วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

โต้งเผยต้องปรับทยอยปรับเงินเดือน เพรางบประมาณไม่เพียงพอ


วันนี้ (11 เม.ย.) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลไม่ได้เลื่อนการปรับเงินเดือนข้าราชการออกไปเป็นปี 57 เพราะเงินเดือนข้าราชการแรกเข้าทำงาน 15,000 บาทต่อเดือน ได้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมาแล้ว เพียงแต่พิจารณาโครงสร้างเงินเดือนทั้งระบบให้ข้าราชการที่มีอายุการทำงานมาเป็นเวลานาน และผู้จบปริญญาโทและปริญญาเอก เพื่อให้สอดคล้องกับผู้ที่เข้าทำงานที่จบปริญญาตรีและแรกเข้า โดยผู้ที่ได้รับเงินเดือนเดิม รวมทั้งค่าครองชีพจะได้ 15,000 บาทในปีนี้ ขณะที่ปีหน้าเงินค่าครองชีพจะลดลง ฐานเงินเดือนจะขยับขึ้น จนในที่สุดปี 57 ฐานเงินเดือนจะได้ปรับ 15,000 บาท ซึ่งถือเป็นการทยอยปรับทุกระดับให้สอดคล้องกันทั้งระบบ
“ยืนยันว่ารัฐบาลยังคงเดินหน้านโยบายปรับขึ้นเงินเดือน 15,000 บาท สำหรับข้าราชการและพนักงานของรัฐที่บรรจุใหม่ ตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้ง แต่การดำเนินการนั้น ต้องเป็นไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพราะเราไม่มีงบประมาณเพียงพอในการปรับครั้งเดียวทั้งระบบ โดยก่อนหน้านี้ครม.ได้อนุมัติให้ปรับเพิ่มในส่วนของเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว (พ.ช.ค.) เพื่อให้ข้าราชการและพนักงานของรัฐที่จบปริญญาตรีและบรรจุใหม่ มีรายได้เมื่อรวมกับเงินเดือนแล้วอยู่ในระดับ 15,000 บาท”
ล่าสุด ครม.ได้เห็นชอบให้ปรับปรุงค่าตอบแทนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อกำหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการพลเรือนให้ได้ 15,000 บาทตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะใช้เวลาดำเนินการ 2 ปี โดยปีแรกจะเริ่มปรับอัตรา เงินเดือนใหม่ในวันที่ 1 ม.ค. 56 ระดับปริญญาตรี จะมีเงินเดือน 13,300 บาท และเงินเดือนจะครบ 15,000 บาทในปี 57 ขณะที่ข้าราชการและพนักงานของรัฐที่มีวุฒิการศึกษาระดับ ปวช. และ ปวส. ก็จะทยอยปรับขึ้นตามระดับขั้น
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เหตุผลที่รัฐบาลจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเงินเดือนของข้าราชการและพนักงานของรัฐที่จบปริญญาตรีและบรรจุใหม่ก่อนนั้น เนื่องจากพิจารณาถึงความเหมาะสมแล้ว โดยยืนยันว่าขณะนี้รัฐบาลยังไม่สามารถปรับปรุงโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบในทุกระดับชั้นได้ เพราะหากต้องปรับโครงสร้างเงินเดือนทั้งระบบทุกระดับชั้น จะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 50,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นภาระหนัก จึงจำเป็นต้องดำเนินการในบางส่วนก่อน
ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลดูแลข้าราชการไม่ทั่วถึง หรือมองข้ามข้าราชการบางกลุ่มนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลให้การดูแลข้าราชการอย่างทั่วถึงแน่นอน โดยส่วนแรกต้องดูแลแก่ข้าราชการระดับล่าง คือระดับปริญญาตรี และต่ำกว่าปริญญาตรีลงไป ขณะนี้ข้าราชการและพนักงานของรัฐที่มีวุฒิการศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญาตรี ไม่มีใครได้เงินเดือนต่ำกว่า 9,000 บาทแน่นอน
“รัฐบาลให้การดูแลข้าราชการอย่างทั่วถึงแน่นอน แม้ตอนนี้จะเริ่มจากระดับล่างไปก่อน แต่ก็ยังดีกว่าบางรัฐบาลที่มองข้ามในเรื่องนี้ไปเลย โดยขณะนี้เราพิจาณาถึงความเหมาะสมแล้ว และเห็นว่าจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือข้าราชการชั้นผู้น้อยก่อน ส่วนข้าราชการที่จบปริญญาโท และปริญญาเอกก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะในอีกไม่ช้ารัฐบาลจะเร่งปรับปรุงโครงสร้างเงินเดือนให้แก่ข้าราชการในส่วนดังกล่าวแน่นอน”
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ข้าราชการและพนักงานรัฐจะมีเงิน พ.ช.ค. สนับสนุนอยู่ ซึ่งเงินส่วนนี้เมื่อรวมกับเงินเดือนก็จะครบ 15,000 บาท และในปี 56 ที่เป็นปีแรกของการเริ่มปรับปรุงโครงสร้างเงินเดือน จะทยอยปรับลดเงิน พ.ช.ค. ลงเรื่อย ๆ จนกว่าการปรับโครงสร้างเงินเดือนครบ 15,000 บาทในปี 57จากนั้นจะได้รับเงินเดือนเต็มอัตราโดยไม่มีเงินเพิ่มค่าครองชีพ..

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

สทท.คาดสงกรานต์คนไทยเที่ยวไทย8ล้านคนใช้จ่าย2.5หมื่นล้านบาท


วันนี้ (11 เม.ย.)  นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบายสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยว่า สทท. ได้ร่วมมือกับคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์นี้ โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงรายได้จากการท่องเที่ยว จะเพิ่มขึ้น 5-10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของคนไทยนั้น คาดว่าจะออกมาเที่ยวกัน 7-8 ล้านคน ใช้จ่าย 25,000 ล้านบาท เนื่องจากมีปัจจัยเกื้อหนุน ได้แก่ ไม่มีปัญหาความขัดแย้งรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศ อีกทั้งภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้มีปัญหา
“ปกติช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะเป็นช่วงเวลาที่คนไทยออกมาท่องเที่ยวกันเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปีนี้ไม่มีปัญหาความขัดแย้ง เศรษฐกิจก็ไม่ได้มีปัญหา การท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์จึงน่าจะดี ในส่วนของภาคเหนือ การท่องเที่ยวน่าจะดีขึ้น เพราะไม่มีปัญหาเรื่องหมอกควันแล้ว อีกทั้งอาจมีคนส่วนหนึ่งเปลี่ยนแผนจากการไปเที่ยวใต้มาเที่ยวเหนือแทน หลังจากมีข่าวระเบิดในหาดใหญ่ปลายเดือนก่อน อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวทางภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามันจะดีมาก เพราะได้รับทราบมาว่ายอดจองห้องพักเต็มหลายพื้นที่แล้ว ส่วนพัทยา การท่องเที่ยวก็คึกคักเช่นกัน ยกเว้นในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ ที่มีปัญหาความไม่สงบ การท่องเที่ยวอาจสะดุดบ้าง” นายกงกฤช กล่าว..

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ทนุศักดิ์ เล็งขยายเวลาโครงการรถยนต์คันแรก


วันนี้ (11 เม.ย.)  นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า โครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก สามารถกระตุ้นตลาดรถยนต์ให้กลับมาคึกคักได้อย่างดี โดยมียอดจองซื้อรถยนต์จำนวนมากหลังงานมอเตอร์โชว์กว่า 50,000 คัน และคาดว่าจะมีผู้ที่เข้ามาขอใช้สิทธิโครงการคืนภาษีรถคันแรกเพิ่มขึ้นมาก จากปัจจุบันกว่า 10,000 ราย ดังนั้นกระทรวงการคลังจึงมีแนวคิดที่จะนำเรื่องการขอขยายระยะเวลาโครงการออกไป จากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.นี้ เนื่องจากได้รับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการส่งมอบรถยนต์จากผู้ขาย ที่อาจส่งมอบไม่ทันตามเวลา 31 ธ.ค.นี้ โดยคาดว่าจะเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในเดือนพ.ค.นี้
ทั้งนี้แนวทางในการขยายโครงการฯ ออกไป สามารถดำเนินการได้ 2 รูปแบบ คือ ขยายเวลาสิ้นสุดโครงการจาก 31 ธ.ค. 55 ออกไปอีก 6 เดือน- 1 ปี ตามความเหมาะสม โดยออกมติครม.ขยายเวลาออกมาอีกหนึ่งฉบับ หรืออาจปรับคำจำกัดความ ผู้ใช้สิทธิในโครงการฯ จากเดิมที่กำหนดว่าต้องส่งมอบรถยนต์และโอนทะเบียนภายในวันที่ 31 ธ.ค. 55  ผู้ใช้สิทธิในโครงการฯ ต้องจองซื้อรถยนต์ภายในวันที่ 31 ธ.ค. 55 แทน
“ตามความเห็น ผมคิดว่า การขยายสิทธิ์น่าจะใช้แนวทางที่ 2 มีความเหมาะสมมากกว่า เพราะเท่ากับเป็นการให้สิทธิตามโครงการเดิมที่ตกลงไว้ แต่ขยายเวลาในส่วนการส่งมอบรถออกไป เนื่องจากปัญหาเรื่องการผลิตของอุตสาหกรรมรถยนต์ที่มีปัญหา และได้รับผลกระทบจากอุทกภัยปลายปี 54 ทำให้ผลิตไม่ทัน มีสต๊อกตกค้างเยอะ เกิดความล่าช้าในการส่งมอบรถให้ลูกค้า ซึ่งไม่ถือว่าเป็นความผิดของผู้บริโภค เป็นเรื่องผลกระทบจากภัยธรรมชาติ แต่ทั้งนี้คงต้องขึ้นกับความเห็นของที่ประชุมครม.ว่าจะเห็นชอบกับแนวทางใด”
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้กรมสรรพสามิตยังยืนยันว่าให้สิทธิผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ ตามเดิม โดยไม่ได้จำกัดว่า เมื่อครบ 500,000 คัน หรือเต็มวงเงิน 30,000 ล้านบาทแล้ว จะปิดโครงการแต่อย่างใด และหากผู้บริโภคเกรงว่าจะเข้าร่วมโครงการไม่ทัน จากปัญหาการส่งมอบรถไม่ทันนั้น ไม่ต้องกังวล ให้ตัดสินใจซื้อรถไปได้เลย เพราะขณะนี้ภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ได้กลับมาผลิตเกือบเต็มกำลังทั้งหมดแล้ว โดยจากนี้ไปมีกำลังการผลิตเดือนละ 180,000 คัน กว่าจะถึง 31 ธ.ค.ยังมีเวลาอีกกว่า 6 เดือน เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาการส่งมอบรถไม่ทันแน่นอน..

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

เด้งผอ.กองสลาก มีผลใน 30 วัน สมชาติ ขอพิจารณาเหตุผลก่อนฟ้องศาลปกครอง


ที่กระทรวงการคลัง เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (11 เม.ย.) นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากฯ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้พิจารณาวาระพิเศษต่อจากการประชุม และมีมติเป็นเอกฉันท์บอกเลิกสัญญาจ้างก่อนกำหนด กับนายสมชาติ วงศ์วัฒนศานต์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยที่ไม่มีความผิดใด ๆ ซึ่งได้ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้างไปให้แล้วในวันที่ 11 เม.ย.นี้ และให้มีผลภายใน 30 วันนับจากวันนี้เป็นต้นไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ไม่ได้พิจารณาถึงผลงานใด ๆ ในการประเมินผลงานตามสัญญา หลังจากที่นายสมชาติเข้ารับตำแหน่งเพียง 4 เดือนว่าผ่านการประเมินหรือไม่ผ่าน แต่มีมติครั้งนี้ เพื่อให้การบริหารงานในอนาคตของสำนักงานสลากฯ มีความเหมาะสม มีมติใหม่ มีภาวะความเป็นผู้นำ เพื่อนำองค์กรไปสู่เป้าหมายได้  และได้จ่ายชดเชยเงินเดือนให้ 6 เดือนตามสัญญา ขณะเดียวกันคณะกรรม การสลากฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่แล้ว โดยคาดว่าจะใช้เวลาสรรหาภายใน 2 เดือน
นายสมชาติ วงศ์วัฒนศานต์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าคณะกรรมการสลากฯ หารือกันอย่างไรบ้าง แต่ขณะนี้ได้รับหนังสือบอกเลิกจ้างสัญญาฯ แล้ว ซึ่งจะขอพิจารณาก่อนว่ามีความเป็นธรรมเพียงพอหรือไม่ อย่างไร หากไม่เป็นธรรม ก็อาจจะพิจารณาฟ้องร้องศาลปกครองต่อไป
รายงานข่าวจากสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า  คาดว่า สาเหตุที่ปลด ผอ.ออกจากตำแหน่งนั้น เป็นเพราะการไม่สนองนโยบายเรื่องโควตาสลากของมูลนิธิทหารผ่านศึก ซึ่งผอ.กองสลากฯ ได้แจ้งให้คณะกรรมการมีมติเรื่องดังกล่าวออกมา เพื่อจะได้ดำเนินงาน แต่เมื่อคณะกรรมการฯ ไม่มีมติเรื่องดังกล่าวออกมา ผอ.สลากฯ ก็ไม่ได้ดำเนินการตาม เพราะหากดำเนินการไปโดยไม่มีมติคณะกรรมการฯ อาจจะถูกฟ้องร้องได้
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า คณะกรรมการสลากฯ ได้มีมติแต่งตั้ง พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงษ์ กรรมการสำนักงานสลากฯ เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่ ส่วนการบอกเลิกสัญญาจ้างก่อนกำหนดนายสมชาติ  ถือว่าได้ทำถูกต้องตามกฎหมาย โดยผู้ถูกบอกเลิกจ้าง ไม่มีสิทธิฟ้องร้องในภายหลังได้
วันเดียวกันนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสำนักงานสลากฯ ได้ออกแถลงการณ์ เพื่อเรียกร้องให้พนักงานสำนักงานสลากฯ ทุกคนรวมพลังปกป้องผอ.และเดินต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกลับมา โดยจะมีการรวมตัวกันชุมนุมเพื่อให้กำลังใจผอ.สลากฯ วันที่ 12 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานสลากฯ
“ก่อนหน้านี้ ทราบว่ามีกระแสข่าวลือเรื่องการปลดผอ. สหภาพฯ จึงได้เข้าพบนายอารีพงศ์ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่กลับได้รับคำตอบในเชิงวิชาการมามากกว่า เช่น เพื่อเป็นมิติใหม่ เพื่อพัฒนาสำนักงานสลากฯ รวมถึงแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงพนักงานทั้งหมดก็ต้องทำ ทั้ง ๆ ที่นายสมชาติ เพิ่งรับตำแหน่งเพียง 4 เดือนเท่านั้น และมีความตั้งใจพัฒนาความเจริญก้าวหน้าของสำนักงานสลากฯ และพนักงานให้อยู่ดีกินดีขึ้นทุกคน”

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

"ญาญ่า" เขินโดนแซวคู่ "นิชคุณ" หัวใจยังว่างมีแต่ทำงานและเรียน


ในงานประกาศรางวัล “เกิดอวอร์ด” โดนพิธีกรปากกล้า วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา แซวกลางงานสำหรับนางเอกสาว ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ กับนักร้องหนุ่มอินเตอร์ นิชคุณ หรเวชกุล ว่าแอบเขินกันออกนอกหน้า งานนี้เลยมีแฟน ๆ แอบลุ้นให้ทั้งคู่มีโอกาสร่วมงานกัน ล่าสุดเจอตัวสาวญาญ่าในงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์พานาโซนิคเวียร่า ที่โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ เลยคว้าตัวมาอัพเดททั้งเรื่องงานและเรื่องหนุ่มนิชคุณ แล้วก็เรื่องหัวใจว่าเป็นสีชมพูบ้างหรือยัง

ญาญ่า เผยว่า “ละคร “ธรณีนี่นี้ใครครอง” ตอนนี้ใกล้จะปิดกล้องแล้วค่ะ ประมาณพฤษภาคมก็จะออนแอร์แล้วค่ะ” แฟน ๆ บอกว่าอยากดูแล้วเรื่องนี้? “หนูก็อยากดูเร็ว ๆ เหมือนกัน ฝากก็แล้วกันค่ะ เพราะว่าละครเรื่องนี้ทีมงานทุกคนทุ่มเทมาก” เรื่องนี้เคมียังเข้ากันได้ดีกับณเดชน์มั้ย? “เรื่องนี้จะกุ๊กกิ๊กน้อยลงค่ะ จะเน้นบทเรื่องการเกษตรมากกว่า แต่หนูว่าเคมีก็ยังโอเคอยู่นะคะ หวังว่าจะออกมาดีและก็มีคนติดตามค่ะ” แล้วผลงานกับพระเอกคน  อื่น ๆ ล่ะจะมีมาให้ดูบ้างมั้ย? “หลังจากที่ปิดกล้องธรณีฯ หนูก็จะเปิดกล้อง “มายาตวัน” ค่ะ จะเล่นคู่กับพี่อั้ม-อธิชาติ” เคยเจอพี่อั้มแล้วได้พูดคุยกันบ้างหรือยัง? “ส่วนตัวเคยเจอพี่อั้มตามงานช่องค่ะ ยังไม่เคยได้เล่นละครด้วยแบบจริงจัง ก็ตื่นเต้นอยู่ค่ะที่จะได้เล่นละครกับพี่เขา” บทบาทในเรื่องมายาตวันเป็นยังไง? “ยังไม่ได้บทมาเต็มเลยค่ะ รู้ว่าเรื่องนี้จะเป็นนักข่าวโก๊ะ ๆ มีอะไรกุ๊กกิ๊กแต่ก็มีดราม่าค่ะ เรื่องของพระเอกเขาจะมีเรื่องซับซ้อนลึกลับ หนูจะต้องไปค้นหา เดี๋ยวต้องแอบไปศึกษาการเป็นนักข่าวจากพี่ ๆ ค่ะ (หัวเราะ)”

ล่าสุดโดนแซวคู่นิชคุณรู้สึกยังไงบ้าง? “เหมือนพี่วู้ดดี้เขาพูดขึ้นมาว่าอยากรู้จังเลยว่าทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ ในหัวกำลังคิดอะไรอยู่ แล้วกล้องก็ถ่ายแพนไปหลาย ๆ คนมี พี่อั้ม-พัชราภา, พี่เอ-ศุภชัย มีพี่ณเดชน์ เขาก็เหมือนแซวว่า นิชคุณคิดว่า ญาญ่าน่ารักจังเลย (ยิ้มเขิน) แบบนั้นมากกว่าค่ะ” ดูนิชคุณเขินมากเป็นพิเศษ? “เหรอคะ เขาคงเขินเพราะว่ามีแซวแค่เรื่องเดียวค่ะ (หัวเราะ) หนูก็เขินค่ะ เพราะว่ากล้องมันก็จับเยอะแพนมาที่เราด้วย” คนแอบเชียร์ให้เราร่วมงานกัน? “จริงเหรอคะ ถ้าหนูได้ร่วมงานกับพี่เขาหนูคงเป็นคนที่โชคดีมากเลยค่ะ เพราะว่าพี่เขาประสบความสำเร็จมาก” แล้วเรื่องหัวใจตอนนี้มีหนุ่ม ๆ เข้ามาหรือเปล่า? “ยังค่ะ ตอนนี้กำลังรอให้คนที่ใช่เข้ามาในชีวิตอยู่ หนูเองก็ไม่ได้เป็นคนที่ปิดบังอะไร” คุณแม่หวงหรือเปล่า? “คุณแม่ก็ไม่ได้หวงนะ แต่คนที่เข้ามาจีบไม่มีเลยค่ะจริง ๆ อันนี้หนูรับประกันได้ ไม่มีใครกล้าเข้ามาจีบหนูเลย เพราะว่าหนูไม่มีเวลาด้วย ใช้ชีวิตอยู่กับงานและเรียนอย่างเดียวเลย” คนที่จะผ่านด่านเราและคุณแม่เป็นยังไง? “เอาจริง ๆ ตอนนี้หนูยังไม่มีสเปก เพราะหนูยังไม่รู้ตัวเองค่ะ ยังไม่ได้คิดตรงนี้มากกว่า ขอให้คุณพ่อคุณแม่ชอบก็โอเคแล้วค่ะ”.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ซัคซี้ด ห่วยขั้นเทพ ได้รางวัลชนะเลิศงาน โอกินาว่า อินเตอร์ฯ ที่ญี่ปุ่น



“ซัคซี้ด ห่วยขั้นเทพ” หนังร็อกวัยรุ่น รักวัยเรียน ของผู้กำกับ หมู-ชยนพ บุญประกอบ นำแสดงโดย เก้า-จิรายุ ละอองมณี, พีช-พชร จิราธิวัฒน์, แนท-ณัฐชา นวลแจ่ม, ธวัช พรรัตนประเสริฐ ฯลฯ ได้รับรางวัลชนะเลิศ “Laugh Category Uminchu Prize Grand Prix” Audience award ซึ่งเป็นรางวัลจากผลโหวตของผู้ชม ในสาขา Laugh (หัวเราะรื่น) ได้รับรางวัลเป็นเงินมูลค่า 2.5 ล้านเยน ประมาณ 9 แสนบาท โดยรายได้ส่วนหนึ่งนำไปมอบให้กับมูลนิธิกระจกเงา ซึ่งงานนี้ หมู-ชยนพ บุญประกอบ ผู้กำกับ และ พีช-พชร จิราธิวัฒน์ ได้เดินทางไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

หมู-ชยนพ ผู้กำกับ เผยว่า “รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากครับที่หนัง ซัคซี้ด ได้รางวัล เพราะหนังเรื่องนี้ได้อิทธิพลและแรงบันดาลใจมาจากประเทศญี่ปุ่นเยอะมาก ตื่นเต้นตั้งแต่ที่ทราบว่าหนังจะได้ไปฉายที่ญี่ปุ่น ซึ่งผู้ชมที่ญี่ปุ่นให้การยอมรับ และชื่นชอบหนังเรื่องนี้ถึงขนาดโหวตให้เราได้รับรางวัลชนะเลิศ การที่หนังไทยสามารถสื่อสารให้คนญี่ปุ่น หรือชาวต่างชาติ หัวเราะและสนุกไปกับหนังได้ ผมและทีมงาน นักแสดงทุกคนภูมิใจมากครับ ซึ่งเงินรางวัลที่ได้จำนวนหนึ่ง ผมและนักแสดงจะนำไปมอบให้กับมูลนิธิกระจกเงาจำนวน 150,000 บาท ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ผมเคยเป็นครูอาสาให้กับที่นี่ จึงอยากให้การสนับสนุนช่วยเหลือเด็ก ๆ ต่อไป สำหรับรายได้อีกส่วนหนึ่งกำลังพิจารณาว่าจะนำไปมอบให้กับมูลนิธิที่กำลังต้องการการช่วยเหลือครับ”

พีช-พชร หนึ่งในผู้แสดงเผยว่า “ผมรู้สึกดีใจมากครับ ดีใจจริง ๆ ที่หนัง ซัคซี้ด ประสบความสำเร็จทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ การที่หนังเรื่องหนึ่งสามารถสื่อสารให้ต่างชาติต่างภาษารู้สึกสนุกและหัวเราะ รู้สึกดีกับหนังเรื่องนี้ได้ ผมว่าสุดยอดแล้วครับ ซัคซี้ดเป็นหนังเรื่องแรกของผมที่ผมและเพื่อน ๆ ทุกคนภูมิใจ และดีใจที่หนังได้รับรางวัล และจากความสำเร็จและความภาคภูมิใจในครั้งนี้ เราจะนำเงินส่วนหนึ่งไปช่วยเหลือองค์กรการกุศลอย่างมูลนิธิกระจกเงาด้วยครับ”.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

อัพเดทหนังใหม่ วันที่ 11 เมษายน 2555


แบทเทิลชิป ยุทธการเรือรบพิฆาตเอเลี่ยน
แนวแอ๊คชั่น, ไซไฟ, ผจญภัย
ผู้กำกับปีเตอร์ เบิร์ก
นักแสดงเลียม นีสัน, บรูคลิน เด็คเคอร์, อเลกซานเดอร์สกาส์กอร์ด, ริฮานน่า
กำหนดฉาย12 เมษายน 55
เรื่องย่อ

มหาสมุทรจะกลายเป็นมหาสงคราม ฮีโร่ของเราคือเหล่ากองทัพเรือ จากเกมรบชื่อดังของฮาสโบร มาสู่จอภาพยนตร์ “แบทเทิลชิป” อภิมหาโปรเจคท์จากผู้สร้างทรานส์ฟอร์เมอร์ส โดยผู้กำกับ ปีเตอร์ เบิร์ก รับโปรเจคท์ยักษ์ใหญ่ของค่ายยูนิเวอร์แซล แบทเทิลชิป ภาพยนตร์แอ๊คชั่นผจญภัยที่เปิดยุทธการรบเต็มรูปแบบที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา โดยกองเรือรบที่ยิ่งใหญ่นี้จะเปิดฉากรบทั้งในทะเล กลางเวหา และภาคพื้นดิน เพื่อต่อต้านกับศัตรูที่มารุกรานโลก โดยเรื่อง แบทเทิลชิป สร้างจากเกมต่อสู้ของเรือรบที่สุดโด่งดังของฮาสโบร ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างหุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์ส ให้กลายเป็นภาพยนตร์ระดับสุดยอดนั่นเอง
สาวเริ่ด ล่าคนแรด
แนวตลก, แอ๊คชั่น, อาชญากรรม, ผจญภัย
ผู้กำกับจูเลียร์ แอนน์ โรบินสัน
นักแสดงเจสัน โอ มาร่า, แคทธารีน ไฮเกิ้ล, ลีโอนาโด นาม,เดบรา มองค์
กำหนดฉาย12 เมษายน 55 / เข้าฉายเฉพาะในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ฯ เท่านั้น
เรื่องย่อ

สเตฟานีย์ พลัม เด็กสาวเจอร์ซีย์ สวยเริ่ด!เชิด!หยิ่ง! ดีกรีความแรงส์!!!ระดับตัวแม่ แต่ต้องจับพลัดจับผลูมาเป็น “นักล่าพวกหนีประกัน” จำเป็น หลังจากที่เธอถังแตกต้องเตะฝุ่นมานานกว่าหกเดือน แถมรถของเธอยังถูกคนตามทวงหนี้ยึดไปเสียนี่ ด้วยความต้องการเงินแบบด่วนจี๋ จึงต้องหันไปหาตัวช่วยสุดท้าย ด้วยการพยายามเกลี้ยกล่อม วินนี่ พลัม ลูกพี่ลูกน้องจอมเจ้าเล่ห์ให้รับเธอเข้าทำงานที่บริษัทนายหน้าค้ำประกันผู้ต้องหาของเขา…ในฐานะนักล่าพวกหนีประกัน

การรับหน้าที่เป็น “นักล่าพวกหนีประกัน” ของ สเตฟานีย์ ทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับ โจ โมเรลลี หนุ่มหล่อเซ็กซี่เสน่ห์เย้ายวนเกินห้ามใจที่เคยหว่านเสน่ห์จนทำให้ สเตฟานีย์ อกหักเมื่อสมัยไฮสคูล ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม และเป็นผู้ต้องหาหนีประกันตัวพระกาฬ ที่ วินนี่ กำลังตามล่าหาตัวอยู่

การจับตัว โจ โมเรลลี ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการแก้แค้นที่สาสมแล้ว สเตฟานีย์ ยังคงได้รับค่าเหนื่อยเป็นเงินก้อนโต เธอจึงกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้วิธีการในการเป็นนักล่าพวกหนีประกันจาก เรนเจอร์ เพื่อนร่วมงานหนุ่มหล่อที่เป็นมือฉมังตัวพ่อ และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ สเตฟานีย์ ต้องตามล่าอดีตคนเคยแอบรักเก่าสมัยวัยเด็ก เธอจะคว้าน้ำเหลวจากภารกิจนี้หรือไม่ และเธอจะมีวิธีจัดการกับศัตรูหัวใจอย่างไร งานนี้คงไม่หมูอย่างที่เธอคิดซะแล้วซิ!!!!
คู่แท้หัวใจติดเบ็ด
แนวตลก, โรแมนติก, ดราม่า
ผู้กำกับลาสซี่ ฮัลสตรอม
นักแสดงอีวาน แม็กเกรเกอร์, เอมิลี่ บลันท์, คริสติน สก็อตโธมัส, ทอม ไมสัน
กำหนดฉาย12 เมษายน 55
เรื่องย่อ

แก่นของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องง่าย ๆ ใกล้ตัวแต่ทว่าหลายคนมองข้ามไป ผ่านการเล่าเรื่องแบบแสบ ๆ คัน ๆ ที่จะทำให้คนดูอยากย้อนกลับมาถามตัวเองว่า “นานแค่ไหนแล้วที่เราขาดกำลังใจจากใครสักคน และ นานแค่ไหนแล้วที่ไม่มีใครจับมือเราไว้แน่น ๆ ตอนที่เราหมดแรงใจในการทำเรื่องใหญ่ ๆ ในชีวิต”

คู่แท้หัวใจติดเบ็ด เปิดเรื่องที่ อัลเฟรด โจนส์ ดอกเตอร์คนเก่ง ที่คิดมาตลอดว่า สำหรับเรื่องงานเขาคือเบอร์ 1 ไม่มีอะไรที่เขาจะทำไม่ได้ หากเพียงแต่เขาไม่เคยคิดนอกกรอบ แต่แล้ววันหนึ่งเจ้านายสุดป่วน แพทริเชีย แม๊กซ์เวลล์ โฆษกรัฐบาลอังกฤษ ก็มองเห็นช่องที่จะผูกมิตรกับท่านชีคผู้ร่ำรวยจากประเทศเยเมน อัลเฟรดเลยได้รับมอบภารกิจให้นำปลาแซลมอน 10,000 ตัว ไปเลี้ยงที่เยเมน เพื่อให้ ท่านชีคและสหายได้รื่นเริงกับการตกปลา… ฟังดูแสนง่ายแต่เป็นภารกิจที่แทบจะไม่มีทางเป็นไปได้ อัลเฟรด รับดูแลโปรเจกต์อย่างไม่มีทางเลี่ยง ในระหว่างอยู่ที่เยเมน แฮเรียต ผู้ช่วยของชีค แห่งเยเมน เป็นคนคอยประสานและเติมเต็มกำลังใจให้กับอัลเฟรด จนทำให้เขารู้สึกตัวขึ้นมาว่า บางครั้งเราก็ต้องลองเดินออกนอกกรอบบ้าง เพราะถ้าไม่เปิดใจกว้างในบางเรื่อง ก็จะไม่มีวันทำมันสำเร็จ.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

เฟย์ ฟาง แก้ว ประกาศความฮอต ชวนแฟนคลับสนุก เลิฟอะฮอลิก



หลัง เฟย์-พรปวีณ์, ฟาง-ธนันต์ธรญ์ และ แก้ว-จริญญา ในนาม วงเฟย์ ฟาง แก้ว หายหน้าจากการทำเพลงไปเกือบ 2 ปี เวลานี้พวกเธอได้เวลากลับมาแล้ว พร้อมกับลุคใหม่ที่ดูโตเป็นสาวพราวเสน่ห์มากขึ้น รวมกับความเท่ที่ทั้งสามสาวขอมาปฏิวัติวงการเพลงวัยรุ่นให้ได้ฮือฮาอีกครั้ง กับอัลบั้มชุดที่ 5 “เอฟเอฟเคอะฮอลิก” (FFKAHOLIC) พร้อมส่งเพลงสนุก ’เลิฟอะฮอลิก“ มาตอกย้ำความแรงของพวกเธออีกระลอก

ล่าสุดได้ส่งเบื้องหลังมิวสิกวิดีโอเพลง ’เลิฟอะฮอลิก“ ที่สาว ๆ ไปปักหลักถ่ายทำที่โกดังร้าง ตลาดนัดรถไฟ ที่ทีมงานเซตฉากสมมุติขึ้นมา ให้เป็นสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง ณ ที่นั้น ห้ามมีความรัก ห้ามมีความฝัน หรือห้ามทำในสิ่งที่ตนอยากทำโดยเด็ดขาด ซึ่งสาว ๆ เจ้าลัทธิ “เฟย์ ฟาง แก้ว” ยอมไม่ได้ที่จะให้เหตุการณ์เป็นไปอย่างนั้น จึงทำการปลอมตัวเป็นคนป่วยเสียเอง พร้อมแฝงตัวเข้าไปเพื่อจะช่วยทุกคนหลุดพ้นจากการถูกครอบงำ ด้วยการแอบเอายาแคปซูล “เลิฟ” ไปให้ทุกคนที่นั่นได้กิน และชวนมาคลั่งไคล้กับความสนุกแทน แฟน ๆ สามารถติดตามชมมิวสิกวิดีโอ “เลิฟอะฮอลิก” ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจ้า.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

บช.น.คุมเข้มเทศกาลสงกรานต์


ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) วันนี้ (11 เม.ย.) พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ รองผบช.น. ดูแลงานด้านกิจการพิเศษ เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและการจัดการจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ในกรุงเทพมหานครจัดงานเทศกาลสงกรานต์ทั้งหมด 21 จุด ในพื้นที่ 15 สน. ซึ่งเขตที่จัดงานมากที่สุดคือเขตพระนคร มีถึง 6 จุด เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้เรียกรองผบก.น. 1,3,5,6,8 และ จร. ผกก.ทั้ง 15 สน. ผู้อำนวยการเขตพระนคร และเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าร่วมประชุม เพื่อวางมาตรการในการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยได้มีการวางกำลังของตำรวจท้องที่ รถสายตรวจ 191 บก.อคฝ. ฝ่ายสืบสวน ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและสุนัขตำรวจของบก.สปพ. รวมทั้งมูลนิธิ และอาสาสมัครที่จะเข้ามาช่วยดูแลเฝ้าระวังเหตุร้ายต่างๆ ส่วนราชการอื่นๆ เจ้าหน้าที่เทศกิจ สารวัตรทหาร สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกทม. จัดกำลังและรถดับเพลิงเตรียมพร้อม 38 จุด ส่วนด้านการจราจร จุดที่น่าจะมีปัญหาคือการปิดการจราจรที่ถนนสีลม ซึ่ง พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. ได้ประชุมจัดการจราจรไปแล้วส่วนหนึ่ง
“ทั้งนี้การจัดงานในพื้นที่เกี่ยวเนื่องหลายสน. ให้บก. เป็นเจ้าภาพในการวางแผนรักษาความสงบเรียบร้อยและการจราจรให้ครอบคลุมพื้นที่การจัดงาน ดูความเหมาะสมต่างๆ โดยเฉพาะการลวนลามกระทำอนาจารกับสุภาพสตรี และการโชว์อนาจาร ไม่ให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่จัดงาน ส่วนประชาชนที่มาร่วมงานก็อยากให้ใช้ความระมัดระวังอย่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง ไม่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าบางๆ ไม่ใช้อุปกรณ์ฉีดน้ำที่มีแรงดันสูง และให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในงาน ไม่ควรนำของมีค่าติดตัวออกมาจำนวนมาก และหากพบเห็นกลุ่มบุคคลที่เล่นสงกรานต์ในลักษณะที่ก่อให้เกิดอันตราย ให้รีบโทรศัพท์แจ้ง 191 หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียง” พล.ต.ต.อนันต์ กล่าว
ด้านพล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. ดูแลงานด้านจราจร เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์วันที่ 13-15 เม.ย. มีการจัดงานสืบสานประเพณีสงกรานต์ บริเวณถนนสีลมขาเข้าและขาออก เพื่อให้การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บช.น. จึงร่วมกับกรุงเทพมหานคร กำหนดเวลาในการปิดถนนสีลมอย่างชัดเจน เพื่อกำหนดให้เป็นพื้นที่เล่นน้ำดังนี้  วันที่ 13-15 เม.ย. ปิดถนนตั้งแต่เวลา 14.00 น.-20.00 น. โดยจะปิดถนนตั้งแต่แยกศาลาแดง(ถนนสีลมตัดถนนพระราม 4) ถึงแยกนราลม(ถนนลีลมตัดถนนนราธิวาสราชนครินทร์) ไม่ให้รถเข้าออก โดยเฉพาะรถบรรทุกน้ำและรถบรรทุกที่ติดตั้งเครื่องเสียงกำลังขับแรงสูง ซึ่งจุดบริการน้ำให้ประชาชนใช้เล่นสงกรานต์สำนักงานเขตบางรักจะเป็นผู้ดำเนินการจัดไว้ให้ตามจุด มีการตั้งกองอำนวยการร่วม 4 จุด โดยมีจุดหลักอยู่ที่หน้าธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ และพื้นที่ดังกล่าวต้องเป็นพื้นที่ควบคุมตาม “โครงการ 3 ปลอด” คือ 1.ปลอดภัย 2.ปลอดอาวุธ และ3.ปลอดเหล้า ส่วนจุดอื่นๆอย่างถนนข้าวสารก็จะปิดถนนเช่นเดียวกันแต่สำหรับถนโชคชัยคงไม่สามารถปิดการจราจรได้ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัย เปิดให้รถผ่านเข้าออกได้ แต่จะเข้มงวดเรื่องการตรวจค้นอย่างละเอียดเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ถนนพญาไททรุดเป็นหลุมลึก 1 เมตร เหตุท่อระบายน้ำพัง












ถนน

กลางกรุงทรุดเป็นรอบที่ 4 คราวนี้ถนนพญาไทหน้าหอศิลป์ฯกทม.เป็นหลุมลึก 1 เมตร กว้าง 60 ซม. ผอ.เขตปทุมวัน เผยเหตุเกิดจากท่อระบายน้ำทรุดตัว ทรายใต้ถนนจึงไหลลงบ่อพัก จนเกิดโพรงทำให้พื้นผิวจราจรทรุดตัว
นางภาวิณี อามาตยทัศน์ ผอ.สำนักงานเขตปทุมวัน กล่่าวถึงเหตุถนนทรุด บริเวณถนนพญาไทฝั่งขาออก ซึ่งเปิดเป็นช่องทางพิเศษให้เลี้ยวขวาสวนทางไปสนามกีฬาแห่งชาติ-แยกอุรุพงษ์ บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนะธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน ว่า เจ้าหน้าที่สำนักการโยธาฯ ได้เข้าทำการตรวจสอบด้วยการใช้รถแบ็กโฮมาขุดพื้นผิวถนนที่ทรุดตัว ให้เป็นวงกว้างเพื่อที่จะให้สำนักงานระบายน้ำเข้าตรวจสอบหาสาเหตุ เพื่อประเมินว่าจะต้องทำการซ่อมแซมอย่างไรบ้าง ส่งผลให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นอย่างมาก
 
จากการสอบถามนางราณี สังข์วิเศษ อายุ 43 ปี พนักงานทำความสะอาดของสำนักงานเขตปทุมวัน กล่าวว่า ก่อนเกิดเวลาประมาณ 05.00 น. ตนมาปฏิบัติหน้าที่กวาดถนนพญาไท ตั้งแต่บริเวณตรงหน้าหอศิลป์ฯไปจนถึงปากซอยเกษมสันต์ 1 ซึ่งช่วงนั้นก็ยังไม่เหตุการณ์ผิดปกติแต่อย่างใด จากนั้นเวลาประมาณ 06.00 น.ก็เห็นรถขยะขนาด 5 ตัน จอดติดไฟแดงอยู่บนพื้นถนนตรงที่บริเวณเกิดหลุมดังกล่าว พอรถเคลื่อนตัวออกไปก็พบว่าพื้นถนนทรุดตัวลงเล็กน้อย แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.40 น. ขณะที่ตนกวาดพื้นถนนอยู่ช่วงเกาะกลางถนนกลางแยกปทุมวัน ก็สังเกตุเห็นว่าพื้นถนนบริเวณดังกล่าวเกิดยุบตัวลงเป็นหลุมลึกประมาณ 1 เมตร กว้างประมาณ 60 ซม.ดังกล่าว จึงรีบนำถุงทรายมาวางปิดปากหลุม เพื่อป้องกันกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ก่อนแจ้งหัวหน้าให้รายงานไปยังผอ.สำนักงานเขตทราบเรื่อง

ด้านนางภาวิณี  อามาตยทัศน์ ผอ.สำนักงานเขตปทุมวัน กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กวาดถนนตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00 น.ว่ามีพื้นผิวถนนทรุดเป็นวงกว้าง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักการโยธาฯ สำนักการระบายน้ำ และสน.ปทุมวัน เดินทางมาร่วมตรวจสอบ ก็พบว่าสาเหตุเกิดจากท่อจากท่อระบายน้ำทรุดตัว จึงทำให้ทรายใต้พื้นถนนเกิดไหลเข้าไปในบ่อพักในท่อระบายน้ำใต้พื้นถนน จนเกิดโพรงและพื้นผวถนนทรุดตัวดังกล่าว จากนั้นจึงได้ให้ทางสำนักการโยธาฯมาขุดพื้นถนนตรวจสอบความเสียหาย ก่อนจะให้ทางสำนักการรระบายน้ำเข้าไปตรวจสอบดูว่าจะต้องซ่อมแซมอย่างไร จากนั้นจะใช้เครื่อง GPR ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้ตรวจพื้นถนนพระรามที่ 4 ที่มีการทรุดตัว มาสแกนดูว่าใต้พื้นผิวถนนนั้นมีอะไรและได้ความเสียหายอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นจะทำการซ่อมแซมพื้นถนนใหม่อีกครั้ง คาดว่าใช้เวลาประมาณครึ่งวันน่าจะแล้วเสร็จ
ขณะที่ ร.ต.ท.จำนงค์ ปานนนท์ รอง สว.จร.สน.ปทุมวัน กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าอยู่ภายในป้อมแยกปทุมวันได้แจ้งกับมีถนนทรุดตัว จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ จากนั้นก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรช่วยกันอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องจักรหนักทำงาน และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น..

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th