วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

“ป.ป.ท.”แฉรถหรูหนีภาษีเกลื่อนเมือง ทำรัฐสูญมโหฬาร1,200 ล้านต่อเดือน“ป.ป.ท.”แฉรถหรูหนีภาษีเกลื่อนเมือง ทำรัฐสูญมโหฬาร1,200 ล้านต่อเดือน



ป.ป.ท.แฉขบวนการนำเข้ารถหรูเลี่ยงภาษีทำรัฐเสียภาษีมหาศาล พบเฉลี่ยรถนำเข้าใหม่ 60 คันต่อวัน ทำรัฐสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาทต่อเดือน ประสานข้อมูลทางการอังกฤษตรวจสอบขบวนการนำเข้ารถนอก
วันนี้ ( 4 เม.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) พ.ต.อ.ดุษฎี  อารยวุฒิ  เลขาธิการป.ป.ท.  ประชุมร่วมกับตัวแทนกรมศุลกากรอังกฤษจากฮ่องกง  เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาขบวนการนำเข้ารถยนต์หลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรโดยการสวมสิทธิ์นักเรียนไทยและบุคคลที่เข้าไปทำงานในต่างประเทศ  โดย พ.ต.อ.ดุษฎี  กล่าวภายหลังการประชุมว่า  สืบเนื่องจากที่ป.ป.ท. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบกลุ่มบุคคลที่ใช้สิทธิ์นักเรียนและบุคคลทำงานนำรถยนต์เข้ามาในไทยโดยผิดกฎหมายและมีพฤติการณ์เลี่ยงภาษีศุลกากร โดยรถยนต์หรูที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ อาทิ รถยนต์ยี่ห้อ เฟอร์รารี ปอเช่ร์ ออดี้ เบ็นลี่ แลมโบกีนี่  พบมีการสำแดงราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เช่น รถยนต์ใหม่นำเข้ายี่ห้อหนึ่งราคาประเทศผู้ผลิตคันละ 189,900  เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ อัตราแลกเปลี่ยนเงินไทย ขณะนั้น 1 เหรียญต่อเงินไทย 30.90 บาท แต่ผู้นำเข้าได้สำแดงราคากับกรมศุลกากรว่ารถยนต์ ยี่ห้อดังกล่าวมีราคา  43,650 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ  คิดเป็นเงินไทย 1,348,959.60  บาท คิดเป็นภาษีทั้งหมด  4,424,585 บาท

นอกจากนี้แล้วจากการตรวจสอบรถยนต์ยี่ห้อเบ็นลี่ที่นำมาแสดงในงานมอเตอร์โชว์ พบว่าตั้งราคาไว้ที่ 36-39 ล้านบาท แต่พบรถยี่ห้อดังกล่าวมีการแจ้งนำเข้าเพียงแค่ 1 ล้าน 3 แสนบาท เสียภาษี 3 ล้าน 4 แสนบาท ดังนั้นต้นทุนจึงอยู่ที่ราคาประมาณ 6 ล้านบาท เท่านั้น เห็นได้ว่าผู้นำเข้าแจ้งราคาต่ำกว่าความเป็นจริงถึง 4 เท่า ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษีของรถยนต์คันดังกล่าวถึง 16 ล้านบาท  โดยในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ( 29-30  มี.ค. ) พบว่ามีรถยนต์ใหม่ที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรมีหลักฐานเชื่อว่าสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง จำนวน 120  คัน ซึ่งก่อนหน้านี้พบว่ามีผู้นำเข้ารถยนต์ยี่ห้อ เฟอร์รารี่ จำนวน 26  คัน ที่สำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ประมาณ  2-4 เท่า ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 10 ล้านบาทต่อคัน ปัจจุบันมีข้อมูลการนำเข้ารถยนต์ใหม่จากต่างประเทศวันละประมาณ 60 คัน  เฉลี่ยเดือนละ  1,200 คันต่อเดือน เท่ากับรัฐสูญเสียรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาทต่อเดือน

โดยพ.ต.อ.ดุษฎี  กล่าวว่า ได้ประชุมหารือร่วมกับเลขานุการเอกของสถานทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อขอความร่วมมือตรวจสอบนักเรียนไทย และคนไทยที่ไปทำงานหรือพักอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ และนำรถยนต์เข้ามาว่ามีการซื้อขายและครอบครองรถยนต์ครบตามเงื่อนไขกฎหมายของไทยหรือไม่ และบริษัทที่ขายรถยนต์ให้แก่นักเรียนไทยข้างต้นเป็นใคร มีตัวตนอยู่หรือไม่  การซื้อขายรถยนต์มีการซื้อขายกันในราคาเท่าใด  ซึ่งตัวแทนสถานฑูตอังกฤษรับจะดำเนินการตรวจสอบ หากได้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากประเทศอังกฤษ จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการจริงแต่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับต่ำกว่าซี 8 ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบตรวจสอบของป.ป.ท. ซึ่งหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องจะมีการประสานข้อมูลร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รวมถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)เพื่อ ตรวจสอบเส้นทางการเงินและดำเนินการยึดทรัพย์  และหากพบว่ามีความเชื่อมโยงถึงการกระทำความผิดอื่นก็จะส่งให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น