วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ครม.ไฟเขียวธอส.กู้เงินซอฟต์โลน 6,000 ล้านบาท




ครม.ไฟเขียวธนาคารอาคารสงเคราะห์ กู้เงินเงินซอฟต์โลน จากธนาคารแห่งประเทศไทย 6,000 ล้านบาท
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.วันนี้ (29 พ.ค.) ได้อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กู้เงินดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วงเงิน 6,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้กู้ยืมแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 54 ที่ผ่านมา ทั้งบุคคลธรรมดาและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)

อย่างไรก็ตามวงเงินที่ธปท.จัดสรรให้ธอส.จำนวน 6,000 ล้านบาทนั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.55 เป็นต้นไป ขณะที่ธอส. เองจะสมทบเงินของธอส. ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปล่อยกู้ ทำให้วงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่ ธอส.จะดำเนินการให้กู้ยืมแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 54 รวมเป็นเงิน 9,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ในเงื่อนไขการช่วยเหลือนั้น จะให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไม่เกิน 30 ล้านบาท และบุคคลธรรมดาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยแต่ละราย จะได้รับความช่วยเหลือเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่ ธปท. รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากสถาบันการเงิน โดยสถาบันการเงินจะต้องยื่นคำขอกู้ยืมเงินต่อ ธปท. ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 56 และจะต้องออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ธปท. มีกำหนดชำระไม่เกินวันที่ 31ธ.ค.61 ซึ่งอัตราดอกเบี้ย ธปท. คิดอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปีจากสถาบันการเงิน และสถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 3% ต่อปีจากผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย.

ไฟเขียวเว้นภาษี




ครม.ไฟเขียวให้ยกเว้นเก็บภาษีการโยกย้ายเงินออมจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
วันนี้ (29 พ.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการโอนย้ายเงินออมในระบบการออมระยะยาว สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับเนื่องจากลูกจ้างออกจากงานเพราะตาย ทุพพลภาพ หรือเมื่อมีอายุครบ55ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี

นอกจากนี้ยังให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่มีสิทธิได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เนื่องจากลูกจ้างออกจากงานในกรณีอื่นนอกจากตาย ทุพพลภาพ หรือมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์แต่เมื่อออกจากงานแล้วได้คงเงินหรือผลประโยชน์นั้นไว้ทั้งจำนวนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และต่อมาได้รับเงินหรือผลประโยชน์หลังจากลูกจ้างผู้นั้นตาย ทุพพลภาพ หรือเมื่อมีอายุครบ 55 ปี บริบูรณ์ และเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยการยกเว้นภาษีครั้งนี้ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป

ทั้งนี้กระทรวงการคลังรายงานว่า เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการออมเพื่อการชราภาพ ที่จะให้ลูกจ้างซึ่งเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีเงินไว้ใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพในยามชราภาพเพิ่มมากขึ้น สมควรปรับปรุงให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ลูกจ้างได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกรณีลูกจ้างออกจากงานเมื่อมีอายุไม่ต่ำกว่า55ปีบริบูรณ์ หรือออกจากงานก่อนอายุครบ55ปีบริบูรณ์ แต่ได้คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุของการเกษียณอายุ.


แสดงความคิดเห็น

จับตาใกล้ชิดกรณีหนี้สินกรีซ




โต้งไม่หวั่นหนี้กรีซ แต่สั่งให้จับตาอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (29 พ.ค.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการเข้าพบของนายลิน ค๊อก กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ว่า ได้หารือร่วมกันถึงปัญหาวิกฤติหนี้ของประเทศกรีซ โดยเห็นตรงกันว่าปัญหานี้ต้องไม่ปล่อยให้มีการยืดเยื้อเพราะหากยืดเยื้อจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างได้ แต่หากมองให้ลึกแล้วเห็นว่ายังเป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นในกลุ่มสหภาพยุโรป (ยูโร) ที่เชื่อว่ายูโรจะสามารถดูแลจัดการได้ โดยยืนยันว่าระบบเศรษฐกิจของอียูนั้นเป็นระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ ดังนั้นจึงมั่นใจว่ายูโรจะดูแลบริหารจัดการได้แน่นอน อย่างไรก็ตามทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างเห็นว่าวิกฤติในกรีซที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีผลกระทบเป็นวงกว้างก็ตาม..

ดัน”อรรถกฤษณ์”นั่งผอ.กองสลากฯคนใหม่





บอร์ดกองสลาก เตรียมเสนอชื่อ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร คนสนิทอดีตนายก"แม้ว" ขึ้นนั่งแท่นผอ.กองสลากฯคนใหม่ ตัดหน้า พ.ต.ท.ไพโรจน์ ลูกหม้อเดิมแบบค้านความรู้สึกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ ประธานกรรมการสรรหาผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลคนใหม่ได้เรียกประชุมและรายงานว่ามีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าสอบสัมภาษณ์รอบแรก 3 คนคือ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร รองผบก.ภ.4 อดีตตำรวจผู้ติดตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี  นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ระนอง และรองผู้จัดการ บริษัทในเครือโรงแรมไฮแอท เอราวัณ ส่วนพ.ต.ท.ไพโรจน์ ปัญจประทีป อดีตรองผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มีกระแสข่าวว่าถูกกดดันไม่ให้เข้าสัมภาษณ์ ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจและพนักงานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสนับสนุนให้พ.ต.ท.ไพโรจน์ ขึ้นเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ แทนนายสมชาติ วงศ์วัฒนศานต์ ที่ถูกเลิกจ้างไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากเป็นผู้บริหารสำนักงานสลากอยู่แล้ว รวมทั้งยังมีประสบการณ์จากการทำโครงการสลากกินแบ่งอัตโนมัติแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว (หวยบนดิน) มาก่อนจึงน่าจะสานงานต่อและนำนโยบายรัฐบาลที่จะนำการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านระบบอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) มาดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ ก่อนหน้านี้ มีการคาดเดาว่า ผู้สมัครที่น่าจะได้รับการพิจารณามากที่สุดคือพล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ และ พ.ต.ท.ไพโรจน์ โดยเฉพาะ พ.ต.ท.ไพโรจน์มีความใกล้ชิดกับ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ แต่พอถึงวันสัมภาษณ์กลับมีกระแสข่าวว่าการวางตัว พล.ต.อ.อรรถกฤษณ์ ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว จากเดิมที่มีการเสนอรายชื่อผู้ได้รับการคัดสรรให้คณะกรรมการ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลพิจารณาตัดสินใจ 2 รายชื่อ สร้างความเคลือบแคลงให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก.

ขับรถปาดหน้าแจ๊สประกบยิงบาดเจ็บ 2 ราย




สุดระทึกขวัญขับรถออกจากบ้านกลางดึกเพื่อหาข้าวทาน เจอรถยนต์ขับปาดหน้าลั่นกระสุนใส่ จนมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย เพื่อนๆรีบแจ้งเจ้าหน้าที่นำตัวส่ง รพ.ไทยเพื่อรักษาตัวด่วน ตร.เร่งทำสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
เมื่อแวลา 01.00 น.วันที่ 31 พ.ค. พ.ต.ท. ศักดิพัฒน์  พลิคามินทร์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางนาได้รับแจ้งเหตุคนร้ายขับรถยนต์ประกบยิงจนได้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย บริเวณทางเบี่ยง ถนนศรีนครินทร์ เข้าถนนบางนาตรราด กม.ที่ 4 แขวงและเขตบางนา กทม.จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.นฤดล พุ่มพวง สว.สส.สน.บางนา เจ้าหน้าที่สืบสวนและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบริเวณไหล่ไหล่ถนนดังกล่าวพบรถเก๋ง ฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาวหมายเลขทะเบียน ญต 7680 กทม.จอดอยู่บริเวณดังกล่าวสภาพรถถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 8 นัด จากการตรวจสอบด้านหน้าศูนย์โตโยต้า บนถนนศรีนครินทร์ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ 500 เมตร พบปลอกกระสุนไม่ทราบขนาดตกอยู่ จำนวน 5 นัด ทั้งนี้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ทราบชื่อ นาย ภูวนาถ จันทราทิพย์ อายุ 21 ปี ผู้ขับรถคันดังกล่าวถูกยิงที่สะบักหลังด้านขวา 1  นัด ส่วนอีกรายทราบเพียงชื่อเล่นว่า ป็อป ซึ่งเป็นเพื่อนคนขับรถถูกยิงเข้าที่ ต้นคอด้านหลัง 1 นัด

จากการสอบสวน นางสาว เจนจิรา จันทราทิพย์ อายุ 22 ปี พี่สาวคนขับรถให้การด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ก่อนเกิดเหตุตนและน้องชายและเพื่อนๆน้องชายจำนวน 7 คน ได้เดินทางออกมาจากบ้านที่ย่านซอยสีดา ถนนศรีนครินทร์ เพื่อไปหาข้าวกินกัน จนขับมาถึงช่วงศูนย์โตโยต้าตนได้ยินเสียงดังคล้ายปืนดังหลายนัดจากนั้นเห็นรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีเทา(ควันบุหรี่) ไม่ทราบทะเบียนขับมาประกบยิงด้านฝั่งคนขับ พวกตนจึงหมอบหลบลูกกระสุนปืนกันอย่างจ้าละหวั่น จากนั้นได้รถคันดังกล่าวขับแซงปาดหน้ารถตนยิงซ้ำบริเวณด้านหน้ารถ และหลบหนีไป โดยขณะนั้นตนอยู่ในอาการตื่นกลัวพบว่าน้องชายของตนและเพื่อนที่มาด้วยถูกยิงได้รับบาดเจ็บจึงแจ้งเจ้าหน้าที่นำตัวส่ง รพ.ไทยนครินทร์เพื่อรักษาตัว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานสาเหตุคาดว่าเกิดจากการขับรถปาดหน้าแล้วทำให้คนร้ายก่อเหตุยิงจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำพยานและทำสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

หึงโหด!ซัลโวผู้หมวดดับคาห้องน้ำโอเกะ





ซัลโวผู้หมวดโรงพักสุวรรณภูมิดับคาห้องน้ำโอเกะ พยานยันฝีมือเจ้าของร้าน แฉปมหึงสาวเสิร์ฟ ตำรวจเต้นสั่งเร่งล่าจับ
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 31 พ.ค. พ.ต.ท.สมชาย เพียรขัน พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตในร้านติดลม คาราโอเกะ เลขที่ 5/28-29 หมู่ 6 ถนนเทพารักษ์ กม.12 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี พ.ต.ท.เชาว์ ป้อมงาม รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สกล สิทธิวิชัย รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ภูวนาถ แก่นจันทร์ สว.สส. ชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วกตัญญู

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าห้องน้ำพบศพ ร.ต.ท.ธนายุทธ สุทนต์ อายุ 45 ปี รอง สว.ป. สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนขายาวสีดำ สวมรองเท้าบูทสีดำ เลือดถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่ตามร่างกายหลายแห่ง ข้างศพผู้ตายพบปลอกกระสุนขนาด 11มม.จำนวน 5ปลอก หัวกระสุนจำนวน 3 หัว จึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน น.ส.จุฬาภรณ์ สิงห์สา อายุ 31 ปี พนักงานเสิร์ฟ ให้การว่า ผู้ตายเป็นแขกประจำที่ร้าน โดยก่อนเกิดเหตุ เข้ามาดื่มกินกับเพื่อนตั้งแต่ช่วงค่ำ ระหว่างอยู่ในร้านผู้ตายซึ่งเป็นคนอารมณ์ดีมักถูกเนื้อต้องตัวตนตามบรรยากาศ ทำให้นายขวัญชัย ทองสุข อายุ 32 ปี เจ้าของร้านที่ชอบพอตนอยู่ไม่พอใจนัก เข้ามาเตือนตนไม่ให้ไปเสิร์ฟที่โต๊ะผู้ตายอีก ถึงขั้นต้องออกไปสูบบุหรี่คลายเครียดด้านนอก ช่วงนั้นผู้ตายเดินเข้าห้องน้ำพอดี นายขวัญชัย จึงเดินตามเข้าไป จากนั้นไม่นานก็เกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ก่อนที่นายขวัญชัย จะวิ่งถือปืนออกจากร้านหลบหนีไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ก่อเหตุคงเกิดความหึงหวงจึงตามเข้าไปเคลียร์ปัญหาหัวใจกับผู้ตาย แต่เกิดทะเลาะกันจนเกิดการแย่งปืนและยิงกันดังกล่าว ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างหาเบาะแส เพื่อติดตามจับกุมตัวมือปืนขี้หึงรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป.

จ่อยิงผู้ใหญ่บ้านดับชนวนแย่งน้ำเข้านา





สั่งตายผู้ใหญ่บ้านไล่ยิงกลางหมู่บ้าน ร่างพรุน 4 นัด หลานวัยขวบเศษโดนลูกหลงเจ็บไปด้วย คาดปมขัดแย้งทำนา
เมื่อเวลา06.00 น. วันนี้ (31 พ.ค.) พ.ต.ท.ศิวะ ริมฝาย สวส.สภ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่ 6/1 หมู่ 5 ต.ลาดชิด ใกล้กับวัดลาดชิด รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของชำ บริเวณหน้าร้านพบหัวกระสุนปืนขนาด 9มม.ตกอยู่จำนวน 2 หัว  จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน ภายในร้านพบกองเลือดขนาดใหญ่ ส่วนคนเจ็บนำส่ง รพ.ผักไห่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาคือนายธวัชชัย ทองธานี อายุ 55 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.ลาดชิด ถูกยิงเข้าที่หัวไหล่ซ้าย 1 นัด สะโพกขวา 1นัด ต้นแขนซ้าย 1นัด ที่ฝามือซ้ายอีก 1 นัด รวมทั้งหมด 4 นัด นอกจากนี้ยังมีเด็กถูกยิงได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทราบชื่อ ด.ช.ศิษปกรณ์ ทองธานี อายุ 1 ขวบ 2 เดือน เป็นหลานชายของนายธวัชชัย ถูกยิงที่ต้นแขนซ้าย ทะลุ ที่ใบหน้าแตกเพราะล้มกระแทกพื้น


จากการสอบสวนนางกี ทองธานี อายุ 66 ปี พี่สาวผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังจัดเตรียมของเพื่อเปิดร้าน ส่วนผู้ใหญ่บ้านน้องชายยืนอุ้มหลานอยู่ใกล้ ๆ ระหว่างนั้นมีรถกระบะสีเลือดหมูขับเข้ามาจอดใกล้กับร้าน จากนั้นคนร้ายเดินจากรถลักษณะรูปร่างเตี้ยลำ เดินตรงเข้ามาชักปืนจ่อยิงน้องชาย 1 นัด จมล้มลง แต่น้องชายยังไม่เสียชีวิตทันที ได้รีบลุกขึ้นอุ้มหลานชายหนีเข้าไปในร้าน คนร้ายยังวิ่งตามเข้าไปยิงซ้ำอีกหลายนัดจนแน่นิ่ง โดยหลานชายยังโดนกระสุนได้รับบาดเจ็บไปด้วย จากนั้นคนร้ายวิ่งไปขึ้นรถกระบะที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่หลบหนีไปตามเส้นทางเสนา-ผักไห่


ขณะที่นายสัญญา เรืองอุไร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านให้การเพิ่มเติมว่า ตนมีบ้านพักอยู่ใกล้กับบ้านเกิดเหตุ พอได้ยินเสียงปืนรีบวิ่งมาดูพบร่างผู้ตายนอนจมกองเลือด เลยรีบนำตัวส่ง รพ.พร้อมเด็ก โดยปกติผู้ตายเป็นคนดีชาวบ้านรักใคร่ ไม่มีเรื่องทะเลาะขัดแย้งกับใคร มีอาชีพทำนากว่า 200 ไร่ ปีที่ผ่านมาราคาข้าวดีผู้ตายขายข้าวได้เงินมากว่า 2 ล้านบาท ทำให้มีชาวบ้านอยากทำนาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้ตายเป็นคนกว้างขวาง ใครอยากทำนาหรือทำนาเพิ่ม จะเป็นนายหน้าหาพื้นที่ให้ทำนา จนอาจไปสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มนายหน้าอีกกลุ่ม ที่หาที่นาให้ชาวบ้านเช่า หรือกลุ่มนายหน้าอาจจะขัดแย้งกับผู้ตายที่ครอบครองที่เช่าดินเอาไว้ทำนาจำนวนมากเพียงผู้เดียว

พ.ต.ท.ศิวะเปิดเผยว่า จาการสอบสวนพยานเบื้องต้นสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องของการทำนา เพราะผู้ตายได้เช่านาทำนากว่า200 ไร่ ได้ผลผลิตดีข้าวราคาดี มาระยะหลังพยายามจะเช่าแปลงนาที่อยู่ข้างเคียงต่ออีก แต่ไม่สามารถที่จะเช่าได้ ผู้ตายจึงทำคันนาปิดกั้นน้ำไม่ให้ไหลไปในแปลงนาของผู้อื่น อาจจะเป็นชนวนทำให้เกิดการขัดแย้ง หรืออาจจะมาจากการที่ผู้ตายเป็นผู้กว้างขวางรู้จักเจ้าของที่ดินจำนวนมาก ชาวนารายใดต้องการที่ดินทำนาจะมาติดต่อผู้ตายหาที่ดินทำนาให้  อาจจะไปขัดแย้งกับนายหน้ารายอื่น ซึ่งจะสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.

ยึดสินค้าหนีภาษีมูลค่า 42.4 ล้านบาท





กรมศุลฯยึดสินค้าหนีภาษีได้อื้อทั้งยาลดความอ้วน ครีมทาผิว กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (31 พ.ค.) ที่กรมศุลกากร นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมศุลกากร และนายราฆพ ศรีศุภอรรภ ผ.อ.สำนักสืบสวนและปราบปราม พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกะ เลขานุการ รมว. พาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวผลจับกุมสินค้าลักลอบหนีศุลกากร ประเภทข้าวเปลือก ปลายข้าว สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้ง สินค้าหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามข้อจำกัด และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท รวมมูลค่ากว่า 42.4 ล้านบาท

นายสมชาย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ร่วมมือกันวางแผนเพื่อสกัดกั้นป้องกัน และปราบปรามสินค้าลักลอบหนีศุลกากร สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และยาเสพติดให้โทษ โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในความผิดต่างๆ ดังนี้ 1.ความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากร โดยสามารถจับกุม รถบรรทุกสิบล้อ รวม 4 รถพ่วงพร้อมข้าวเปลือกเจ้า และรถบรรทุกสิบล้อพ่วง 1 คันพร้อมปลายข้าว ปริมาณรวม 139,000 ก.ก. ที่บริเวณ อ.ตาพระยา อ.วัฒนานคร และอ.โคกสูง จ.สระแก้ว รวมทั้ง ยังจับกุมสินค้าอื่นๆ ได้แก่ ยาลดความอ้วน สบู่ กาแฟลดน้ำหนัก ครีมทาผิว และสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อาทิ กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า แว่นตา นอกจากนี้ยังมีสินค้าประเภทหลีกเลี่ยงอากร และสินค้าต้องห้าม ต้องกำกัด โดยเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์เก่าใช้แล้ว ยี่ห้อ HUMMER จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ BMW จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ SUZUKI จำนวน 2 คัน ซึ่งเป็นรถเก่าที่ใช้แล้วในต่างประเทศ แต่สำแดงเป็นรถจักรยาน BMX  เพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อกำกัด นอกจากนี้ สามารถจับกุมวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท จำนวน 35,000 เม็ด กัญชา จำนวน 6 ก.ก. และยาบ้า จำนวน 674 เม็ด โดยสามารถกุมได้ชายแดนภาคเหนือ ระหว่างขณะกำลังส่งออกบริเวณจุดส่งไปรษณีย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทราบว่าผู้ต้องหามีการลักลอบนำยาบ้าใส่ไปในหลอดยาคลายกล้ามเนื้อ รวมทั้งใส่ไว้ในกล่องซีดีเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตร.อีกด้วย.

นายกฯ แจงสื่อนอก ยันการเมืองไทยมั่นคง





"นายกฯ ปู" แจงสื่อต่างชาติ ยันการเมืองไทยยังมั่นคงแม้มีความขัดแย้งอยู่ ชี้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา ด้าน "ผบ.ตร." กำชับตำรวจห้ามทำร้ายม็อบพันธมิตรฯ เด็ดขาด เผย ตร. มีแค่โล่เท่านั้น เชื่อชุมนุมไม่ยืดเยื้อ ปัดถอนประกัน "แกนนำ" ปลุกระดมไม่เลิก
วันที่ 31 พ.ค. เวลา 10.30 น. ที่ห้องเมียนมาร์ 2 โรงแรมแชงกรี-ลา นายปีเตอร์ ฮอร์ร็อค ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวบีบีซี ได้ซักถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระหว่างการเข้าร่วมประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออก (World Economic Forum on East Asia) ถึงสถานการณ์ทางการเมืองไทย ซึ่งนายกฯ ตอบว่า การเมืองในขณะนี้มีความมั่นคง แม้จะมีความขัดแย้งอยู่บ้าง แต่เป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภา อีกทั้งรัฐบาลจะเดินหน้าอย่างเต็มที่ และมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม

ขณะเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. ประเมินสถานการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บริเวณหน้ารัฐสภาว่า คงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด ดูแลคนไทยด้วยกันจะรุนแรงไปทำไม เป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้ก็ควรพูดคุยกัน คิดว่าไม่น่ามีปัญหา 2 วันที่ที่ผ่านมาก็เรียบร้อยดี และคิดว่าคงไม่ถึงขั้นบุกหรือปิดล้อมหากไม่พอใจการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ และการชุมนุมคงไม่ยืดเยื้อ

“ขณะนี้ได้นำกำลังตำรวจเข้าไปก็เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยพี่น้องประชาชนด้วย  ตำรวจมีเฉพาะโล่ ขอให้พี่น้องประชาชนใจเย็น ๆ กัน ตำรวจจะไม่ทำอะไรที่ทำร้ายประชาชนอย่างแน่นอน” ผบ.ตร. กล่าว เมื่อถามว่า แกนนำพันธมิตรฯ มีคดีปิดสนามบินอยู่ ตำรวจจะพิจารณาถอนประกันหรือไม่หากมีการปราศรัยปลุกระดมผู้ชุมนุม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กล่าวว่า แกนนำคงไม่ได้ปลุกระดม เป็นการพูดไปตามอารมณ์ ไม่น่าจะเป็นอะไรที่เราต้องคิดมาก การพูดบนเวทีก็เรื่องธรรมดาตามวิถีทางของประชาธิปไตย ที่ต้องมีการแสดงความคิดเห็น

"ปชป.-ชูวิทย์” ยื่นถอดถอน “ขุนค้อน” พ้นเก้าอี้ ส.ส.





127 ส.ส. "ปชป.-ชูวิทย์” ยื่นถอดถอน “สมศักดิ์” ออกจาก ส.ส. แล้ว ระบุพฤติกรรมวางตัวไม่เป็นกลาง ชงร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เอื้อคืนเงิน “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ขัดรัฐธรรมนูญ ม.125-143
วันที่ 31 พ.ค. เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายชูวิทย์ กลมวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เข้าพบ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เพื่อยื่นหนังสือขอให้วุฒิสภาถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกตำแหน่ง ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 270 โดยมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และพรรครักประเทศไทย รวม 127 คน ร่วมลงชื่อในญัตติดังกล่าว

นายถาวร กล่าวว่า จากการร่วมหน้าที่ในการประชุมสภากับนายสมศักดิ์ เห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของนายสมศักดิ์ ไม่เป็นกลางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ แต่มีพฤติกรรมส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติดังกล่าว จนทำให้พวกตนหมดความอดทนต้องยื่นถอดถอนดังกล่าว ถือเป็นการถอดถอนประธานสภาครั้งแรก จึงรู้สึกเสียใจ นอกจากนี้นายสมศักดิ์ยังกระทำการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 143 ที่วินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ไม่เป็นกฎหมายการเงิน ทั้งที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน หากร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวผ่านสภาจะต้องมีการคืนเงินจำนวน 4.6 หมื่นล้านบาท ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเงินก้อนนั้นมีเงินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ จำนวน 900 ล้านบาทรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังผูกพันในเรื่องที่จำเลยถูกเรียกค่าปรับจากศาลกรณีกระทำผิด หากมีการนิรโทษกรรม รัฐบาลต้องจ่ายเงินแผ่นดินคืนเงินค่าปรับกับผู้ได้รับการนิรโทษกรรมด้วย ที่สำคัญการปฎิบัติหน้าที่ของนายสมศักดิ์ในการประชุมสภาวันที่ 30 พ.ค. ทำให้พวกตนเหลือทน จึงจำเป็นต้องปฏิบัติการนอกกรอบ มิฉะนั้นความเป็นกลางก็จะไม่เกิด

ด้าน พล.อ.ธีรเดช กล่าวว่า หลังจากรับหนังสือแล้ว ตนจะดำเนินตามขั้นตอนภายในกรอบเวลาต่อไป

ดาราสาวหนัง "ผู้หญิง 5 บาป" เพี๊ยซ-กนกลดา บุตรพิมพา แจ้งตร.หามือดีโพสต์ด่า





"เพี๊ยซ" ดาราสาว "ผู้หญิง 5 บาป" เจอมือดีโพสต์ด่าในเฟสบุ๊ค
เมื่อเวลา 14.00น. วันนี้ (31 พ.ค.) ที่สน.บางเขน น.ส.กนกลดา บุตรพิมพา หรือเพี๊ยซ อายุ 26 ปี ดาราสาวชื่อดังจากเรื่อง ผู้หญิง 5 บาป และอดีตเจ้าของรางวัลรางวัล Miss Body Perfect ในการประกวดนางสาวไทยปี 2552 เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ศราวุธ บุตรดี พงส.(สบ1) สน.บางเขน และ พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.บางเขน กรณีถูกคนโพสต์ข้อความด่าในอินเทอร์เน็ตเว็บไซต์เฟสบุ๊ค โดยดาราสาวได้ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อนสนิทของตนได้ส่งข้อความมาให้ดูก็พบว่าเป็นข้อความทางเฟสบุ๊ค โดยมีคนใช้ชื่อว่า เจนียา อาโออิ ได้นำรูปภาพของตนมาโพสต์พร้อมกับเขียนข้อความว่าตนไปแย่งผัวของคนอื่น อาทิ “เพี๊ยซ กนกลดาแย่งมิกกี้ผัวของหมออ้อยเรียบร้อยแล้ว” เป็นต้น พร้อมทั้งกล่าวหาว่าตนเป็นเด็กเสี่ยขายบริการ และสำส่อน ซึ่งหลังจากนั้นก็มีข้อความในลักษณะดังกล่าวถูกโพสต์ทางเฟสบุ๊คทุกวัน วันละหลายรอบ ทำให้เริ่มมีแฟนคลับโพสต์ถามตนทางเฟสบุ๊คเกี่ยวกับเรื่องนี้หลายครั้งรวมทั้งกลุ่มเพื่อน และญาติก็ได้โทรศัพท์มาถามด้วย ทำให้ตนรู้สึกว่าการโพสต์ดังกล่าวนั้น ทำให้ตนเสียภาพจน์ เนื่องจากตนทำงานในวงการบันเทิง จึงส่งผลต่อหน้าที่การงานด้วย และทางผู้ใหญ่ของบริษัทที่ตนทำงานเป็นดีเจอยู่นั้น ก็ได้เรียกตนเข้าไปสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว เพราะหากภาพลักษณ์ไม่ดีคงไม่มีใครอยากจ้างงาน ตนจึงมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน เพราะหากยังไม่หยุดโพสต์ข้อความอีก ตนจึงจะแจ้งความดำเนินคดีอย่างแน่นอน อีกทั้งยังเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อนด้วย เนื่องจากตนยังถูกข่มขู่ทำร้ายร่างกายจากคนที่โพสต์ด้วยว่าอยากจะตบตน

เพี๊ยซกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนก็ไม่ได้ไปมีเรื่องผิดใจกับใคร ส่วนเรื่องที่ว่าไปแย่งดีเจมิกกี้นั้น ตนก็ขอยืนยันว่าเป็นเพียงแค่เพื่อนสนิทกัน เพราะจัดรายการทางช่องทรูวิชั่นด้วยกัน ไม่ได้ไปแย่งมาอย่างแน่นอน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน และเก็บหลักฐานที่เป็นข้อความการโพสต์เอาไว้ ซึ่งหากผู้เสียหายจะแจ้งความก็พร้อมจะดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้นนายณัฐพงศ์ ชอบชื่น หรือดีเจมิกกี้ ก็ได้เดินทางมาที่สน.บางเขนเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเรื่องที่ถูกโพสต์ทางเฟสบุ๊คดังกล่าวด้วย ว่าตนกับหมออ้อยได้เลิกรากันมานานกว่าครึ่งปีแล้ว และขอยืนยันว่าตนกับเพี๊ยซสนิทกันมาแต่เป็นเพียงเพื่อนร่วมงาน ดังนั้นจึงอยากให้คนที่ออกมาโพสต์ช่วยหยุดการกระทำด้วย เพราะมันจะส่งผลต่อหน้าที่การงานของเพี๊ยซ และสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย.

“ซูจี” จี้ “เหลิม” ดูแลแรงงานพม่า ขู่ไม่ใส่ใจจะขนกลับประเทศ





เดอะเลดี้ “ออง ซาน ซูจี” จี้ “เหลิม” ดูแลแรงงานพม่า ขู่หากไม่ใส่ใจจะขนกลับประเทศ แถมเหน็บปมผู้ลี้ภัย ด้าน “เหลิม” โอ่เร่งขึ้นทะเบียนแรงงานหม่อง 1.2 ล้าน ลั่นขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวันเทียบเท่าแรงงานไทย
วันที่ 31 พ.ค. เวลา 14.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางออง ซาน ซู จี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย สาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมาร์ เข้าพบและหารือกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยมีอธิบดีกรมการจัดหางาน และบุตรชายทั้ง 3 คนของ ร.ต.อ.เฉลิม ร่วมในวงหารือด้วย โดยเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศร่วมรับฟังด้วย



การหารือใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง โดย ร.ต.อ.เฉลิม ได้ชี้แจงว่า รัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับแรงงานพม่าในไทย ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 2 ล้านคน แบ่งเป็นแรงงานที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 8 แสนคน ที่เหลืออีก 1.2  ล้านคนยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการทำเอ็มโอยูกับรัฐบาลพม่าเพื่อให้เร่งพิสูจน์สัญชาติให้ถูกต้องตามขั้นตอน โดยแรงงานที่ขึ้นทะเบียนแล้วจะได้รับสิทธิรักษาพยาบาลตามนโยบายประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันเช่นเดียวกับแรงงานไทย  การดูแลบุตรหลานแรงงานพม่าให้ได้รับสิทธิเข้าศึกษาในโรงเรียน นอกจากนี้ก่อนที่ตนจะเดินทางมาหารือ ทางนายกรัฐมนตรียังได้เน้นย้ำให้ตนมาแจ้งว่ารัฐบาลยังได้ให้ความสำคัญในเรื่องของสิทธิมนุษยชนด้วย ยืนยันว่ารัฐบาลไทยจะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้แรงงานพม่าได้รับการดูแลเหมือนญาติพี่น้อง


ด้านนางซูจี ยังได้สอบถามถึงการแก้ปัญหาแรงงานพม่าที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีก 1.2 ล้านคน พร้อมขอให้รัฐบาลไทย ช่วยดูแลและกวดขันผู้ประกอบการให้ดูแลเรื่องสวัสดิการ และการรักษาพยาบาลให้ดี เพราะจากที่ตนได้ไปพูดคุยกับแรงงานชาวพม่าในประเทศไทย ได้รับการร้องเรียนว่า ผู้ประกอบการไม่ดูแลเอาใจใส่ และยังยึดพาสปอร์ตไว้ เพื่อไม่ให้มีการย้ายหรือลาออกจากงาน และเวลาที่เกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย ผู้ประกอบการจะไม่ชดเชยและชดใช้ค่าเสียหาย อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิมได้ชี้แจงว่า อย่าไปสนใจ ในอดีตเคยมีเรื่องนี้ แต่พอมาถึงรัฐบาลชุดนี้เรามีคณะกรรมการและนโยบายที่ชัดเจนทำให้ปัญหาต่าง ๆ ลดน้อยลง อีกทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ ๆซึ่งเป็นเพื่อนตน ก็ดำเนินการตามกติกาที่กำหนด และวันนี้หากไม่มีแรงงานชาวพม่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ก็อยู่ไม่ได้ เพราะแรงงานไทยไม่ทำอาชีพเหล่านี้

นางอองซานซูจี กล่าวทีเล่นทีจริงว่า ถ้าสถานการณ์ในประเทศพม่าดีขึ้นจะนำแรงงานพม่ากลับทั้งหมด “ดังนั้นรัฐบาลไทยจะต้องทำให้เขามีความสุขในการอยู่ประเทศไทยให้ได้ มิเช่นนั้นดิฉันจะแย่งคืนกลับไป” นางอองซานกล่าวเชิงหยอกล้อ พร้อมบอกว่า การที่รัฐบาลไทยดูแลแรงงานชาวพม่าเป็นอย่างดี จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศดีขึ้น และเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ทั้งความเข้าใจและวัฒนธรรมได้มาก ต้องขอบคุณทุกความดีและการดูแลผู้อพยพและผู้หนีภัยสงครามชาวพม่าของคนไทย และรัฐบาลไทย เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถร่วมกันแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศเล็ก ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเดนมาร์ก แต่ดูแลผู้ลี้ภัยชาวพม่าเป็นอย่างดี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายการหารือ ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้กล่าวชื่นชมนางซูจี ในฐานะเป็นนักประชาธิปไตย โดยระบุว่า “ถ้ามาลงเลือกตั้งในประเทศไทย ผมคงหนักใจ เพราะเป็นป๊อบปูล่า (ได้รับความนิยม) มาก และเป็นที่ยอมรับ ถือโอกาสอวยพรให้ชนะการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในพม่าในปี 2559" ขณะที่นางซูจี ได้กล่าวขอบคุณ พร้อมหยอกกลับว่า จิตใจของสุภาพบุรุษมีความคิดอย่างไรไม่รู้ แต่ถ้ามาลง คิดว่าตนได้ใจจากสุภาพสตรีไทยแน่นอน และยังได้แซว ร.ต.อ.เฉลิม ที่พาลูกชายทั้ง 3 คนมาร่วมหารือด้วย “แต่ทำไมไม่พาภรรยามา มิฉะนั้นดิฉันจะขอทำหน้าที่แทนนะ” ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ได้แต่หัวเราะชอบใจ จากนั้นร.ต.อ.เฉลิม ได้พาบุตรชายทั้ง 3 คนมาถ่ายรูปคู่กับนางอองซานซูจีอย่างเป็นกันเองก่อนมอบของที่ระลึกให้

สลดแม่ใจยักษ์บีบคอฆ่าทารกหญิงทิ้งขยะ



วันนี้ (31 พ.ค.) พ.ต.ท.ตปธน กอพงษ์ สารวัตร สภ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งเหตุมีคนพบศพทารกในโรงงานคัดแยกขยะของเทศบาลนครนครราชสีมา ต.หนองบัวศาลา จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตา ที่เกิดเหตุอยู่ภายในตัวโรงงาน พบร่างของเด็กทารกเพศหญิง ผิวขาว หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู อายุแรกคลอดไม่เกิน 3 วัน เนื่องจากสายสะดือถูกตัดขาดแล้ว สภาพเสียชีวิตโดยไม่สวมเสื้อผ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ซึ่งปะปนมาในกองขยะที่เตรียมนำเข้าสู่ระบบสายพานเครื่องคัดแยะขยะ ตรวจสอบตามร่างกายพบรอยเขียวช้ำ บริเวณลำคอลักษณะคล้ายกับถูกบีบ คาดว่าเสียชีวิตแล้วไม่เกิน 12 ชั่วโมง



จากการสอบสวน น.ส.วาสนา ฉิมวัย อายุ 27 ปี พนักงานคัดแยกขยะประจำโรงงาน ผู้พบศพทารกน้อยเป็นคนแรกเล่าว่า ศพทารกน้อยเพศหญิงน่าจะถูกคนงานเก็บขยะที่ตระเวนเก็บขยะทั่วเมืองนครราชสีมาในช่วงเวลาตั้งแต่ 6 ทุ่มจนถึง 6 โมงเช้าวันเดียวกัน โดยมีรถขนขยะ 12 คัน นำขยะประมาณ 200 ตันมาทิ้งไว้ที่บริเวณโรงงาน ก่อนมีรถตักขยะนำเข้าสู่ระบบสายพานเครื่องคัดแยกขยะ ซึ่งในระหว่างกำลังทำการคัดแยกขยะ เห็นถุงพลาสติกใสพอเปิดออกดูเจอศพทารกอยู่ภายใน จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ



เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ศพทารกเพศหญิงน่าจะเป็นทารกที่คลอดจากแม่ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือนักเรียนนักศึกษาที่ใจแตก หรือไม่พร้อมที่จะมีลูก พอคลอดเสร็จก็คงจะจัดการบีบคอเพื่อฆ่าให้ตาย ก่อนนำใส่ถุงมาทิ้งถังขยะ ซึ่งตำรวจจะได้ตรวจสอบที่มาของถุงพลาสติกและหลักฐานอื่น ๆ ที่น่าจะเชื่อมโยงไปหาตัวแม่ใจยักษ์รายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

สภาฉาวซ้ำ "ปชป." สุดทนปาข้อบังคับใส่ “ขุนค้อน”






สภาฉาวซ้ำ ส.ส. "ปชป." สุดทนปาหนังสือใส่อก “ขุนค้อน” หลังไม่พอใจมติ กมธ. 22 ต่อ 1 หักดิบเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ขึ้นมาถกเป็นวาระแรก 9 โมงเช้า 1 มิ.ย. นี้ "ตำรวจรัฐสภา" ปิดทางเข้า-ออกบัลลังก์ ป้อง "ขุนค้อน" โดนตื้บ แถมหวิดวางมวย "ธานี-จิรายุ-เก่ง" ท้ายที่สุดจับแยกได้ทัน
วันที่ 31 พ.ค. เวลา 16.30 น. ภายหลังพักการประชุมกว่า 4 ชั่วโมง นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้กดออดให้มีการประชุมสภาอีกครั้ง พร้อมแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา 35 คณะ มีมติ 22 ต่อ 1 เสียง เห็นว่าร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ทั้ง 4 ฉบับ ไม่เป็นกฎหมายการเงิน จึงขอให้ที่ประชุมสภาพิจารณาญัตติที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เสนอเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ขึ้นมาพิจารณาเป็นลำดับแรก

ทั้งนี้นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นกล่าวท้วงติงการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์ โดยระบุว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านได้เข้าชื่อถอดถอนนายสมศักดิ์ ออกจากส.ส. ซึ่งจะกระทบต่อตำแหน่งประธานสภาด้วย เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นกลาง จึงอยากให้นายสมศักดิ์ พิจารณาว่าเพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ควรทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมต่อหรือไม่ แต่นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นทักท้วงและปกป้องประธานสภาว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้บังคับว่าเมื่อถูกยื่นถอดถอนแล้วจะไม่สามารถทำหน้าที่ประธานได้ เพราะยังไม่มีการตัดสินใด ๆ ออกมา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นบรรดา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างลุกขึ้นทักท้วงประธานสภา โดยขอให้ชี้แจงเหตุผลการวินิจฉัยว่าเหตุใดร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง จึงไม่ใช่กฎหมายการเงิน และภายหลังหากมีความเสียหายเกิดขึ้น ประธานสภาจะยอมรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ แต่ประธานสภา ตัดบทว่า การประชุมประธาน กมธ. เป็นไปตามที่ฝ่ายค้านเสนอ และมีการใช้เวลาหารือ 4 ชั่วโมงกว่า และมีมติแล้วถือว่าใช้เวลานานแล้ว ทำให้บรรดาส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ต่างลุกขึ้นยกมือประท้วงพร้อมส่งเสียงโห่แสดงความไม่พอใจ แต่นายสมศักดิ์ ยังยืนยันที่จะขอมติจากที่ประชุมว่าเห็นด้วยกับญัตติของ นพ.ชลน่าน หรือไม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.ฝ่ายค้านแสดงความไม่พอใจอย่างหนัก โดยเฉพาะ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลุกขึ้นประท้วงอยู่นาน แต่ประธานไม่สนใจ จึงเดินนำทีม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นเดินตรงไปที่หน้าบัลลังก์ พร้อมชูหนังสือข้อบังคับการประชุมขึ้น และตะโกนต่อว่าประธานทำผิดข้อบังคับ ระหว่างนั้นบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา ได้พากันกรูเข้ามาล้อมบัลลังก์ประธานสภาเพื่อคุ้มกัน โดยนายสมศักดิ์ ยังเดินหน้าสั่งให้สมาชิกเสียบบัตรแสดงตนเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม โดยผลปรากฎว่า มี ส.ส. แสดงตนจำนวน 276 คน จากนั้นประธานได้สั่งลงมติ ทำให้ ส.ส. ที่ยืนอออยู่หน้าบัลลังก์เกิดความไม่พอใจมากขึ้น ถึงขนาด นพ.วรงค์ ปาหนังสือข้อบังคับใส่ที่หน้าอกประธานสภา จนประธานสภาถึงกับผงะและแสดงสีหน้าตกใจ แต่ยังสั่งให้ที่ประชุมลงมติ และอ่านผลคะแนนอย่างรวดเร็วว่า ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับญัตติของ นพ.ชลน่าน  272 ต่อ 2 เสียง งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง และสั่งปิดประชุมทันทีเวลา 17.05 น. พร้อมนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 1 มิ.ย. เวลา 09.30 น.



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ประชุมเคร่งเครียดมากขึ้น บรรดาส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นพ.วรงค์ นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พร้อมด้วยส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อีกหลายกัน แสดงความไม่พอใจ พากันหอบเอกสารปึกใหญ่ที่กองอยู่บริเวณด้านหน้าขว้างปาขึ้นมาบนบัลลังก์ แต่นายสมศักดิ์ ถูกกันตัวออกจากบัลลังก์ไปก่อน จึงโดนแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาที่ล้อมไว้ พร้อมกับจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา ยืนกันทางเข้าออกด้านหลังประธานสภาทั้ง 2 ด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ ส.ส.วิ่งตามไปทำร้าย อย่างไรก็ตามระหว่างเกิดเหตุบรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้พากันมาคอยห้ามอยู่ที่หน้าบัลลังก์ประธานสภา



แต่ได้เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งกันขึ้น โดยนายธานี เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ามาดึงไหล่ของนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย ทำให้นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย รีบเข้ามาส่งเสียงดังเพื่อช่วยนายจิรายุ ทำให้มีปากเสียงโต้ตอบกันไปมาจนเกือบจะวางมวยกัน แต่ ส.ส. บริเวณนั้นและตำรวจรัฐสภา ได้เข้ามาช่วยแยกออกไป ทั้งนี้หลังเหตุการณ์ผ่านไปนายการุณ ได้เข้ามายกมือไหว้ขอโทษ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตามแม้ว่าการประชุมจะปิดไประยะหนึ่งแล้ว แต่บรรดาส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์แสดงความไม่พอใจการทำหน้าที่ของประธานสภากลางห้องประชุม โดยนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง ถึงกับตะโกนหลายครั้งว่า “สภาทาสทักษิณ พรุ่งนี้ให้ไปประชุมที่พรรคเพื่อไทย”




วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เจ๋ง!ลูกยางไทยอัดคิวบาใกล้ลิ่วอลป.





ลูกยางสาวไทย เขยิบเท้าเข้าใกล้มหกรรมโอลิมปิกเกมส์ 2012 หลังรวมพลังไล่อัด คิวบา กระเจิง 3-1 เซต รอลุ้นคู่ระหว่าง ญี่ปุุ่นกับเซอร์เบีย ที่จะแข่งในช่วงเย็นเท่านั้น
ช่่วงสาย วันนี้ (27 พ.ค.) การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง รอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2012 ทวีปเอเซียและทั่วโลก ที่เมโทรโพลีแทน ยิมเนเซียม กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นการแข่งขันนัดที่ 7 นัดสุดท้าย ทีมนักตบลูกยางสาวไทย ที่มี 9 แต้มจากผลงานชนะ 3 แพ้ 3 ลงสนามพบกับ คิวบา ที่มี 7 แต้ม โดยผู้เล่นของไทยที่ลงสนาม 6 คนแรกประกอบไปด้วย วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์, มลิกา กันทอง, อำพร หญ้าผา, นุศรา ต้อมคำ โดยมี วรรณา บัวแก้ว สลับกับ ปิยะนุช แป้นน้อย ทำหน้าที่เป็นตัวรับอิสระ

ผลปรากฎว่าทีมตบสาวไทยเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะไป 3-1 เซต 25-23, 25-23, 18-25, 25-21 เก็บเพิ่มเป็น 12 แต้ม จ่อคว้าตั๋วไปโอลิมปิก ลอนดอน เกมส์ 2012 โดยต้องไปรอผลลุ้นคู่ระหว่าง ญี่ปุุ่น กับ เซอร์เบีย ที่จะแข่งในเวลา 17.00 น. ตามเวลาไทย.

บิ๊กลูกยางโลกเซ็งยุ่นเล่นสมยอม





ประธานสหพันธ์ลูกยางโลกเห็นใจนักตบสาวไทยพลาดตั๋ว“ลอนดอนเกมส์” เซ็งยุ่นเล่นสมยอมแพ้เซอร์เบียร์ 2-3 นัดสั่งลา
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. หลังจากที่ทีมลูกยางสาวชาติไทยต้องพลาดหวังคว้าตั๋วไปลุยโอลิมปิกเกมส์ ที่ลอนดอน อังกฤษ ซึ่งตัวแปรที่ทำให้ไทยชวดไปก็เพราะญี่ปุ่นแพ้เซอร์เบียร์ 2-3 นัดสั่งลาเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา แม้ว่าทีมลูกยางสาวไทยจะโค่นคิวบา 3-1 เซตก็ตาม ทั้งนี้ นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เผยว่า ตอนที่เราชนะคิวบาได้ ก็ดีใจและชื่นชมผลงานของนักกีฬารวมถึงทีมงานทั้งหมด แต่ตอนนั้นตนได้สอบถามไปยัง “อาจารย์ติ๋ม” ร.ท.ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ คณะกรรมการบริหารฯ ว่า ถ้ารูปเกมแบบนี้ทางญี่ปุ่นกับเซอร์เบียร์ อาจจะเล่นซูเอี๋ยกันก็ได้ แต่ “อาจารย์ติ๋ม” บอกว่าไม่มีทางเพราะสปิริตของญี่ปุ่นสูงมาก ประกอบกับมีความสัมพันธ์อันดีกับไทย

เมื่อได้นั่งชมเกมการเล่นเห็นญี่ปุ่นได้ 2 เซต ก็ทำใจแล้วว่าเกมปาหี่จะเกิดขึ้นแน่ และก็เป็นจริงดังที่ตนได้คิดไว้ตั้งแต่แรก ทันทีที่ฝันสลาย เหว่ย จิชง ประธานสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติได้โทรมาแสดงความเสียใจกับ ร.ท.ชาญฤทธิ์ และแทบไม่น่าเชื่อสายตาว่า การเล่นจะออกมารูปแบบนี้ ซึ่งถือเป็นรอยด่างของวงการวอลเลย์บอลระดับนานาชาติทีเดียว ประเด็นนี้ทางสหพันธ์จะมีการหยิบยกเข้าสู่การประชุมอย่างแน่นอนเพื่อหาวิธีป้องกันเพื่อมิให้ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป

อย่างไรก็ดี นายกสมาคมลูกยางของไทยเปิดใจอีกว่า ทุกวันนี้บอกตามตรงว่าทางสมาคมฯ ต้องพบกับปัญหาหวานอม ขมกลืน โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่มีขีดจำกัน “ผมมั่นใจว่าหากเรามีงบประมาณสำหรับนำมาสร้างสายเลือดใหม่ต่อเนื่อง ใช้ปีละ 5 ล้านบาท รวม 4 ปี ก็ 20 ล้านบาท เชื่อว่าเรายังมีโอกาสไปเล่นโอลิมปิก ผมไม่ย่อท้อพร้อมที่จะทำหน้าที่นายกสมาคมฯ และเร่งพัฒนาวงการวอลเลย์บอลของไทย สำหรับนักกีฬาและทีมงานชุดนี้ผมถือว่าทุกคนทำได้ดีที่สุดเหนือความคาดหมายด้วยซ้ำไป เพราะได้แสดงศักยภาพออกมาให้เห็นแล้วว่าเราสามารถชนะยอดทีมจากยุโรปอย่างเซอร์เบียร์ หรือแม้กระทั่งทีมดังอย่าง เปรูและคิวบา”

คิกเกอร์ตีข่าวผีจ่อซิวคากาวะ





แฟนผีแดงมีเฮ หลัง "คิกเกอร์" ตีข่าว แมนฯ ยูไนเต็ด จ่อซิว "คากาวะ" เข้ารังสมใจแล้วด้วยค่าตัวราว 15 ล้านยูโร
     “คิกเกอร์” นิตยาสารฟุตบอลชื่อดังของเยอรมนี ตีข่าว ชินจิ คากาวะ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติญี่ปุ่น ของ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ จ่อได้ย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ของ อังกฤษ เต็มที หลังทั้ง 2 สโมสรใกล้จะบรรลุข้อตกลงมูลค่า 15 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 600 ล้านบาทกันได้แล้ว

     ด้าน มิชาเอล ซอร์ก ผู้อำนวยการกีฬา ของ ดอร์ตมุนด์ เผยว่า ตอนนี้ยังคงเหลือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการทำข้อตกลงที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถหาข้อสรุปกันได้ และคากาวะ ก็ยังคงมีสัญญากับ “เสือเหลือง” ไปจนกระทั่งเดือน มิ.ย.ปี ค.ศ. 2013

    คากาวะ ย้ายจาก เซเรโซ โอซากา มาอยู่กับ ดอร์ตมุนด์ เมื่อปี ค.ศ. 2010 ด้วยค่าตัวเพียง 350,000 ยูโร หรือ ประมาณ 14 ล้านบาทเท่านั้น โดย ดาวเตะวัย 23 ปี ซัดไป 21 ประตูจากการลงสนาม 49 นัดให้ ทีมดังแห่ง ซิกนัล อิดูนา ปาร์ก และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา มาครองได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน..

แฟนเพลงไทยแห่ชมคอนเสิร์ต "เลดี้ กาก้า"





แฟนเพลง เลดี้ กาก้า ทำราชมังคลาฯทะลัก จราจรอัมพาต สุดคึกแต่งตัวเลียนแบบเพียบ โวไม่ถอยแม้ฝนจะตก สาวน้อยโชคดีได้กุญแจมอนสเตอร์คีย์ ส่วน2หนุ่ม กางเต้นท์ ได้ถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึก
วันนี้ (25 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของเลดี้ กาก้า” หรือ น.ส.สเตฟานี โจแอนน์ แอนเจลินา เจอร์มาน็อตตา ศิลปินนักร้องสาวชื่อดังระดับโลก ที่มีกำหนดเปิดแสดงคอนเสิร์ตสุดอลังการครั้งแรกในประเทศไทย ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถนนรามคำแหง   ตั้งแต่ช่วงสาย ที่ โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจีส ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน  ซึ่งเป็นโรงแรมที่นักร้องสาว เลดี้ กาก้า เข้าพัก ก่อนที่เธอจะทำการแสดงคอนเสิร์ต สำหรับ บรรยากาศด้านหน้าโรงแรม มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา โดยทางโรงแรมได้จัดทีมรักษาความปลอดภัยกว่า 10 คน เพื่อรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้กับนักร้องสาว รวมถึงทีมของของเธอ

ขณะที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน  มีสาวกแฟนเพลงของเลดี้ กาก้า เดินทางมารอที่ประตูทางเข้าชั้นแรก โดยส่วนใหญ่เดินทางมาถึงตอนช่วงเช้า บางส่วนแต่งตัวเลียนแบบเลดี้ กาก้า โดยต่างเฝ้ารอด้วยความตื่นเต้น นอกจากนี้ ยังมีแฟนคลับจากเฟซบุ๊กแฟนเพจ ไทยแลนด์ เลิฟ เลดี้ กาก้า จำนวนหนึ่ง ปักหลักกางเต็นท์รอบริเวณทางเข้าคอนเสิร์ต เพราะต้องการเป็นคนแรกที่ได้เข้าประตูคอนเสิร์ต และจะได้กุญแจที่เรียกว่า “มอนสเตอร์ คีย์” เป็นของที่ระลึกจากเลดี้กาก้า โดยนักร้องดังจะเป็นผู้มอบให้เองกับมือ และมีการพูดคุย ถ่ายรูป แจกลายเซ็นให้กับแฟนคลับผู้โชคดีอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามตลอดทั้งวันท้องฟ้าบริเวณรอบสนามค่อนข้างมีเมฆมาก แต่ทางแฟนเพลงยืนยันว่าจะไม่ถอย และบอกว่าหากฝนตกในงานก็จะมีการแจกเสื้อกันฝน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประตูชั้นแรกจะเปิดให้เข้างานตอน 15.00 น. ส่วนประตูของสนามจะเปิดให้เข้าในเวลา 19.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของานดูแลความสงบเรียบร้อยรอบสนาม ต่อมาในช่วงบ่าย แฟนคลับเลดี้ กาก้าเริ่มทยอยเดินทางมาสมทบจนแน่นขนัดแบบมืดฟ้ามัวดิน ส่วนใหญ่แต่งกายเต็มไปด้วยสีสันอย่างหลุดโลกเลียนแบบนักร้องดัง ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ ส่วนการจราจรบนถนนรามคำแหงและพื้นที่บริเวณใกล้เคียงพบว่ารถติดขัดอย่างมาก จนกระทั่งผู้จัดงานได้เปิดประตูชั้นแรกให้เข้างานในเวลา 15.00 น. สาวกเลดี้กาก้า ต่างส่งเสียงเฮด้วยความดีใจ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง

กระทั่งถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย เมื่อทีมงานของเลดี้ กาก้า ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 5 คน ที่รอเข้าชมคอนเสิร์ตเลดี้กาก้านานที่สุด และมีโอกาสได้ถ่ายรูปกับนักร้องซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง คือ น.ส.มณีนุช สุธีสันต์ นายอิศเรศ กมลนาวิน น.ส.ปะการัง แซ่ภู่ นายพชรพงศ์ นิ่มวงศ์ษา และนายสุเมธ กลิ่นจันทร์ โดย น.ส.มณีนุช เป็นผู้โชคดีคนเดียวที่ได้รับมอนสเตอร์คีย์ จากเลดี้กาก้า เพราะเป็นผู้เดียวที่มากางเต็นท์รวมถึงเช่าโรงแรมในละแวกสนามราชมังคลาฯ เพื่อรอคอยชมคอนเสิร์ตติดต่อกันนานถึง 7 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสำรวจภายในงาน พบว่ามีการเปิดบูทจำหน่ายสินค้าจากผลิตภัณฑ์ชื่อดังหลายยี่ห้อ มีเสื้อผ้า และของที่ระลึกจำหน่าย และที่บูธของสิงห์ ได้พบกับ บัวขาว ป.ประมุข หรือนายสมบัติ บัญชาเมฆ นักชกมวยไทยชื่อดังที่เพิ่งลาสิกขาบท บอกว่าได้รับเชิญจากสิงห์ให้มาร่วมงาน และถึงแม้จะเป็นนักมวย  แต่ก็ต้องมีการปลดปล่อยกันบ้าง โดยส่วนตัวชอบอะไรบันเทิงอยู่แล้ว พอได้รับเชิญมาดูคอนเสิร์ตนักร้องระดับโลกอย่างเลดี้ กาก้า เลยตอบตกลงทันที นอกจากนี้ยังมีนักร้อง ดาราชื่อดังของไทยอาทิเช่น มดดำ คชาภา. มาริสา แอนนิต้า .ลาล่า ลูลู่ โปงลางสะออน . เมย์ เฟื่องอารมณ์ เต๋า สมชาย เข็มกลัดและภรรยา

ด้านพล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.4 กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมกำลังไว้ดูแลความสงบเรียบร้อยทั้งหมด 902 นาย โดยมีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบและชุดสืบสวนจากทุกสน.ในพื้นที่บก.น.4 และมีเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด(อีโอดี) เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน จราจรและสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ191 ทั้งนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากการกีฬาแห่งประเทศไทยอีก 90 คน รวมทั้งทีมรักษาความปลอดภัยของงานอีก 200 คนอีกด้วย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซียว่า  ตำรวจอินโดนีเซียกำลังพิจารณาข้อเสนอจากคณะผู้จัดคอนเสิร์ตเลดี้ กาก้า เพื่อให้มีการแสดงคอนเสิร์ตวันที่ 3 มิ.ย.ในกรุงจาการ์ต้า ด้วยเงื่อนไขที่ว่า คอนเสิร์ตจะลดระดับความแรงจากการแสดงของเลดี้ กาก้า ที่ส่อไปในทางเพศ  หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจนครบาลกรุงจาการ์ต้าไม่อนุญาตให้จัดคอนเสิร์ตเลดี้ กาก้า ในวันดังกล่าว  ภายหลังกลุ่มเคร่งศาสนาขู่สร้างความวุ่นวาย หากเลดี้ กาก้า เดินทางเข้าอินโดนีเซีย  ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า  นักร้องชื่อดังยังไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงคอนเสิร์ตในประเทศ

ด้านนายทรอย คาร์เตอร์  ผู้จัดการของเลดี้ กาก้า เปิดเผยว่า  เลดี้ กาก้า จะไม่ลดระดับการแสดงในคอนเสิร์ตของเธอ  หลังจากมีการประท้วงเกิดขึ้นจากกลุ่มเคร่งศาสนาทั้งในฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้   ซึ่งเลดี้ กาก้า  ยอมยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ตดีกว่าต้องมาเปลี่ยนแปลงหรือลดระดับคอนเสิร์ต เพื่อเอาใจกลุ่มศาสนาหรือกองเซ็นเซอร์   สำหรับคอนเสิร์ตของเลดี้ กาก้า ที่ใช้ชื่อว่า”เดอะบอร์น ดีส เวย์ บอล”ในกรุงจาการ์ต้า  ทางคณะผู้จัดได้ขายบัตรเข้าชมกว่า 50,000 ใบหมดเกลี้ยงแล้ว

คืบหน้าคดีนักร้องซี สาวหล่อ





รอผลตรวจอาการ ซี นักร้องสาวหล่อ ก่อนแจ้งข้อหาคนขับเพิ่ม ขณะตำรวจเผยเป็นคดีรถชนธรรมดาไม่ซับซ้อน แถมผู้ก่อเหตุไม่หลบหนีและให้การเป็นประโยชน์
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้(29พ.ค.)  พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์  จงอิทธิ พงส.(สบ2) สน.ปทุมวัน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี น.ส.มัฑณาวี คีแนน  หรือซี  อายุ 24 ปี  นักร้องสาวหล่อชื่อดัง ค่ายอาร์เอสโปรโมชั่น ถูกรถกระบะยี่ห้อเชฟวีโคโรร่าโด สีขาว หมายเลขทะเบียน ตว 9956 กรุงเทพมหานคร รถขนส่งอาหารร้านบาร์บีคิวพลาซ่าโดยมี นายสมพร จูตระกูล อายุ 32 ปี  เป็นผู้ขับขี่   ชนขณะเดินข้ามถนนบริเวณถนนฝั่งตรงข้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากเดินทางไปไหว้พระพรหม จนอากาสาหัส พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ   เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา

พ.ต.ท.เจริญสิทธิ์   กล่าวว่า เบื้องต้นกำลังอยู่ระหว่างรอผลตรวจจากแพทย์นิติเวชตำรวจ โรงพยาบาลตำรวจ  เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี  ซึ่งต้องดูจากผลแพทย์ว่าผู้เสียหายมีอาการสาหัสหรือไม่  ทั้งนี้ถ้าหากอาการสาหัสก็จะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส อย่างไรก็ตามขณะนี้อาการของนักร้องสาวมีอาการดีขึ้นตามลำดับ โดยคาดว่าต้องรอผลแพทย์ประมาณ 2-3 วัน ส่วนการสอบปากคำพยานคงไม่ต้องสอบใครเพิ่มเติม  เพราะสอบแค่ผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว เนื่องจากเป็นคดีรถชนธรรมดา  อีกทั้งผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้หลบหนีและยังให้การเป็นประโยชน์แก่รูปคดี  ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น นายสมพร ให้การว่า เป็นผู้ขับรถชนผู้เสียหายจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจชนและรู้สึกเสียใจ อีกทั้งหลังชนยังได้ให้การช่วยเหลือ และเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลรวมทั้งกล่าวขอโทษผู้บาดเจ็บด้วย.

ซีสาวหล่อดีขึ้นเตรียมผ่าตัดไหปลาร้าพรุ่งนี้






แพทย์รพ.ตำรวจ เผย อาการนักร้องซี สาวหล่อ ดีขึ้น เตรียมเข้าห้องผ่าตัดกระดูกไหปลาร้า พรุ่งนี้
เมื่อเวลา 12.00น. วันนี้(29พ.ค.) ที่ รพ.ตำรวจ   พ.ต.ท.ศิริกุล  เจียรนัยขจร  รองโฆษก รพ.ตำรวจ เปิดเผยถึงอาการล่าสุดของ น.ส.มัฑณาวี คีแนน หรือ ซี สาวหล่อ ลูกครึ่งอังกฤษ-อินโดนีเซีย นักร้องค่ายอาร์เอส ที่ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถกระบะพุ่งชน ขณะเดินข้ามถนนพระราม 1   หน้า รพ.ตำรวจ  จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเข้าผ่าตัดสมอง พักรักษาตัวที่ห้อง ICU ร.พ.ตำรวจ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า

ขณะนี้ น.ส.มัฑณาวี  ออกจากห้องไอซียูมาพักฟื้นที่ห้องพิเศษ อาคารมงคลกาญจนา ห้อง 1005 แล้ว และพรุ่งนี้แพทย์จะทำการผ่าตัดกระดูกไหปลาร้าข้างขวาที่หัก   จากนั้นรอดูอาการอีก 1 สัปดาห์  ส่วนอาการโดยรวมล่าสุดดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ไม่มีผลกระทบจากการผ่าตัดสมอง ผู้ป่วยอาจมีคลื่นไส้บ้าง และปวดแผลเล็กน้อย  ขณะนี้ยังมีสายยางดูดเลือดใต้กะโหลกศรีษะออกมาอยู่..

ดารา นักร้อง แห่ให้กำลังใจ ซี สาวหล่อ





ดารา นักร้อง แห่ให้กำลังใจ ซีสาวหล่อ บ่น ปวดสะโพก
ที่รพ.ตำรวจ เมื่อเวลา 12.30 น.  วันนี้ (29 พ.ค.)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   พ.ต.ต.นพ.ชนะ จงโชคดี นายแพทย์ศัลยกรรมระบบประสาทและสมอง  ได้ลงตรวจความคืบหน้าอาการสมองของนักร้องสาวหล่อ “ซี-มัฑณาวี  คีแนน” ศิลปินค่ายอาร์เอสฯ พบว่า ซียังคงมีอาการปวดหัวอยู่ เนื่องจากเนื้อเยื่อใต้กะโหลกฟกช้ำจากแรงกระแทก ในส่วนของอาการคลื่นไส้อาเจียนที่ยังคงมีอยู่นั้น เป็นเพราะฤทธิ์ยาสลบจากการผ่าตัดที่ผ่านมา  ซึ่งทางแพทย์ก็ให้ยาแก้ปวดหัว และแก้อาเจียนรักษาตามอาการ ซึ่งจากผลการเอ็กซเรย์ล่าสุด ไม่ได้มีความผิดปกติแต่อย่างใด  โดยแพทย์ได้ตรวจสัญญาณชีพ การตอบสนองระบบสมองและระบบประสาทเพิ่มเติม  ซึ่งยังคงต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด จากนั้นได้ทำการล้างแผลที่กะโหลกศีรษะ ขณะเดียวกันซีได้บ่นว่ามีอาการปวดที่สะโพก ทางแพทย์จึงได้ให้นำเครื่องเอ็กซเรย์มาเอ็กซเรย์เพื่อติดตามดูว่ามีอาการแทรกซ้อนใด ๆ หรือไม่

พร้อมกันนี้ ช่วงบ่าย ได้มีศิลปินร่วมค่ายอย่าง โยชิ-นิมิตร มนัสพล (วงซีควิ้นท์) และ กราฟ-โอสธี  ซุ่นมงคล (วงแบลล็ค วานิลลา)  เดินทางมาพร้อมกระเช้าดอกไม้เพื่อเยี่ยมนักร้องสาวหล่อ  ตามมาด้วย เมย์-พิชนาฎ สาขากรณ์, เขื่อน-ภัทรดนัย เสตสุวรรณ (วงเคโอติก) ส่วนที่มาเป็นคู่ คือ “โฟร์-ศกลรัตน์ วรอุไร” เดินทางมากับ “พิชญ์-พิชญ์  กาไชย”  ที่มาเยี่ยมให้กำลังใจเพื่อนร่วมค่าย ล่าสุดช่วงเวลา ประมาณ 15.30 น. ดาราสาวชื่อดัง  พลอย-เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์ ก็ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจซีด้วยเช่นกัน.




เปิดแพ็กเกจ 'ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 3' สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์แห่งปี





ซัมซุงจับมือ 3 โอปเรเตอร์เมืองไทย วางตลาด “ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 3” สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์แห่งปี ราคาเดียวทุกค่าย 21,900 บาท แข่งกันที่แพ็กเกจโดนใจ
ซัมซุงจับมือ 3 โอปเรเตอร์เมืองไทย วางตลาด “ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 3” สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์แห่งปี ราคาเดียวทุกค่าย 21,900 บาท แข่งกันที่แพ็กเกจโดนใจ

นายปภาพรต ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 3 ถือเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ลูกค้าในเมืองไทยรอคอย โดยเป็นไฮไลต์ผลิตภัณฑ์เด่นของซัมซุงในปีนี้  ซึ่งปัจจุบันมือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นกว่า 500% จากปี 2553 ลูกค้าสมาร์ทโฟนในเครือข่ายดีแทค มีสัดส่วนการใช้งานแอนดรอยด์สูงถึงเกือบ 20% คาดว่าใน 1-2 ปีข้างหน้า จะเติบโตขึ้นถึง 40% ตามการเติบโตในตลาดโลก

ทั้งนี้ดีแทคคาดว่าจะมียอดขายถึง 5 หมื่นเครื่อง ภายใน 6-8 เดือน จากโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 10 เดือน พร้อมจดทะเบียนแพ็กเกจ กาแลคซี่ เอส 3 ซูเปอร์ ดีล ใช้อินเทอร์เน็ตได้ไม่จำกัด และใช้งานโทรฯ ได้เดือนละ 550 นาที ในอัตราค่าบริการเริ่มต้นเดือนละ 499 บาท ฟรีใช้งาน ดีแทค ไว-ไฟ นาน 6 เดือน พิเศษเมื่อจองผ่านเว็บไซต์ www.dtac.co.th ระหว่างวันที่ 24 พฤษภาคม-3 มิถุนายนนี้  ได้รับสิทธิลุ้นเที่ยวเกาหลีฟรี หากไม่จองผ่านเว็บ สามารถซื้อได้ที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทคในเขตกรุงเทพฯได้ตั้งแต่ 3 มิถุนายน และที่สำนักงานบริการลูกค้าดีแทคและดีแทคเซ็นเตอร์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนเป็นต้นไป

ด้านนายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาด เอไอเอส เปิดเผยว่า ปัจจุบันอัตราความนิยมของสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นกว่า 100% สาเหตุเพราะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในยุคปัจจุบัน โดย “ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 3” ถือได้ว่าเป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนดีไวซ์ที่สามารถผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับคนเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าเป็นฮิวแมนเทคโนโลยี

สำหรับแคมเปญพิเศษของเอไอเอส เมื่อสมัครแพ็กเกจ ไอสมาร์ท 399 บาทต่อเดือน รับสิทธิใช้เอไอเอส 3 จีและเอดจ์พลัสไม่จำกัด และโทรฯฟรี 200 นาที มีโปรโมชั่นพิเศษ ผ่อน 0% นาน 10 เดือน เมื่อสั่งจองผ่านทางเอไอเอส ออนไลน์ ช็อปปิ้ง หรือที่ www.ais.co.th ตั้งแต่วันที่ 23–29 พฤษภาคม 2555 นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น ฟรี อี-แมกกาซีน และอี-นิวส์เปเปอร์ จาก แอพเอไอเอส บุ๊ก สโตร์

ส่วนค่ายทรู นายปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ หัวหน้ากลุ่มคณะผู้บริหารด้านการพาณิชย์ การขาย และรีเทล บมจ.ทรู คอร์ ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรูมูฟ เอช เปิดจองซัมซุง กาแลคซี่ เอส 3 ตั้งแต่ 23-31 พฤษภาคม  2555 ชำระค่ามัดจำ 3,120 บาท รับสิทธิพิเศษ เช่น สมัครแพ็กเกจสมาร์ท 899 นาน 12 เดือน ใช้ฟรี 6 เดือน พร้อมของแถมและเอ็กซ์คลูซีฟคอนเทนต์จากทรูวิชั่นส์ให้ดูทีวีผ่านมือถือนาน 1 ปี ผ่อน 0% นาน 18 เดือน และลุ้นแพ็กเกจชมคอนเสิร์ตมาดอนนาที่ฝรั่งเศส เปิดจองที่ร้านทรูช็อปทุกสาขาหรือที่ www.truemove-h.com หรือที่ www.weloveshopping.com

ทั้ง 3 โอปเรเตอร์ ขายเครื่อง ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 3 ราคาเดียวคือ 21,900 บาท

สำหรับ “ซัมซุง กาแลคซี่ เอส 3” พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Designed for Humans : Inspired by Nature”  ออกแบบจากแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ หน้าจอขนาด 4.8 นิ้ว เอชดี ซูเปอร์ อะโมเลด ซีพียู แบบควอด-คอร์ 1.4 Ghz กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และซอฟต์แวร์ที่ชาญฉลาด เช่น เอส วอยซ์ (S-Voice)ระบบสั่งงานด้วยเสียง รองรับได้ 8 ภาษา ไดเรค คอลล์ (Direct Call) โทรฯง่าย เพียงแค่ยกหูโทรศัพท์ ระบบจะโทรฯออกตามเบอร์โทรศัพท์ที่เปิดอยู่ โดยอัตโนมัติ สมาร์ท สเตย์ (Smart Stay) สั่งการได้ด้วยสายตา และเอส-บีม (S-Beam) ส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครื่องแบบง่าย ๆ เพียงแค่นำด้านหลังเครื่องมาแตะกัน.

เอชทีวีกับนิวไอแพด - ฉลาดใช้





อะฮ่า ทำตัวไม่ค่อยถูก หลังจากได้ครอบครองนิวไอแพด (New iPad) แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดจากแอปเปิล

ในฐานะที่เป็นผู้จำหน่ายสินค้าของแอปเปิลเป็นรายแรกของไทย  แน่นอนว่าทรู คอร์ปอเรชั่น จึงย่อมได้สิทธิขายก่อนใครเช่นกัน

นิวไอแพด นั้น จอมีความละเอียดกว่า ไอแพด 2 ถึง 3  เท่า  แบตเตอรี่ใช้งานได้นานประมาณ 10 ชั่วโมง ถ้าใช้ดูหนัง ฟังเพลง ท่องเน็ต หน่วยประมวลผล ดูอัลคอร์ 1 กิกะเฮิรตซ์ แอปเปิล เอ 5 เอ็กซ

ข้อมูลทางเทคนิคระบุว่า ตัวเครื่องจะหนากว่าไอแพด 2 แต่ไม่หนาไปกว่าไอแพดรุ่นแรก ก็เพราะหน้าจอมีความละเอียดสูงมาก จึงต้องการแบตเตอรี่หนากว่าเดิม

วันนี้จะพาไปดูทีวีบนมือถือผ่านนิวไอแพด โดยใส่ซิมทรูมูฟ เอช 3 จีพลัส และใช้งานควบคู่ไปกับสัญญาณไวไฟของทรูฯ

นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการธุรกิจโมบายล์ บริษัททรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอชทีวี (H TV) เป็นการดูทีวีบนมือถือรูปแบบใหม่มากกว่า 90 ช่อง จากทรูวิชั่นส์ และจากแหล่งอื่น ๆ รวมทั้งฟรีทีวี โดยจะได้รับชมภาพระดับไฮเดฟิเนชั่นหรือภาพที่มีความคมชัดสูงได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านเครือข่าย 3 จีพลัสของทรูมูฟ เอช

ปัจจุบันทรูมูฟ เอช 3 จีพลัส เป็นเครือข่าย 3 จี ขนาดใหญ่ ครอบคลุม 77 จังหวัด 843 อำเภอ  5,158 ตำบล  จะให้บริการครบทุกตำบลในประเทศไทยภายในสิ้นปีนี้

บริการไวไฟ มีมากกว่า 100,000 จุด และจุดบริการในต่างประเทศอีกประมาณ 200,000 จุด

สำหรับบริการ เอช ทีวีนั้น เป็นช่องทางใหม่ของการชมทรูวิชั่นส์นอกบ้าน ตามแพ็กเกจที่เป็นสมาชิก แม้กระทั่งพรีเมียร์ลีก ก็ชมได้

วิธีการดู เอชทีวีบนอุปกรณ์ไอแพด  เมื่อใส่ซิมทรูมูฟ เอช 3 จีพลัสแล้ว ก็เข้าไปที่แอพสโตร์ เพื่อดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เอชทีวี มาไว้บนไอแพดของเรา ช่วงนี้ให้ดาวน์โหลดฟรี แต่ต้องเป็นลูกค้าของทรูมูฟ เอช นะคะ จะได้รับสิทธิยกเว้นค่าบริการรายเดือนนาน 12 เดือน แต่ถ้าเป็นสมาชิกของทรูวิชั่นส์ด้วยก็ดูทีวีได้ทันทีตามแพ็กเกจที่สมัครเป็นสมาชิก จะซิลเวอร์ โกลด์ หรือแพลตตินัม ก็ดูได้

จบโปรโมชั่นดูฟรี แต่อยากดูต่อก็เสียค่าบริการเดือนละ 399 บาท เฉพาะลูกค้าทรูมูฟเอช 3 จีพลัส

เมื่อดาวน์โหลด แอพพลิเคชั่น เอชทีวี มาไว้ที่เครื่องของเราแล้วก็พร้อมใช้งานทันที แค่คลิกเข้าไป จะเจอรายการต่าง ๆ แยกเป็นไอคอนใหญ่ดูชัดเจนและสวยงามดี เช่น Home, TV Update มีบริการแจ้งเตือนรายการ

มีให้ดูมากมายจนเลือกไม่ไหว จะชอบดูข่าวจากฟรีทีวี หรือดูรายการของทรูวิชั่นส์ แม้กระทั่งทรูสปอร์ตก็คลิกเข้าไปดูได้ ผู้เขียนชอบดูทีวีของเพื่อนบ้าน เช่น ลาวสตาร์ ถูกใจมาก ๆ

มีช่องข่าวฟรีทีวีให้ดู แต่ไม่รู้ช่อง 3 หายไปไหน ไม่ยักกะมีในแอพพลิเคชั่นนี้

ระดับคุณภาพสัญญาณ หากดูบน 3 จีพลัส ก็อยู่ในระดับที่ชัดเจน ภาพไม่กระตุกหรือค้างเนิ่นนานเหมือนเมื่อก่อน ถ้าไปเจอสัญญาณไวไฟยิ่งสบาย ช็อตยิงประตูไม่มีค้างกลางอากาศแน่นอน

เค้าให้ดูกันแบบเรียลไทม์ด้วยนะ

นอกจากนี้ยังมี เอช มิวสิก (H MUSIC) สำหรับคนรักเสียงเพลง  ก็ทำเหมือนกันต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาก่อน จากนั้นจะฟังเพลง ดาวน์โหลดเพลง ติดตามดูอันดับเพลงทั่วโลกได้ทันที ซึ่งกลุ่มทรูฯ ได้ร่วมมือกับยูนิเวอร์ซัล มิวสิค เอาผลงานของศิลปินดัง ๆ มาให้ดูและดาวน์ผ่านแบบเอชดี

ที่ชอบคือเราสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของศิลปินคนโปรดได้แบบเรียลไทม์ด้วย ว่ากันว่าไทยเป็นประเทศที่ 4 ในภูมิภาค ก่อนหน้านี้คือ สิงคโปร์ มาเลเซียและอินโดนีเซียที่ร่วมมือกับยูนิเวอร์ซัล มิวสิค

ไม่ใช่ให้แค่ฟังเพลง เราสามารถเก็บและแชร์เพลงได้ด้วย

อาจจะสงสัยทำไมต้องดูบนไอแพด ดูบนระบบปฏิบัติการอื่นได้มั้ย แอพพลิเคชั่นนี้มีให้ดาวน์โหลดบนแอนดรอยด์มาร์เก็ตด้วย

เพียงแต่ยกตัวอย่างไอแพด  2 หรือนิวไอแพด ก็เพราะว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กันหลากหลาย ที่สำคัญนิวไอแพดเพิ่งจะเข้ามาวางขายในบ้านเราได้ไม่นาน คุณภาพจอที่ชัดแทบจะบาดลูกตาจึงเหมาะมากกับการรับชมภาพแบบที่มีความคมชัดสูง

ข้อดีของการเป็นลูกค้าของกลุ่มทรูฯ คือ เราสามารถใช้บริการอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน จะเรียกว่าเป็นเสน่ห์หรือกลยุทธ์การตลาดแบบเธอต้องรักฉันคนเดียวของกลุ่มทรูฯก็คงได้

คราวนี้จะบ่วง อีแพง อ้ายเสมาแห่งขุนศึก หรือซีรีส์โปรดในทรูวิชั่นส์ แม้จะยังไม่ถึงบ้านก็ไม่พลาดแล้วล่ะ.

ปรารถนา ฉายประเสริฐ
prathana.chai@gmail.com

แสดงความคิดเห็น

ตรวจแท็บเล็ตป.1ติดเงื่อนไขปลั๊ก 3 ขา






ตรวจสเปกแท็บเล็ตป.1 แล้ว 2,000 เครื่อง กรรมการตรวจรับติงปลั๊ก 2 ขา ขัดเงื่อนไขจัดซื้อ กำหนดต้องมีระบบสายดิน 3 ขา
ตรวจสเปกแท็บเล็ตป.1 แล้ว 2,000 เครื่อง กรรมการตรวจรับติงปลั๊ก 2 ขา ขัดเงื่อนไขจัดซื้อ กำหนดต้องมีระบบสายดิน  3 ขา

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงประเด็นปลั๊กแท็บเล็ตป.1ในโครงการคอมพิวเตอร์มือถือสำหรับนักเรียนทุกคน (One Tablet PC Per Child) หรือ โครงการจัดหาแท็บเล็ตเด็กป.1 กับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ว่า กรณีเรื่องระบบสายดินที่ระบุในทีโออาร์ (เงื่อนไขการจัดซื้อ) ต้องรอให้คณะกรรมการตรวจรับและตรวจสอบสเปกแท็บเล็ตป.1 พิจารณา

“เรื่องที่ระบุในทีโออาร์เกี่ยวกับเรื่องของระบบสายดินต้องดูจากเจตนา ซึ่งในประเทศไทยตามข้อเท็จจริงแล้วปลั๊กที่เป็นยี่ห้อที่นิยมในประเทศไทยก็ใช้แบบ 2 ขา อย่างไรก็ตามรอรายงานจากคณะกรรมการตรวจรับและตรวจสเปกพิจารณาแล้วส่งรายงานสรุปมาอีกครั้ง”

ทั้งนี้ สโคปได้ส่งแท็บเล็ตป.1 จำนวน 2,000 เครื่องแรกมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการตรวจรับและตรวจสเปกได้ตรวจสอบแล้วเมื่อวันที่ 26-27 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยปลั๊กสายไฟของทุกเครื่องเป็นแบบ 2 ขา ทว่าเงื่อนไขความต้องการทั่วไปของระบบที่ทำไว้ในสัญญาระบุว่า “ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตต้องสามารถนำมาใช้กับไฟฟ้ากระแสสลับตามมาตรฐานที่ใช้ในประเทศไทยในช่วงตั้งแต่ 190-240 โวลต์ ความถี่ 50 เฮิรตซ์ 1 เฟส พร้อมระบบสายดิน (190-240 VAC 50 Hz single phase with ground system)” ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าการที่ปลั๊กจะมีระบบสายดินต้องมี 3 ขา แต่แท็บเล็ต 2,000 เครื่องที่ส่งมาเป็นปลั๊ก 2 ขา

และถ้าคณะกรรมการตรวจรับสเปกตรวจให้ผ่าน ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการทำสัญญาให้สโคปผลิตแท็บเล็ต 4 แสนเครื่องเพื่อส่งมอบให้ไทยในเดือนก.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้สโคปผลิตแท็บเล็ตที่มีปลั๊กแบบ 2 ขา ดังนั้นสิ่งที่ต้องชัดเจนคือ ไอซีทีจะแก้ทีโออาร์ให้ปลั๊กไม่มีระบบสายดินหรือไม่? เพื่อทำให้สเปกที่สโคปส่งมาและทีโออาร์เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะปลอดภัยกับคณะกรรมการตรวจรับและตรวจสเปก และเป็นไปตามประกันภัยที่ทำไว้ตามสัญญาที่ระบุว่าหากเครื่องแท็บเล็ตเกิดอะไรขึ้นจะได้รับเงินประกัน 200,000 บาท/เครื่อง.

มาตรฐานบริการโทรคมนาคมไทยตกต่ำ!!!





จากสถิติปัญหาร้องเรียนของผู้ใช้บริการด้านโทรคมนาคม ซึ่งประกอบด้วย โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์พื้นฐาน และสถานีวิทยุโทรคมนาคม ตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 พ.ค. 55 พบว่า มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา 697 เรื่อง
จากสถิติปัญหาร้องเรียนของผู้ใช้บริการด้านโทรคมนาคม ซึ่งประกอบด้วย โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์พื้นฐาน และสถานีวิทยุโทรคมนาคม ตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 พ.ค. 55 พบว่า มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา 697 เรื่อง

โดยปัญหาค่าบริการผิดพลาดครองอันดับ 1 มีผู้ร้องเรียนมากสุด คิดเป็น 24.96 เปอร์เซ็นต์ และเป็นปัญหาที่ครองแชมป์ทุกปี

ส่วนปัญหาการร้องเรียนอันดับ 2 เป็นเรื่องมาตรฐานบริการที่ทุบสถิติดีดตัวเองจากปัญหาที่อยู่ในอันดับ 4 พุ่งขึ้นอันดับ 2 มีผู้ร้องเรียนคิดเป็น 18.79 เปอร์เซ็นต์ และปัญหาที่ร้องเรียนเป็นอันดับ 3 คือ ปัญหาเรื่องบัตรเติมเงิน (พรีเพด) เช่น วันหมดอายุของบัตรเติมเงิน คิดเป็น 18.51 เปอร์เซ็นต์

นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า ช่วงปี             2552-2554       ปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรฐานบริการอยู่ในอันดับ 4 แต่ปี 2555 เพียงสี่เดือนครึ่งปัญหาเรื่องมาตรฐานบริการมีการร้องเรียนเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 2 เพราะที่ผ่านมาพบปัญหาสายหลุด โทรฯไม่ติด และสัญญาณล่มอยู่บ่อยครั้ง

“แนวทางแก้ไขปัญหานี้ คือ สำนักงาน กสทช. ต้องทดสอบมาตรฐานสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ตลอดทั้งปีและทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้สำนักงาน กสทช. ได้ทำโครงการไดร์ฟเทสต์ หรือขับรถทดสอบสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามจุดต่าง ๆ หากพบพื้นที่ใดมีสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่อ่อนก็ทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของโครงข่ายปรับปรุง”

ทั้งนี้ หากแยกบริการด้านโทรคมนาคมเฉพาะประเภทโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า 1 ม.ค.-15 พ.ค.55 มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา 498 เรื่อง ปัญหาร้องเรียนมากสุด คือ บัตรเติมเงิน ค่าบริการผิดพลาด และมาตรฐานบริการ ตามลำดับ ซึ่งน้อยกว่าจำนวนเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ 70 ล้านเลขหมายเป็นอย่างมาก

นพ.ประวิทย์ กล่าวว่า จากผลการสำรวจพบว่า คนไทย 100 คนที่พบปัญหาจะมาร้องเรียนเพียง 2 คน ดังนั้นอีก 98 คนจะไม่ร้องเรียน ซึ่งปัญหาที่ได้รับร้องเรียนเมื่อถูกแก้ไขก็เป็นการแก้ไขให้กับผู้ร้องเรียนเพียง 2 คน ดังนั้นทางแก้ปัญหาที่ครอบคลุมคือการแก้ปัญหาให้กับคนที่พบปัญหาอีก 98 คนที่ไม่ร้องเรียนด้วย ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เช่นมาตรฐานบริการไม่ดีก็ต้องแก้ไขที่มาตรฐานบริการ

ส่วนการกระตุ้นให้เกิดการร้องเรียนเมื่อพบปัญหาก็เป็นแนวทางที่จะดำเนินงาน คือ พัฒนารูปแบบการรับเรื่องร้องเรียนให้ง่าย และใช้ต้นทุนต่ำ เช่น เบอร์ 1200 ที่ใช้รับเรื่องร้องเรียนปัจจุบันไม่เสียค่าโทรศัพท์เมื่อโทรฯเข้ามา ทำให้เรื่องการจัดส่งเอกสารหลักฐานมีราคาที่ถูก และทำระบบกติกาการร้องเรียนให้สะดวกแก่ประชาชน รวมทั้งให้ความรู้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับเรื่องสิทธิต่าง ๆ ในกิจการโทรคมนาคม เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าตนเองถูกละเมิดสิทธิ์.

@phetchan

ยิงดับส.อบต.ตะพงขณะขับรถกลับบ้าน






ยิงดับ ส.อบต.ขณะขับรถกลับบ้าน จนเสียหลักพลิกคว่ำ ตำรวจงง ญาติยืนยันไม่เคยมีเรื่องกับใคร ตั้งสามประเด็นส่วนตัว การเมืองท้องถิ่น หรือขับรถปาดหน้า
เมื่อเวลา 21.50 น. วันที่ 29 พ.ค. ร.ต.ท.พรชัย  สุขเจริญ  พงส.( สบ 1 )  สภ.เมืองระยอง รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงและมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ในรถยนต์ พลิกคว่ำชนป้ายข้างทางเหตุเกิดเลยหน้าศูนย์เบนซ์ ถนนสาย 36 หมู่ 5 ต.เชิงเนิน ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุกิตติ ไสวเกียรติ ผกก.ฯ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานระยอง ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีเขียว ทะเบียน บน 4369 ระยอง บรรทุกแก๊ส 3 ถังพร้อมเตา พลิกคว่ำตกอยู่ข้างทาง ภายในรถยนต์พบศพนายภิญโญ หรือเปี๊ยก  ภิริโย อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/1 หมู่ 4 ต.ตะพง มีตำแหน่งเป็น ส.อบต. หมู่ 4  สภาพถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าตามร่างกายหลายนัด

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพรับจ้างทำอาหารโต๊ะจีน ก่อนเกิดเหตุได้เก็บข้าวของเครื่องใช้หลังเสร็จงานเลี้ยงในบริเวณบ้านพักพนักงานบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) สี่แยกบ้านแลง แล้วขับรถกระบะกลับบ้าน ระหว่างทางถูกคนร้ายคาดน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คนพร้อมอาวุธครบมือขับรถมาประกบแล้วยิงปืนใส่ เบื้องต้นทางญาติคนตายระบุว่านายภิญโญ ไม่มีเหตุโกรธแค้นกับบุคคลใดทำให้ไม่ทราบสาเหตุที่ถูกสังหารในครั้งนี้แต่เจ้าหน้าที่คาดน่าจะมีความขัดแย้งส่วนตัว หรือการเมืองท้องถิ่นหรือขับรถปาดกันบนท้องถนน ซึ่งจะติดตามคนร้ายดำเนินคดีต่อไป

ศาลสั่งจำคุกบก.สาวเว็บประชาไท แต่รอลงอาญา1ปี





ศาลพิพากษา จำคุก บก.เว็บประชาไท ฐานละเลยให้มีผู้โพสต์ข้อความหมิ่นเบื้องสูง 8 เดือน ปรับ 2 หมื่น โทษจำคุกให้รอ 1 ปี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ ( 30 พ.ค.) ที่ห้องพิจารณา  704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หมายเลขคดีดำ อ.961/53 ซึ่งมีพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร  อายุ 44 ปี  ผู้ดูแลเว็บไซต์ประชาไท เป็นจำเลยฐาน กระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 สืบเนื่องจากระหว่างวันที่ 15 เม.ย. - 3 พ.ย.51  มีผู้โพสต์ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูง แต่โจทก์ในฐานะผู้ดูแลเว็บไซต์ กลับไม่ตรวจสอบ จึงเป็นการสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อความอันเป็นการหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งอยู่ในความควบคุมของจำเลย  ซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า มีการตรวจพบ ข้อความหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ถึง 9 ยูอาร์แอล แต่จำเลยกลับอ้างว่า ข้อมูลในกระดานเว็บบอร์ดมีจำนวนมาก  และจำเลยเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์เพียงคนเดียว ไม่สามารถตรวจสอบได้ทั่วถึงนั้นเห็นว่า จำเลยมีหน้าที่เป็นผู้ดูแลเว็บไซต์จำต้องตรวจสอบข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทผู้อื่น หรือผิดกฎหมาย    ข้อต่อสู้ของจำเลยไม่มีน้ำหนักมาหักล้างพยานหลักฐานได้  จำเลยจึงมีความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 15 ประกอบมาตรา 14 อนุ 3 ลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 ปี ปรับ 30,000 บาท  ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยไว้เป็นเวลา 8 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

น.ส.จีรนุช เปรมชัยพร กล่าวว่า ตนยังคงไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา และจะร่วมปรึกษากับทนายความว่าจะอุทธรณ์คดีหรือไม่  ขณะที่นายธีรพันธุ์  พันธุ์คีรี  ทนายความกล่าวว่า โดยรวมค่อนข้างพอใจกับคำพิพากษา แต่ยังมีบางประเด็นที่เห็นว่าจำเลยน่าจะมีความผิดแค่บกพร่องในการตรวจสอบ ดูแล ข้อความในเว็บบอร์ด แต่ศาลกับเห็นว่า  จำเลยจงใจกระทำความผิด และมีส่วนสนับสนุนให้ผู้อื่นโพสต์ข้อความหมิ่นเบื้องสูง   ซึ่งจำเลยน่าจะมีความผิดเพียงประมาทเลินเล่อผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้มีกลุ่มนักเคลื่อนไหวภาคเอกชนหรือเอ็นจีโอทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ  รวมทั้งสื่อมวลชนทุกแขนง ให้ความสนเดินทางมาฟังคำพิพากษาจำนวนมาประมาณ 100 คน จนแน่นห้องพิจารณา .

นายกฯรับมอบงานลอกคลองสนามชัย





นายกฯ ควง ผบ.ทบ. รับมอบงานขุดลอกคลอง 277 สาย สั่ง ครม.ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าแผนบริหารจัดการน้ำต้นเดือน มิ.ย. พร้อมสั่งผู้ว่าฯทุกจังหวัดดูแลเงินชดเชยอย่างใกล้ชิด
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ ( 30 พ.ค.)  ที่คลองสนามชัย วัดบางกระดี่ เขตบางขุนเทียน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพีธีปิด และส่งมอบงานโครงการขุดลอกคลองในพื้นที่ กทม. ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองทัพบก  277 สาย ที่ดำเนินการเสร็จสมบูรณ์แล้วให้กับ กทม. โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา  รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.สุกำพล  สุวรรณทัต รมว.กลาโหม  พล.อ.ประยุทธ์ จันทน์โอชา ผบ.ทบ. และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์  บริพัตร ผู้ว่าฯกทม ให้การต้อนรับ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ลงเรือสำรวจความเรียบร้อยในการขุดลอกเส้นทางน้ำในคลองสนามชัยร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์  ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมกองทัพบกที่ทำงานได้เร็วกว่ากำหนดถึง 11 วัน และขอให้ประชาชนสบายใจว่าทุกภาคส่วนทำงานกันเต็มที่ เพื่อการแก้ปัญหาอุทกภัย ไม่ให้เป็นฝันร้ายเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วอีก จากนั้นนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้พื้นที่ต้นน้ำและกลางน้ำยังไม่เรียบร้อย เพราะติดขัดขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนพื้นที่กลางน้ำส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างซ่อมแซมประตูระบายน้ำ ซึ่งเสร็จไปแล้ว 40-50% ทั้งนี้ตนจะเร่งรัดให้ทัน และจะตรวจพื้นที่ทั้งหมดในเดือนหน้า และสั่งการให้ ครม. ลงพื้นที่ตรวจเป็นรายจังหวัดร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด สำหรับพื้นที่ปลายน้ำนั้น เป็นการขุดลอกคูคลอง ซึ่งคืบหน้าไป 80 % เหลืออีกเพียง 20%  เชื่อว่าน่าจะทันตามกำหนด ส่วนการระบายน้ำมีการบูรณาการ และประชุมกันทุกสัปดาห์ ต่อไปนี้การระบายน้ำจะไม่ประสานกันทั้งระบบ ไม่ดูเฉพาะเขื่อนของตัวเอง กทม.มีการบริหารจัดการของตัวเอง แต่โดยภาพรวมต้องทำงานร่วมกันเพราะเป็นภารกิจของประเทศ


น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีที่ชาวบ้านไม่พอใจและออกมาประท้วงการจ่ายเงินค่าซ่อมแซมบ้านในพื้นที่ต่าง ๆนั้น ตนจะเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหมด เพื่อให้เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ปทุมธานี ได้มีการตั้งคณะกรรมการกลาง เพื่อให้เข้าไปดูความเสียหายที่แท้จริงยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีเจตนาที่จะไม่จ่ายเงินหรือไม่ดูแลประชาชน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาจากพื้นที่ที่ไม่มีการรายงานเข้ามา ซึ่งตนก็ได้กำชับผู้ว่าฯให้ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดแล้ว ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้การขุดลอกคลองในส่วนของ กทม.เสร็จไปแล้วกว่า 70 % ซึ่งในจำนวนนี้บางคลองยังทำไม่เสร็จ แต่คาดว่าต้นเดือน มิ.ย. น่าจะเสร็จทันตามระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนด สาเหตุที่ล่าช้า เพราะขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐก็ทำงานในสิ่งเดียวกัน หน่วยงานภาคเอกชนก็มีจำนวนจำกัด ผู้สื่อข่าวงานว่า ล่าสุดได้มีการรายงานความคืบหน้าการขุดลอกคูคลองในพื้นที่กทม.ให้นายกรัฐมนตรีทราบ โดยพบว่า คลองที่กองทัพบกรับผิดชอบ 277 สายใน 27 เขตของ กทม. ระยะทาง 558 กิโลเมตร เสร็จแล้วทั้งหมด ในส่วน 29 คลองที่กทม.รับผิดชอบนั้น ทางกทม.ไม่สามารถดำเนินการได้ทัน จึงได้ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้ามาช่วยดำเนินการ 6 คลอง และมอบหมายกองทัพไปดำเนินการอีก 8 คลอง เหลือกทม.ดำเนินการเอง 15คลอง ซึ่งแล้วเสร็จไปเพียง 1 คลองเท่านั้น อีก 2 คลองกำลังดำเนินการ.

"จำลอง"นำทัพเคลื่อนม็อบล้อมสภาหยุดปรองดอง





ม็อบเหลืองล้นลานพระรูป "สนธิลิ้ม" ขึ้นเวทีซัด "สนธิบัง" เป่านกหวีดเคลื่อนพล "จำลอง" นำทัพพันธมิตรนับพันคน เคลื่อนพลปิดล้อมรัฐสภา ขวางการบรรจุวาระ
ช่วงบ่าย (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่รวมตัวชุมนุมคัดค้านร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ฉบับที่เสนอโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้ารัชกาลที่ 5 ว่า กลุ่มผู้ชุมนุม เริ่มทยอยกันมาจนเกือบเต็มลานแล้ว ขณะนี้กำลังรอเวลานัดหมายอย่างเป็นทางการ เพื่อเคลื่อนตัวไปที่บริเวณรัฐสภาในเวลา 15.00 น.

ขณะเดียวกันได้มีแกนนำคือนายสนธิ ลิ้มทองกุล และนายพิภพ ธงไชย ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยโจมตี พล.อ.สนธิ ที่เป็นผู้เสนอที่เห็นว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยถ้อยคำรุนแรง

สำหรับมาตรการการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของการชุมนุม ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 7 กองร้อยดูแลการชุมนุมในพื้นที่ ตั้งแต่ลานพระบรมรูปทรงม้า ถึงอาคารรัฐสภาและพื้นที่โดยรอบ

ส่วนที่บริเวณประตูรัฐสภา 3 ด้านถนนราชวิถี ซึ่งเป็นจัดนัดหมายของกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือกลุ่มเสื้อหลากสี ที่นัดรวมตัวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ปรองดองทั้ง 4 ฉบับ ตั้งแต่เช้ามีการนำรถติดเครื่องขยายเสียงมาประจำที่ โดยมีมวลชนบางส่วนเริ่มเดินทางมาแล้วเช่นกัน

ด้าน พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. กล่าวว่า มีการเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่างเต็มที่ เเละมีการวางมาตรการอย่างเข้มงวด พร้อมยืนยันว่าการชุมนุมจะเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ส่วนด้านการข่าวขณะนี้ยังไม่พบว่าจะมีกลุ่มคนต่อต้าน หรือเหตุรุนแรงแต่อย่างใด สำหรับการจราจรในขณะนี้พบว่ารถเริ่มติดขัดบริเวณถนนอู่ทองใน ถนนราชวิถี และบริเวณโดยรอบรัฐสภาแล้ว

ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.ต.จำลอง ได้ประกาศเคลื่อนพลนำกลุ่มผู้ชุมนุมไปหน้ารัฐสภา ยึดถนนอู่ทองในเป็นที่ตั้งเวทีเคลื่อนที่บนรถบรรทุก พร้อมปราศัยโจมตีว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ในขณะที่ เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อบด้านหน้าได้ล่าถอยเข้าภายในรั้วรัฐสภาและปิดประตูทุกด้านทันที.

อาม่าเจ้าของมินิคูเปอร์ปัดไม่รู้เห็นเหตุการณ์





อาม่าวัย 81 เจ้าของมินิคูเปอร์ พบตำรวจ ปัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง วันเกิดเหตุนอนรักษาตัวที่ รพ.กระทั่งทราบภายหลัง จึงเดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ ส่วนหลานชายอยู่ระหว่างทำใจ และจะเดินทางเข้ามอบตัวไม่เกิน 5 มิ.ย.นี้
 กรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ก ชื่อ Wong Cartoon ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพของน.ส.โชติกา ประสารโสภณ อายุ 22ปี  น.ศ.ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์มินิคูเปอร์  ป้ายแดง ทะเบียน 4721 พุ่งชน ขณะที่ตนเองพร้อมเพื่อนอีก 3 คนลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ จากอุบัติเหตุรถชนกันบนสะพานพระราม 9 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา แล้วหลบหนีไป จนกลายเป็นประเด็นดังในสังคมออนไลน์ โดยตำรวจได้พยายามหาเบาะแสผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งในบริเวณเส้นทางที่คาดว่า รถยนต์มินิคูเปอร์จะแล่นผ่าน จนกระทั่งทราบชื่อผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวและออกหมายเรียกเข้าพบเพื่อให้ปากคำตามที่ได้เสนอข่าวไปนั้่น   ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ ( 30 พ.ค.) นางหงษ์ แซ่ลี่ อายุ 81 ปี เจ้าของรถมินิคูเปอร์สีแดงพร้อมนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความได้เดินทาง เข้าพบพตท.ณัฐพล โกมินทรชาติ รองผกก.งานศูนย์ควบคุมการจราจรด่วน 1 และ พ.ต.ท..กันตภณ สินธวาชีวะ พงส.สบ.3 สน.ทางด่วน1 ตามหมายเรียกที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาทำการสอบปากคำ โดยนางหงษ์ กล่าวว่าตนไม่ทราบว่าหลานชายของตนขับรถคันดังกล่าวไปชนคนได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากในวันและเวลาเกิดเหตุได้เข้ารับการผ่าตัดทำบายพาส และพักฟื้นด้วยอาการโรคหัวใจที่รพ.ศิริราช แต่หลังจากกลับไปพักฟื้นที่บ้าน พบว่าหลานชายมีอาการเศร้าซึม วันๆเอาแต่เก็บตัวร้องไห้ในห้อง จึงเรียกมาสอบถามจนทราบว่า ได้ขับรถคันดังกล่าวไปชนคนได้รับบาดเจ็บจริงๆ และรู้สึกตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก โดยหลังเกิดเหตุหลานชายของตนยังนำรถคันดังกล่าวเข้าอู่ซ่อมแซม ส่วนตัวของหลานชายขณะนี้ทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัดกับเพื่อนและจะเข้ามอบตัวกับตำรวจไม่เกินวันอังคารที่ 5 มิ.ย.นี้แน่นอน

นายโอภาส คงปาน อายุ28 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนอีก 5 คน อยู่ในรถเก๋งมิตซูบิซิ สีแดง วิ่งมาทางช่องทางขวาสุดและเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถเบนซ์ หมายเลขทะเบียนป้ายแดง พ 7897 กทม. แฟนสาวของตนก็ได้ลงไปหาคนช่วย เนื่องจากตนและเพื่อนติดอยู่ภายในรถ จากนั้นกลุ่มของน.ส.โชติกา ผู้บาดเจ็บได้มาช่วย จากนั้นไม่นานตนก็เห็นรถมินิคันดังกล่าวที่วิ่งมาด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งชนกลุ่มพลเมืองดีกระเด็นไปคนละทิศละทาง และเห็นร่างของน.ส.โชติกา ถูกชนอย่างแรงจนลอยขึ้นไปในอากาศ ก่อนตกลงมากระแทกพื้นแน่นิ่ง หลังเกิดเหตุคนขับรถยนต์ มินิ คูเปอร์ ได้ชะลอความเร็วดูก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว พ.ต.ท.ณัฐพล กล่าวว่า วันนี้ได้สอบปากคำนางหงษ์ในฐานะเป็นเจ้าของรถยนต์ส่วนนายชลวิทย์ หลานชายของนางหงษ์ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์มินิคูเปอร์ ทราบว่ได้รับหมายเรียกแล้ว และจะเข้าพบพนักงานสอบสวนตามกำหนดแต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบตัวนายชลวิทย์ก่อนก็สามารถนำตัวมาดำเนินคดีได้ทันที เนื่องจากพยานหลักฐานครบถ้วนหมดแล้ว จึงขอให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ หากไม่มาแสดงตัวตนก็ต้องออกหมายจับทันที.

สถานที่ในข่าว
สน.ทางด่วน1
ข่าวในพื้นที่ใกล้เคียง
กรื้ด!แจ้งจับเพื่อนหื่นแอบถ่ายคลิปในสุขา
30 พฤษภาคม 2555 - 18:05 น.
“มาร์ค”พบ“ซูจี”ถกปัญหาด้านแรงงานเศรษฐกิจ
30 พฤษภาคม 2555 - 18:05 น.
นายกฯรับมอบงานลอกคลองสนามชัย
30 พฤษภาคม 2555 - 17:05 น.
แสดงความคิดเห็น

พันธมิตรฯ บุกยื่นหนังสือล้มกฏหมายปรองดอง





แกนนำพันธมิตรฯ "จำลอง-สนธิ"บุกยื่นหนังสือล้มกฏหมายปรองดอง แจ้งรายละเอียดยิบ 4 ข้อ เอื้อประโยชน์ให้บางคน
เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่รัฐสภา แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายประพันธ์ คูณมี ได้เข้ายื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้หยุดยั้งการตรากฎหมายล้างความผิดให้กับนักการเมือง

ทั้งนี้นายเจริญ ได้เดินทางออกมายังบริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อรับหนังสือดังกล่าว โดยระหว่างที่ยืนรอรอแกนนำพันธมิตรฯ อยู่นั้นปรากฏว่าได้ถูกกลุ่มพันธมิตรโห่ไล่ พร้อมต่อว่านายเจริญ อยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเหตุใด ไม่ไปรับหนังสื่อภายในอาคาร เพราะปลอดภัยกว่า นายเจริญ กล่าวว่า เป็นเงื่อนไขของแกนนำพันธมิตรฯ ต้องการให้รับหนังสือตรงจุดดังกล่าว โดยมีกลุ่ม 40 ส.ว. นำโดย นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา  น.ส.สุมล สุตวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี นายสาย กังกะเวคิน ส.ว.ระยอง เป็นผู้ประสานงาน
   
สำหรับหนังสือดังกล่าวระบุว่า จากการที่พันธมิตรตรวจสอบร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง พบว่ามีปัญหาในหลายประเด็น คือ 1.เป็นร่างกฎหมายที่มุ่งหวังแต่จะลบล้างความผิดของบุคคลต่าง ๆ ในอดีต ทั้งที่บางคดีมีคำพิพากษาของศาลฎีกาจนถึงที่สุดแล้วจะตอกลิ่มสร้างความแตกแยกในหมู่คนในชาติให้เลวร้ายลงไปยิ่งกว่าเดิม

2.กฎหมายฉบับนี้ มีสภาพบังคับที่ไร้ขอบเขต ไม่มีคำนิยามที่ชัดเจนเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง นอกจากนี้ การบัญญัติที่ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับประกาศหรือคำสั่งของคณะปฏิรูป ก็มีความไม่ชัดเจน และกินความกว้าง ครอบคลุมกระทบไปถึงองค์กรต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว อย่างไม่มีข้อจำกัด

3.มีการก้าวล่วงไปถึงการล้มล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทำลายระบบการถ่วงดุลตรวจสอบของศาลเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง

4.ส.ส.และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลหลายคนยังได้รับประโยชน์โดยตรงจาก พ.ร.บ.ดังกล่าว และ 5.พ.ร.บ.ปรองดองเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตรา จึงขอให้ระงับ หยุดยั้งการพิจารณาหรือการให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติทุกฉบับ
             
นายเจริญ กล่าวภายหลังรับข้อเรียกร้องว่า ขณะนี้ ส.ส.ได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.ปรองดองมาแล้วและจะต้องบรรจุเป็นวาระ ส่วนจะมีการเลื่อนวาระการประชุมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสมาชิกรัฐสภา เพราะหากพวกตนไม่นำ พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสู่การประชุม ตามที่ได้มีผู้เสนอก็จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้นในการประชุมในวันที่ 30 พ.ค. ใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร ก็จะมีการอภิปรายในที่ประชุม

เมื่อถามว่า หากที่ประชุมเห็นว่าควรที่จะเลื่อนวาระการประชุมขึ้นมาเป็นวาระที่ 1 ในวันที่ 31 พ.ค. จะทำให้ผู้ชุมนุม ไม่พอใจและบักหลักค้างคืน และยังจะประชุมต่อหรือไม่ นายเจริญ กล่าวว่า การประชุมยังคงต้องเดินต่อไป เพราะในสภา ยังมีการประชุมหลายเรื่อง ไม่เฉพาะเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดอง เท่านั้น และยังมีทางที่สามารถเข้าออกสภาได้อยู่ ซึ่งไม่ได้วิตกกังวลอะไร เพราะยังถือว่าผู้ชุมนุมอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ตามระบอบประชาธิปไตย จึงเชื่อว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น.

วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ผบ.ตร.ยังสั่งล่าตัวผกก.ไทรงาม ส่งป.ร่วมภ.1ตามจับ รองผบ.ตร.ลงพื้นที่สภ.ไทรงามพรุ่งนี้





ผบ.ตร. สั่งล่าตัวอดีต ผกก.ไทรงาม ส่งกองปราบปราม ร่วมตำรวจภูธรภาค 1 ตามจับ รอง ผบ.ตร.ลงพื้นที่ สภ.ไทรงามพรุ่งนี้
วันนี้ (29 พ.คฉ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)  กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามจับกุม พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ อดีต ผู้กำกับการสภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร และ ส.ต.อ.นารายณ์   ทิพย์ปรีชาธร ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาในคดีปล้นรถขนเงินว่า  พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาท ผบก.ป. นำทีมกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับทีมของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ออกไล่ล่าติดตามจับกุมให้ได้ ขณะนี้ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าอยู่ในประเทศ หรือหลบหนีออกไปแล้ว จะยืนยันได้ว่าออกนอกประเทศไปอยู่ไหนก็ต่อเมื่อมีหลักฐานยืนยัน ว่ามีการพบตัว พบความเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามชุดสืบสวนติดตามจับกุมดักทุกทาง  ทั้งนี้ยืนยันอีกครั้งว่าตำรวจไม่ได้ช่วย ไม่ได้อุ้มกัน หรือปล่อยหลบหนี ผบ.ตร.สั่งการตามจับตัวให้ได้ เพราะถือว่าตำรวจที่เป็นโจรเสียเอง เลวยิ่งกว่าโจร

โฆษก ตร. กล่าวด้วยว่า ในบ่ายวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลาประมาณ 14.00 น. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผบ.ตร.  จะเดินทางไปมอบนโยบายที่ บช.ภ.6 จ.พิษณุโลก และจากนั้น จะเดินทางต่อไปยังสภ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เพื่อตรวจเยี่ยม และประชุมเร่งรัดคดี.

คุกอ่วม 4 โจ๋ปล้นร้านเกมส์ ระบบจีพีเอสในมือถือทำให้ถูกรวบตัวได้





คุกคนละ 18 ปี 4 โจ๋ บุกปล้นร้านเกมส์ย่าน ซอยลาดพร้าว 101 ตอนใกล้รุ่ง กวาดทรัพย์สินไปร่วมแสน แต่ไม่รอดระบบดาวเทียมนำร่องหรือจีพีเอสในมือถือ
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วันนี้ (29 พ.ค.) ศาลอ่านคำพิพากษาคดีปล้นทรัพย์ที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง นายอนุวัฒน์ รักไคร่ อายุ 29 ปี นายวีรศักดิ์ หรือแบงก์  ต๊กควรเฮง อายุ 22 ปี นายรุ่งอนันต์ หรือโด้  บุญช่วยธรรมกิจ อายุ  21 ปี และนายสมศักดิ์  หรือตอฮา ตงสาลี อายุ 25 ปี  เป็นจำเลยที่ 1 -  4 ตามลำดับ ในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธ  และใช้ยานพาหนะ,พกพาอาวุธมีดไปในเมืองและทางสาธารณะ  ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 55 ระบุความผิดสรุปว่า


เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 54  เวลา 04.00 น. จำเลยทั้งสี่ได้นั่ง รถ จยย. 2 คัน สวมหมวกนิรภัยทุกคน พร้อมอาวุธมีดปลายแหลม 2 เล่มบุกเข้าไปใช้มีดจี้ลำคอ นายอิทธิณพ จันทรานิมิต เจ้าของร้านเกมส์  กันซีด ออนไลน์  เลขที่ 2945 -  2547  ปากซอยลาดพร้าว 101 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ  และกวาดทรัพย์สินของลูกค้าอีกหลายรายที่มาใช้บริการในร้านรวม 11 รายการ มูลค่าประมาณ 99,060 บาท ขึ้น จยย.หลบหนีไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว ติดตามจับกุมพวกจำเลยได้ พร้อมของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ ที่ผู้เสียหายเปิดระบบจีพีเอส(ระบบนำทาง)ไว้  จำเลยให้การรับสารภาพโดยตลอด


ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฝ่ายโจทก์มีผู้เสียหายมาเบิกความยืนยันสอดคล้องในสาระสำคัญ พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคง  โดยพวกจำเลยมีพฤติการณ์แบ่งงานกันทำ เชื่อว่ากระทำผิดจริง พิพากษา ฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ ฯ จำคุกจำเลยคนละ 18 ปี ,ฐานพกพาอาวุธมีด ฯ ปรับคนละ 90 บาท เป็นจำคุกคนละ 18 ปี ปรับคนละ 90 บาท  โดยให้เพิ่มโทษนายสมศักดิ์  จำเลยที่ 4  อีก 1 ใน 3 ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี พิพากษาลงโทษจำคุก คดีชิงทรัพย์เป็นเวลา 5 ปี แต่กลับมากระทำผิดซ้ำอีกภายในเวลา 5 ปี จึงให้จำคุก นายสมศักดิ์เป็น 24 ปี ปรับ 120 บาท  คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1 -  3 ไว้คนละ 8 ปี ปรับคนละ 45 บาท ส่วนจำเลยที่ 4 คงจำคุก 12 ปี ปรับ 60 บาท.

เปิดใช้ ไว - ไฟ ฟรีในปั๊ม ปตท.





“ไอซีที-พลังงาน” ทำไว-ไฟฟรีให้ประชาชนใช้ในปั๊ม ปตท. วันละ 2 ชั่วโมง/คน รวม 1,000 ปั๊มใน 5 เดือน

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า โครงการ พีทีที ฟรี ไว-ไฟ บาย ทีโอที (PTT Free Wi-Fi by TOT) ที่เปิดให้ประชาชนสมัครและใช้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (ไว-ไฟ) ฟรีวันละ 2 ชั่วโมง/ยูสเซอร์ เป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ผู้ติดตั้งจุดให้บริการไว-ไฟ (ไว-ไฟฮอตสปอต) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หน่วยงานภายใต้กระทรวงพลังงาน และผู้เช่าใช้ฮอตสปอต เพื่อบริการไว-ไฟฟรีแก่ประชาชนในปั๊มน้ำมันปตท. โดยโครงการดังกล่าวเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.นี้เป็นต้นไป

“โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันนโยบายสมาร์ทไทยแลนด์ของรัฐบาล ที่จะส่งเสริมให้คนไทยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2558”

ดร.มนต์ชัย หนูสงค์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที กล่าวว่า  บริการไว-ไฟฟรีในปั๊มน้ำมันปตท.คาดว่าจะใช้เวลาติดตั้งฮอตสปอตในปั๊มปตท.ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัดแล้วเสร็จ 1,000 ปั๊ม ภายใน 5 เดือน โดยความเร็วไว-ไฟที่ให้บริการอยู่ที่ 2 เมกะบิต/วินาที ประชาชนที่จะใช้งานต้องลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์เพื่อขอรหัสผ่าน จากนั้นระบบจะส่งรหัสผ่านเพื่อใช้ล็อกอินเข้าใช้งานมาให้ ซึ่งรหัสผ่านที่สมัครแต่ละครั้งจะมีอายุการใช้งาน 6 เดือน โดยรหัสผ่านดังกล่าวสามารถใช้งานไว-ไฟได้วันละไม่เกิน 2 ชั่วโมง และใช้งานได้ต่อเนื่องครั้งละไม่เกิน 30 นาที

สำหรับฮอตสปอตไว-ไฟที่ติดตั้งในปั๊มจะรองรับการเข้าใช้งานไว-ไฟได้พร้อมกัน 16 ยูสเซอร์ ซึ่งแต่ละปั๊มจะมีการติดตั้งฮอตสปอตประมาณ 1-2 จุดขึ้นอยู่กับขนาดของปั๊มน้ำมัน  ส่วนสัญญาที่ปตท.เช่าใช้งานฮอตสปอตของทีโอทีเพื่อให้บริการไว-ไฟฟรีที่ปั๊มปตท.มีระยะเวลา 3 ปี ค่าเช่า 3 เดือนแรกอยู่ที่จุดละ 2,000 บาท เดือนต่อไปอยู่ที่จุดละ 1,000 บาท.

แท็บเล็ตป.1 จำนวน 2,000 เครื่องถึงไอซีทีบ่ายนี้





รมว.ไอซีที เผยแท็บเล็ตป.1ล็อตแรก 2,000 เครื่อง ถึงสนามสุวรรณภูมิ 8 โมงเช้าพร้อมส่งตรวจเช็คสเปกที่ไอซีทีบ่ายนี้
วันนี้ ( 23 พ.ค.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวถึงการเซ็นสัญญาโครงการคอมพิวเตอร์มือถือสำหรับนักเรียนทุกคน (One Tablet PC Per Child) หรือ โครงการจัดหาแท็บเล็ตเด็กป.1 กับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 08.00 น. แท็บเล็ตล็อตแรกจำนวน 2,000 เครื่อง ถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว โดยสายการบิน ยูพีเอส (UPS) จากนั้นแท็บเล็ตจะถูกลำเลียงไปตามกระบวนการคลังสินค้า  โดยมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษาธิการ หรือ ศธ. และ กระทรวงไอซีที เป็นผู้ตรวจสอบและเซ็นรับสินค้า ก่อนนำมาที่กระทรวงไอซีที เพื่อตรวจเช็คสเปกของแท็บเล็ตอีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาตรวจสอบสเปกเสร็จภายในวันที่ 27 พ.ค. 2555 ก่อนจะส่งหนังสือให้สโคปเพื่อผลิตจำนวน 4 แสนเครื่องต่อไปซึ่งจากนั้นจะส่งมาให้ 4 แสนเครื่องภายใน 60 วัน

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนแท็บเล็ต 2,000 เครื่อง หลังจากตรวจสอบสเปกเสร็จแล้ว กระทรวงไอซีที จะส่งต่อให้กระทรวงศึกษาฯ ไปดำเนินการต่อไป โดยแท็บเล็ตจำนวน 2,000 เครื่องนี้ เป็นส่วนที่ใช้ในการอบรมคุณครูในการใช้งานก่อนนำไปถ้ายทอดความรู้ให้เด็กต่อไป

แท็บเล็ตป.1 จำนวน 2,000 เครื่องสำหรับอบรมครูมาแล้ว





มาแล้ว! แท็บเล็ตป.1ล็อตแรกจำนวน 2,000 เครื่อง ไอซีทีขอเวลาตรวจสเปก 4 วันก่อนส่งให้ก.ศึกษาธิการนำไปอบรมการใช้งานแก่คุณครู
วันนี้ ( 23 พ.ค.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวถึงการเซ็นสัญญาโครงการคอมพิวเตอร์มือถือสำหรับนักเรียนทุกคน (One Tablet PC Per Child) หรือ โครงการจัดหาแท็บเล็ตเด็กป.1 กับบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 08.00 น. แท็บเล็ตล็อตแรกจำนวน 2,000 เครื่อง ถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว โดยสายการบิน ยูพีเอส (UPS) จากนั้นแท็บเล็ตจะถูกลำเลียงไปตามกระบวนการคลังสินค้า  โดยมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษาธิการ หรือ ศธ. และ กระทรวงไอซีที เป็นผู้ตรวจสอบและเซ็นรับสินค้า ก่อนนำมาที่กระทรวงไอซีที เพื่อตรวจเช็คสเปกของแท็บเล็ตอีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาตรวจสอบสเปกเสร็จภายในวันที่ 27 พ.ค. 2555 ก่อนจะส่งหนังสือให้สโคปเพื่อผลิตจำนวน 4 แสนเครื่องต่อไป


น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนแท็บเล็ต 2,000 เครื่อง หลังจากตรวจสอบสเปกเสร็จแล้ว กระทรวงไอซีที จะส่งต่อให้กระทรวงศึกษาฯ ไปดำเนินการต่อไป โดยแท็บเล็ตจำนวน 2,000 เครื่องนี้ เป็นส่วนที่ใช้ในการอบรมคุณครูในการใช้งานก่อนนำไปถ้ายทอดความรู้ให้เด็กต่อไป


สำหรับโครงการจัดซื้อแท็บเล็ตป.1ปลัดไอซีทีซํนสัญญาจัดซื้อกับผู้บริหารของสโคปเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมาจำนวน 1 ล้านเครื่องโดยตามสัญญาจะต้องส่งแท็บเล็ตจำนวน 4 แสนเครื่องภายใน 60 วัน หรือ 10 ก.ค.นี้


ส่วนสเปกแท็บเล็ตป.1  เป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.0 หน่วยประมวลผล 1.2 กิกะเฮิร์ตซ  หน่วยความจำหลัก 1 กิกะเฮิร์ตซ แบตเตอรี่ลิเธี่ยม 3600 แอมป์ หน้าจอ 7 นิ้ว  มี 4 สี คือ แดง น้ำเงิน บรอนซ์เงิน และบรอนซ์ทอง รับประกันสินค้า 2 ปี ดำเนินการตามมาตรฐานสากล ราคา 82 เหรียญ หรือ ประมาณ 2,400 บาท


ทั้งนี้เนื้อหาที่บรรจุลงแท็บเล็ต มีทั้งหมด 5 กลุ่มวิชาเรียน คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ และ 8 สาระวิชา  โดยแบ่งเป็นการเรียนเทอม 1 เทอม 2 และ มีเนื้อหาที่เข้าใช้งานได้ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์

ครม.ไฟเขียวธอส.กู้เงินซอฟต์โลน 6,000 ล้านบาท





ครม.ไฟเขียวธนาคารอาคารสงเคราะห์ กู้เงินเงินซอฟต์โลน จากธนาคารแห่งประเทศไทย 6,000 ล้านบาท
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.วันนี้ (29 พ.ค.) ได้อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กู้เงินดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วงเงิน 6,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้กู้ยืมแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 54 ที่ผ่านมา ทั้งบุคคลธรรมดาและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)

อย่างไรก็ตามวงเงินที่ธปท.จัดสรรให้ธอส.จำนวน 6,000 ล้านบาทนั้น มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.55 เป็นต้นไป ขณะที่ธอส. เองจะสมทบเงินของธอส. ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปล่อยกู้ ทำให้วงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่ ธอส.จะดำเนินการให้กู้ยืมแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยปี 54 รวมเป็นเงิน 9,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ในเงื่อนไขการช่วยเหลือนั้น จะให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไม่เกิน 30 ล้านบาท และบุคคลธรรมดาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยแต่ละราย จะได้รับความช่วยเหลือเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับจากวันที่ ธปท. รับซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินจากสถาบันการเงิน โดยสถาบันการเงินจะต้องยื่นคำขอกู้ยืมเงินต่อ ธปท. ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 56 และจะต้องออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ธปท. มีกำหนดชำระไม่เกินวันที่ 31ธ.ค.61 ซึ่งอัตราดอกเบี้ย ธปท. คิดอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปีจากสถาบันการเงิน และสถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 3% ต่อปีจากผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย.

ททท.เตรียมจัดไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท พลัส





ททท.เตรียมจัดไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท พลัส ดึงต่างชาติมาเจรจาซื้อขายสินค้าท่องเที่ยวกับไทย
วันนี้ (29 พ.ค.) ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. เปิดเผยว่าททท. จะจัดงานไทยแลนด์ ทราเวล มาร์ท พลัส 2012 วันที่ 6-8 มิ.ย.นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ให้ผู้ซื้อจากต่างชาติและผู้ขายสินค้าและบริการท่องเที่ยวในไทย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านแถบลุ่มน้ำโขงได้เจรจาซื้อขายกัน โดยแนวคิดการจัดงานปีนี้ คือ คัสตอมไมซ์ ยัวร์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ เน้นให้มาสัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ตามความชอบของแต่ละคนในไทย นำเสนอสินค้าเฉพาะกลุ่ม 4 ด้าน ได้แก่ กอล์ฟ, ฮันนีมูน, บริการการแพทย์และสปา และสินค้าท่องเที่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ททท. จึงเน้นเชิญผู้ซื้อและผู้ขายที่ทำตลาดเฉพาะกลุ่ม 4 กลุ่มนี้เข้าร่วมงานมากขึ้น


สำหรับการจัดงานครั้งนี้ใช้งบ 35 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบของ ททท. 20 ล้านบาท ที่เหลือมาจากรายได้การขายบูธให้ผู้ขาย และค่าลงทะเบียนของผู้ซื้อ โดยมีผู้ซื้อลงทะเบียนเข้าร่วมแล้ว 418 ราย จาก 52 ประเทศ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ในจำนวนนี้เป็นผู้ซื้อที่ทำตลาดเฉพาะ 4 กลุ่มที่ททท. เน้น 20% ขณะเดียวกันในจำนวนผู้ซื้อทั้งหมดมีผู้ซื้อที่มาจากตลาดใหม่ๆ ด้วย เช่น บังคลาเทศ อาเจนตินา บราซิล ชิลี เอสทัวเนีย ลิธัวเนีย คาซัคสถาน เซอร์เบีย และอุรุไกว ส่วนผู้ขาย มี 380 ราย

ไฟเขียวเว้นภาษี





ครม.ไฟเขียวให้ยกเว้นเก็บภาษีการโยกย้ายเงินออมจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
วันนี้ (29 พ.ค.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการโอนย้ายเงินออมในระบบการออมระยะยาว สำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ได้รับเนื่องจากลูกจ้างออกจากงานเพราะตาย ทุพพลภาพ หรือเมื่อมีอายุครบ55ปีบริบูรณ์ และเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี

นอกจากนี้ยังให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่มีสิทธิได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เนื่องจากลูกจ้างออกจากงานในกรณีอื่นนอกจากตาย ทุพพลภาพ หรือมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์แต่เมื่อออกจากงานแล้วได้คงเงินหรือผลประโยชน์นั้นไว้ทั้งจำนวนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และต่อมาได้รับเงินหรือผลประโยชน์หลังจากลูกจ้างผู้นั้นตาย ทุพพลภาพ หรือเมื่อมีอายุครบ 55 ปี บริบูรณ์ และเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยการยกเว้นภาษีครั้งนี้ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป

ทั้งนี้กระทรวงการคลังรายงานว่า เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการออมเพื่อการชราภาพ ที่จะให้ลูกจ้างซึ่งเป็นสมาชิกของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีเงินไว้ใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพในยามชราภาพเพิ่มมากขึ้น สมควรปรับปรุงให้มีการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่ลูกจ้างได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกรณีลูกจ้างออกจากงานเมื่อมีอายุไม่ต่ำกว่า55ปีบริบูรณ์ หรือออกจากงานก่อนอายุครบ55ปีบริบูรณ์ แต่ได้คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุของการเกษียณอายุ.

จับตาใกล้ชิดกรณีหนี้สินกรีซ





โต้งไม่หวั่นหนี้กรีซ แต่สั่งให้จับตาอย่างใกล้ชิด
วันนี้ (29 พ.ค.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการเข้าพบของนายลิน ค๊อก กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ว่า ได้หารือร่วมกันถึงปัญหาวิกฤติหนี้ของประเทศกรีซ โดยเห็นตรงกันว่าปัญหานี้ต้องไม่ปล่อยให้มีการยืดเยื้อเพราะหากยืดเยื้อจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างได้ แต่หากมองให้ลึกแล้วเห็นว่ายังเป็นวิกฤติที่เกิดขึ้นในกลุ่มสหภาพยุโรป (ยูโร) ที่เชื่อว่ายูโรจะสามารถดูแลจัดการได้ โดยยืนยันว่าระบบเศรษฐกิจของอียูนั้นเป็นระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ ดังนั้นจึงมั่นใจว่ายูโรจะดูแลบริหารจัดการได้แน่นอน อย่างไรก็ตามทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างเห็นว่าวิกฤติในกรีซที่เกิดขึ้นครั้งนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่มีผลกระทบเป็นวงกว้างก็ตาม..

“เฟซบุ๊ค” เตรียมออกสมาร์ตโฟนของตัวเองภายในปีหน้า





เฟซบุ๊ค เครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับ 1 ของโลก ผลิตสมาร์ตโฟนของตัวเอง วางจำหน่ายภายในปีหน้า
วันนี้ (29 พ.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า เฟซบุ๊ค เครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับ 1 ของโลก อยู่ระหว่างวางแผนผลิตสมาร์ตโฟนภายใต้ชื่อของตัวเอง โดยเตรียมวางจำหน่ายภายในปีหน้า ตั้งเป้าแย่งส่วนแบ่งในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

รายงานของหนังสือพิมพ์ “เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์” ฉบับวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวรายหนึ่งว่า เฟซบุ๊คได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญ และวิศวกรด้านคอมพิวเตอร์เกือบสิบราย ที่มีส่วนในการผลิต ไอโฟน ให้กับบริษัทแอปเปิ้ล นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังอ้างคำกล่าวของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหารคนปัจจุบันของเฟซบุ๊ค ว่า บริษัทจำต้องเร่งพัฒนาสมาร์ตโฟนเป็นของตัวเอง เพื่อไม่ให้ เฟซบุ๊ค กลายเป็นเพียงหนึ่งในแอพพลิเคชันสำหรับสมาร์ตโฟนยี่ห้ออื่นในอนาคต อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊ค ยังคงไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อเรื่องนี้

ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ค เปิดตัว แอพพลิเคชัน เซ็นเตอร์ เป็นของตัวเอง เพื่อให้สมาชิกสามารถเลือกดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน ซึ่งมีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน ไปติดตั้งผ่านทางสมาร์ตโฟน และบนเว็บไซต์ได้ตามสะดวก.

นักศึกษาควิเบกขีดเส้นตายข้อตกลงขึ้นค่าเล่าเรียน





คาดรัฐบาลควิเบก จะสามารถเจรจากับกลุ่มนักศึกษาที่ชุมนุมประท้วงได้ภายในวันนี้
วันนี้ ( 29 พ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากรัฐควิเบก ประเทศแคนาดาว่า การเจรจาระหว่างตัวแทนกลุ่มนักศึกษาจากทั่วรัฐควิเบก กับตัวแทนจากทางการ เพื่อบรรลุข้อตกลงเรื่องการปรับขึ้นค่าเล่าเรียน ที่ก่อให้เกิดการประท้วงรุนแรงยืดเยื้อนานกว่า 3 เดือน  อาจได้ข้อสรุปภายในวันนี้


นาย กาเบรียล นาโด-บูดัวส์ โฆษกกลุ่มนักศึกษา “คลาสเซ่อ” ให้สัมภาษณ์สั้นๆภายหลังเสร็จสิ้นการเจรจาที่ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง กับนางมิเชล คอเชสเน รมว.กระทรวงศึกษาธิการรัฐควิเบกว่า การเจรจาซึ่งถือเป็น “โอกาสสุดท้าย” ที่จะแก้ปัญหาน่าจะได้ข้อสรุปภายในวันนี้ แต่หากนางคอเชสเนปฏิเสธที่จะหารือในประเด็นเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าเล่าเรียนจากภายใน 5 ปี เป็น 7 ปี และกฎหมายมาตรา 78 การเจรจาถือเป็นอันสิ้นสุด


ทั้งนี้ กฎหมายมาตรา 78 ที่ได้รับการเห็นชอบจากรัฐสภารัฐควิเบกเมื่อวันที่ 18 พ.ค. ระบุว่า หากกลุ่มบุคคลใดมีความประสงค์ต้องการจัดการชุมนุม จำเป็นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจล่วงหน้าอย่างน้อย 8 ชั่วโมง พร้อมรายละเอียดของสถานที่ และระยะเวลาที่คาดว่าจะใช้ในการจัดชุมนุม หากฝ่าฝืน ต้องเสียค่าปรับสถานหนัก


อย่างไรก็ตาม ขณะมีการเจรจา เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนักศึกษา 84 ราย ที่มาชุมนุมประท้วงบริเวณหน้าอาคารที่เป็นสถานที่เจรจา ฐานกีดขวางการจราจร โดยแต่ละคนต้องชำระค่าปรับ 400 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 12,000 บาท ) ก่อนได้รับการปล่อยตัว..