วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

มาตรฐานบริการโทรคมนาคมไทยตกต่ำ!!!





จากสถิติปัญหาร้องเรียนของผู้ใช้บริการด้านโทรคมนาคม ซึ่งประกอบด้วย โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์พื้นฐาน และสถานีวิทยุโทรคมนาคม ตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 พ.ค. 55 พบว่า มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา 697 เรื่อง
จากสถิติปัญหาร้องเรียนของผู้ใช้บริการด้านโทรคมนาคม ซึ่งประกอบด้วย โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์พื้นฐาน และสถานีวิทยุโทรคมนาคม ตั้งแต่ 1 ม.ค.-15 พ.ค. 55 พบว่า มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา 697 เรื่อง

โดยปัญหาค่าบริการผิดพลาดครองอันดับ 1 มีผู้ร้องเรียนมากสุด คิดเป็น 24.96 เปอร์เซ็นต์ และเป็นปัญหาที่ครองแชมป์ทุกปี

ส่วนปัญหาการร้องเรียนอันดับ 2 เป็นเรื่องมาตรฐานบริการที่ทุบสถิติดีดตัวเองจากปัญหาที่อยู่ในอันดับ 4 พุ่งขึ้นอันดับ 2 มีผู้ร้องเรียนคิดเป็น 18.79 เปอร์เซ็นต์ และปัญหาที่ร้องเรียนเป็นอันดับ 3 คือ ปัญหาเรื่องบัตรเติมเงิน (พรีเพด) เช่น วันหมดอายุของบัตรเติมเงิน คิดเป็น 18.51 เปอร์เซ็นต์

นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า ช่วงปี             2552-2554       ปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับมาตรฐานบริการอยู่ในอันดับ 4 แต่ปี 2555 เพียงสี่เดือนครึ่งปัญหาเรื่องมาตรฐานบริการมีการร้องเรียนเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 2 เพราะที่ผ่านมาพบปัญหาสายหลุด โทรฯไม่ติด และสัญญาณล่มอยู่บ่อยครั้ง

“แนวทางแก้ไขปัญหานี้ คือ สำนักงาน กสทช. ต้องทดสอบมาตรฐานสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ตลอดทั้งปีและทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้สำนักงาน กสทช. ได้ทำโครงการไดร์ฟเทสต์ หรือขับรถทดสอบสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามจุดต่าง ๆ หากพบพื้นที่ใดมีสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่อ่อนก็ทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของโครงข่ายปรับปรุง”

ทั้งนี้ หากแยกบริการด้านโทรคมนาคมเฉพาะประเภทโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่า 1 ม.ค.-15 พ.ค.55 มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา 498 เรื่อง ปัญหาร้องเรียนมากสุด คือ บัตรเติมเงิน ค่าบริการผิดพลาด และมาตรฐานบริการ ตามลำดับ ซึ่งน้อยกว่าจำนวนเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ 70 ล้านเลขหมายเป็นอย่างมาก

นพ.ประวิทย์ กล่าวว่า จากผลการสำรวจพบว่า คนไทย 100 คนที่พบปัญหาจะมาร้องเรียนเพียง 2 คน ดังนั้นอีก 98 คนจะไม่ร้องเรียน ซึ่งปัญหาที่ได้รับร้องเรียนเมื่อถูกแก้ไขก็เป็นการแก้ไขให้กับผู้ร้องเรียนเพียง 2 คน ดังนั้นทางแก้ปัญหาที่ครอบคลุมคือการแก้ปัญหาให้กับคนที่พบปัญหาอีก 98 คนที่ไม่ร้องเรียนด้วย ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เช่นมาตรฐานบริการไม่ดีก็ต้องแก้ไขที่มาตรฐานบริการ

ส่วนการกระตุ้นให้เกิดการร้องเรียนเมื่อพบปัญหาก็เป็นแนวทางที่จะดำเนินงาน คือ พัฒนารูปแบบการรับเรื่องร้องเรียนให้ง่าย และใช้ต้นทุนต่ำ เช่น เบอร์ 1200 ที่ใช้รับเรื่องร้องเรียนปัจจุบันไม่เสียค่าโทรศัพท์เมื่อโทรฯเข้ามา ทำให้เรื่องการจัดส่งเอกสารหลักฐานมีราคาที่ถูก และทำระบบกติกาการร้องเรียนให้สะดวกแก่ประชาชน รวมทั้งให้ความรู้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับเรื่องสิทธิต่าง ๆ ในกิจการโทรคมนาคม เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าตนเองถูกละเมิดสิทธิ์.

@phetchan

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น