วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2555

ส.ว.ข้องใจ แท็บเล็ตจีนขัดม.190


วันนี้ ( 2 เม.ย.)   ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภาได้พิจารณากระทู้ถามด่วนเรื่อง นโยบายการจัดซื้อแท็บเล็ตกับการพัฒนาการศึกษาของไทย  ที่นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ถามนายกรัฐมนตรีว่า  นโยบายนี้มีประเด็นที่ต้องทำความชี้แจงให้ชัดเจน คือ ระหว่างการทำสัญญาจัดซื้อในรูปแบบจีทูจีหรือรัฐต่อรัฐกับการจัดซื้อโดยรูปแบบการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ เอ็มโอยู รัฐบาลมีแนวทางที่จะทำสัญญาจัดซื้อแท็บเล็ตในครั้งนี้มีข้อดีและข้อเสียต่างกันอย่างไร "บันทึกข้อตกลงในการจัดซื้อแท็บเล็ตถือเป็นการทำข้อผูกพันระหว่างประเทศก่อผลผูกพันงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญควรต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190
 
นายตวง กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมทางด้านบุคลากรทางการศึกษาและสถานศึกษาเพื่อรองรับการเรียนการสอนโดยใช้แท็บเล็ตเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาด้านการศึกษาในขณะนี้อย่างไร แท็บเล็ตที่รัฐบาลจัดหามานั้นจะมีความเป็นมาตรฐานรองรับกับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆมากน้อยเพียงใด รวมทั้งรัฐบาลจะมีแผนการที่จะบรรจุเนื้อหาสาระในแท็บเล็ตที่รองรับการศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1อย่างไร นโยบายนี้เป็นทั้งโอกาสและภัยคุกคามในเวลาเดียวกัน ด้านหนึ่งเป็นการเรียนรู้แบบก้าวกระโดดสร้างโอกาสในการเรียนรู้แบบใหม่ให้กับนักเรียน ขณะที่อีกกด้านหนึ่งจะเป็นภัยคุกคาม ทำให้เด็กติดเกม การพนันยาเสพติด เพราะในรอบ 2 ปีเกิดอาชญากรรมจากพฤติกรรมเลียนแบบในเกมแทบทั้งสิ้น
 
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ  รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชี้แจงว่า นโยบายนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทยและจีนภายใต้กรอบของเอ็มโอยูไม่ใช่จีทูจีเพราะรัฐบาลจีนมีความประสงค์ให้บริษัทเอกชนเป็นผู้ลงนามแทน ซึ่งกระบวนการจัดหาเป็นการร่วมมือระหว่างประเทศแม้ว่าในกฎหมายหรือระเบียบระบุชัดเจนว่าการดำเนินการระหว่างประเทศดังกล่าวจะต้องเป็นไปในลักษณะจีทูจีหรือรัฐต่อรัฐหรือไม่ก็ตามแต่ถ้าการเจรจาของทั้งสองประเทศไม่ขัดแย้งกับกฎหมายของสองประเทศก็ให้ดำเนินการได้ ซึ่งตรงนี้ได้มีการตรวจสอบทางกฎหมายแล้ว  สำหรับระบบปฏิบัติการของแท็บเล็ตได้เลือกใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น4.0 ซึ่งเป็นระบบล่าสุดในปัจจุบัน โดยการพัฒนาสื่อการเรียนการสอนถูกออกแบบและเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตในรูปแบบถนนอิเลกทรอนิกส์เส้นพิเศษหรือเรียกว่าถนนสีขาว เพื่อกำหนดให้การเข้าถึงข้อมูลทำได้เฉพาะที่กระทรวงศึกษาธิการได้จัดสรรไว้ให้แล้วโดยจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลนอกเหนือจากนี้ได้โดยเฉพาะสื่อลามกอนาจาร
ด้านนายสุชาติ ธาดาธํารงเวช รมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงว่า ยอมรับว่าการเรียนการสอนด้วยแท็บเล็ต ผู้สอนต้องมีความรู้ความเข้าใจด้วย ทั้งนี้มีเครื่องแท็บเล็ตสำหรับครูจำนวน 6 หมื่นเครื่องจะส่งมาให้ครูได้ทดสอบและเรียนรู้ก่อนนำไปสอนเด็กประมาณวันที่ 4-5 เม.ย.นี้ จากนั้นจะให้มีวิทยากรจำนวน 549 คนอบรมครูที่สอนในระดับชั้นป. 1 โดยใช้อัตราส่วน  1ต่อ100 ดังนั้นจะทำให้ครูมีความรู้เรื่องนี้ 5.4หมื่นคน ทั้งนี้การใช้แท็บเล็ตเมื่อมีครูสอน ทำให้เด็กและครูฉลาดขึ้นมาก เราจะพยายามปรับเมมโมรีให้เด็กสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง ส่วนประเด็นแอพพลิเคชั่น ทางกระทรวงศึกษาจะไม่สั่งซื้อ จะไม่จำกัดว่าเป็นของใคร เพราะอาจเกิดความไม่โปร่งใส  ดังนั้นจึงให้เป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการโรงเรียนและครูผู้สอนที่จะจัดหา ตนเชื่อว่าผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นคนดี รักเด็ก และจะดูแลนักเรียนได้เป็นอย่างดี


แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น