วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ศาลรธน.มีมติ7ต่อ1ให้"จตุพร"สิ้นสภาพส.ส.เหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง







ศาลรธน.มีมติ7ต่อ1ให้"จตุพร"สิ้นสภาพส.ส.เหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2555 เวลา 11:28 น.

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 ให้ "จตุพร พรหมพันธุ์" สิ้นสภาพความเป็น ส.ส.เหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
วันที่ 18 เม.ย. เวลา 10.30 น. องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ เป็นประธาน ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กรณีที่ไม่ได้เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 3 ก.ค.2554 เนื่องจากขณะนั้น ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (4) ประกอบมาตรา 101(3) หรือไม่


ทั้งนี้ในการอ่านคำวินิจฉัยนั้นคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้มอบให้นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และนายนุกรักษ์ มาปราณีต ตุลาการศาลนัฐธรรมนูยเป็นผู้อ่าน โดยใช้เวลาในการอ่านคำวินิจฉัยประมาณ 45 นาที ซึ่งมติตุลาการมีเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 ให้นายจตุพร สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็นส.ส.สนับแต่วันที่ศาลมีควินิจฉัย

เนื่องจากเห็นว่าการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้นตามพ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 19  มาตรา 8 และ มาตรา20 มีเจตนา ให้ผู้ที่จะเป็นสมาชิกต้องคงเป็นสมาชิกไว้โดยตลอด ไม่เฉพาะในวันสมัครรับเลือกตั้งหรือวันเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งการที่รัฐธรรมนูญมตรา 100 (3 )ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้ที่ถูกคุมขังโดยหมายของศาลหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นบุคคลมิให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ก็เพราะมีเจตนาให้ผู้ที่จะเป็นสมาชิกพรรคปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของวินัยและกฎหมาย เพื่อให้สมาชิกพรรคมีระเบียบวินัยรวมทำกิจกรรมทางการเมือง คุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคกฎหมายจึงไม่ได้มีเจตนาให้มีอยู่เฉพาะในขณะสมัครเท่านั้น แต่จะต้องมีอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อนายจตุพร ถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาลซึ่งป็นคำสั่งที่ชอบโดยกฎหมาย จึงทำให้นายจตุพร ขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรค ที่มีผลทำให้สมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายจตุพรสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106 (4)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่ทราบคำวินิจฉัยมวลชนคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งที่มารอฟังคำตัดสินและให้กำลังใจนายจตุพร ได้พากันส่งเสียงโห่ร้องด้วยความไม่พอใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น