วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555

ไอบีเอ็มเผยแนวโน้มภัยคุกคามออนไลน์ มุ่งเป้าสังคมออนไลน์และมือถือมากขึ้น


ไอบีเอ็มเผยรายงานแนวโน้มภัยคุกคาม พบการรักษาความปลอดภัยบนเน็ตดีขึ้นทำให้อาชญากรไซเบอร์คิดกลยุทธ์ใหม่มุ่งเป้าสังคมออนไลน์และมือถือมากขึ้น

รายงานข่าวจากไอบีเอ็ม แจ้งว่า ไอบีเอ็มได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มและความเสี่ยง เอ็กซ์-ฟอร์ซ ประจำปี 2554 ซึ่งเป็นรายงานประเมินภาพรวมประจำปีเกี่ยวกับสถาน
การณ์ด้านความปลอดภัยต่อภัยคุกคามทางออนไลน์ โดยรวบรวมข้อเท็จจริงจากแหล่งข้อมูลอัจฉริยะต่าง ๆ ทั่วโลก  ซึ่งจากรายงานดังกล่าวพบว่า การรักษาความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ตมีการพัฒนาที่ดีขึ้นในหลายด้าน เช่น การลดลงของช่องโหว่ในการรักษาความปลอดภัยบนแอพพลิเคชั่น การใช้คำสั่งโจมตีช่องโหว่ และสแปม จากผลดังกล่าวพบว่าบรรดาอาชญากรไซเบอร์กำลังถูกบังคับให้ต้องคิดถึงกลยุทธ์ใหม่ ๆ ในการโจมตี จึงต้องเบนเข็มตั้งเป้าหมายไปที่ช่องโหว่ที่เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น และมุ่งไปที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์และอุปกรณ์มือถือมากขึ้น

ทั้งนี้ จากไอบีเอ็มเอ็กซ์-ฟอร์ซ  พบว่า อาชญากรไซเบอร์พัฒนาเทคนิคในปี 2554 มีการคุกคามเพิ่มขึ้นใน 3 ด้านหลักคือ 1. การโจมตีช่องโหว่ของระบบผ่านทางเชลล์ คอมมานด์  มากขึ้นกว่าสองเท่า 2. การเดารหัสผ่านแบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว  และ 3. การโจมตีแบบฟิชชิ่ง โดยการหลอกลวงว่าเป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์และบริการพัสดุไปรษณีย์มีมากขึ้น

นอกจากนี้เทคโนโลยีใหม่  ๆ  เช่น อุปกรณ์มือถือ และคลาวด์ คอมพิวติ้ง ยังคงสร้างความท้าทายต่อระบบรักษาความปลอดภัยในองค์กร ทำให้เกิดวิธีการโจมตีแบบใหม่ โดยพบรายงานการโจมตีอุปกรณ์มือถือเพิ่มขึ้น 19% ในปี 2554 มีอุปกรณ์มือถือจำนวนมากในมือของผู้บริโภค ที่ไม่ได้รับการติดตั้งการปิดช่องโหว่ของระบบจากการถูกโจมตี ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้กับอาชญากรไซเบอร์ทั้งหลาย ตลอดจนการนำอุปกรณ์มือถือเหล่านี้มาใช้ภายในองค์กร ซึ่งผู้บริหารด้านไอทีควรเตรียมตัวรับมือให้ดีกับความเสี่ยงที่กำลังเพิ่มขึ้นนี้ ส่วนการโจมตีที่เกี่ยวข้องกับสื่อสังคมออนไลน์เพิ่มจำนวนขึ้น เนื่องจากผู้คนในยุคสื่อสารข้อมูลจำนวนมากที่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวและวิถีการใช้ชีวิตบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นให้ข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญต่ออาชญากรไซเบอร์ก่อนที่จะเริ่มโจมตีหรือแทรกซึมเข้าไปในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น