อ็อกซ์ฟอร์ดวิจัยแล้ว แอสไพรินต้านมะเร็งได้

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ปัจจุบันนี้โรคมะเร็งไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็งปากมดลูก ล้วนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นของมนุษย์ ซึ่งบรรดานักวิทยาศาสตร์การแพทย์พยายามค้นคว้าวิจัย เพื่อหาวิธีรักษาโรคนี้ที่ดีที่สุดก็ยังไม่พบ แต่ผลการวิจัยล่าสุดของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดบอกว่า นักวิทยาศาสตร์ของที่นั่น พบวิธียับยั้งมะเร็งที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงด้วย...แอสไพริน
กระบวนการวิจัยขนานใหญ่ใช้เวลาทดลองยาวนานเกินกว่า 6 ปี กับผู้เข้าร่วมทดลองกว่า 2 แสนชีวิต ได้ผลสรุปออกมาว่า ผู้ที่ทานยาลดไข้แอสไพรินวันละเม็ดเป็นประจำเป็นเวลา 5 ปี จะมีอัตราเสี่ยงจากการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ทานถึง 37 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังพบว่า หลังจากทานแอสไพริน วันละเม็ดนาน 3 ปี จะลดอัตราการเกิดมะเร็งในผู้ชายได้ถึง 23 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผู้หญิงลดลง 25 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว ทีมวิจัยยังได้ทดลองกับผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยให้รับประทานแอสไพรินนาน 6 ปีครึ่ง ปรากฏว่า อัตราการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งลดลงถึง 55 เปอร์เซ็นต์
นักวิทยาศาสตร์รู้มาระยะหนึ่งแล้วว่า แอสไพริน ซึ่งมีผลในการลดประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์เกล็ดเลือด ที่ให้เลือดจับตัวเป็นลิ่ม สามารถช่วยป้องกันมะเร็งในช่องคอได้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พบว่า มันสามารถป้องกันการลุกลามของมะเร็งในช่องคอไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆ ได้ ทั้งยังช่วยลดอาการหัวใจวาย และอาการชักได้ด้วย

ศาสตรจารย์พีเตอร์ รอธเวลล์

แต่ศาสตราจารย์พีเตอร์ รอธเวลล์ ผู้ร่วมในงานวิจัย จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ระบุว่า ผู้ป่วยมะเร็งไม่ควรอย่างยิ่งที่จะหันมาทานยาแอสไพรินเป็นประจำทุกวันโดยทันที เนื่องจากยาตัวนี้มีผลข้างเคียงร้ายแรง ทำให้เกิดแผลในกระเพาะ และเลือดออกในช่องท้อง ทั้งยังทำให้เกิดโรคไต และอาจทำให้หูดับได้
เห็นได้ว่าแอสไพรินกำลังจะกลายมาเป็นทางเลือกหนึ่งในการป้องกันมะเร็งในปัจจุบัน แต่ความเสี่ยงที่ตามมานั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย แต่ที่อาสาสมัครกล้ารับการทดลองก็เพราะทุกคนอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะฉะนั้นอย่าพยายามหาแอสไพรินมาทานเองที่บ้านเด็ดขาด และหันมาใช้วิธีที่ปลอดภัยแต่ได้ผลแน่นอนอย่างการออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ และเลิกเหล้าเลิกบุหรี่กันดีกว่าครับ
แหล่งที่มา www.thairath.co.th