วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

บทสรุป Chrono Trigger

บทสรุป Chrono Trigger 

หลังจากบิดขี้เกียจเรียบร้อย ก็วิ่งลงไปคุยกับแม่...คุยเสร็จอย่าเพิ่งรีบไปครับ ลืมอะไรหรือเปล่าเอ่ย... ใช่แล้วครับ...คุณแม่ยังไม่ให้เงินโครโน่เลย... กลับไปคุยกับแม่อีกทีครับ ออกจากบ้านแล้ว ที่แรกที่แนะนำให้ไปคือที่ Mayor' s Manor ครับ ที่นี่เข้าไปแล้วให้คุยกับทุกคนทั้ง 2 ชั้น เขาจะแนะนำเทคนิคที่จำเป็นในการต่อสู้ Status ฯลฯ ให้... 

จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ Leene's Square ครับ เข้าไปแล้วก็ตามธรรมเนียม RPG ครับ รวบรวมข่าวสารซะดี ๆ ... ที่ Leene' s Square จะมีเกมต่าง ๆ ให้เล่นครับ บางเกมจะต้องจ่าย Silver Point ก่อน เราก็ต้องไปหา Silver Point โดยไปที่ มุมบนซ้ายสุดของ Leene' s จะเจอหุ่นนัก คาราโอเกะอยู่ ให้สู้กับเขา แล้วจะได้ Silver Point มากกว่าเกมอื่น เกมอื่น ๆ ขี้ตืดครับ ให้ครั้งละ 1 SP. อ้อ..ถ้าบาดเจ็บ ที่โต๊ะก่อนเข้าไปเจอหุ่น จะมีห่อผ้าอาหารอยู่ พอเก็บปั๊บ HP MP ได้ 

จากนั้น ไปตรงที่มีระฆัง จะพบเด็กผู้หญิงผมทองคนนึง... เล็งกะจังหวะดี ๆ ครับ แล้ววิ่งเข้าชนไปเล้ย...พอชนปั๊บสังเกตดูสร้อยคอ (pendant) จะกระเด็นออกมาครับ... เนื่องจากเราเป็นสุภาพชนครับ (ใครไม่เป็น ก็ฝืนใจนิดนึงนะครับ..) ไปเก็บสร้อย แล้วนำไปคืนเด็กผมทองคนนั้นซะดี ๆ (ม่ายเอา เราม่ายจิ๊ก) แล้วเขาก็จะขอตามเราไปด้วย อืม..หน้าตาใช้ได้เหมือนผม..@!! พาไปด้วยเถอะนะ..แล้วก็จะได้ Marle มาเป็นพวก.. 

จากนั้นไปคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่น้ำพุ แล้วก็วิ่งตรงเข้าไปด้านในสุด ก็จะเจอกับ Lucca และพ่อของเธอ กำลังทดลองเครื่องเทเลพอตอยู่ ไปคุยกับ Lucca แล้วเธอจะให้เราเป็นหนูลองยา...อึ๋ย.. เอาไง..เอากันครับ..เพื่อเพื่อน...ขึ้นที่แท่นด้านซ้ายเลยครับ มาร์ลเห็นเข้า..ก็อยากลองมั่ง...ขณะที่เครื่องกำลังทำงาน สร้อยของมาร์ลก็จะเรืองแสงขึ้น พร้อมกับเครื่องเทเลพอตก็จะขัดข้อง จากนั้นประตูเวลา ก็จะเปิดออก แล้วดูดมาร์ลเข้าไปด้วย.. เหลือไว้แต่เพียงสร้อยของมาร์ล ให้โครโน่ไปเก็บมาซะ.. แล้วไปขอให้ลุคก้าช่วยเดินเครื่องอีกครั้งหนึ่ง ลุคก้าก็จะทำการเดินเครื่องอีกครั้ง ให้ประตูเวลาเปิด โครโน่ ก็จะถูกประตูเวลาดูดหายไป...... 

หลังจากลุคก้ากำจัดพยานคือโครโน่ไปได้อีกคน ลุคก้าและพ่อของเธอ ก็จะทำลายเครื่องเทเลพอตทันที เพื่อทำลายหลักฐาน ตำรวจก็ไม่สามารถจับ ลุคก้า และพ่อได้ ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น โครโน่จะหล่นปุ..จากประตูเวลามาอยู่ที่หมู่บ้านโทรูส (Truce แต่ผมอ่านได้ว่า ทรูซ แฮะ..) หาทางออกจากภูเขา แล้วไปรวบรวมข่าวสารในหมู่บ้าน ก็จะพบว่าเราอยู่ในปี A.D.600 

จากนั้นให้เข้าไปสำรวจในป่ากัลเดีย (Guardia) หาทางออกจากป่าได้ก็จะพบกับประสาทกัลเดีย ไหน ๆ มาแล้ว ก็เข้าไปดูข้างในกันหน่อย แต่ทหารจะเข้ามาห้าม แหงล่ะครับ ใครก็ไม่รู้ให้เข้าได้ไง... แต่..องค์หญิงรีเน่ จะมาเปิดไฟเขียวให้เราเดินในปราสาทได้ สำรวจ พร้อมกับหาข่าวสารดูให้ทั่ว แล้วให้ขึ้นบันไดไปทางขวา ของกษัตริย์ จะพบองค์หญิงรีเน่..คุยกันซะหน่อย.. 

อ้าว...มาร์ลเองหรอกเรอะเนี่ย...ที่แท้คนในปราสาทเข้าใจผิด เพราะมาร์ลหน้าไปคล้ายกับองค์หญิงรีเน่ของปราสาทโทรูสนี่เอง... (อ้อ ที่ปราสาทด้านซ้ายสุด ลงไปในห้องใต้ดินจะมีโรงครัวอยู่เข้าไปทาน เพื่อฟื้น HP MP ได้เลย...กินไปเลยไม่มีหมด..ที่สำคัญ..ฟรีจ้า..!!! เฉพาะช่วงนี้เท่านั้นนะ..) 

คุยไปคุยมา มาร์ลจะเริ่มเบื่อหน้าเรา..แล้วก็จางหายจากไป (ล้อเล่นครับ..ที่หายไปมีสาเหตุครับ เดี่ยวเจ๊ ลุคก้าจะมาเฉลย..) ให้เราวิ่งออกมาเรื่อย ๆ จะพบกับลุคก้า คุยกันพักใหญ่จึงรู้สาเหตุที่ทำให้มาร์ลหายไป ที่แท้องค์หญิงรีเน่เป็นท่านทวดของมาร์ลเองเหรอเนี่ย...แล้วตอนนี้องค์หญิงโดนพวกปีศาจจับตัวไป ชีวิตองค์หญิงกำลังอยู่ในอันตรายครับ ซึ่งถ้าองค์หญิงรีเน่สิ้นพระชนม์ ก็หมายความว่า มาร์ลจะไม่มีตัวตน....นี่เองคือสาเหตุที่มาร์ลหายไป....เพื่อนเราทั้งคน ไม่ช่วยได้ไงครับ..บุกพวกปีศาจช่วยองค์หญิงรีเน่ เพื่อช่วยมาร์ลกันเลย.. 

แล้วจะได้ลุคก้ามาร่วมเดินทาง ออกจากปราสาทก็ให้ตรงไปที่โบสถ์ (Cathedal) ที่อยู่ทางซ้าย เข้าไปคุยกับแม่ชีทุกคน แล้วจะเห็นวัตถุสะท้อนแสง ตกอยู่แถวแท่นบูชา เก็บเสียครับ (เป็น กทม. คนที่เอามาทิ้งโดนปรับ 2,000ไปแล้ว) พอเก็บเสร็จปุ๊บแม่ชีจะโกรธมากจนเปลี่ยนร่างเป็นปีศาจทั้งหมด. 

เย้..กำจัดได้หมดแล้ว...แต่เอ๊ะ..! ยังเหลืออีกตัว..มันมาแล้ว..ป้องกันไม่ทันแล้ว.. อ้าค..! ชิ้ง..!! อา..มีอัศวินขี่ม้าขาว เอ๊ย..ขี่กบเขียว..เฮ้ย...มันกบจริง ๆ นี่นา.. ยึ๋ย..แต่เขามาช่วยชีวิตเรานี่นา คุยกับเขาขอบอกขอบใจเขาหน่อย (ชื่อที่กำหนดเริ่มต้นชื่อ Frog) แล้วก็ชวนมาเป็นพวกซะเลย... แล้วลองไปสำรวจที่เปียโนดู ประตูลับจะเปิด 

เข้าประตูไปสำรวจข้างในให้ทั่ว บางจุดจะมีหนามแหลมขวางทางอยู่ ให้หาสวิตช์ทั้ง 2แห่ง กดแล้วหนามจะหดลงไป แล้วลองสำรวจเปียโนตัวใหม่ เดินไปด้านบนสุด จะพบว่ามีประตูลับโผล่มา เข้าประตูนั้นไป เดินเข้าไปจนสุดจะเจอกับ องค์หญิงรีเน่ ตัวจริง เสียงจริง พร้อมกับขุนนาง ซึ่งเป็นปีศาจยากุร่าปลอมตัวมา 

กำจัดเจ้าปีศาจเสีย เสร็จแล้วเข้าไปคุยกับองค์หญิง แล้วอย่าลืมเปิดหีบช่วยขุนนางตัวจริง ออกมาด้วยนะครับ แล้วกลับไปคุยกับองค์หญิงอีกครั้ง แล้วทั้งหมดก็จะกลับไปที่ปราสาท แล้วนักรบกบ หรือฟร็อคก็จะแยกไป แต่จะพบเขาอีกทีที่หน้าปราสาท คุยกับเขา แล้วเขาก็จะจากไปอีกครั้ง จากนั้นกลับไปที่ห้องขององค์หญิงดู ก็จะพบกับมาร์ลอีกครั้ง เข้าไปคุยปลอบใจมาร์ลสักหน่อย แล้วให้ย้อนกลับไปที่ภูเขาหลังหมู่บ้านโทรูสอีกครั้ง แล้วให้เดินกลับไปที่ที่เราถูกประตูเวลาส่งมา ลุคก้าจะเปิดประตูให้เราได้กลับไปยังยุคปัจจุบัน (A.D. 1000) แล้วเราก็จะได้ไอเทมที่ใช้เปิดประตูเวลา งานประดิษฐ์ชิ้นโบว์แดง ของลุคก้า เกทโฮลเดอร์ (Gate' s Holder) ไว้ใจได้ไหมน้า... แล้วลุคก้าจะแยกไป 

จากนั้นให้เราเดินทะลุป่ากัลเดีย เข้าปราสาท โครโน่จะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้ายลักพาตัวองค์หญิงนาเดีย นั่นก็คือ มาร์ลนั่นเอง. แล้วโครโน่ก็จะถูกนำไปขึ้นศาล จากนั้น ก็จะมีใครต่อใครมายัดเยียด หลักฐานแปลก ๆ ให้โครโน่กันใหญ่ แบบที่เรานึกไม่ถึงเลยอ่ะ.. เฮ้อ...อุตส่าห์มีทนายให้โครโน่ด้วย แต่ไม่เห็นช่วยอะไรได้เยย... แล้วก็ต้องเข้าซังเต (คุก) รอวันประหารในอีก 3 วัน..โดยที่มาร์ลก็ช่วยอะไรเราไม่ได้เลย...ขณะอยู่ในคุก เราไม่ควรเป็นนักโทษที่ดีครับ !! ทำไมน่ะหรือ...ก็เราไม่ผิดสักหน่อยนี่นา ดังนั้นต้องประท้วงครับ ไปเขย่าลูกกรงเล่นซะ เพื่อก่อกวนให้ยามเผลอเปิดประตู แล้วจัดการยามซะ หนีออกมาแล้ว หาทางออกให้ได้ครับ และที่ทางออกจากเรือนจำ เราก็จะพบกับลุคก้าที่ยืนคอยอยู่ 

ออกมาอีกหน่อยจะเจอพวกทหาร และขุนนาง พี่ท่านจะนำรถถังมังกรออกมา (อะโหพี่น้อง...กระผมยังเด็กอยู่เลยนะ...เอารถถังมาปราบกันเลยเรอะ..!!) บ่ หยั้นอยู่แล้ว ปราบเจ้ารถถังนี่ซะเลย แล้วหนีต่อ ก็จะถูกเหล่าองค์รักษ์จับตัว อา..แย่แล้ว..ทำไงดี...แต่ทันใดนั้น..มาร์ลก็จะโผล่เข้ามาช่วยทันที กษัตริย์แห่งกัลเดียก็มา.... 

จากนั้นมาร์ล และกษัตริย์ จะทะเลาะกัน จนถึงขั้นมาร์ลจะขอลาออกจากการเป็นองค์หญิง (น่าน..คิด ๆ ดีเน้อ..งานยิ่งหายากอยู่ด้วยสมัยนี้) และหนีออกจากปราสาทพร้อมกับโครโน่ ลุคก้า แต่เหล่าองครักษ์จะไล่ตามจับ ให้หนีไปทางขวา แล้วจะพบกับประตูเวลา ไม่มีเวลาลังเลแล้วครับ หนีข้ามเวลากันไปเลย. 

ออกจากประตูเวลา จะพบว่าเราอยู่ใน บันกอร์ โดม (Bangor Dome) (ฉากภายในโดมอาจมองไม่เห็นอะไรเลย ให้กดเลข 3 ที่แป้นตัวหนังสือครับ จะทำให้มองเห็นทาง แต่พอจะคุย หรือสู้เราจะไม่เห็นตัวอักษรอีก ก็ให้กด 3อีกครั้งสลับกันไปนะครับ ต่อไปถ้าเจอฉากลักษณะนี้อีก ก็ให้ลองกด 3นะครับ ) 

จากนั้นให้ลองไปที่ทรานโดม (Trann Dome) ที่อยู่ข้างล่าง เก็บข้อมูลต่าง ๆ แล้วให้ตรงไปที่ซากเมือง Lab 16ทางเหนือดู (ระหว่างทางจะมีหนูคอยวิ่งขโมยของด้วย..ระวัง) ทะลุออกมาจะเป็นอาริสโดม (Arris Dome) เข้าไปสำรวจซะ จะพบคนอีกกลุ่มหนึ่ง จากนั้นตรงด้านล่างที่คนแก่หนวดขาวยืนอยู่ จะเป็นบันไดให้ลงไปใต้ดิน ด้วยวัยอยากรู้อยากเห็น ก็ลงไปดูซะ (ใครไม่อยากลง ก็แกล้งลงไปหน่อยก็ได้ครับ) เดินให้ทั่ว แล้วจะพบห้องที่มีเสียงเตือนภัย หากเดินฝ่าไป จะมีหุ่นยนต์ลงมาขวาง มั่นใจใน Level แล้ว ก็ลุยกันเล้ย...ชนะได้แล้วให้เดินเข้าข้างในสุดไป จะพบศพคน..และจะมีสมุดบันทึกอยู่.... 

อ่าน..ไม่อ่าน..อ่าน..อ่าน..หลังจากชั่งใจดีแล้วว่าจะอ่านสมุดบันทึกคนอื่น อ่านจบแล้วก็เดินกลับมา จะพบหนู 1ตัว แต่มันจะวิ่งหนีเรา ให้วิ่งตามจับเจ้าหนูนี่ให้ได้ (พอถึงตัว แล้วกด A ) ที่ผมเล่น..ให้วิ่งไล่จากล่างขึ้นบนจะมีโอกาสมากกว่านะจ้ะ.. จับได้แล้วเขาก็จะบอกรหัสเปิดประตู จดไว้เน่อ.. 

แล้วไปที่ห้องแรกของห้องใต้ดิน สังเกตดูที่แท่นด้านขวา จะมีประกายบขึ้น ให้เราไปกดรหัสที่ได้จากหนูตัวตะกี้ คือ กด L และ R ค้างไว้ แล้วกด A ก็จะมีทางเดินขึ้นมา เดินเข้าประตูไปสำรวจ แล้วจะพบห้องคอมพิวเตอร์ แล้วจะพบว่าทางตะวันออกของอาริส จะมีโปรโตโดม (Proto Dome) อยู่ ตรวจสอบต่อก็จะรู้สาเหตุของความพินาศของโลกนาคต ว่าเป็นฝีมือของจอมปีศาจราวอส (Lavos) 


จากนั้นก็กลับขึ้นไปคุยกับผู้เฒ่า เราจะได้กุญแจรถมา จากนั้นให้ไปที่ Lab32 แล้วจะพบเจ็ทไบค์จอดอยู่ พอเข้าไปสำรวจจะถูกหุ่นยนต์มาล้อม แต่จะมีหุ่นตัวหนึ่งมาห้าม และท้าแข่งรถกับเรา อ่ะ..ฮ้า..ได้เลย (ขณะแข่งให้กด B จะเป็นการใช้เทอร์โบ ใช้ได้ 3 ครั้งเท่านั้นนะจ้ะ...) 

ชนะได้จะมาโผล่อีกที่หนึ่ง ให้เดินไปทางขวาล่างจะพบ 2 อาคาร ให้เข้า โปรโตโดม ก่อน แล้วจะพบหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง (ไม่ค่อยเท่เลยอ่ะ) แล้วลุคก้าช่างใหญ่ของเรา จะลองมาซ่อมเจ้าหุ่นตัวนี้ดู ซ่อมสำเร็จเสียด้วยสิ เข้าไปคุยจะรู้ว่าเจ้าหุ่นตัวนี้ชื่อ R-66-y เรียกยากแฮะ...ตั้งชื่อใหม่ให้ซะเลยว่า โรโบ (Robo) แล้วจะได้โรโบมาร่วมชะตากรรมอีก 1คน เอ๊ย..ตัว..เอ..หรือ 1 เครื่องดีหนอ...ช่างเถอะ.. 

ตอนนี้เราต้องเลือกแล้วครับว่าจะเอาลุคก้า หรือมาร์ลไปด้วยดี ออกมาจากโปรโตโดม ก็ไปต่อที่โรงงานผลิตหุ่นยนต์ (Factory) เข้าไปจะพบกำแพงเลเซอร์กั้นอยู่ ให้ไปสำรวจดูแถว ๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วโรโบจะเปิดกำแพงให้ เข้าไปสำรวจให้ทั่ว แล้วเราจะพบฃลิฟท์ 2ตัว ทางซ้ายไปสถาบันค้นคว้า ทางขวาไปโรงงาน สำรวจให้ทั่วทั้งหมด เราต้องหารหัสผ่านอีกครั้ง โดยให้วิ่งทวนสายพานไปจนสุดทางด้านซ้าย (ระวังหุ่นที่มากับสายพานชนเอา) แล้วจะมีทางเดินอยู่ตรงซ้ายล่าง เดินต่อไปจะมีห้อง 2 ห้อง เข้าขวาก่อน สำรวจคอมจะได้รหัสควบคุมมือกล กลับไปบังคับมือกลด้วยรหัสที่ได้ คือ กด X และ A แล้วมือกลจะเลื่อนไปหยิบถังที่ขวางทางออก และกด B B ก็จะเลื่อนไปหยิบอีกถังหนึ่ง 

จากนั้นให้ไปที่ห้องคอมทางซ้ายบนสุด ตรวจสอบดูจะได้รหัสกลับมา แล้วไปที่ส่วนของสถาบันค้นคว้าต่อ สำรวจทางพร้อมใช้คอม เปิดกำแพงเลเซอร์ ให้หมด โดยที่ชั้น 2 ในห้องคอม จะมีบันไดลับซ่อนอยู่ตรงมุมขวาล่างของห้อง ให้ใช้บันไดไต่ลงไปปิดกำแพงเลเซอร์ให้หมด แล้วลงล่างสุด จะเจอกับคอมอยู่ด้าานใน ตรวจสอบดู แล้วเราต้องใส่รหัสที่ได้มา โดยให้กด X, A, B, Y แล้วประตูข้าง ๆ จะเปิดออก เข้าไปดูจะพบกับ คอมพิวเตอร์ซีเคียวริตี้ซิสเต็ม ตรวจสอบ แล้วจะมีสัญญานดังขึ้น ให้รีบหนีออกมา โดยตอนนี้ลิฟท์จะใช้การไม่ได้แล้ว ให้ไต่บันไดขึ้นมาแทน จากนั้นเราจะพบกับหุ่นที่เหมือนกับ Robo 6ตัว โรโบจะเข้าไปทักทาย แต่จะถูกหุ่นพวกนั้นรุมร้าย จนพัง แล้วถูกนำไปทิ้ง บังอาจทำร้ายเพื่อนเรา..พวกโครโน่จะยอมได้ไง..เข้าไปสั่งสอนเจ้ากระป๋อง 6 ตัวนั้นซะ เมื่อชนะแล้ว เราก็จะช่วยกันนำโรโบกลับไปซ่อมที่โปรโตโดม จากนั้นก็ให้เข้าประตูกาลเวลาที่โปรโตโดม เพื่อไปสู่สุดขอบกาลเวลา...ที่สุดขอบเวลา (End of Time) จะพบชายชราคนหนึ่ง คุยกันหน่อยแล้วเราก็จะสามารถจัดกลุ่มใหม่ได้ตลอดเวลา โดยการกด Y ที่ด้านหลังผู้ดเฒ่าจะมีประตูอยู่ เข้าไปจะเจอกับ เทพแห่งสงคราม สเปคคิโอ (Speckio) เข้าไปคุย เขาจะให้เราวิ่งรอบห้อง 3 รอบ (น่าน...) ไอ้เราก็เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายซะด้วย วิ่งก็วิ่งเอ้า..!! โดยให้เริ่มวิ่งจากประตูเลียบไปตามผนังแบบ ตามเข็มนาฬิกา (ห้ามลัดสนามนะ เค้ารู้ด้วยล่ะ) เมื่อวิ่งครบแล้ว ให้กลับไปคุยกับสเปคคิโอใหม่ แล้วเขาจะให้รางวัลัเป็นการสอนเวทย์มนต์ให้ (คุยเสร็จก็สลับกลุ่มแล้วเข้าไปคุยใหม่จนครบทุกคน ก็จะได้รับการสอนเวทย์มนต์ โดยเฉพาะโรโบ...น่ากลัวมากครับ..!!?? ต่อไปถ้าได้เพื่อนมาเพิ่ม ก็ให้พามาคุยกับสเปคคิโอด้วยนะครับ ก็จะได้รับการสอนเวทย์มนต์เช่นกัน) แล้วให้กลับไปคุยกับสเปคคิโออีกครั้ง จะเป็นการท้าสู้ สู้ขนะก็จะได้ไอเทมเจ๋ง ๆ มา (อ้อ สเปคคิโอจะมีทั้งหมด 5ร่างนะครับ พัฒนาขึ้นตาม Level ของพวกโครโน่ และแน่นอน ไอเทมก็ยิ่งเจ๋งขึ้นตามลำดับด้วย หมั่นเข้ามาดูเมื่อ Level คุณเพิ่ม) ถ้าสู้แพ้ก็ไม่เป็นไรครับ HP MP เราก็จะกลับมาเหมือนเดิม 

ออกจากห้องก็ไปคุยกับผู้เฒ่าอีกครั้ง แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องท่องกาลเวลากันแล้วครับ โดยมีให้เลือก 4ยุค ก่อนอื่นไปที่ปี A.D. 1,000 ก่อนด้วยแสงอันขวา จะหลุดออกมาจากตู้กับข้าวในบ้านของปีศาจ ในหมู่บ้านเมดิน่า (Medina) คุยกับปีศาจ 2 ตัวนั้น จะรู้ว่าทางด้านซ้ายล่างมีบ้านคนอยู่ มีคน..งั้นอยู่ทำไมล่ะครับ หมู่บ้านปีศาจไปบ้านคนดีฝ่า...ไปแล้วจะพบกระท่อม Melchior' s Hut ในนั้นจะมีลุงบอชอยู่ อ้อ...คนขายอาวุธที่ Leene' s Square นี่เอง ไปคุยกับเขาครับ แล้วเลือกช้อปปิ้งตามใจชอบ.. 

แล้วก็กลับไปหาข่าวสารที่เมดิน่า ร้านค้าต่างสามารถใช้บริการได้ แต่ต้องมีการลงไม้ลงมือกันนิดหน่อย.. สำหรับเรื่องราคานั้นก็ ขูดเลือดปูชัด ๆ..!!) จากนั้นให้กลับไปที่ลานกว้างของหมู่บ้านเมดินา (กลม ๆ ตรงกลางนั่นแหละครับ) จะพบเหล่าปีศาจกำลังบูชารูปปั้นราชาปีศาจอยู่ และถ้าเดินไปด้านบนก็จะพบโบราณสถานอยู่ (เป็นรูปคล้าย ๆ ปิรามิดนั่นแหละครับ) ถ้าขึ้นไปยืนตรงกลางฐานได้ จะมี Guru นำไอเทมมาให้เลือก จะเอาเกราะ หรืออาวุธ อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น 

แล้วกลับไปถ้ำเฮ็คคราน (Heckran Cave) ที่อยู่ด้านบนของ Melchior 's Hut แล้วจะเจอปีศาจเฮ็คคราน ที่ด้านในสุด กำจัดเสีย เดินต่อไปจะพบบ่อน้ำ ให้โดดลงไปเลย แล้วพวกเราก็จะถูกดูดกลับมาโผล่ที่บ้านของลุคก้า ถ้าจะกลับไปที่ถ้ำ ก็ให้ไปยืนที่แหลมตรงน้ำวน แล้วโดดลงไปเลย 

แหม..มาถึงบ้านลุคก้าแล้วจะไม่เข้าไปเยี่ยมพ่อ กะ แม่ได้งัย..เข้าไปคุยกับคุณพ่อเลย หา..ประดิษฐ์ไอเทมให้หนูเหรอคะ..เย้..(แต่...ขี้ตืดจังให้ลุคก้าคนเดียวอ่ะ อ้อนาน ๆ ก็กลับมาหาพ่อ ลุคก้าสักทีจะมีของให้ แต่ลุคก้าต้องอยู่ในทีมด้วยนา..) จากนั้นก็ขึ้นไปคุยกับแม่ซึ่งพิการเดินไม่ได้...จากนั้นไปเยี่ยมแม่โครโน่บ้างดีกว่า... 

เยี่ยมญาติกันเสร็จแล้ว ก็ให้ไปที่ประตูกาลเวลาอันแรกสุดเลยนะ เพื่อให้เกิดประตูเวลาใหม่ที่สุดขอบกาลเวลา จากนั้นก็เข้าไปที่แสงที่พาเราไปหมู่บ้านโทรูส ปี A.D.600ไปแล้วไปที่สะพานเซน่อน (Zenan Bridge) (ไปยืนที่สะพาน พอมีตัวหนังสือขึ้นให้กด A จะเข้าฉากสะพานครับ) เราจะพบกับเหล่าอัศวินจากกัลเดีย คุยกับพวกเขา เสร็จแล้วกลับไปคุยกับ กษัตริย์ที่ปราสาทกัลเดีย ซึ่งกำลังป่วยอยู่ จากนั้นให้ลงไปที่โรงครัว (ไม่ได้ไปกินครับ..ไปทำงาน..) คุยกับทุกคนแล้วกลับขึ้นมา พ่อครัวจะรั้งตัวไว้แล้วยื่น..บิลค่าอาหารครั้งก่อน ๆ นู้นให้...ไม่ใช่..ยื่นเนื้อตากแห้งไฮเปอร์ให้ต่างหาก แหม Thanks หลาย ๆ หา...อะไรนะ..ให้เอาไปให้อัศวินที่สะพานเซน่อนเหรอ..ฮือ..ฮือ..อดซิเรา.. 

กลับไปที่สะพานเซน่อนครับ หลังจากส่งเนื้อให้หัวหน้าอัศวินแล้ว เขาก็จะขอร้องให้ช่วยปราบเจ้าปีศาจให้ด้วย..เฮ้อ...ด้วยนิสัยของพระเอกที่ต้องชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน (สังเกตดู ไม่มีเรื่องไหนที่พระเอกไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอกครับ..อิ..อิ..) ก็จูงกันไปปราบปีศาจทางซ้ายของสะพาน เราจะพบผู้ที่นำเหล่าปีศาจมา คือ 1ใน 3 ของขุนพลปีศาจ ชื่อ บีเนเกอร์.. รวมพลังกันไล่ต้อนเหล่าปีศาจไปเรื่อย ๆ จนสุดสะพาน แล้วบีเนเกอร์จะเรียกปีศาจหลายตัวมารวมตัวกัน เป็นปีศาจ จังค์ดราเกอร์ ปราบให้ได้.. 

จากนั้นก็ลงสะพานไปต่อที่หมู่บ้าน โดริโน่ (Dorino) รวบรวมข่าวสาร และที่ข้างล่างจะเจอกระท่อมของ ฟีโอน่า (Fiona Villa.) เข้าไปคุยกับเธอ เสร็จแล้วให้เราลงไปทางใต้ จะพบหมู่บ้าน พอรี่ (Porre) เก็บข้อมูลครับ แล้วไปที่ภูเขาเดนาโดโร่ (Denadoro Mnt.) ที่อยู่ด้านบนของฟีโอน่า ด้านในสุดของภูเขาจะมีถ้ำอยู่ เข้าไปจะเจอกับดาบมาซามูเน่..(Masa Mune) เข้าไปจะเจอปีศาจแคระ 2 คน คือ มาซา กับ มูเน่ คุยกับเขาทั้ง 2 คน แล้วทั้ง 2จะกลายเป็นปีศาจมาสู้กะเรา ปราบได้ปั๊บ ทั้ง 2จะทำคอนฟิวชั่น หรือรวมร่างกันเป็นปีศาจตัวใหม่ ลุยกันอีกที หลังกำราบได้ทั้ง 2 จะยอมรับพวกโครโน่ และยอมให้เป็นเจ้าของดาบได้ ในที่สุดเราก็ได้ดาบมาซามูเน่ หัก ๆ มา (น่าดีใจไหมหนอ) แล้วพวกโครโน่ก็จะออกจากถ้ำทางช่องลมของถ้ำ 

จากนั้นให้เราไปหาเจ้าผู้กล้าตัวปลอมที่ บ้านของทาทา ที่อยู่ในหมู่บ้านโพรรีทางด้านล่างสุด แล้วไปคุยกับทาทา..มาร์ลก็จะได้รับการทาบทามให้ไปออกเทป...ไม่ใช่จ้า...จะได้เข็มกลัดผู้กล้ามา จากนั้นให้เข้าป่าต้องคำสาป (Cursed Woods) ที่อยู่ซ้ายบนของหมู่บ้านโพรรี เข้าไปข้างในเรื่อย ๆ จะพบพุ่มไม้พุ่มหนึ่งอยู่ตรงกลาง ให้ไต่ลงไปจะเป็นบ้านของ ฟร็อค อัศวินกบเจ้าเก่านั่นเอง คุยกับเขา แล้วลองหาวัตถุที่เปล่งแสงแว้บ..แว้บ..เข้าไปสำรวจ จะได้ด้ามดาบมาซามูเน่มา 

จากนั้นให้กลับไปที่ Melchior' s Hut ไปหาลุงบอชในปี 1,000คุยกับลุงบอช แล้วจะรู้วิธีทำให้ดาบ มาซามูเน่คืนชีพ คือต้องใช้หินสีแดงชื่อ โดรี่สโตน จากนั้นให้ไปหาผู้เฒ่าที่ประตูสุดขอบกาลเวลา (End of Time) จะรู้ว่าเจ้าหินแดงนี่อยู่ในปี B.C. 65,000,000ยุคก่อนประวัติศาสตร์ รู้แล้วจะเฉยได้ไง ไปประตูเวลาที่พาไปยุค B.C. 65,000,000 กันเลยจ้า.... 

เมื่อประตูเวลาเปิดมา จะพบว่าเรากำลังยืนอยู่บนอากาศ...อากาศ..?!! จ้าค...ร่วงซิครับ... ซึ่งตอนนี้เราอยู่ในหุบเขามหัศจรรย์ (Myst Mts.) ออกมาจะเจอกับไดโนเสาร์มากมาย ปราบไปเรื่อย ๆ จนชักจะอ่อนล้าซะแล้ว..ทำไงดี..เสร็จแน่เลย.. แต่..ทันใดนั้น..(อีกละ) จะมีสาวผมทองกระโดดมาช่วยจัดการศัตรูที่เหลือ คุยกันจะรู้ว่าเธอชื่อ ไอร่า (Ayla) แล้วก็จะนำทางไปที่หมู่บ้านอิโอก้า (Ioka) ที่อยู่ทางขวาบนของภูเขา เก็บข้อมูลให้ทั่ว (คุยกันรู้เรื่องด้วยแฮะ) และหาไอร่าให้พบ แล้วเธอจะพาพวกเราไปทักทายกับทุกคน แล้วลองไปคุยกับลุคก้า และมาร์ลดูนะครับ... จากนั้นก็ไปคุยกะไอร่า แล้วเธอจะท้าแข่งกินเหล้า อะโห...ปราบปีศาจมาได้ร้อยแปด เรื่องนี้เรื่องจ้อยจ้า...รับคำท้า แล้วกดปุ่มรัว A เพื่อให้ดื่มได้เร็ว (แพ้ก็ม่ายเปนราย...เอิ้ก..!๐๐!) ชนะได้จะได้หินแดงโดรี่สโตน แล้วทั้งหมดก็หลับไป. 

รุ่งเช้าตื่นขึ้นมาจะพบว่า เกทโฮลเดอร์ หายไป ฮือ..เอิ้ก..ฮือ..ฮือ..กลับบ้านไม่ได้แย้ว.. รีบไปหาไอร่าดีกว่า แล้วไอร่าจะช่วยออกตามหาด้วย แล้วก็จูงกันปายที่รังของแด็กไทด์ (Dactyl Nest) และป่าแห่งการล่าสัตว์ (Hunting Rage) 2แห่งนี้เหมาะมากครับที่จะเก็บ Level แล้วสะสมซากสัตว์ (Horn Fang etc.) เพื่อเอาไปแลกของที่กระท่อมขวาบน ไปคุยกับผู้เฒ่าแล้วเค้าจะให้เอาซากสัตว์ไปแลกไอเทมได้ (นาน ๆ ก็แวะมาสักทีนะครับ จะมีของอื่น ๆ มาให้แลกด้วย) โดยที่รังของแด็กไทด์ เหมาะแก่การเพิ่มความสามารถ และป่าแห่งการล่าสัตว์เหมาะที่จะสะสมซากสัตว์ (อ้อ..บางแห่งถ้ามีต้นไม้บังทางเดิน ก็ให้ลองกดเลข 3 เหมือนที่เคยทำใน A.D. 2,300นะครับ) 

ใน Hunting Range เราจะพบกับมอนสเตอร์ นู (ตัวสีฟ้าตาโต ๆ ) โดยทุกครั้งที่ฝนตกให้เดินไปดูที่บนริเวณ ซ้ายบนของป่า, ขวาบน และขวาล่างของป่า (จะโผล่มาแบบสุ่มครับ) ปราบได้ก็จะได้ไอเทมที่เพิ่ม ความแม่นยำในการโจมตี 2 เท่า ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ.... 

จากนั้นไปที่ป่าวงกต (Forest Maze) ทางด้านล่างของหมู่บ้านอิโอก้า จะเจ้าคิโน่ ตัวแสบ ซึ่งเป็นคนขโมยเกทโฮลเดอร์ของเรานั่นเอง ห๋า...โดนไดโนเสาร์มาขโมยไปอีกต่อเหรอเนี่ย...แสบจริงๆ คิโน่.. เดินสำรวจดูข้างในให้ทั่ว ด้านในสุดเราจะพบกับมนุษย์ไดโนเสาร์ อาซาร่า สุภาพชนครับเข้าไปคุยกับพี่ท่านดี ๆ ก่อน...น่าน..เรียกเจ้ามอนสเตอร์ นีชเบลออกมาเฉยเลย..พูดดีไม่รู้ก็ต้องลงไม้ลงมือกันหน่อยแล้วจ้า... กำจัดได้ เจ้า อาซาร่า จะเอาเกทโฮลเดอร์มาคืนให้ 

จากนั้นก็ให้กลับไปที่ภูเขามหัศจรรย์ โดยไอร่าจะแยกทางไป (ที่เราโผล่ออกมาจากประตูเวลา) ให้เราเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ จนสุดทางจะขึ้นกรอบถามว่า จะโดดไหม... กะจังหวะให้ดี ๆ แล้วโดดลงไปเล้ย... 

กลับมาที่ประสุดขอบกาลเวลา คุยกับผู้เฒ่า เราจะรู้ว่าต้องไปที่เมืองเมดิน่า ในปี A.D.1,000 (ที่ออกมาจากตู้กับข้าวนั่นแหละครับ) แล้วให้ไปที่กระท่อมลุงบอช แล้วลุงบอชกับลุคก้า จะช่วยกันซ่อมดาบมาซามูเน่กัน แล้วเราจะได้ดาบมาซามูเน่มา.... 

จากนั้นไปที่ปี A.D.600แล้วรีบนำดาบมาซามูเน่ไปให้ฟร็อค ที่ป่าต้องคำสาป จากนั้นฟร็อค ก็จะเล่าอดีตของตน กล่อมให้พวกโครโน่หลับไป..!??! อ้อ..ที่แท้ฟร็อคเคยเป็นคน แต่ถูกราชาปีศาจมากัสสาปให้เป็นกบนี่เอง เช้ารุ่งขึ้นฟร็อค ก็ตัดสินใจจะร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อกำจัดราชาปีศาจ สานต่อเจตนารมย์ของอัศวินไซรัส ต่อไป... 

จากนั้นให้พาฟร็อคไปที่ประตูสุดขอบกาลเวลา เพื่อไปให้สเปคคิโอ้ สอนเวทย์มนต์ให้ แล้วคุยกัยผู้เฒ่า จากนั้นก็กลับไปที่ A.D.600อีกครั้ง และตรงไปที่ถ้ำ Magic Cave ที่อยู่ทางขวาของกระท่อมฟีโอน่า เข้าไปแล้วฟร็อคจะนึกถึงอดีตอีกครั้ง แล้วจะใช้ดาบมาซามูเน่ฟัน เปิดกำแพงหินได้ ซึ่งจะเป็นหนทางไปสู่ปราสาทราชาปีศาจได้ ลุย..!@! เจ้าค่า... ระหว่างทางเดินจะมีค้างคาวบินตามมาด้วยแฮะ...เดินมาจนพบทางออก จะเจอทหารนอนอาบแดบอยู่คนหนึ่ง เซฮัลโล ทักทายกันหน่อย (จะบ้าเรอะ...เค้านอนบาดเจ็บปางตาย..เขียนซะยังกะตากอากาศเชียว..) อ้าว..เหรอ...ออกมาได้จะเจอกับปราสาทของราชาปีศาจ บุกเข้าไปสำรวจ และคุยกับคนในปราสาทดู (อึ๋ย..~ท่าทางน่ากลัวทั้งนั้น) แล้วให้เดินกลับมาด้านหน้าของปราสาทจะพบแสงสีเขียว (เหมือนแสงให้เซฟ) พอขึ้นไปดูจะพบ บีเนเกอร์เจ้าเก่าจะโผล่ออกมา แล้วก็จะเรียกสมุนออกมา ส่วนพี่แกบีเนเกอร์ ก็จรรีลี้หนีไป ปราบปีศาจพวกนี้แล้ว ไปสำรวจปนราสาทกันอีกรอบ จะเจอปีศาจอีกตรึม ปราบให้เกลี้ยง แล้วไปที่ด้านซ้ายสุดของปราสาท แล้วเราจะมาพบอีก 1ขุนพลปีศาจนั่นคือ ซอยโซ จัดการซะเลย สู้กันสักพัก แล้วมันก็จะหนีไป และทิ้งดาบซอยโซให้เรา... 

มาซ้ายสุด แล้วก็ต้องกลับไปทางขวาสุดของปราสาทด้วย (จะได้บาลานซ์กัน ว่างั้น) เมื่อสุดทาง เจ้าค้างคาวที่คอยบินตาม มันจะเผยโฉมหน้าแท้จริงออกมานั่นคือ ขุนพลตนสุดท้ายมาโยเน่ กำจัดให้ได้ แล้วให้เดินไปตรงที่ที่เคยพบบีเนเกอร์ และตรงหน้าปราสาทจะมีทางวาร์ปไปห้องราชาปีศาจ แต่จะพบบีเนเกอร์มาขวางทาง พี่ท่านก็จะแกล้งทำเป็นเรียกซอยโซ และมาโยเน่ ออกมาพร้อมกัน แล้วพี่ท่านก็ลี้หนีไปอีกเช่นเคย (ลูกเล่นเยอะนักนะเจ้าบีเนเกอร์) ตามครับ...ปล่อยไว้ไม่ได้ แต่ระหว่างทางก็จะมีกำดักอยู่ ซึ่งควบคุมโดยบีเนเกอร์) หมั่นเซฟไว้นะ จนในที่สุด เราก็เสียท่าตกลงมายังห้องที่มีปีศาจอยู่จนได้ แต่แค่นี้เด็ก ๆ ปราบมันซะ แล้วให้หาทางออกเดินกลับขึ้นไปใหม่ คราวนี้เดินระวัง อย่าให้ตกมาอีกนา..ไล่ตามบีเนเกอร์กันต่อ จน ถึงชั้นบนสุด บีเนเกอร์จะขนปีศาจมาสู้กับเราอีก เหอ...เหอ...ฆ่ามัน...แล้วไล่จับบีเนเกอร์ต่อ จนในที่สุดพี่แกก็คิดหันมาสู้กับเราแล้ว เย้...เตรียมเอาคืนให้สะใจเลยพวกเรา โดยมันจะสร้างบาเรียน้ำแข็งมาป้องกันตัว ให้โจมตีไปที่กลไกกำดักทั้ง 4 ตัว แล้วบีเนเกอร์จะถูกกำดักตัวเองเล่นงาน (เหอ..เหอ..ดาบนี้เอาคืนไป)กำจัดบีเนเกอร์ได้จะมีทางให้ไปหาราชาปีศาจ เข้าไปจนสุดเราจะได้พบกับราชาปีศาจมากัส (Magus) รวมพลังกันปราบเจ้ามากัสให้จงได้...ระหว่างการต่อสู้ จะเกิดประตูเวลาบานใหม่ขึ้น แล้วทั้งพวกโครโน่ และมากัสจะถูกประตูกาลเวลานี้ดูดเข้าไป 

มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่า เรากลับมาอยู่ที่หมู่บ้านอิโอก้า ในปี 65,000,000 อีกครั้ง โดยไอร่าเป็นคนพบพวกเรา หลังพักผ่อนแล้วในตอนเช้า คิโน่จะมาบอกว่าชาวบ้านอิโอก้า จะรวมพลังกับชาวบ้าน ลารูบ้า (Laruba Ruins) ที่เห็นมีอยู่กระท่อมเดียวกลางต้นไม้ด้านบนน่ะครับ เพื่อต่อสู้ขั้นแตกหักกับพวกไดโนเสาร์ และจะมีอีกคนวิ่งมาบอกว่าไฟไหม้ที่ลารูบ้า ไทยมุงครับไทยมุง...ไปมุงกันเร็ว ไปถึงก็เจอไอร่ามามุงอยู่ก่อนแล้ว (บ๊ะ..!! ตัดหน้าเราได้ไง) แล้วไอร่าจะขออณุญาตใช้เพทูรัน จากหัวหน้า 

จากนั้นให้เราขึ้นไปที่ยอดเขาของรังเพทูรัน จะพบไอร่ากำลังเรียกเพทูรันอยู่ ไปคุยไอร่าจะรู้ว่า เธอกำลังจะไปปราบเจ้าพวกไดโนเสาร์ ช่างเด็ดเดี่ยวจริง ๆ แต่แหม..พี่ท่านอุตส่าห์ช่วยเราไว้ เราจะไม่ช่วยเค้าบ้างได้ไง....จูงกันไป..จูงกันไป..ไปที่ถ้ำทีรัน (Lair Ruins เวลาอ่านใส่ทำนองจิงเกิ้ลเบลด้วย..) ที่อยู่ทางด้านขวาของหมู่บ้านอิโอก้า...แล้วก็..บุกจ้า..!! เข้าไปดูทั่ว ๆ เจอเชลย ก็ปล่อยพวกเขาด้วยนะครับ อ้าว..คิโน่ก็ถูกจับมาด้วย 

หลังจากที่ไอร่าช่วยคิโนออกมาได้ คิโน่ก็จะนำทางไป และไปเปิดทางเดินต่อให้ แล้วพวกเราก็บุกกันต่อ.. กลางทางเราจะพบกับเจ้านีชเบลอีกครั้ง อ้อ..Power up มาด้วยแหละ กำจัดให้ได้ แล้วบุกต่อไปจะพบอาซาร่า แล้วก็จะหนีไป ตามไปจนสุด จะเจออาซาร่า และแบล็คแคท...เอ๊ย..แบล็คทีราโน่ อ่ะ..ฮ้า... 2 รุม 3 เหรอ ไม่หวั่นอยู่แล้ว 

หลังจากปราบเจ้า 2ตัวนั่นได้ จะมีดาวตกมาจากท้องฟ้า...มันมาแล้วครับพี่น้อง...ศัตรูที่แท้จริงของพวกเรา..จอมปีศาจราวอส...(Lavos) โดยจะตกลงมาที่ถ้ำทีรันพอดี แล้วคิโน่จะรีบพาเพทูรันมารับพวกโครโน่ได้ทันเวลาพอดี 

จากนั้นให้กลับเข้าไปสำรวจในซากของถ้ำทีรันอีกที แล้วจะเจอกับประตูเวลาบานใหม่ เข้าไปเลยจ้า...แล้วจะมาโผล่ที่ถ้ำในปี B.C.1,200 ซึ่งเป็นโลกยุคน้ำแข็ง สำรวจดูรอบ ๆ แล้วทางด้านขวา เราจะพบประตูสู่สวรรค์ (เขาเขียนมางี้ง่ะ..) เข้าไปยืนบนแท่น จะถูกส่งไปที่เกาะลอยฟ้าได้ แล้วให้เราไปที่เอนเฮอร์ซา ที่อยู่ใกล้ ๆ เก็บข้อมูลให้หมด ก็จะรู้ว่า เรากำลังอยู่ในอาณาจักรเวทย์มนต์ซีล จากนั้นให้ใช้ถนนสู่พิภพ ที่อยู่ด้านบนกลับลงไปที่พื้นดินส่วนใหม่ 

เมื่อถึงพื้นแล้ว ให้เดินไปททางด้นบน จะมีถนนสู่สวรรค์อันใหม่ ให้เราขึ้นไปบนอาณาจักรเวทย์มนต์ซีล โดยครวนี้จะมาอยู่ที่เกาะใหญ่ของอาณาจักร ให้สำรวจที่คาจาล ซึ่งเป็นที่สร้างเรือเหาะนกสีดำก่อน เราจะเจอชายชื่อดัลตอน จากนั้น ก็ไปที่ทางขึ้นพระราชวังซีลด้านขวา เก็บข้อมูลตามธรรมเนียม 

ในพระราชวัง จะพบว่าที่ด้านบนจะมีประตู 3บาน ห้องซ้ายจะเป็นห้องพลังงานของอาณาจักรซีล ห้องกลางจะเป็นประตูที่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษมาเปิด (ซึ่งประตูแบบนี้จะมีอยู่ในปี A.D.2,300ด้วยนะ นึกออกไหมเอ่ย..) และห้องขวาจะเป็นห้องของซาร่า และจากิ 

ให้เข้าไปที่ห้องขวา คือห้องของซาร่า จะพบว่าซาร่ากำลังคุยกับจากิอยู่ สักพักจะมีคนมาตามซาร่าไปที่ห้องกลาง ตามไปเลยครับ ไปถึงจะเห็นซาร่าใช้สร้อยคอเปิดประตู เอ๊ะ...เหมือนกับของมาร์ลเลยนี่ ไหนลองเอาออกมาใช้บ้างจิ๊...ไม่มีปฏิกริยาเลย อืม...ต้องพลิกแพลงกันนิดหน่อย ลองไปเข้าห้องพลังงานทางซ้าย แล้วเอาสร้อยของมาร์ลไปอาบแสงดู แล้วลองเอากลับไปเปิดประตูกลางอีกที อ่ะ.ฮ้า..ได้ผลแฮะ...เปิดได้แย้ว... เข้าไปแล้วจะพบว่านี่เป็นห้องท้องพระโรง จะมีราชินี ซาร่า ดัลตอน และโหรของอาณาจักรซีลอยู่ในนั้น พอพวกเขาเห็นเรา ดัลตอนจะเรียก โกเลมมาสู้กับเรา จัดการเสีย...แต่แล้วเราก็ถูกจับตัวจนได้ แล้วเราจะถูกนำไปขังไว้ในเตาพลังงาน....แล้วพวกโครโน่ก็จะถูกขังลืมอยู่ในนั้นชั่วกัลปวาสาน...จบ...ซะเมื่อไรเล่า.... 

ในหมู่คนไม่ดียังมีคนดี ซาร่า จะเข้ามาช่วยปล่อยเราออกมา แต่เรื่องมันไม่ง่ายอย่างนั้น เจ้าโหร ได้เข้ามาขวางทันที แต่ซาร่า และจากิจะไม่ยอมแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้มากนัก เจ้าโหรได้ทีจึงเสนอข้อต่อรองให้ซาร่าให้พลังมาช่วยในการปลุกราวอสให้คืนชีพ เพื่อแลกกับชีวิตของพวกโครโน่ ซาร่าจำใจต้องยอมรับแต่โดยดี แล้วโหรก็จะเอาพวกโครโน่มาปล่อยไว้ในปี B.C.65,000,000แล้วประตูเวลาบานนั้นจะถูกผนึกปิดตายไป 

ไปไม่ได้ก็ยังไม่ต้องไปเนอะ..ไปที่ A.D.2,300 ดีกว่า จากนั้นกลับเข้าไปสำรวจในโดมต่าง ๆ อีกครั้ง อันนี้ไม่ไปก็ไม่เป็นไรครับ แค่แนะนำเฉย ๆ คือลองไปหาประตูที่มีลักษณะเหมือนในพระราชวังซีล แล้วใช้สร้อยของมาร์ลดูก็จะเปิดได้ ซึ่งในนั้นจะมีไอเทมเจ๋ง ๆ เพียบครับ อ้อ...ยังจำเจ้าก้อนสี่เหลี่ยม ๆ ที่อยู่ตามบ้านในยุค A.D.600ที่เมื่อเข้าไปเปิดแล้วจะไม่เกิดอะไรขึ้นได้ไหมครับ เจ้าก้อนพวกนี้ใช้สร้อยของมาร์ลเปิดได้เหมือนกันครับ ในนั้นจะมีไอเทมป้องกันเวทย์มนต์ดี ๆ ครับ ยุคอื่นก็มีบ้าง 

แต่ที่ต้องไปแน่คือที่ทางเดินน้ำใต้ดิน (Sewer Access) ที่อยู่ทางด้านขวาของอริสโดม (Arris Dome) เดินให้ทั่วครับ (เวลาเห็นซอกทางเดินเล็ก ๆ ลอง เดินชนที่ซอกทางเดินเล็ก ๆ นั่นแล้วไล่ไปตามกำแพงดูครับ จะเดินต่อเข้าไปได้) ถ้าเห็นปุ่ม หรือขีดสีเขียว ๆ ตามผนังก็ตรงเข้าไปกดเลยนะครับ... 

สำรวจให้ทั่วในที่สุดก็จะเจอมอนสเตอร์ที่ชื่อ โครรี่อยู่ที่นี่ ปราบมันแล้วหาทางออกให้พบ โดยเมื่อออกจาก Sewer Access แล้ว จะพบว่าเราได้ข้ามมาอีกเกาะหนึ่ง ซึ่งจะมีสถานที่อยู่ 2แห่ง ให้เราไปที่โดมของผู้คุ้มครองก่อน (Keeper' s Dome) เราจะพบมอนสเตอร์คล้ายกับ Guru (ถ้ามาก่อนหน้านี้ จะพบผู้เฒ่าคนหนึ่ง) คุยกับเขา แล้วเดินเข้าไปเปิดประตูด้านใน เข้าไปจนสุดเราจะพบกับสุดยอดแห่งยานพาหนะเข้าไปสำรวจดู แล้ว Guru จะเอาค็อกพิทมาใส่ให้ คุยกับ Guru ก็จะรู้ว่ายานลำนี้เป็นไทม์แมชชีน ชื่อ Epoch ลองใช้เลยครับ หลังจากขึ้นไปแล้ว ปุ่ม Y จะเป็นการเริ่มเปลี่ยนเวลา ปุ่ม L, R ใช้ปรับยุคที่ต้องการจะไป ปุ่ม B ยกเลิก รวมทั้งออกจากยานด้วย 

แล้วใช้ยาน Epoch ไปที่ End of Time ไปคุยกับผู้เฒ่า (แวะเข้าไปเยี่ยมเจ้า สเปคคิโอ้ด้วยก็ดีครับ ถ้าร่างมันเปลี่ยน ก็ลุยเลย...) จากนั้นขึ้น Epoch แล้วกลับไปปี B.C.1,200ไปเย้ยเจ้าโหรแห่งอาณาจักรซีลกันหน่อยดิ๊... ถึง B.C.1,200 แล้วให้ไปที่ถ้ำ ที่อยู่ทางด้านขวาบนดู จะพบหมู่บ้านคน เข้าไปรวบรวมข่าวสาร แล้วไต่ลงไปชั้นล่างสุด จะพบปีศาจ จัดการให้หมด แล้วจะมีโซ่ให้ปีนขึ้นไปบนภูเขาลอยฟ้า สำรวจทางให้ทั่ว และที่ด้านในจะมีหินผลึกอยู่ แล้วหินนั้นก็หายไปกลายเป็นปีศาจกีก้าไกอา โผล่ออกมาแทน กำจัดมันให้ได้ แล้วก้อนผลึกนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นลุงบอช นั่นเอง คุยกับเขา แล้วจะทำให้พายุหิมะสงบลง และจะทำให้ภูเขาลอยฟ้าถล่มลงมา 

แล้วพวกโครโน่กับลุงบอช ก็จะมาอยู่ในหมู่บ้านคน คุยกันแล้วซาร่า กับจากิ ก็จะออกมาร่วมวงสนทนาด้วย แล้วดัลตอนก็จะตามมาอีกคน เขาจะทำร้ายจากิกับลุงบอช เพื่อบีบบังคับให้ซาร่าตามไป.... 

จากนั้นก็พาตัวซาร่าและจากิกลับไป ให้เรากลับไปคุยกับลุงบอช แล้วเขาจะให้มีดเรามา จากนั้นบุกไปเอาคืนพวกดัลตอนที่พระราชวังซีลกันเลย ให้ไปที่ท้องพระโรงก่อน จะพบกับดัลตอน จัดการซะ แล้วดัลตอนก็จะหนีปาย....ตามซิครับ...ตามลงไปเลยครับ เราจะไปโผล่ที่ฐานลับใต้ทะเล สำรวจทางให้ทั่ว เก็บไอเทมให้เกลี้ยง แล้วหาทางลงไปชั้นล่างของฐาน แล้วจะพบลิฟท์ที่ใช้ลงไปข้างล่าง ระหว่างลงจะมีศัตรูโผล่มาด้วย กำจัดให้หมด ถึงพื้นแล้วก็สำรวจต่อพร้อมกดสวิทช์เปิดทางด้วยนะ. 
ด้านในเราจะเจอกับดัลตอนอีกครั้ง.ไปเรียกโกเลมมาเฉยเลย..ตั้ง 2ตัว จัดการให้ได้ แล้วเข้าไปห้องในสุด จะพบราชินี ซาร่า และโหรแห่งซีล 

และแล้วก็จะถึงเวลาที่เจ้าราวอส จะตื่นขึ้น โครโน่จะใช้มีดที่ได้จากลุงบอช ขว้างใส่ราวอส พร้อมกับซาร่าจะมารวมพลังสู้ด้วย อา...ไม่ทันแล้ว...มันตื่นขึ้นมาแล้ว คงต้องลุยกับมันแล้วล่ะ แต่กำลังของพวกเราตอนนี้ไม่อาจจะต้านทานความแข็งแกร่งของราวอสได้ ขณะที่พวกเรากำลังโดนราวอสโจมตีปางตาย และแล้วโหรแห่งซีล ก็จะเผยร่างที่แท้จริง ซึ่งนั่นก็คือ ราชาปีศาจมากัส นั่นเอง 

จากนั้นราชินีจะเข้าร่วมกับราวอสต่อสู้กับมากัส ผลคือราชาปีศาจมากัส ก็ไม่อาจต้านทานเจ้าราวอสได้เช่นกัน แล้วราชินีจะให้ราวอส ฆ่าพวกเราทุกคน โครโน่จะเข้าไปคุยกับมากัส ในขณะที่ทุกคนกำลังถูกราวอสดูดเข้าไปใกล้เรื่อย ๆ ขืนปล่อยไว้แบบนี้มีหวังตายกันหมดแน่ โครโน่จึงตัดสินใจ เข้าไปรับพลังราวอสด้วยร่างกายของตัวเอง เพื่อรักษาชีวิตเพื่อน ๆ ไว้...จนตัวเองต้องตายไป เหลือไว้แต่สร้อยของมาร์ลที่กระเด็นออกมา 

ซาร่าได้จังหวะจึงใช้พลังครั้งสุดท้าย ส่งพวกเราที่เหลือ และราชาปีศาจมากัส กลับลงสู่พื้นโลก...หมดแล้วซึ่งขวางหนามของราวอส ราวอสจึงโจมตีอาณาจักรซีลจนย่อยยับ...และเศษซากหินจากอาณาจักรซีล ก็จะตกลงมายังพื้นโลก จนทำให้เกิดคลื่นยักษ์ซัดขึ้นมากวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างบนพื้นดิน... 

พอตื่นฟื้นขึ้นมาจะพบว่าได้มาอยู่กับชาวบ้านที่รอดชีวิต เพื่อน ๆ ทุกคนรู้สึกเสียใจต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของโครโน่ แต่แล้วด้วยความฉลาดของลุคก้า จึงพบว่าเรายังมีหนทางที่จะช่วยชีวิตโครโน่ได้ กุญแจสำคัญคือ "กาลเวลา" มีความหวังแล้วซิ เอาล่ะ..รวบรวมกำลังใจ..แล้วออกไปคุยกับคนในหมู่บ้าน ก็จะรู้ว่าจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้คนในอาณาจักรซีล และคนบนพื้นพิภพสามารถมาอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ กันอีกต่อไป จากนั้นให้เราไปที่ลานกว้างของหมู่บ้าน (ถ้าไปคุยกับผู้หญิงที่มีต้นไม้อยู่ข้าง ๆ ให้เราตอบเขาว่าให้ปลูกต้นไม้นี้ต่อไปนะครับ) ไปคุยกับผู้เฒ่าของหมู่บ้าน...แล้วเจ้าดัลตอนจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง... 


ตอนนี้เจ้าดัลตอนกำลังมักใหญ่ใฝ่สูง หมายจะเป็นผู้ปกครองแผ่นดิน แล้วมันจะมาทำร้ายพวกเราจนสลบไป แล้วนำตัวไปขัง พอตื่นขึ้นมาเราจะพบว่าเราถูกจับมาเข้าคุกบนยานนกสีดำซะแล้ว และของทุกอย่าง รวมทั้งยาน Epoch จะถูกยึดไปหมดเลย ลองไปสำรวจที่กำแพงคุกด้านหลัง จะมีช่องลมให้ปีนขึ้นไปได้ ตรงที่มีแสงส่องขึ้นมา เราจะมองลอดผ่านลงไปได้ครับ โดยคนที่จะได้อาวุธมาก่อนก็คือ มาร์ล (มั้ง..) จากนั้นก็ไล่ตามเก็บของให้ครบ 

ได้ของครบแล้วให้หาทางไปที่ปีกของยาน (ถ้ายังได้ของมาไม่ครบ เขาจะถามความแน่ใจว่าจะไปต่อหรือไม่ เพราะเราจะไม่มีโอกาสกลับไปตามเก็บอีก) เดินสำรวจปีกให้ทั่ว ๆ อย่าปีกไหม้ดำเกินไปนัก แล้วเราจะพบเจ้าโกเลมอีก สู้กันสักพักมันจะหนีไป เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าดัลตอนดัดแปลงยาน Epoch เสร็จ ติดอาวุธซะด้วย แล้วมันก็จะเอา Epoch มาสู้กับเรา ยานของเราเขาเอาไป จะยอมได้ไง...(สำนวนโบราณจัง) บุกแล้วยึด Epoch คืนมาให้ได้.... สู้กันสักพักดัลตอนก็จะเรียก..เรียกใครเอ่ย...ใช่แล้วครับท่าน...เรียกโกเล็ม...แล้วตัวพี่ท่านก็หนีไป. 

ในที่สุดก็เอายานคืนมาได้ อะ..ฮ้า..ได้อาวุธแถมติดมาด้วย ดาบนี้คืนสนอง...ยิงเลเซอร์จาก Epoch ใส่เจ้านกสีดำให้ร่วงไปเลย...(ลองกดปุ่ม A, B, X, Y) จากนั้นให้กลับไปเก็บข่าวสารในหมู่บ้าน แล้วให้เดินขึ้นไปด้านบนของหมู่บ้าน แล้วเข้าไปที่ แหลมทางตอนเหนือ (North Cape) จะพบราชาปีศาจมากัส เข้าไปคุยดูเราจะรู้ประวัติพี่ท่าน (ยังกับเมาคลีลูกหมาป่าแน่ะ..แต่นี่มากัสลูกปีศาจ..) คุยไปคุยมาเป็นเรื่องซะแล้ว มากัสจะถามว่าจะสู้กันอีกไหม ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องต่อสู้กันต่อไป ให้ปฏิเสธ แล้วเดินจากมา...มากัสเหมือนจะสำนึกได้ กอปรกับมีศัตรูเป็นคนเดียวกัน มากัสจึงขอร่วมเดินทางไปกับพวกเราด้วย 

แล้วกลับไปที่ยาน Epoch เดินทางไป End of Time ระหว่างทางเราจะเห็นป้อมปราการลอยฟ้าโผล่ขึ้นมาจากใต้ทะเล โอ..ราชินีแห่งอาณาจักรซีล และราวอส กำลังจะครองโลกได้สำเร็จแล้วหรือนี่.... 

เมื่อมาถึง End of Time ให้เข้าไปคุยกับผู้เฒ่า เขาจะรู้สึกชื่นชมในความเสียสละของโครโน่ และเสียใจในการจากไปของเขา แล้วผู้เฒ่าแต่งเพลงเพื่อระลึกถึงโครโน่ด้วย แล้วให้เราเดินกลับไปขึ้นยาน ผู้เฒ่าจะเรียกกลับไปคุยต่อ พร้อมกับมอบไข่แห่งเวลามา 

จากนั้นให้ตรงไปที่โดมของผู้คุ้มครอง (Keeper's Dome) ในปี A.D.2,300 คุยกับมอนสเตอร์ข้างใน แล้วก็จะได้ข่าวดีว่า ที่หุบเขามารที่อยู่ทางขวาของ Keeper' s Dome มีแหล่งพลังงานพิเศษที่สามารถชุบชีวิตคนตายได้ แต่การจะชุบชีวิตโครโน่ก็ต้องย้อนเวลากลับไปเอาโครโน่มาก่อนที่จะโดนพลังของราวอส แต่ถ้าเอาโครโน่มาในตอนนั้น เพื่อน ๆ ของโครโน่ก็จะต้องตาย และเพื่อน ๆ ที่เรากำลังบังคับอยู่ก็ต้องหายไปแน่เลย จึงต้องไปหาตัวแทนมารับพลังราวอสก่อน นั่นก็คือ...ไปเอาหุ่นตุ๊กตาโครโน่ ในปี A.D.1,000 ทำไมคิดง่ายจัง... 

คุยกับมอนสเตอร์แล้ว ก็มุ่งไปปี A.D.1,000 กันเล้ย แล้วไปที่รีเน่สแควร์ แล้วตรงไปที่เต๊นท์ด้านขวาสุดของบ่อน้ำพุ เต๊นท์ที่มีหัวกระโหลกปีศาจ เข้าไปคุยกับตัวตลก ให้เขาช่วยทำหุ่นจำลองให้ และต้องเสีย 40 Silver points 

แล้วเราก็ต้องผ่านการทดสอบด้วย โดยเขาจะเรียกเจ้าหุ่นจำลองออกมา แล้วให้เราทำท่าทางตามให้ได้ (ปุ่ม L ยกมือซ้าย R ยกมือขวา Y หัวเราะ A ตกใจ) ผ่านการทดสอบได้ หุ่นจำลองจะถูกส่งไปอยู่ที่บ้านโครโน่ที่ชั้น 2 กลับไปที่บ้านโครโน่กันเถอะ...ได้หุ่นแล้ว คุยกับแม่โครโน่สักหน่อย แล้วกลับไปที่ Keeper' s Dome ในปี A.D.2,300 อีกครั้ง คุยกับมอนสเตอร์ แล้วเขาจะส่งหุ่นช่วยเหลือไปที่หุบเขามรณะก่อน คุยกับมอนสเตอร์อีกครั้ง แล้วให้เรากดสวิทช์ปิดของหุ่นช่วยเหลือ จากนั้นก็ไปที่หุบเขามรณะ (Death Peak) ที่ด้านขวาบน 

เข้าไปแล้วจะเจอหุ่นที่ถูกส่งมา (ช่วงนี้ภาพอาจมองไม่เห็นให้กดเบอร์ 3 สลับกันไปไปคุยกับหุ่น แล้วเขาก็จะแปลงร่างเป็นเป็นต้นไม้ ช่วยบังลมให้เราเวลาที่ลมพัดแรง ๆ (ช่วงนี้อาจจะลำบากหน่อยนะครับ เพราะต้องกด 3 สลับกันไปมาเพื่อดูกระแสลม และดูต้นไม้ที่เราจะต้องเข้าไปหลบ อาจจะใช้วิธีฟังเสียงกระแสลม แทนก็ได้นะครับ...พยายาม และ สู้..สู้..ไม่เกินเอื้อมแน่จ้า) จากนั้นก็ขึ้นไปบนภูเขาให้ได้ สำรวจทางให้ทั่ว ในนี้จะมีปีศาจคล้ายราวอส อยู่หลายตัว ซึ่งจะมีบันไดอยู่แห่งหนึ่งจะอยู่สูงเกินไปปีนไม่ถึง ก็ให้เราไปดันเจ้าซากปีศาจคล้ายราวอสนี้ ไปไว้ใต้บันไดแล้วปีนตัวซากขึ้นไป ก็จะไต่บันไดต่อไปได้ 

ไปให้ถึงยอดของภูเขา แล้วสร้อยคอของมาร์ลก็จะเรืองแสง และพุ่งเข้าไปที่ไข่แห่งเวลา ทำให้ไข่นั้นแตก..ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...อะไรกันนี่...ไม่สำเร็จหรือ...ทันใดนั้นก็จะเกิดสุริยคราสขึ้น พร้อมกับประตูเวลา แล้วพวกเราก็จะถูกดูดเข้าไปในช่วงที่โครโน่กำลังจะตาย โดยขณะนั้นเวลาก็จะถูกหยุดเอาไว้ ให้เราไปที่โครโน่ แล้วเปลี่ยนเอาหุ่นไปวางแทนที่โครโน่ซะ... แล้วพวกเราทั้งหมดก็จะกลับมาที่ยอดเขาอีกครั้ง...จากนั้นขอเชิญชมฉากที่น่าประทับใจยิ่งจ้า..... 

เอาล่ะครับ...ย้อนกลับไปที่ End of Time ไปคุยกับผู้เฒ่าอีกที จากนั้นกลับไปที่ A.D.1,000 โดยให้ไปที่เกาะโจรัล (Choral)ทางด้านขวาล่าง ที่เป็นเกาะอยู่โดด ๆ เข้าไปรวบรวมข้อมูล แล้วให้ไปที่แหลมทางด้านซ้าย (West Cape) จะพบหลุมศพของโทม่า (Toma) แล้วให้เราย้อนเวลามาที่หมู่บ้านโจรัลในปี A.D.600 แล้วให้เข้าไปในคาเฟ่ (Cafe) แล้วไปคุยกับชายชื่อโทม่า รู้สึกว่าจะคุยถูกคอกันนะ แล้วเขาจะฝากเหล้าไว้กับเรา...(เหอ..เหอ..แผล่บ..ดื่มเหล้าม่ายดีเน่อเด็ก ๆ เอิ้ก...) แล้วขอให้เราเอาเหล้าไปเยี่ยมโทม่า ในตอนที่เขาตายไปด้วย (อะ..โห..มันมองการณ์ไกล..ขนาดตายยังไม่เว้นเล้ย..) เพื่อนขอมาก็ทำให้ซะเลย..กลับไปที่โจรัลในปี A.D.1,000 แล้วเอาเหล้าไปที่หลุมศพโทม่าตามคำขอ แล้ววิญญาณของโทม่าจะปรากฎขึ้นมา แล้วบอกเป้าหมายต่อไปให้ นั่นคือแล็บแห่งยักษ์(Giant' s Claw) ในปี A.D.600 ซึ่งเป็นเกาะอยู่ด้านซ้ายของเกาะโจรัล 

เข้าไปสำรวจข้างใน ในห้องด้านซ้าย ที่พื้นห้องจะมีปุ่มสลักเปิดปิดอยู่ เหยียบให้หมด มีอันหนึ่งจะทำให้เกิดหลุม และโดดลงหลุมมาที่ทางใต้ดิน แล้วเดินต่อไปให้สุดทาง แล้วจะพบรุสท์ ทีราโน่ ตัวเบ้อเริ้มอยู่ข้างใน ให้เข้าทางข้าง ๆ ของมัน เหมือนจะไม่ต้องสู้..แต่ก็ต้องสู้กันจนได้...ลุย... 

เข้าไปอีกเราจะพบเปลือกหอยสายรุ้ง เข้าไปสำรวจดู แต่เอาออกมาม่ายด้าย...(แหง๋ล่ะขะ...อันเบ้อเริ่มเทิ่มเลย) ให้เรากลับไปที่ปราสาทกัลเดีย ไปคุยขอความช่วยเหลือจากพระราชา แล้วท่านก็จะส่งเหล่าทหารไปนำเปลือกหอยสายรุ้งออกมมา จากนั้นให้ไปปีที่ B.C.1,200 ไปที่ลานกว้าง แล้วคุยกับผู้หญิงที่มีต้นไม้ คุยกับเธอ แล้วตอบเธอให้ปลูกต้นไม้นั้นต่อไป แล้วกลับไป A.D.600 อีกครั้ง 

ไปที่กระท่อมของฟีโอน่า (Feona' s Villa) ที่เห็นเป็นบ้านหลังเดียวอยู่ด้านล่าง ๆ ของปราสาทกัลเดีย (ข้ามสะพานไป) เข้าไปคุยกับฟีโอน่า และมัลโก้ เราจะรู้ว่าเขาพยายามที่จะปลูกป่า แต่ทำไม่ได้เพราะมีปีศาจ และทะเลทรายอยู่ข้าง ๆ บ้าน จากนั้นให้ไปที่หลุมทรายดูดที่อยู่ข้าง ๆ บ้านฟีโอน่า..?!! ลงไปเลย..(ฉากอาจเลือนต้องกด 3 ช่วย) เข้าไปข้างในสุดจะเจอกับปีศาจคล้ายแมงมุม ในห้องที่มันอยู่ บนทรายที่เราเดินยิ่งอยู่บนทรายนาน ๆ พลังเราจะถูกดูดไปเรื่อย ๆ ลองเช็คสถานะดู..ชนะได้แล้วให้กลับไปคุยกับฟีโน่า...ตอนนี้เธอก็สามารถปลูกป่าได้แล้ว... 

จากนั้นให้บินไปที่ด้านขวา เหนือ Giant' s Claw นั่นก็คือที่ป้อมของบีเนเกอร์ (Ozzie' s Fort) เหอ...เหอ..มาอีกแล้ว..คราวนี้จะไม่ให้หนีได้เลย...อ้อ...หลังจากที่ราชาปีศาจมากัสถูกดูดเข้าประตูเวลาไปคราวนู้น..แล้ว พี่แกก็ฉวยโอกาสสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นจอมปีศาจบีเนเกอร์ซะเลย อะไรมันจะขี้โกงปานนั้น... 

เข้าไปข้างในก็จะเจอเจ้าปีศาจตัวดียืนอยู่แล้ว เหมือนเดิมครับ...หนีอีกแล้ว..พร้อมกับส่งซอยโซ และมาโยเน่ออกมา จัดการให้หมด แล้วไล่ตามบีเนเกอร์เข้าไป บีเนเกอร์หนีมาจนถึงห้องสุดท้าย จนตรอกแล้ว...คราวนี้ก็จะหันมาสู้กับเราล่ะ..โดยมันจะสร้างบาเรียน้ำแข็งป้องกันตัวเอาไว้ ให้เราโจมตีไปที่สวิทช์ 3 อันที่อยู่ด้านหลัง..ถ้าตกลงไปข้างล่างก็ไม่เป็นไรครับ กลับขึ้นมาลุยใหม่ สักพักจะมีแมวตัวหนึ่ง มาจากไหนไม่รู้วิ่งไปกดสวิทช์ เปิดช่องทำให้บีเนเกอร์เสร็จกับดักตัวเองอีกครั้ง..เหอ..เหอ..สะจาย..แต่เจ้าแมวตัวนี้มาจากไหนก็ไม่รู้ ขนาดเล่นจบไปแล้วยังไม่มีเฉลยเลย.. 

จากนั้นให้กลับไปหาฟีโอเน่อีกครั้ง คราวนี้เอาหุ่นโรโบมาเข้ากลุ่มด้วย โรโบจะไปคุยกับฟีโอน่า แล้วจะอาสาอยู่ช่วยฟีโอน่าปลูกป่าเพื่อมนุษยชาติรุ่นต่อ ๆ ไปแยกกับโรโบแล้ว ให้ข้ามเวลาไปที่ปี A.D.1,000 ตรงบริเวณที่เป็นบ้านของฟีโอน่า ตอนนี้จะกลายเป็นป่าแล้ว...โรโบทำสำเร็จแล้ว..และตรงที่แต่เดิมเป็นบ้านฟิโอน่า ตอนนี้ก็กลายเป็นวิหารฟีโอน่า (Feona' s Shrine) ไปแล้ว..เข้าไปสำรวจดู เราจะพบกับโรโบ ที่ตอนนี้ถูกทำให้หยุดการเคลื่อนไหวมาถึง 400 ปีแล้ว นำเอาโรโบออกมา แล้วพวกเราทุกคนก็จะเข้าไปพักในป่านั่นเอง แล้วลุคก้าจะช่วยซ่อมแซมโรโบให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง 

ฝ่าฟันกันมามากแล้ว ตอนนี้ก็มาหยุดพักเติมแรงกายแรงใจกันบ้าง... ตกดึกทุกคนก็หลับไป...แต่ลุคก้าจะตื่นขึ้นมากลางดึก...ให้เราเดินไปทางขวา ก็จะพบประตูเวลาบานใหม่ เหมือนมันจะโผล่ขึ้นมาเพื่อลุคก้าโดยเฉพาะ...เข้าไปเลยครับ.. 

ออกจากประตูเวลา ก็จะพบว่าตอนนี้ลุคก้าอยู่ที่บ้านตัวเอง สมัยที่เขายังเป็นเด็ก เมื่อปี A.D.990 สำรวจบ้านระลึกความหลังกันหน่อย อ่านโน้ตทุกฉบับ 

แล้วให้เดินมาที่ด้านหน้าของบ้าน จะพบแม่ลุคก้า และลุคก้าวัยเด็กอยู่ พร้อมกับมีเครื่องจักรเครื่องใหญ่ตั้งอยู่กลางบ้านซึ่งกำลังทำงาน และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น.!!.. แม่ของลุคก้าพลาดชายกระโปรงถูกสายพานเครื่องจักรนั้นดูดเข้าไป อ้อ..!! นี่เองที่เป็นสาเหตุที่ทำให้แม่ลุคก้าต้องพิการ และเกลียดพวกเครื่องจักร... 

เป็นโอกาสของลุคก้าแล้วที่จะเปลี่ยนประวัติศาสตร์ช่วยคุณแม่... ให้รีบวิ่งไปกดรหัสหยุดเครื่องที่แผงควบคุม โดยกดปุ่ม L, A, R, A ตามลำดับ (ถ้ารหัสถูกจะมีเสียงดังทุกครั้งที่กดครับ) ซึ่งรหัสนี้ก็คือชื่อของแม่ลุคก้านั่นเอง (หากช่วยไม่ทันก็ลองโหลดใหม่ หรือปล่อยไว้ก็ได้ครับ...ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้ายังพิการอยู่ฉากจบจะเป็นไง..) (สมมติว่า)สำเร็จ ช่วยแม่ลาร่าได้แล้ว ก็ใช้ประตูเวลาบานเดิม กลับไปยังปี A.D.1,000 

ออกมาจะพบโรโบกำลังยืนรออยู่ คุยกับโรโบ แล้วเขาจะให้ GreenDream (ฝันสีเขียว !?? ใช้ทำไรหนอ..) เช้าแล้วครับ...รีบกลับไปที่บ้านลุคก้า ไปดูผลงานที่เพิ่งทำไว้เมื่อคืนเร็ว... ผลหรือครับ..คุณแม่เธอเดินปร๋อเชียว..สำเร็จ..เย้..(แต่ยังขี้บ่นเหมือนเดิมแฮะ..) 

จากนั้นก็ข้ามเวลากันต่อ ไปที่ปี A.D.2,300 จากโปรโตโดม (Proto Dome) ไปทางขวาล่าง จะพบกับจีโน่ เด็กน้อย..เอ๊ยไม่ใช่ จะพบจีโน่โดม (Geno Dome) เข้าไปจะพบคอมพิวเตอร์อยู่ แต่ไม่มีใครใช้ได้นอกจากโรโบ ดังนั้นซีรี่นี้ยกหน้าที่พระเอกให้โรโบซะดี ๆ หลังจากโรโบมาใช้คอม ก็จะทำให้ประตูเปิดได้ 

สำรวจให้ทั่ว หาคอมที่อยู่กลางห้อง แล้วที่ข้าง ๆ คอมเครื่องนั้น จะมีประตูให้โรโบเข้าไปชาร์ตไฟซะ จะมีกระแสไฟฟ้าติดตัวโรโบ ก่อนกระแสไฟจะหมด ให้วิ่งเข้าไปในช่องประตูลักษณะเดียวกันตามจุดต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ประตูลมข้าง ๆ เปิดได้ มีประตูบานนึงจะเปิดได้เมื่อเรากดสวิทช์สี 3 อันให้ถูกก่อน คือ ซ้ายขวาเป็นสีแดง อันกลางสีเขียว จากนั้นก็ให้โรโบกลับไปชาร์ตไฟมาเปิดประตู เข้าไปเก็บตุ๊กตา..(Doll) 

อ้อ...สังเกตดี ๆ เราจะเห็นลูกศรเขียวตรงกำแพง หมายความว่าเราสามารถทะลุเข้าไปได้ ให้เข้าไปให้สุด แล้วลองกดสวิทช์สุ่มดูที่สุดทาง จะทำให้สายพานกลับทิศทางได้ เพื่อให้เราวิ่งนำกระแสไฟไปเปิดประตูได้ทัน. 

สังเกตดี ๆ จะมีอยู่ห้องหนึ่งที่เปิดแล้ว จะมีหุ่นตัวหนึ่งเดินตามเรามาห่าง ๆ ให้ล่อมาที่ด้านซ้ายสุดจะพบตุ๊กตา (Doll) อีกตัวซึ่งมีหุ่นขวางอยู่ ก็ให้ล่อเจ้าหุ่นตัวที่ตามเรามาเนี่ย เอาไปขวางมัน แล้วเข้าไปเก็บตุ๊กตามา เป็นอันครบ 2 ตัว 

แล้วก็ขึ้นไปชั้น 2 ของโดม สำรวจเก็บของตามประสาคนงก เอ๊ย..!!คนรอบคอบ แล้วเราจะพบหุ่นสาว ที่คล้ายโรโบขวางอยู่ ดูเหมือนว่าจะเป็นเพื่อนโรโบ แต่ตอนนี้ถูกล้างสมองตั้งโปรแกรมใหม่ให้ทำลายมนุษย์... 

เนื่องจากโรโบอยู่กับพวกลุคก้า ได้เรียนรู้มิตรภาพและความจริงใจของมนุษย์ ทำให้โรโบเห็นคุณค่าของมนุษย์มากกว่า...ดังนั้น..จึงต้องลงเอยที่โรโบต้องสู้กับเพื่อนเขาตัวต่อตัวแล้ว... ล้มหุ่นสาวได้ ดูเหมือนเธอจะเริ่มจำอะไรบ้างอย่างได้ และเริ่มเห็นคล้อยตามโรโบ..จากนั้นเธอจะให้ Power up แก่โรโบ...แล้วก็จากไป.... 

จากนั้นให้เข้าไปเราจะพบประตูบานใหญ่ที่ปิดอยู่ ให้เรานำตุ๊กตาทั้ง 2 ตัวไปวางไว้ซ้ายขวา ประตูจะเปิดออก เข้าไปด้านในสุด เราจะพบกับเมนคอมพิวเตอร์ และมาร์เธอร์เบรน ต้นเหตุที่ทำให้คอมทรยศมนุษย์อยู่ในนั้น ทำลายมาร์เธอร์เบรนให้ได้ แล้วโรโบจะได้อาวุธใหม่มา... 

ต่อจากนั้นให้เราไปทางด้านล่างของอาริสโดม (Arris Dome) จะพบเกาะของวิหารเทพสุริยะ (Sun Palace) เข้าไปสำรวจดูจะพบปีศาจซันออฟซัน (หินน่าดู..ห้ามใช้เวทย์มนต์ใส่มัน และให้โจมตีแต่เจ้าลูกกลมที่อยู่รอบ ๆ จะมีอันหนึ่งที่จะส่งผลถึงเจ้าตัวปีศาจ) โค่นมันได้ มันจะหนีไป ให้เราเข้าไปสำรวจข้างใน จะพบแท่นที่มีหินนิลอยู่ (Sun Stone) เก็บเลยครับไม่ต้องลังเล...จากนั้นก็ให้ย้อนกลับไปที่ B.C.65,000,000 และไปที่ขวาบนของแผนที่จะพบเกาะเล็ก ๆ และถ้ำ Sun Keep เข้าไปด้านในสุด แล้วเราจะทิ้งหินนิลไว้เพื่อรับแสงอาทิตย์.... 

แล้วก็ให้เราไล่ลองเข้าไปดูหินนิลใน Sun Keep แต่ละยุคดู จะพบว่าในปี A.D.1,000 นี่เอง ที่หินนิลใน Sun Keep ได้หายไป ที่ A.D.1,000 ให้ลงไปที่หมู่บ้านทางล่างสุดของวิหารฟีโอน่า จะพบว่ามีบ้านอยู่หลังหนึ่ง (Mayor' s Manor) มีประกายแสง เข้าไปคุยกับเจ้าของบ้าน เขาจะบอกม่ายรู้ม่ายเห็น สังเกตจากคำพูดของคนในบ้านก็จะรู้ว่า เขาเป็นคนงกเงินมาก...เฮ้อ..ไม้แก่ดัดยากแล้วครับพี่น้อง... 

ออกมาอย่างผิดหวัง เป้าหมายต่อไปคือปราสาทกัลเดียครับ เข้าไปจะพบพวกขุนนางคุยกัน อะ..อะไรกันเนี่ย...ระหว่างที่มาร์ลไม่อยู่ เสด็จแม่ก็สิ้นพระชนม์ ไปเสียแล้ว... 

เดินสำรวจดูก็จะพบว่าห้องต่าง ๆ ถูกปิดหมด ให้เดินไปทางซีกขวาของปราสาท ให้ลงไปที่ทางเดินแรก จะพบกับห้องพิพากษา คุยกับทหารยาม แล้วมาร์ลก็จะว้าก... ให้ทหารยามยอมให้เข้าไปข้างใน ซึ่งคนที่ถูกพิจารณาคดีก็คือพ่อของมาร์ล หรือกษัตริษย์กัลเดีย ข้อหานำเอาสมบัติประจำตระกูล "เปลือกหอยสายรุ้ง" ไปขาย แล้วพวกเราจะถูกไล่ออกมาจากห้องพิพากษา 

ออกจากห้องพิพากษาแล้ว ก็ให้ไปที่ห้องสมบัติที่อยู่ด้านขวา ติดกับทางเข้าห้องพิพากษา ไปดูให้รู้ซิมีอยู่จริงป่าว...เข้าไปแล้วเราจะพบว่ามีพวกปีศาจอยู่ในนี้ เข้ามาได้ไงเนี่ย ยามออกจะแน่น...ฝ่าเข้าไปเลย...ในขณะนั้นกษัตริย์กัลเดียก็กำลังจะถูกตัดสินแล้ว ที่ข้างใน เราจะพบเปลือกหอยสายรุ้ง อย่าโลภครับท่าน...อย่าโลภ...เอาไปทั้งก้อนคงไม่ไหวแน่ ให้หยิบไปเป็นหลักฐานบางส่วนก็พอ แล้วให้รีบนำชิ้นส่วนนี้ไปที่ห้องพิกพากษา แต่คราวนี้ยามจะไม่ยอมให้ผ่าน เข้าไป ทำไงดี...อ้อ.เข้าด้านหน้าไม่ได้ ก็ไปเข้าด้านหลังเอา 

พระราชาถูกตัดสินโทษซะแล้ว...มาร์ลมาไม่ทันหรือนี่.. ทันใดนั้น..ปรากฏเงาของผู้หนึ่งยืนอยู่หลังม่าน...แล้วเขาก็กระโดดออกมาอย่างเท่..(หรือเปล่าไม่รู้..) มาร์ลนั่นเอง แล้วเธอก็จะโชว์หลักฐานชิ้นส่วนเปลือกหอยสีรุ้งให้ผู้พิพากษาดู กษัตริย์ก็เป็นอันพ้นผิดไป 


จากนั้นมาร์ล และท่านพ่อก็จะมาปรับความเข้าใจกัน...ไม่มีใครถูกทั้งหมด หรือผิดทั้งหมดหรอกเน้อ....ให้อภัย...ให้อภัย...และให้อภัย 

คุยกับกษัตริย์แล้ว ลุงบอชเจ้าเก่าก็จะแวะมา คุยกันแล้วเขาก็จะไปที่ห้องเก็บสมบัติ เพื่อไปนำเปลือกหอยสายรุ้งไปสร้างเป็นเกราะป้องกันให้ ตามไปอาวจ้า...(เพื่ออรรถรส โปรดใช้น้ำเสียงเดียวกับรายการตามไปดู ทำเป็นงง..เกิดไม่ทันอีกซิเนี่ย) 

ลุงบอชจะให้เลือกว่าเราจะให้เขาทำชุดเกราะป้องกันสำหรับผู้หญิง 1 ชุด (แน่นอนครับ..ผู้หญิงใส่อย่างเดียว พวกโครโน่คงไม่มีใครเป็นตุ๊ดนะ...) หรือจะเอาเกราะหมวกปริซึม 3 ใบ 

เอ...ลืมใครไปหนอ..เจ้าขุนนางตัวจริงนั่นเอง ให้เราเข้าไปในห้องพิพากษาอีกครั้ง แล้วสังเกตที่มุมซ้ายห้องจะมีอะไรกระพริบอยู่ เก็บเสีย.. ก็จะได้กุญแจมาครับซึ่งระหว่างทางมาห้องพิพากษาจะมีหีบสมบัติหีบหนึ่งที่เราเปิดไม่ได้ ให้ใช้กุญที่เพิ่งได้เอามาเปิดครับ แล้วสิ่งที่อยู่ในนั้นก็คือ...ขุนนางตัวจริง เสียงจริงจะกระโดดออกมา ท่าจะเมื่อยอยู่นาน ไม่รู้ถูกจับยัดเข้าไปได้ไงกล่องนิดเดียวเอง... 

จากนั้นมาว่าเรื่อง Sun Stone หรือหินนิลกันต่อครับ ให้ไปที่ร้าน Snail Stop ที่ด้านล่างของวิหารฟีโอน่า คุยกับเจ้าของร้าน เขาจะขายเนื้อให้ (Jerky) ราคา 9,900 โหดเล็กน้อย แต่ผมเดาว่าตอนนี้คุณมีทองเป็นแสนแล้วมั้ง...ซื้อไว้เลยครับ.. 

อย่างที่บอกครับไม้แก่ดัดยาก อย่างนี้ต้องย้อนเวลาไปบอกให้คุณแม่ช่วยสั่งสอน เจ้าคนแก่คนนี้ซะตั้งแต่ยังเด็กซะแล้ว คิดได้ดังนี้ก็ขึ้น Epoch บินไปบริเวณ Mayor' s Manor บ้านที่มีประกายแสง แล้วก็ย้อนกลับไปปี A.D.600 กันเลย.... 

ตอนนี้บ้านของผู้เฒ่าคนนั้นจะเป็น Elder' s House เข้าไปเลยครับ...เข้าไปต่อว่าคุณแม่ของผู้เฒ่าคนนั้นเลยครับ..เลี้ยงลูกยังไงให้ขี้งก...แต่เอ...ทำไมบ้านโทรมจัง คุยกับทุกคนดูก็จะรู้ว่ากำลังอดอยาก ฮือ..ฮือ...น่าสงสารจังเลย ว่าแล้วก็เข้าไปคุยกับแม่พวกเขา แม่เขาก็จะขอซื้อเนื้อที่เราเพิ่งซื้อมาตะกี้ต่อ...อะโห..คุณจะใจดำเอาเงินคุณแม่เขาได้ลงคอหรือครับ...ให้ไปเลยครับ...มีเท่าไรให้ไปให้หมดเลยครับ... แล้วคุณแม่คนนั้นก็ซึ้งในความมีน้ำใจของเรา แล้วสัญญาว่า จะสอนลูกหลานรุ่นต่อ ๆ ไปให้เป็นคนมีน้ำใจเหมือนกับพวกเรา.. 

อิ่มอกอิ่มใจกันแล้ว ก็ขึ้น Epoch ข้ามเวลามาปี A.D.1,000 เลยครับ แล้วเข้าไปในบ้านที่มีประกาย ลองหยั่งเชิงคุยกับคนอื่น ๆ ในบ้านก่อน อืม..มีทัศนคติต่อผู้เฒ่าคนนี้ดีขึ้นแฮะ...งั้น ลองเข้าไปคุยกับเขาเลย... เหอ..เหอ...เป็นพ่อพระไปแล้วครับท่านผู้โชม...ในที่สุดก็ได้ Sun Stone กลับมา... จากนั้นในปีเดียวกัน ก็ให้เรานำ Sun Stone กลับไปไว้ที่ Sun Keep เหมือนเดิม แล้วขึ้น Epoch ไปอีกทีข้ามเวลาไปที่ A.D.2,300 ในตอนนี้ Sun Stone ได้เติมพลังไว้อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว 

ให้ลุคก้าเข้าไปสำรวจที่ Sun Stone แล้วเธอก็จะเอามันกลับบ้าน แล้วลุคก้าก็จะเอา Sun Stone มาทำปืนมิราเคิ้ลช็อค และพ่อของลุคก้าก็จะทำแว่นตาสุริยะให้อีกด้วย.... 

แล้วให้กลับไปพบลุงบอชที่ห้องสมบัติในปราสาทกัลเดีย แล้วลุงบอชจะทำดาบสายรุ้งให้โครโน่ และแว่นตาสายรุ้ง...จากนั้นก็ไปที่เมืองโจรัส (Choras) เป็นเกาะอยู่ขวาล่าง แล้วให้เข้าไปในบ้านที่อยู่ด้านล่างของเมือง คุยกับคนในบ้าน เขาจะให้กล่องเครื่องมือมา จากนั้นให้ย้อนเวลาไปที่หมู่บ้านโจรัสในปี 600 แล้วให้เข้าไปใน cafe คุยกับชายที่กำลังดื่มเหล้าอยู่ ไปคุยกับเขา จะรู้ว่าเขาเป็นช่าง แต่ไม่มีเครื่องมือ เราเพิ่งได้มานี่นา...ก็ให้เขาไปอีกตามระเบียบ... 

แล้วเขาจะเข้าไปซ่อมทางในปราสาท Northern Ruins ที่อยู่ข้างบนให้ แต่ในนั้นยังมีปีศาจอยู่ จึงไม่สามารถซ่อมให้ได้ทั้งหมด..ให้พวกเราเข้ากวาดล้างให้หมด...จากนั้นก็ให้กลับไปที่บ้านที่อยู่ด้านล่าง ไปตามช่างคนนั้นซ่อมทางเดินต่อ แล้วเราก็เข้าไปจัดการปีศาจ แล้วออกมาตามช่างไปซ่อมอีก สลับกันไปจนสุดทาง 

ที่ชั้นบนจะพบดาบโอนิมารุ และธนูไซเรนอยู่ อาวุธใหม่สำหรับโครโน่ และมาร์ล...แล้วให้ฟร็อคเข้าไปสำรวจที่หลุมฝังศพของอัศวินไซรัส แล้ววิญาณอัศวินไซรัสก็จะปรากฏขึ้น คุยกันก็จะรู้ว่าที่วิญญาณเขายังไม่ไปสวรรค์เพราะ ยังห่วงฟร็อค กับองค์หญิงรีเน่ อยู่ แต่เมื่อได้เห็นว่าขณะฟร็อคแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก สามารถดูแลตัวเอง และคนอื่น ๆ ได้แล้ว วิญญาณอัศวินไซรัส ก็จะลอยขึ้นสวรรค์ไป... 

ทันใดนั้น...ดาบมาซามูเน่ ดาบในตำนานของฟร็อค จะลอยออกมาและแยกออกเป็นปีศาจ มาซา และ มูเน่ คุยกับพวกเขา แล้วเหมือนว่าพวกเขาจะรับรู้ถึงความเติบโตทั้งฝีมือ และจิตใจของฟร็อคได้ แล้วมาซา กับ มูเน่ จะทำคอนฟิวชั่น รวมร่างกันอีกครั้ง เป็น ดาบมาซามูเน่ ที่สมบูรณ์แบบ...Power Up กันใหญ่ คงจะเดาได้แล้วนะครับว่า ศึกใหญ่ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว... 

เอาล่ะครับ..เป้าหมายต่อไปคือเจ้าป้อมลอยฟ้า (Black Omen) ที่เราเห็นคาใจอยู่ในทุก ๆ ยุค...ตอนนี้ได้เวลาแล้วครับ...ใช้ยาน Epoch บินขึ้นไปเลย บุกทะลวงเข้าไปเรื่อย ๆ เลยครับ...แล้วเราจะพบปีศาจกีก้ามิวแต้นท์ กำจัดมันซะ บุกต่อไปก็จะพบกับเทร่ามิวแต้นท์ โค่นมันเลย บุกต่อไปก็จะพบ พูจิราวอส R ไม่มีอะไรหยุดพวกเราได้อีกแล้ว บุกต่อไปในที่สุด ก็จะพบกับราชินีซีล เอาชนะให้ได้ แล้วจะมีปีศาจอีกตัวโผล่มาทันที ทำลายมันให้ได้ แล้วขึ้นไปชั้นบนสุด ราชินีก็จะมาปรากฏตัวอีก แล้วแปลงร่างมาสู้กับเรา สังหารมันซะ... 

และแล้วก็ถึงคราวราวอสจะออกโรงมาสู้กับเรา ในร่างแรก เจ้าราวอสจะไปดึงเอาความสามารถของพวกตัวเอ้ ๆ แต่ละตัวมาเป็นของตน แล้วโจมตีเรา ไม่ต้องกลัว...ลุยมัน ความสามารถเราตอนนี้เหนือกว่าเจ้าปีศาจตัวเก่าพวกนั้นมากมายนัก พยายามเก็บพลังเวทย์มนต์ไว้ใช้ช่วงหลังดีกว่า แล้วร่างสุดท้ายก็คือเจ้าราวอสนั้นเอง จัดการมันเลย... 

ชนะได้ส่วนหัวของราวอสจะหายไป แต่...ดูเหมือนจะยังมีพลังอันมหาศาลอยู่ภายในตัวของมันอีกนะ เข้าไปในตัวมันเลยครับ...อึ๋ย..น่าเกลียดน่ากลัวดีครับ มีเสียงหัวใจเต้นอีกต่างหาก หากคุณมั่นใจใน กำลัง และไอเทม ของตนแล้ว ก็มุ่งหน้าต่อไปเลยครับ แต่ถ้าคุณมีกำลังอ่อนล้าเกินไป ก็จะมีประตูเวลาทางซ้ายให้เข้าไป (ที่ด้านขวาจะเป็นประกายให้ save ให้เข้าไป save ไว้เลยครับ ต่างจากการ save ด้วยการกด F3 ครับ และจะมีผลต่อการเริ่มเกมใหม่) 

แล้วจะมาโผล่ที่ End of Time จัดการเติมพลัง หรือข้ามเวลาไปเก็บ Level หรือซื้อไอเทมอีก ก็เชิญครับ 

พร้อมแล้วเตรียมกลับไปทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างสิ้นสุดกันสักที ผลจะดีหรือร้าย ขึ้นอยู่กับคุณครับ...การจะกลับไปทำได้ 2 วิธีครับ...คือ จะใช้ยาน Epoch แล้วเลือกปี 1999 ก็ได้ โดยยานจะบินทะลวงเข้าไปในตัวราวอส แล้วยาน Epoch ก็จะพังครับ... (ปราบราวอสได้ จะได้เห็นฉากจบที่น่าประทับใจเหมือนกันครับ แต่ผมว่าจะไม่สมบูรณ์แบบ และมันส์ซซซ...เท่าอีกวิธี...ดังนั้นก่อนกลับไปสู้ ขอให้กด F3 เพื่อ save ไว้นะครับ จะได้ย้อนกลับมาดูฉากจบได้ทั้ง 2 แบบ) 

อีกวิธีคือ ให้กลับไปที่ End of Time แล้วที่ข้าง ๆ ประตูเข้าห้องสเป็คคิโอ้ จะมีก้อนหินอยู่ เข้าไปสำรวจแล้ว ก็จะพาข้ามเวลาไปหาราวอสได้เหมือนกัน... 

สำหรับผมแล้ว กลุ่มที่สมบูรณ์แบบที่สุด และน่าจะทนที่สุด คือ โครโน่ มาร์ล และฟร็อค... เดินหน้าวิ่งเข้าไปเผชิญกับเจ้าราวอสตัวจริงกันเลยครับ... 

โอ้โฮ..ตัวเบ้อเริ่มเลยครับ รวมพลังกันจัดการมันให้ได้ โดยให้ทำลายแขนทั้ง 2 ข้างก่อน แล้วค่อยจัดการส่วนหัว...สำเร็จ..!! ชนะได้แล้ว....แต่ยังก่อน มันไม่ง่ายอย่างนั้นครับ เจ้าราวอสร่างสุดท้าย ในที่สุดจะออกมา... 

มันจะบอกว่า มันเป็นคนส่งสิ่งมีชีวิตมาเป็นต้นกำเนิดของเป็นของสิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งมวล รวมถึงมนุษย์.... โลกใบนี้เป็นเพียงฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของราวอสเท่านั้น และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะกำจัดสัตว์เลี้ยงที่ไร้ค่าอย่างมนุษย์โลกแล้ว.... 

ใครบอกว่าพวกเราเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงไร้ค่า... จากการผจญภัยต่าง ๆ ที่พวกเราได้ไปพบเจอ พวกเราได้แสดงออกถึงคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์มากมาย ความเป็นห่วงกัน ความรัก และความเอื้ออาทรที่มนุษย์มีให้แก่สรรพสิ่งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ด้วยกัน เทพ ต้นไม้ หรือแม้แต่ปีศาจ นี่คือคุณค่าของคำว่ามนุษย์.... 

สำหรับโรโบเอง แม้จะเป็นสิ่งประดิษฐ์จากมนุษย์ แต่จากการเดินทางที่ผ่านมา เขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เขามีความรู้สึก และจิตใจที่ดีงามไม่ได้น้อยไปกว่ามนุษย์เลย 

พวกเรามนุษย์โลก..ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงของใครทั้งนั้น และเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีคุณค่าที่สุดด้วย..... 

นี่คือพลังทั้งหมดของพวกเราชาวมนุษย์โลก... จงรับรู้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ซะ.....เจ้าราวอส....!!!! 

สำเร็จ...เมฆหมอกแห่งความเลวร้ายได้ถูกปัดเป่าให้ผ่านพ้นไปได้อีกครา....... 

เช้าอันสดใส...ทหารคนหนึ่งได้ขึ้นไปปลุกโครโน่ถึงบนห้องนอน บอกว่ากษัตริย์กัลเดียรับสั่งให้นำตัวไปเข้าเฝ้า...ที่ปราสาทเราจะได้พบกับทุก ๆ คน จากทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่คิโน่ จากปีก่อนประวัติศาสตร์ 65,000,000 กษัตริย์จากเมืองโทรูส จากอดีตปี 600 และผู้เฒ่าแห่งอาริสโดมจากอนาคตปี 2,300 มาได้ไงเนี่ย...อ้อ..เจ๊ลุคก้าใช้เกทโฮลเดอร์ (จำได้ไหม..) ข้ามเวลาไปพามานี่เอง...ซึ่งผลสุดท้าย คนพวกนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ที่แท้ก็คือ บรรพบุรุษ และเหลน ของมาร์ล (องค์หญิงนาเดีย) นั่นเอง...อ่ะ..โห..มุขนี้...พี่ท่าน หักมุมได้มักง่ายดีจัง...แต่ชอบครับ.... ^_^ 

กษัตริย์กัลเดีย ได้รับรู้ถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของโครโน่ มาร์ล (องค์หญิงนาเดีย) และลุคคก้าแล้ว แล้วก็มีทัศนคติที่ดีขึ้นมาก ๆ ต่อโครโน่...แล้วก็เชิญให้ไปร่วมในขบวนพาเหรด ที่รีเน่สแควร์ด้วย.... 

หลังจากร่วมเดินขบวนอันยิ่งใหญ่ แล้ว ก็ให้วิ่งขึ้นไปบนสุด ที่ตั้งของเครื่องเทเลพอต ที่ลุคก้ากับพ่อของเขาได้สร้างไว้... 

ที่นี่เราจะพบทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็น ไอร่า จากปี65,000,000 ก่อนประวัติศาสตร์ ฟร็อค และ มากัส จากปี 600 และสุดท้ายคือ โรโบ จากปี 2,300 ในอนาคต ประตูเวลาใกล้ปิดลงเต็มทีแล้ว ถึงเวลาต้องร่ำลาจากกันเสียแล้ว...แล้วทุก ๆ คน ก็จะค่อย ๆ เข้าไปในประตูเวลาทีละคน กลับสู่ยุคสมัยของตนต่อไป เหลืออยู่แต่ โครโน่ มาร์ล และลุคก้า...... 

เฮ้อ...ไปกันหมดซะแล้ว..ประตูเวลาก็กำลังจะปิดแล้วด้วย.. พวกเราไปเที่ยวงานฉลองกันต่อดีกว่า.... แต่..ทันใดนั้น..!!! แมวของโครโน่ ไม่รู้วิ่งทะเร่อทะร่ามาจากไหน กระโจนเข้าประตูเวลาไป...ขณะที่แม่ของโครโน่เอง ก็วิ่งตามจับเจ้าแมวนั้นอยู่...ไม่ทันสังเกตสิ่งรอบข้าง...แล้วคุณแม่ของโครโน่ ก็วิ่งตามแมวหายเข้าไปในประตูเวลาเหมียนกัน...และเป็นเวลาที่พอดีกับประตูเวลาบานสุดท้ายก็ได้ปิดลง.... 

Epoch อยู่ ไปตามหาคุณแม่กันเถอะ....แต่จะมีทหารของกษัตริย์มาตาม บอกว่ากษัตริย์กำลังตามหาพวกเราอยู่นะ... 

มาพบกับกษัตริย์ ท่านก็พูดของท่านไปเรื่อย แล้วก็ให้ทหารนำระฆังใบใหม่มา ซึ่งมีชื่อว่า ระฆังนาเดีย (ตามชื่อจริงของมาร์ล) เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา.....โครโน่ และลุคก้าเห็นท่าว่าเรื่องยาวแน่ ๆ ป่านนี้แม่โครโน่ไปอยู่ยุคไหนแล้วก็ไม่รู้...ทั้ง 2 จึงแอบหลบออกไป... 

ส่วนมาร์ลนั้นเล่า...นิสัยส่วนตัวของคุณเธอไม่ใช่คนที่ชอบอยู่เฉย ๆ เลยครับท่านผู้โชม...พอกษัตริย์กัลเดียหันหลังไปติดระฆัง (มุขติดระฆังนี่ก็ช่างสรรหาวิธีการจริง จริ๊ง...) มาร์ลก็เผ่นตามโครโน่ และลุคก้าไป....เป็นเวลาเดียวกันกับที่พ่อของลุคก้า นำเอา Sun Stone มาตีด้วยฆ้อน.... 

....ประกายแสงจากการตี Sun Stone ทำให้เกิดดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า แตกกระจายสว่างไสว สวยงามกลางท้องฟ้าแห่งอาณาจักรกัลเดีย....ท่ามกลางแสงอันสว่างสดใสนั้น ยาน Epoch ก็พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า บินฝ่าความมืดในยามรัติกาล...เบื้องล่างประดับประดาด้วยแสงไฟจากบ้านของผู้คน ที่อยู่กันอย่างอบอุ่น ดูราวกับเป็นแสงดาวบนพื้นดิน...แล้วยาน Epoch ก็บินหายเข้าไปในกาลเวลาต่อไป. 

THE END 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น