเปิดภาคเรียนในสัปดาห์หน้า.

จับอีกแก๊งค้าสุนัขข้ามชาติโผล่มุกดาหาร





โผล่อีกแล้ว แก๊งค้าสุนัขข้ามชาติ คราวนี้ตำรวจน้ำมุกดาหาร สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ ตะครุบได้ขณะเตรียมนำส่งชายแดน รวมสุนัขที่ยึดได้ 214 ตัว
วันนี้( 19 พ.ค.) พ.ต.ท.ชยพล ใหญ่ยิ่ง สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3กองกำกับการ 10 มุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสายว่า จะมีแก๊งค้าสุนัข จากจังหวัด นครพนม - สกลนคร- มหาสารคาม เข้ามาส่งสุนัขในพื้นที่จังมุกดาหาร จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.อัครเดชน์ ภูทอง รองสารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 10 มุกดาหาร นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ ไปดักซุ่มที่บริเวณหน้าวัดบางทรายใหญ่ ถนนสำราญชายโขงเหนือ บ้านบางทรายใหญ่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง

กระทั่งพบรถกระบะโตโยต้าวีโก้ ทะเบียน บษ-5150 ขอนแก่น และ รถกระบะ นิสสันนาวาร่า ทะเบียน  บน-488 มหาสารคาม บรรทุกสุนัขเต็มคันรถทั้ง 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัว พร้อมให้สัญญาจอดรถ ก่อนเข้าตรวจค้นรถทั้ง 2 คัน  โดยคันแรกรถกระบะโตโยต้า วีโก้ พบนายมติ ไชยหงษา อายุ 43 ปี เป็นคนขับ และมีนายพะนม ปะเพระคา อายุ 30ปี นั้งมาด้วย ส่วนคันที่ 2 รถกระบะนิสสัน นาวาร่า มีนาย บรรเลง โคตรสุโพธิ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขับ และมีน.ส.สุพรรษา มาลาหอม อายุ 31ปี นั่งมาด้วยกัน


จากการตรวจสอบพบว่ารถทั้งสองคันบรรทุกสุนัขมาทั้งหมด  214 ตัว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันเคลื่อนย้ายสัตว์(สุนัข ) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2499 ก่อนควบคุมตัว พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
           

ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า ขณะนี้ขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติได้เปลี่ยนเส้นทางการค้าสุนัขข้ามชาติ จาก จ.นครพนม  มาที่ จ.มุกดาหาร เนื่องจากการจับกุมครั้งที่ผ่านมา เดือนเมษายน  ที่ อ.หว้านใหญ่  จ.มุกดาหาร   585 ตัว และในครั้งนี้ถูกจับอีก 214 ตัว.

หย่อมความกดอากาศต่ำอ่อนกำลังส่งผลทั่วไทยฝนลดลง





กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศ หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมอ่าวมะตะบันมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังปานกลาง ทำให้ทุกภาคของไทยมีฝนลดน้อยลงช่วงนี้
วันนี้(20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมอ่าวมะตะบันมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยยังคงมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนลดลงในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมาก บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมาก บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก  มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)  มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)  มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

พฤษภาคมไข่ไก่ ปรับตัวสูงขึ้น




รายงานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ไข่ไก่ในบางพื้นที่ จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไก่ไข่ที่สำคัญของภาคกลาง พบว่า ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์ม ไข่ขนาดใหญ่ เบอร์ 1 ราคาอยู่ระดับ 2.80–3.00 บาท ต่อฟอง ขณะที่ราคาไข่ไก่ตลาดสด เบอร์ 1 ราคาอยู่ระดับ 3.20 บาทต่อฟอง

โดยช่วงเดือนเมษายนนั้น สภาพอากาศร้อนส่งผลกระทบต่อสภาพการเลี้ยงไก่ไข่ในโรงเรือนแบบเปิด บนบ่อปลาที่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ ส่งผลให้ไก่ไข่กินอาหารได้น้อย ผลผลิตที่ได้มีขนาดเล็ก ประมาณ เบอร์ 2 เบอร์ 3 เบอร์ 4 ซึ่งสวนทางกับผู้บริโภคที่ต้องการไข่ขนาดใหญ่ ประกอบกับช่วงปี 2553 มีการเปิดนำเข้าพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ อย่างเสรี ส่งผลให้ผลผลิตจำนวนมากออกสู่ตลาด และพบว่า เกษตรกรจำเป็นต้องขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่พ่อค้าขายส่งกำหนด เช่น ไข่ไก่เบอร์ 4 ขายได้ราคา 1.50 บาทต่อฟอง ไข่ไก่เบอร์ 5 ขายได้ราคา 1.10 บาทต่อฟอง เพื่อระบายไข่และให้ฟาร์มตนเองอยู่รอด

และจากสถานการณ์ราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มที่ตกต่ำนี้ ส่งผลกระทบต่อการนำไก่สาวขึ้นกรง ทั้งที่ราคาไก่สาวลดลงเหลือ 90–100 บาทต่อตัวจากราคาประมาณ 150 บาทต่อตัวในปีก่อน ส่วนต่างของราคาไข่ไก่กับต้นทุนอาหารแตกต่างกันมาก จนเกษตรกรบางรายจำเป็นต้องปลดไก่ลงก่อนกำหนด  ในสถานการณ์ดังกล่าว จึงเสนอแนะให้เกษตรกรเน้นการบริหารจัดการ โดยเฉพาะในเรื่องค่าจ้างแรงงาน ยกตัวอย่างเช่น การหารายได้เพิ่มจากแรงงานที่มีอยู่ ในยามที่แรงงานว่างจากงานเกษตรในฟาร์ม เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนที่เกษตรกรแบกรับอยู่ในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเดือนพฤษภา คมราคาไข่ไก่จะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากสถานศึกษาเปิดภาคเรียน และการบริโภคไข่ไก่จะกลับมาเหมือนเดิม.

หนุนเกษตรกรผลิตก๊าซชีวภาพ




รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยถึงผลการศึกษาความคุ้มค่าในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาด ว่า การจัดทำกลไกการพัฒนาที่สะอาด  เป็นกลไกหนึ่งที่กำหนดขึ้นภายใต้พิธีสารเกียวโตเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยในเบื้องต้นได้กำหนดสัญญาซื้อขายคาร์บอนเครดิตเฉพาะปีที่ 1-2 ไว้ที่ราคา 17 ดอลลาร์ สหรัฐต่อตัน สำหรับ 253,500 ตันแรก และหลังจากนั้นจะซื้อขายในราคาตลาด ซึ่งแม้ว่าฟาร์มสุกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับรายได้จากการขายคาร์บอนเครดิตเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนในโครงการดังกล่าว มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนและการดำเนินการค่อนข้างสูง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีการศึกษาถึงความคุ้มค่าของการลงทุน โดยศึกษาจากฟาร์มสุกรที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 10 ฟาร์ม และกำหนดให้อายุโครงการเท่ากับ 10 ปี มีอัตราคิดลดร้อยละ 7.00

จากวิเคราะห์ทางการเงินของการลงทุนในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาด ที่เข้าร่วมโครงการของกรมปศุสัตว์ทั้งกรณีที่มีเงินอุดหนุนและไม่มีเงินอุดหนุน พบว่า  มูลค่าปัจจุบันสุทธิ มีค่า 188.16 และ 131.00 ล้านบาท  อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน มีค่าเท่ากับ 1.56 และ 1.36 และมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน เท่ากับร้อยละ 45 และ 25 ตามลำดับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การลงทุนในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาดในภาพรวม  ทั้งกรณีมีเงินอุดหนุนและไม่มีเงินอุดหนุนมีความคุ้มค่าต่อการลงทุน

หากวิเคราะห์ถึงความอ่อนไหวของโครงการทั้ง 2 กรณีข้างต้น  พบว่า การลงทุนในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาดจะไม่คุ้มค่า หากผลตอบแทนของโครงการลดลงมากกว่า ร้อยละ 63 และ 54 ตามลำดับ และหากต้นทุนในการลงทุนของโครงการดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 56 และ 39 ตามลำดับ

นอกจากนี้ จากการศึกษายังพบว่า ราคาตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตในปัจจุบันมีความผันผวนสูง ดังนั้น การก่อตั้งกองทุนคาร์บอนเครดิตจึงเป็นประเด็นที่ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำมาพิจารณาในการส่งเสริม โครงการการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียในฟาร์มสุกรภายใต้กลไกการพัฒนาที่สะอาด.

เดินหน้าพัฒนาหุบกะพง - เกษตรทั่วไทย





การประชุมแนวทางการบริหารจัดการน้ำและการดำเนินงานด้านสหกรณ์โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง ของ 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยมีนายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เป็นประธานในการประชุม ณ ห้องประชุม 201 อาคารสำนักงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการน้ำ และแนวทางการดำเนินงานด้านสหกรณ์ของโครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง

นายโกวิทย์ เพ่งวาณิชย์ รองเลขาธิการสำนักงาน กปร. เปิดเผยภายหลังจากการประชุมว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา พลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมที่ทำเนียบองคมนตรี เพื่อมอบหมายหน้าที่ดูแล แก้ไขปัญหา และพัฒนาพื้นที่โครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพง ซึ่งประสบปัญหาด้านแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำ การประชุมในครั้งนี้ก็เพื่อติดตามความคืบหน้า

“การหารือในวันนี้มีอยู่ 2 เรื่อง ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำ เนื่องจากพื้นที่โครงการเป็นพื้นที่แห้งแล้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาแหล่งน้ำผิวดินที่มีอยู่ อีกส่วนหนึ่งคือการซ่อมแซมระบบ และสถานีสูบน้ำเดิม ให้สามารถใช้การได้ ส่วนปัญหาระบบการบริหารจัดการ จะให้มีการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับราษฎรในพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการ ประเด็นที่สอง การดำเนินงานของสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์หุบกะพงเป็นโครงการตามพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากพิจารณาภาพรวม เรื่องระบบบัญชี หรือเรื่องอื่น ๆ นั้นยังถือว่ามีกำไรอยู่ แต่สหกรณ์ยังไม่สามารถบริการได้อย่างทั่วถึง จึงควรมีการบริหารจัดการที่ครบวงจร ขยายสมาชิกในพื้นที่ให้มากขึ้น ทุกครอบครัวในโครงการควรเป็นสมาชิกสหกรณ์ทั้งหมด เพื่อให้เกิดการรวมกลุ่มกันซื้อ รวมกลุ่มกันขาย จะทำให้เป็นประโยชน์แก่ราษฎรในพื้นที่อย่างเต็มที่  โดยสำนักงาน กปร. จะเข้าไปสนับสนุนเพิ่มเติมในการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานบางส่วน และส่งเสริมการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต และการประกอบอาชีพของสมาชิกสหกรณ์  อาทิการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย การส่งเสริมด้านปศุสัตว์ และการส่งเสริมอุตสาหกรรมในครัวเรือนเป็นต้น” รองเลขาธิการ กปร. กล่าว

สำหรับโครงการตามพระราชประสงค์หุบกะพงนั้น ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาใหญ่ และตำบลชะอำ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นโครงการตามพระประสงค์ที่เกิดขึ้นจากแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อจัดหาที่ดินและที่ทำการปฏิรูปที่ดิน พัฒนาที่ดินที่ว่างเปล่า แล้วจัดสรรให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินในการเพาะปลูกเป็นของตนเองเข้าทำการประกอบอาชีพการเกษตรแผนใหม่ แต่มิได้ให้กรรมสิทธิ์ในการถือครองที่ดินแต่อย่างใด รวมทั้งจัดตั้งศูนย์สาธิตและทดลองการเกษตร เพื่อศึกษาหาข้อมูลในด้านการปลูกพืชและการเลี้ยงสัตว์ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการเกษตรในพื้นที่แห้งแล้ง ตลอดจนเป็นการรวมกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการจัดสรรที่ดิน จัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตร โดยใช้หลักและวิธีการสหกรณ์ แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของสมาชิก ตั้งแต่การเริ่มผลิตจนถึงการจำหน่ายสู่ท้องตลาด นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งให้การศึกษา การส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ต่าง ๆ ให้แก่เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปอีกด้วย

ทางด้านนายสุเทพ  น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ว่า เนื่องจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา พื้นที่จังหวัดเพชรบุรีมีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างน้อย ดังนั้นน้ำที่ส่งด้วยระบบแรงโน้มถ่วงของโลกจึงขาดแคลนไปด้วย ต้องอาศัยการสูบน้ำด้วยกระแสไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว และสถานีสูบน้ำด้วยกระแสไฟฟ้าขาดการดูแล และมีการใช้งานมาร่วม 40 ปีจึงมีความชำรุด

“กรมชลประทานจะเข้าไปดูแลในเรื่องน้ำอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการพระราชดำริเป็นไปตามเป้าหมาย ขั้นต้นจะทำการซ่อมแซมสถานีสูบน้ำด้วยกระแสไฟฟ้าให้แล้วเสร็จเร็วภายในปีงบประมาณ 2555 นี้ โดยจะใช้งบประมาณจากสำนักงาน กปร. ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งใช้งบประมาณปกติของกรมชลประทานเอง” รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว.

ป๋ารอยตั้งเจอร์ราร์ดกัปตันผู้ดีลุยยูโร





รอย ฮอดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษ แต่งตั้ง สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ให้รับบทบาทกัปตันทีม "สิงโตคำราม" ชุดลุยศึกฟุตบอลยูโร 2012
รอย ฮอดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษ ประกาศแต่งตั้ง สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์จอมทัพของสโมสร "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ให้รับบทบาทกัปตันทีม "สิงโตคำราม" ชุดลุยศึกฟุตบอลยูโร 2012 ที่โปแลนด์ และยูเครน ซึ่งจะชิงชัยกันระหว่างวันที่ 8 มิ.ย.-1 ก.ค. นี้

ฮอดจ์สัน กล่าวว่า "ผมมีความภูมิใจที่จะประกาศให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ทำหน้าที่กัปตันทีมชาติอังกฤษ ในความคิดเห็นของผม เขาสมควรได้ทำหน้าที่นี้ ผมรู้จักเขาดี ทั้งในฐานะนักเตะและส่วนตัว ผมรู้ว่าเขาจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อทีม".

"เตเบซ" ซ่าหนัก อัดแหลก "เฟอร์กี" เป็นใคร





สวดแหลกคิดว่าเป็นประธานาธิบดีอังกฤษหรือไง ตนจึงต้องยอมขอโทษ ยันไม่เอ่ยปากแน่ ไม่มีสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกันแล้ว
คาร์ลอส เตเบซ กองหน้าจอมฟิตของ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี ด่าใส่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตเจ้านายเก่าที่แมนฯ ยูไนเต็ดอย่างดุเดือด หลังจากที่เพิ่งเป็นเรื่องฉาวชูป้าย "เฟอร์กี ไปสู่สุคติ" ในการฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก จนทำให้ต้นสังกัดต้องออกมาขอโทษ ขณะที่เจ้าตัวยอมรับผิด อย่างไรก็ตามหลังกลับถึงประเทศบ้านเกิดอาร์เจนตินา เตเบซ เหน็บเฟอร์กี อย่างแรงว่าเป็นประธานาธิบดีหรือไงที่ใครต่อใครต้องก้มหัวให้

"มันดูเหมือน เฟอร์กูสัน เป็นประธานาธิบดีอังกฤษ เขาพูดถึงนักเตะในทางแย่ ๆ ตลอดเวลา รวมถึงพูดไม่ดีเกี่ยวกับผม แต่ผมไม่เคยขอให้เขาออกมาขอโทษ แต่หากใครบางทำตลกเกี่ยวกับตัวเขา คุณจะให้ขอโทษ ผมไม่ขอโทษ มันไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดระหว่างผมกับเฟอร์กูสัน"เตเบซ กล่าวทิ้งท้าย

กวางโจวตั้งลิปปีกุมบังเหียน





"กวางโจวฯ" สุดเจ๋งดึง "ลิปปี" นั่งเก้าอี้คุมทีม เซ็นสัญญาถึงปี 2014
กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ ทีมแชมป์ลีกจีน สร้างความฮือฮาอีกแล้ว เมื่อประกาศได้ตัว มาร์เชลโล ลิปปี ยอดกุนซือที่พาอิตาลีเป็นแชมป์โลก 2006 เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมคนใหม่ แทนที่ของ ลี จัง ซู ที่เพิ่งโดนไล่ออกไปก่อนหน้านี้ทั้งที่เพิ่งพาทีมชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกก็ตาม ในการแถลงข่าวที่กวางโจว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา


กุนซือวัย 60 ปี ที่ไม่ได้คุมทีมไหนเลยนับแต่พาชาติบ้านเกิดตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2010 โดยเซ็นสัญญาถึงปี 2014 กล่าวว่า "เราติดต่อกันหนแรกเมื่อราว 4 เดือนที่แล้ว ผมได้ชมเกมหลายนัดในไชนีส ซูเปอร์ลีก และเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ผมจำหมายเลขนักเตะและฟอร์มการเล่นได้ และเร็วๆ นี้ผมคงจำชื่อพวกเขาได้แม่นยำ"


สำหรับ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ เป็นข่าวเกรียวกราวมาหนหนึ่งแล้วเมื่อปีก่อน ด้วยการซื้อตัว ดาริโอ คอนกา ที่ตามรายงานระบุว่า เป็นนักฟุตบอลได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก

แก๊งค้ายาเสพติดสังหารโหดนักข่่าว





ผู้สื่อข่าวอาชญากรรมแดนจังโก้ ถูกสังหารโหด ตำรวจคาดฝีมือแก๊งคายาเสพติด หลังพบจดหมายทิ้งไว้ข้างศพ แฉเหยื่อตายเป็นนักข่าวรายที่ 7
วันนี้( 19 พ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโกว่า เจ้าหน้าที่พบศพผู้สื่อข่าวชาวเม็กซิโกที่ถูกลักพาตัวบริเวณรัฐ โซโนรา ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจเสียชีวิตจากการถูกทรมาน


นาย โฮเซ ลารินากา โฆษกสำนักงานอัยการรัฐ โซโนรา แถลงว่า ตำรวจพบศพนาย มาร์โก้ อันโตนิโอ อาวิลา การ์เซีย วัย 34 ปี ผู้สื่อข่าวอาชญากรรมของหนังสือพิมพ์ เอล รีเจียนนอล เดอ โซโนรา ข้างทางหลวงสายตะวันตกเฉียงเหนือ ห่าวจากเมือง ซิวแดด โอเบรกอน ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ตายถูกลักพาตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. 120 กิโลเมตร สภาพศพมีร่องรอยของการถูกทำร้ายตามร่างกายหลายแห่ง นอกจากนี้ ข้างศพยังมีจดหมายลงชื่อหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่อีกด้วย


ทั้งนี้ นายลารินากาปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนายการ์เซีย รวมถึงเนื้อความในจดหมายฉบับดังกล่าว โดยกล่าวเพิ่มเติมแต่เพียงว่า นายการ์เซีย นับเป็นผู้สื่อข่าวรายที่ 7 ที่ถูกสังหาร ตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้สื่อข่าวอีก 6 ราย ถูกสังหารภายในเดือน เม.ย. เพียงเดือนเดียว

ฉาว! "โคโยตี้" โผล่เต้นยั่วกลางลานชุมนุมแดง





วันนี้( 19 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การชุมนุม ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)  เพื่อร่วมรำลึก 19 พ.ค. ครบรอบ 2 ปี สลายการชุมนุม ในช่วงบ่าย ได้เกิดเหตุการณ์โกลาหลขึ้นเล็กน้อย ระหว่างที่กลุ่มคนเสื้อแดงทยอยเข้ามาจับจองพื้นที่นั่งเตรียมฟังการปราศรัยของแกนนำ ซึ่งจะเริ่มมีขึ้นในช่วงเย็นนั้น ปรากฏว่าได้มีรถกระบะ นิสสันนาวาร่า ทะเบียน บฉ-931 นครพนม ติดเครื่องเสียงชุดใหญ่ ขับเข้ามาจอด บริเวณด้านหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ ใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม ถนนเพลินจิตขาออก แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จากนั้นได้มีหญิงสาววัยรุ่น 3 คน แต่งกายชุดวาบหวิวสีแดงคล้ายโคโยตี้ ขึ้นมาเต้นยั่วยวนอยู่บนกระบะหลังรถ ตามจังหวะของเสียงเพลง ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงกว่า 30 คน รีบพากันเข้ามารุมล้อม พร้อมพยายามขับไล่ให้รถคันดังกล่าว ขับออกนอกพื้นที่ชุมนุมทันที เนื่องจากมองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะในวันดังกล่าวเป็นการรำลึกถึงผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ทางการเมือง ไม่ใช่ช่วงเวลาสนุกสนาน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อย ต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ และให้รถคันดังกล่าวรีบออกจากพื้นที่ทันที ก่อนเรื่องจะบานปลาย


จากการสอบถามคนเสื้อแดงรายหนึ่ง เผยว่า เห็นรถกระบะคันดังกล่าวมาจอดอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว จู่ๆก็เปิดเครื่องเสียงดังสนั่นหวันไหว กระทั่งมีหญิงสาววัยรุ่นอายุประมาณ 19-20 ปี 3 คนใส่ชุดวาบหวิวสีแดง เดินขึ้นมาทำการเต้นยั่วยวนประมาณ 5 นาที จนมีกลุ่มเสื้อแดงบริเวณใกล้เคียงเดินมารุมล้อมตะโกนขับไล่ ส่วนตัวตนคิดว่าเป็นการไม่เหมาะสมเพราะในวันนี้ถือว่าเป็นงานรำลึกเหตุการณ์ซึ่งน่าจะเป็นการไว้อาลัยมากกว่าเป็นงานรื่นเริง.

"เต้น"โวชุมนุมครั้งหน้าอาจเห็น"ทักษิณ"ยืนบนเวที





“เต้น” ไม่ฟันธง "ทักษิณ" ยินดี “ตู่” กลางเวทีแดง เป็นสัญญาณได้นั่งเก้าอี้ รมต.หรือไม่ พร้อมบอกนายใหญ่ประกาศไม่โฟนอินเวทีแดงเป็นเพียงความหวัง ไม่มีสัญญาณพิเศษ โวชุมนุมครั้งหน้า อาจได้เห็นตัวจริง “ทักษิณ” ปรากฏบนเวทีก็ได้
วันนี้(20 พ.ค.)  ที่ตึกดินสอ อาคารบริการวิชาการและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาราชภัฎกาญจนบุรี  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรแลสหกรณ์ แกนนำคนเสื้อแดง  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ามายังเวทีคนเสื้อแดงที่บริเวณแยกราชประสงค์ โดยระบุว่าจะเป็นการโฟนอินเข้ามาเป็นครั้งสุดท้าย ว่า เนื่องจาก พ..ต.ท.ทักษิณมีความคาดหวังว่าหากกระบวนการปรองดองเดินหน้าไปได้ ผ่านอุปสรรค และการขัดขวางทั้งหมด ก็น่าจะถึงวาระที่ท่านจะได้กลับมาพบกับพี่น้องคนเสื้อแดงในประเทศไทยได้  โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการสื่อสารโดยการโฟนอินหรือวีดีโอลิงก์อีก ซึ่งก็เป็นสิ่งที่คนเสื้อแดงรอคอยมากว่า 6 ปีเช่นกัน เมื่อถามว่าแสดงว่ามีสัญญาณว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับเข้าประเทศในเร็ว ๆ นี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ใช่มีสัญญาณอะไร แต่เมื่อทุกฝ่ายบอกว่าไม่ปฏิเสธการปรองดอง  พ.ต.ท.ทักษิณเองก็ยอ่มมีความคาดหวังว่าน่าจะมีโอกาสได้รับความยุติธรรม และพิสูจน์ตัวเองในทุกคดีที่ถูกกล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรมปกติในประเทศไทย ส่วนสถานการณ์จริงจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องที่เราต้องตามดูกันต่ออีกที

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับประเทศภายในปีนี้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนอยากให้ท่านได้กลับมาตั้งแต่ปีแรกที่ถูกทำรัฐประหาร เพราะกระบวนการที่จัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณจนพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นกระบวนการที่ไม่มีที่ไหนในโลกเขายอมรับ และกระบวนการที่ยัดเยียดให้ต้องกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีต่าง ๆก็เกิดจากกลไกของอำนาจรัฐประหารทั้งสิ้น ซึ่งสังคมควรจะคืนความเป็นธรรม และให้โอกาสได้พิสูจน์ตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจึงมีความหวังว่าถ้าการปรองดองเกิดขึ้นทุกอย่างเดินไปข้างหน้า วันเวลาที่ท่านจะได้กลับประเทศไทยก็คงจะอยู่ในช่วงไม่ไกลจากนี้ และถ้าเป็นอย่างนั้นก็หวังว่าการโฟนอินเมื่อคืนวันที่ 19 พ.ค.นี้ น่าจะเป็นครั้งสุดท้าย

“แม้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณประกาศไม่โฟนอินเข้ามายังเวทีคนเสื้อแดงอีก แต่ท่านก็ยังเป็นที่รัก และศรัทธาของคนเสื้อแดงเหมือนเดิม ท่านยังเป็นนายกฯที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ชัดมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังเป็นนายกฯที่บ้านเมืองนี้จะต้องหยิบยื่นความยุติธรรมให้ ความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณกับคนเสื้อแดงจึงไม่มีเปลี่ยนแปลง เมื่อท่านมีความหวัง เราก็มีความหวังด้วยว่า ครั้งต่อไปที่เราจัดชุมนุม พ.ต.ท.ทักษิณก็น่าจะได้มาปรากฏตัวบนเวทีในประเทศไทย” นายณัฐวุฒิ กล่าว  เมื่อถามว่าการโฟนอินเมื่อคืนเป็นการส่งสัญญาณมายังรัฐบาลหรือไม่ว่ารัฐบาลควรเร่งทำให้เกิดความปรองดองเพื่อที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้กลับประเทศเสียที นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตั้งแต่ 5-6 ปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณก็พูดและโฟนอินว่าจะได้กลับบ้านตลอดเวลา ดังนั้นการพูดเมื่อคืนจึงไม่มีสัญญาณอะไรเป็นพิเศษไปมากกว่าความคาดหวังเท่านั้น

เมื่อถามว่าในฐานะเป็นหนึ่งในรัฐบาล จะไม่ทำให้ความหวังของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นจริงหรือ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนหวังให้บ้านเมืองพบทางออกจากวิกฤติของความขัดแย้งและหวังให้ทุกคนได้รับความยุติธรรม ซึ่งรวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณด้วย และสาเหตุที่คนเสื้อแดงยังต้องเคลื่อนไหวต่อไปแม้ว่าจะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว เพราะเราจะต้องทำให้ทุกคนที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์ความรุนแรงได้รับการเยียวยาและได้รับความยุติธรรมก่อน

เมื่อถามว่าถึงเวลาที่ควรจะไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงและเสื้อเหลืองในประเทศได้หรือยังเพราะกำลังก้าวเข้าสู่ความปรองดอง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ความแตกต่างทางความคิดยังมีอยู่ได้ตามปกติ คำว่าปรองดองไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำให้ทุกฝ่ายเลิกล้มอุดมการณ์ทางการเมือง คิดเหมือนกัน รักกันดูดดื่มซาบซึ้ง แต่หมายถึงเราอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติบนความแตกต่างทางความคิด ไม่มีการใช้ความรุนแรง และไม่มีกระบวนการนอกกฎหมายมาจัดการ ซึ่งตนอยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจให้กว้าง เรื่องสีเป็นเรื่องเล็ก แต่เรื่องใหญ่ที่สุดคือหัวใจของทุกฝ่ายว่าอยากจะให้เกิดความปรองดองกันจริงหรือไม่ และการปรองดองจะต้องทำให้คนไทยทั้งประเทศได้ประโยชน์ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นหนึ่งในคนไทย หากปรองดองแล้วบอกว่าต้องกัน พ.ต.ท.ทักษิณออกไป ไม่ให้ได้รับความยุติธรรม หรือได้รับโอกาสใด ๆ จากบ้านเมือง ถือเป็นวิธีคิดที่ผิด แต่ถ้าคนไทยทั้งประเทศจะได้ประโยชน์ และพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในนั้นด้วย และบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า ก็เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ เราจะไปขีดเส้นเอาคนไทยคนหนึ่งออกจากความยุติธรรมไม่ได้ ตราบใดที่ยังมีคนได้รับความอยุติธรรมอยู่ บ้านเมืองนี้ต้องยื่นมือไปดึงเขาเข้ามาในวงของความยุติธรรมเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เรียกร้องที่จะล้มคดีความหรือเรียกร้องเกินเลยไปกว่าการได้รับโอกาสพิสูจน์ตัวเอง

นอกจากนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตร แกนนำคนเสื้อแดง  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ามายังเวทีคนเสื้อแดงที่บริเวณแยกราชประสงค์ โดยแสดงความยินดีกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่หลายฝ่ายมองว่าอาจเป็นสัญญาณว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า  พ.ต.ท.ทักษิณให้ความเมตตากับนายจตุพรมาตลอด และนายจตุพรเองก็มีความรู้ มีความสามารถทางการเมืองไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ที่สำคัญจิตวิญญาณของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย การทำงานอย่างทุ่มเทเสียสละเพื่อพรรค และประชาชน นายจตุพรแสดงออกเป็นที่ประจักษ์ชัด ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณก็คงต้องการจะให้กำลังใจ ส่วนหลังจากนี้จะได้เป็นรัฐมนตรีหรือดำรงตำแหน่งในรัฐบาลแบบไหน อย่างไร ก็เป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี


“เรืองไกร”ชี้ปชป.เสี่ยงสูงถูกยุบไม่แจงงบดุลรับเงินบริจาคอีสวอเตอร์






“เรืองไกร”ชี้พรรคประชาธิปัตย์เสี่ยงสูงถูกยุบ เหตุไม่แจงงบดุลรับเงินบริจาคอีสวอเตอร์ เผยยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบแล้ว
วันนี้ (20 พ.ค.)นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. ระบุว่าได้ยื่นเรื่องยุบพรรคประชาธิปัตย์ จากกรณีรับเงินบริจาคจาก บริษัท อีสวอเตอร์ ว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการที่พรรคประชาธิปัตย์ เปิดบัญชีกับธนาคารกรุงไทยเพื่อขอรับเงินบริจาคเข้าศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เมื่อเดือน พ.ย.2553 โดยช่วงแรกเว็ปไซด์ของพรรคแจกแจงรายชื่อผู้บริจาค โดยมีชื่อบริษัท อีสวอเตอร์บริจาคให้ 1 ล้านบาท มีภาพนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายสาธิต ปิตุเตชะ ร่วมรับอยู่ด้วย แต่เมื่อตรวจสอบต่อไปว่าได้มีการแจกแจงบัญชีดังกล่าว ไว้ในรายงานงบดุลของพรรคปี 2553 หรือไม่ ก็ไม่พบว่ามีการแจ้งบัญชีเอาไว้ ตนจึงยื่นเรื่องให้นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว และทราบว่ามีการตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมาสอบปากคำผู้ร้องแล้ว โดยขอให้เรียกบัญชีธนาคารกรุงไทยมาตรวจสอบว่า พรรคเปิดบัญชีไว้โดยใคร มีเงินเข้าบัญชีกี่รายการ ออกจากบัญชีกี่รายการ และปิดบัญชีเมื่อใด เพราะเคยลองนำเงินไปฝากตามเลขที่บัญชีดังกล่าว ปรากฏว่าพนักงานธนาคารแจ้งว่าบัญชีปิดไปแล้ว


นายเรืองไกรกล่าวต่อว่า แสดงว่าบัญชีเคยมีอยู่จริง และเนื่องจากรายงานเงินบริจาค เดือนพ.ย.2553 ที่แจ้ง กกต. ไม่พบรายการรับบริจาคจาก อีสวอเตอร์ วนชัยกรุ๊ป และกลุ่มบริษัทกัฟล์ อีกทั้งในงบการเงินของพรรคปี 2553 ก็ไม่มีการรายงานเกี่ยวกับเงินบริจาคดังกล่าว จึงสงสัยว่าจะเป็นการทำบัญชีขึ้นมา 2 ชุดหรือไม่ และมีประเด็นที่ควรตรวจสอบว่า พรรคลงบัญชีครบถ้วนถูกต้องตามความเป็นจริงหรือไม่ แต่ยังไม่ทราบว่าคืบหน้าไปถึงไหน ซึ่งกรณีนี้เห็นว่ามีความชัดเจนว่าคดีรับเงินบริจาคจากบริษัทเมซไซอะ อันเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 65 ,71 ,82 ประกอบมาตรา 42 วรรคสอง ซึ่งมีโทษถึงขั้นยุบพรรค

ชนสนั่นเก๋งแม่พิมพ์ของชาติบวกพ่วง18ล้อดับ 3 เจ็บ 2





สลดเหตุครูสาวพาแม่ กับ น้อง กลับจากห้างดัง ที่ลพบุรี แต่รถเกิดเสียหลักกินเลน พุ่งชนประสานงาพ่วงบรรทุกแร่ เสียชีวิต 3 ศพ สาหัส อีก 2 แรงปะทะทำให้รถพ่วงชนเสาไฟและรั้วชาวบ้านจนเกิดเพลิงลุกไหม้
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. พ.ต.ท.สัญญา บุญสุวรรณ สวส.สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนกันและไฟลุกไหม้รถบรรทุกใกล้บ้านเรือนระชาชนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายบริเวณหลัก ก.ม.ที่ 12 บนถนนสาย พระพุทธบาท-บ้านหมอ ท้องที่ หมู่ 2 ต. บ้านหมอ จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วย รถดับเพลิงของเทศบาล ต.บ้านหมอ และ เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิปอเต็กตี๊งประจำบ้านหมอ


ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุก ทะเบียน 70-3238 นครปฐม ส่วนลูกทะเบียน 70-3239 นครปฐมเสียหลักพลิกตะแคงหันหัวไปทาง อ.พระพุทธบาท ชนรั้วบ้านชาวบ้านและเสาไฟฟ้าริมถนนทำให้ไฟลุกไหม้อยู่เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิงไม่นานนักก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ห่างกันไม่มากนักบริเวณกลางถนนพบรถยนต์เก๋งฮอนด้าซีวีคสีดำ ทะเบียน ญฉ-6044 กทม. หันหัวไปทาง อ.บ้านหมอ สภาพพังยับเยินในรถเก๋งผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย

ทราบชื่อ น.ส.ศิริพรรณ วัดกุด อายุ 25 ปี (คนขับ) พักอยู่บ้านเลขที่ 31/1 ม.1 ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี เป็นครูอัตราจ้างอยู่ที่ ร.ร.อ่างทองปัทมโรจน์ จ.อ่างทอง และ นางอรสา น้อยอ่าง อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.1 ต.โคกลำพาน อ.เมือง จ.ลพบุรี (นั่งเบาะหลัง) และ นางอุไรพร วัดกุด อายุ 50 ปี มารดา น.ส.ศิริพรรณ ปัจจุบันเป็นครูอยู่ที่ ร.ร.วัดหนองพันเรือ อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา กระเด็นออกจากตัวรถมาสภาพคอหักร่างแหลกเหลว เสียชีวิตกับพื้นถนน รวมผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ศพ

เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำส่ง รพ.บ้านหมอ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกพลมืองดีช่วยกันงัดรถหามส่ง รพ.พระพุทธบาทก่อนแล้ว อาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน ทราบชื่อต่อมาว่า น.ส.อรวรณ น้อยอ่าง อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 ร.ร.พิบูลย์วิทยาลัย จ.ลพบุรี ส่วนนายชัยวัฒน์ บุญสองอาย 49 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 140 ม.3 ต.หัวโพธ์ อ.บางแพ จ.ราชบุรี คนขับรถบรรทุกพ่วงคันเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกไฟลวกที่บริเวณด้านหลังและแขน รวมถึงเส้นผมบนศีรษะถูกนำส่ง รพ.บ้านหมอ

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บพากันไปทำธุระที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี จนมาประสพอุบัติเหตุ โดบผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเล่าว่า รถยนต์เก๋งวิ่งมาด้วยความเร็วมุ่งหน้า อ.บ้านหมอ ได้เสียหลักกินเลน พบมีรอยเบรกข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามในขณะที่ รถยนต์บรรทุกพ่วงบรรทุกแร่ลิกไนท์เต็มคันมุ่งหน้าไปทาง อ.พระพุทธบาทเพื่อส่งลิกไนท์ให้กับโรงปูนแห่งหนึ่งในย่านนั้นพอดี จึงเป็นเหตุให้รถทั้งสองคันชนประสานงากันอย่างจังเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้รถบรรทุกพ่วงเสียหลักพุ่งเข้าชนรั้วบ้านและเสาไฟฟ้าริมทางหักทับหลังคาบ้านเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นจากถังก๊าซที่อยู่ด้านหลังหัวพ่วงมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

ละครรอยไหมคว้า8รางวัลนาฏราช





วิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ได้จัดงานประกาศผลรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 3 ประจำปี 2555 เพื่อสร้างมาตรฐานการตัดสินรางวัลด้านวิทยุและโทรทัศน์ และเป็นกำลังใจให้กับคนทำงานในวิชาชีพ โดยปีนี้มีการประกาศและมอบรางวัลทั้งสิ้น 28 รางวัล จากการโหวตของคนทำงานในวิชาชีพวิทยุและโทรทัศน์ 395 คน โดยมีคนบันเทิงทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังร่วมงานจำนวนมาก สำหรับรางวัลที่น่าสนใจอาทิ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ณเดชน์ คูกิมิยะ จากละครเรื่อง เกมร้ายเกมรัก นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต จากละครเรื่อง ดอกส้มสีทอง นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ จากละครเรื่อง รอยไหม นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม ชุดาภา จันทเขตต์ จากละครเรื่องรอยไหม ผู้กำกับยอดเยี่ยม พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง จากละครเรื่อง รอยไหม ละครยอดเยี่ยมละครเรื่อง รอยไหม


 บทโทรทัศน์ยอดเยี่ยมละครเรื่องดอกส้มสีทอง บทประพันธ์ยอดเยี่ยม จากละครดอกส้มสีทอง ทีมนักแสดงยอดเยี่ยมจากละครเรื่องเป็นต่อ เพลงประกอบละคร จากละครเรื่องดอกส้มสีทอง ละครชุดยอดเยี่ยมเรื่องเป็นต่อ เครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมละครเรื่องรอยไหม ลำดับภาพยอดเยี่ยมละครเรื่องรอยไหม กำกับภาพยอดเยี่ยมละครเรื่องรอยไหม กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม ละครเรื่องรอยไหม ผู้ดำเนินรายการยอดเยี่ยม  ดู๋-สัญญา คุณากร จากรายการที่นี่หมอชิต ทางช่อง 7 รายการกีฬายอดเยี่ยม ฟุตบอลแชมป์กีฬา 7 สี  รายการเด็กยอดเยี่ยม หนูน้อยกู้อีจู้ สารคดียอดเยี่ยม ได้แก่ เรื่องจริงผ่านจอ รายการวาไรตี้ยอดเยี่ยม ได้แก่ คุณพระช่วย ทอล์กโชว์ยอดเยี่ยม ได้แก่ เจาะใจเกมโชว์ยอดเยี่ยม รายการเอสเอ็มอีตีแตก รางวัลสกู๊ปข่าวยอดเยี่ยม ได้แก่ ข่าวเครื่องบินตกแก่งกระจาน โดยทีมข่าวสกายรีพอร์ต ช่อง 3 รางวัลผู้ประกาศข่าวยอดเยี่ยม ได้แก่ สรยุทธ สุทัศนะจินดา, รางวัลรายการข่าวยอดเยี่ยม ได้แก่ รายการเรื่องเล่าเช้านี้


ผู้จัดรายการข่าวยอดเยี่ยม ได้แก่ ภาษิต อภิญญาวาท ผู้จัดรายการบันเทิงยอดเยี่ยม ได้แก่ ดีเจอ้อย-นภาพร ไตรวิทย์วารีกุล จากคลื่นกรีนเวฟรายการบันเทิงทางวิทยุยอดเยี่ยม ได้แก่ คลื่นวิทยุกรีนเวฟ.

แผ่นดินไหวอิตาลีมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ





สื่อต่างประเทศประโคมข่าว แผ่นดินไหวในอิตาลี่ มีคนตายแล้ว 3 ศพ
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโรม ประเทศอิตาลีว่า ประชาชนแตกตื่นเผ่นหนีลงมาบนท้องถนน เพราะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เมื่อเช้าวันนี้ ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ศพและบาดเจ็บอีก 2 คน


เจ้าหน้าที่กู้ภัยของอิตาลี ระบุว่า แผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 5.9 ริคเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.04 น.เช้าวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับ 09.04 น.เช้าวันเดียวกันนี้ตามเวลาในประเทศไทย สร้างแรงสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นในแถบภูมิภาคเอมิเลีย-โรแมกนา และพื้นที่โดยรอบเมืองเวนิซ ทางตอนเหนือของประเทศ โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 10 กม.และห่างจากเมืองโบโลญญ่าขึ้นไปทางเหนือ 10 กม. การสั่นสะเทือนกินเวลาอยู่นานราว 20 วินาที แล้วยังมีอาฟเตอร์ช็อกหรือแรงสั่นสะเทือนตามหลังมาอีกหลายครั้ง ก่อนหน้านี้ มีแผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 4.1 ริคเตอร์ สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ในเขตภูมิภาคลอมบาร์ดี้ ซึ่งอยู่โดยรอบเมืองมิลาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญด้านเศรษฐกิจและการเงินของประเทศอิตาลี


สำนักงานหน่วยกู้ภัยแจ้งว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 ศพ แยกเป็น 1 ศพ เป็นคนงานกะดึกของโรงงานผลิตพลาสติกแห่งหนึ่ง ส่วนอีก 2 ศพ เสียชีวิตเพราะติดอยู่ในตัวอาคารของโรงงานอีกแห่งหนึ่งที่ผลิตเครื่องเซรามิกและพังถล่มลงมาเพราะแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว ในเมืองโมเดนและเฟอร์รารา
แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งล่าสุดของอิตาลี วัดได้ 6.3 ริคเตอร์ ในเมืองลากุยต้าทางตอนกลางของประเทศเมื่อปี 2552  มีผู้เสียชีวิตเกือบ 300 ศพ

“ปู” ไม่หวั่น ปชป.ยื่นยุบพรรค มั่นใจพรรคทำตามข้อกฎหมาย




 

“ปู” ไม่หวั่น ปชป.ยื่นยุบพรรค มั่นใจพรรคทำตามข้อ กม.รับสานต่อพี่ชายเดินหน้าสร้างปรองดอง
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.นอกสถานที่ ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมยื่นส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ยุบพรรคเพื่อไทย จากกรณีรับรองนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า ทั้งหมดต้องว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย ตนเชื่อว่าพรรคทำตามข้อกำหนดของกฎหมายทุกอย่าง เมื่อถามว่าหวั่นว่าจะซ้ำรอยถูกยุบพรรคเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอไม่แสดงความเห็นในเรื่องนี้ ประชาชนคงอยากจะเห็นอะไรที่จะทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีกับประเทศ และเกิดการทำงานที่สร้างสรรค์มากกว่า สิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญและจะต้องเร่งในการทำงานขณะนี้คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และเตรียมรับมือกับช่วงฤดูฝนที่จะมาถึง


นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วีดีโอลิงก์ในเวทีเสื้อแดงที่แยกราชประสงค์ โดยอยากให้รัฐบาลเร่งสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศว่า การสร้างความปรองดองต้องให้เป็นเรื่องของรัฐสภา ในส่วนของรัฐบาลก็คงต้องทำหน้าที่ของฝ่ายบริหารไป ทุกอย่างเป็นไปตมกระบวนการ เมื่อถามหากจะทำเรื่องความปรองดองให้เกิดขึ้น คิดว่าถึงเวลาหรือยังที่เราควรจะสลายทุกกลุ่ม ทุกสีได้หรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การปรองดองถือเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศชาติ เราเองก็เชื่อว่าทุกคนมีเจตนาที่ดี และอยากเห็นประเทศชาติเดินไปข้างหน้า ที่สำคัญควรมาร่วมกันสร้างบรรยากาศที่สร้างสรรค์  เมื่อถามว่าหากปรองดองเสร็จแล้ว แนวโน้มที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับประเทศจะเกิดขึ้นเลยทันทีหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เรายังคุยกันถึงแค่เรื่องความปรองดองเป็นเรื่องของรัฐสภา  ก็ขอให้เป็นกระบวนการนั้นเถอะ“

ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงการสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของพ.ต.ท.ทักษิณว่า  ยังไม่มีความชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ การสมัครเป็นสมาชิกพรรคของพ.ต.ท.ทักษิณต้องรอเวลาที่เหมาะสม  ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบทำในขณะนี้ รอให้พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยก่อน ค่อยสมัครสมาชิกพรรคก็ยังไม่สาย และยังไม่จำเป็นต้องส่งนายทะเบียนพรรคไปรับสมัครการเป็นสมาชิกพรรคของพ.ต.ท.ทักษิณถึงต่างประเทศ  ยืนยันว่า การสมัครเป็นสมาชิกพรรคของพ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นไปตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และข้อบังคับพรรคเพื่อไทย  เพราะพ.ต.ท.ทักษิณจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนถูกว่าจะต้องทำอะไรก่อนหรือหลัง  แม้พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคก็ให้คำปรึกษาพรรคเพื่อไทยได้ตลอดเวลา เพราะพ.ต.ท.ทักษิณคนที่พรรคเคารพรัก เป็นยิ่งกว่าสมาชิกพรรค