วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2555

รวบ3โหดรัวอาก้าดับ5ศพอ้างถูกแซวร้องคาราโอเกะห่วย





จับ 3 คนร้ายรัวอาก้าดับ 5 ศพร้านโอเกะแล้ว คอตกรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาพร้อมขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต แจงเหตุขึ้นร้องเพลิงถูกโห่แซวแถมยังตามมาตอแยเลยระงับอารมณ์ไม่อยู่
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.ปิยะ สอนตระกูล รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบช.ภ.1  พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร และพล.ต.ต.คเชนทร์ คชพลายุกต์ รอง ผบช.ภ.1แถลงจับกุมผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธปืนอาก้า กราดยิงผู้อื่นจนเสียชีวิต 5 ราย ในพื้นที่อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้ตัวผู้ต้องหา 3 คน คือ นายวสันต์ หรือปุ้ม จันตรี อายุ 25 ปี อดีตรปภ. อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 6 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายวสันต์ หรือสันต์  พรหมศิริ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/3 หมู่ 9 ต.บางขนาก อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา และนายอโศก  หรือสุ ศรีสิงห์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 640/7 ซอยสุขุมวิท 55 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ

โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่ห้องพักภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในต.หินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี พร้อมของกลางปืนอาก้าแบบพับฐาน 1 กระบอก แมกกาซีน 2 อัน กระสุนปืนขนาด 7.62 มม.  47 นัด รถจยย.ฮอนด้า เวฟ สีเขียว ทะเบียน กฉฉ 898 ปทุมธานี และรถจยย.ฮอนด้า สีดำ-เหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน

พล.ต.ต.ปิยะ  กล่าวว่า  สืบเนืองจากกลางดึกวันที่ 19 มิ.ย.  เกิดเหตุยิงกันภายในร้าน “กินตับคาราโอเกะ” ตั้งอยู่ริมถนนสายแก่งคอย-บ้านนา หมู่ 12 ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย มีผู้เสียชีวิตถึง 5 ศพ ตนจึงสั่งการให้ตำรวจภ.จว.สระบุรี และบก.สส.ภ.1 ลงพื้นหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีที่อุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญประชาชน โดยได้นำภาพคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ  ไปประชาสัมพันธ์และสอบถามชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้น จนกระทั่งได้รับการติดต่อจากพลเมืองดีว่าพบบุคคลลักษณะคล้ายในภาพจากกล้องวงจรปิดทั้ง 3 คน เข้ามาอาศัยเช่าห้องพักอยู่ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในต.หินกอง อ.หนองแค จึงเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางและรถจยย.ที่ใช้หลบหนีทั้ง 2 คัน


นายวสันต์หรือปุ้ม มือลั่นไกยิง รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุตนและนายวสันต์ พรหมศิริ ได้เดินทางมาจากบ้านพักที่อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี ไปทำธุระที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระหว่างทางแวะดื่มสุรากันที่ร้านอาหารดังกล่าว โดยมีนายอโศกผู้ต้องหาอีกคนหนึ่ง เดินทางตามมานั่งร่วมวงด้วย  จากนั้นตนได้ร้องคาราโอเกะไป 2 เพลง ก็มีเสียงโห่แซวมาจากกลุ่มผู้ตายซึ่งเข้ามานั่งภายในร้านหลังพวกตนไม่นาน ทำให้รู้สึกไม่พอใจและอับอายในน้ำเสียงเป็นอย่างมาก แต่พยายามเก็บกลั้นอาการไว้  ไม่ไปพูดต่อปากต่อคำ


ต่อมามีชายคนหนึ่งในกลุ่มผู้ตายโทรศัพท์ไปเรียกพวกราว 10 คน มาสมทบที่ร้านดังกล่าว ลักษณะท่าทางคล้ายพกพาอาวุธติดตัวมาด้วย ตนกับพวกเห็นท่าไม่ดี จึงเรียกเด็กเสิร์ฟมาเก็บเงิน เพื่อเดินทางกลับ แต่ขณะนั้นมีชายคนหนึ่งในกลุ่มผู้ตาย เดินเข้ามาที่โต๊ะของตน แล้วตะโกนถามว่า “อยากกินตีนไหม”  และพยายามเข้ามาทำร้าย ตนจึงตัดสินใจคว้าอาวุธปืนอาก้าที่นำติดตัวมาจากบ้าน กราดยิงใส่กลุ่มผู้ตาย  แล้วจึงหลบหนีไปเปิดห้องพักภายในรีสอร์ทดังกล่าว


ส่วนอาวุธปืนอาก้าที่ใช้ก่อเหตุ ตนซื้อต่อมาจากญาติซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ในราคา 4,000 บาท เพื่อนำมาป้องกันตัว เวลาเดินทางไปไหนมาไหน โดยก่อนหน้านี้เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติด และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่า และปล้นทรัพย์รายอื่น  อย่างไรก็ตามฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมดยอมรับผิดและรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตไว้ในครอบครองและพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับนำปืนอาก้า กระบอกที่ใช้ก่อเหตุไปตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอื่นๆหรือไม่ต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น