วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

“วงศ์สวัสดิ์” ลั่นไม่ส่งทายาทสู้ศึกเลือกซ่อม ส.ส.เชียงใหม่


วันนี้ (23เม.ย.) ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงกรณีการส่งผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ในเขต 3 จ.เชียงใหม่ แทนน.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ว่า ครอบครัววงศ์สวัสดิ์ ไม่ประสงค์จะส่งบุตรชายหรือบุตรสาวลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 3 จ.เชียงใหม่ แต่ครอบครัววงศ์สวัสดิ์จะให้กำลังใจผู้สมัครพรรคเพื่อไทยต่อไป ซึ่งขณะนี้มีผู้แสดงความประสงค์จะลงสมัครในนามของพรรคแล้วแต่รอการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารของพรรค โดยบุคคลนี้เป็นคนหนุ่ม หนึ่งในทีมงานของ น.ส.ชินณิชา และยังมีตำแหน่งอยู่ใน อบจ.เชียงใหม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอีกครั้ง  เพราะพื้นที่นี้มีความสำคัญเนื่องจากเป็นบ้านเกิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ระทึกอีกเขย่าเชียงใหม่ 1.8 ริกเตอร์ ยังไม่พบความเสียหาย


เมื่อเวลา 13.11 น. วันนี้ (23 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหวอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ แจ้งว่าได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาดความแรง 1.8 ริกเตอร์ มีจุดศูนย์กลางที่ ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่ละติจูดที่ 18.90 ลองติจูดที่ 99.06 โดยประชาชนใน ต.ป่าไผ่ สามารถรับรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนได้เล็กน้อย
นายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเข้าไปตรวจสอบดูแหล่งโบราณสถาน โบราณวัตถุ และวัด รวมถึงบ้านเรือนประชาชนแล้ว เบื้องต้นทราบว่าแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยไม่ถึง 5 วินาที จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีอะไรเสียหาย
หัวหน้าปภ.เชียงใหม่ ระบุต่อว่า คาดว่าการเกิดแผ่นดินไหวเล็กน้อยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่หลายครั้ง น่าจะเป็นผลมาจากรอยเลื่อนย่อยขนาดเล็ก ที่อยู่ระหว่างรอยเลื่อนแม่จัน จ.เชียงราย และรอยเลื่อนแม่ทา ที่อยู่ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่ ทางเราได้ประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมทรัพยากรธรณี ศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหว คอยเฝ้าระวังและติดตามพฤติกรรมการเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กตามรอยเลื่อนย่อย เพราะก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ มักจะมีแผ่นดินไหวขนาดเล็กเกิดขึ้นก่อน โดยสิ่งสำคัญเวลานี้คือการทำความเข้าใจกับชาวบ้านทุกหมู่บ้านทุกพื้นที่ ทุกอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ ให้รู้จักวิธีการเตรียมพร้อมในการรับมือต่อภัยที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้นยังมีการเตรียมความพร้อมด้านกำลังพลของทุกหน่วยงาน ให้พร้อมรับมือหากเกิดภัยขึ้น เพื่อสามารถเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ทุกเวลา

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

4 ไอ้โม่งยำเละรปภ.-จุดไฟเผาโรงโชว์งูดังภูเก็ตวอด











เชื่อขัดธุรกิจ กล้องวงจรปิด จับภาพคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน ตร.เตรียมออกหมายจับลากคอดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (23 เม.ย.) ร.ต.อ.เชียรชัย ดวงสุวรรณ ร้อยเวร สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยว่า กลางดึกที่ผ่านมาได้รับแจ้งเหตุเพลิงไม้บริษัทภูเก็ตเฮลธี นูทรีเมนท์ 45/9 ซอยศาลเจ้าตาเอียด ม.1 ต.ฉลอง อ.เมือง จึงรุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบว่าบริษัทดังกล่าวเป็นเป็นอาคารชั้นเดียวและเป็น บริษัทเปิดแสดงการโชว์งูให้แก่นักท่องเที่ยวชม และ เปิดขายยาสมุนไพรบำรุงร่างกายและรักษาโรคต่างๆ
ที่บริเวณลานหน้าร้านเปิดเป็นที่โชว์งู ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์พบถูกเพลิงเผาจนได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นยังพบว่าที่ห้องบรรยายสรรพคุณของยารักษาโรคต่างๆ 8 ห้อง ถูกเพลิงได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นยังพบว่าเก้าอี้และ โต๊ะที่วางไว้รับแขกจำนวน 4 ชุด ฟ้าเพดาน แอร์จำนวน 5 ตัว ถูกเพลิงเผาจนเสียหายทั้งหมด เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่กระจกด้านหน้าตัวอาคารพบว่าเปิดอ้าอยู่ 1 บาน และพบคราบน้ำมันตกอยู่จำนวนมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่บริเวณป้อมยามด้านหน้าของบริษัทพบกองเลือดขนาดใหญ่ ส่วนรปภ.ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีนำส่ง รพ. ไปก่อนหน้านี้แล้ว

            จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุอนุชิต ชัยทองงาม อายุ 25 ปี รปภ.ที่ดูแลอยู่หน้าบริษัทถูกคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์จำนวน 4 คน สวมเสื้อแขนยาว-สวมกางเกงยีนส์ขายาว สวมผ้าไหมพรหมและสวมหมวกแก๊ป ปิดบังใบหน้า จับมัดมือมัดเท้า ก่อนใช้ไม้หน้าสามรุมตีเข้าที่ศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ และคนร้ายยังแสดงความเหี้ยมโหดรุมทำร้ายนายอนุชิต จนสลบ จากนั้นคนร้ายก็ได้ทั้ง 4 คน ได้วิ่งเข้าไปงัดกระจกในตัวอาคารดังกล่าว แล้วปีนเข้าไปภายใน ก่อนที่ทั้งหมดจะใช้น้ำมันเบนซินที่เตรียมมา 2 แกลอน ประมาณ 20 ลิตร ราดไปที่ภายในอาคาร ก่อนที่จะใช้ผ้าชุบน้ำมันแล้วจุดไฟขว้างเข้าไปจนเกิดไฟลุกไหม้ แล้วหลบหนีไป โดยทุกขั้นตอนที่คนร้ายลงมือปฎิบัติพบมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ทั้งหมด ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดมาจากเรื่องการไม่พอใจเรื่องการทำธุรกิจ ทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นจ้างกลุ่มคนร้ายมาลงมือเผาร้านเพื่อตัดคู่แข่ง แต่อย่างไร ก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป  .

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ช็อก!!!นางเอกสาว“พลอย จินดาโชติ”ซุ่มวิวาห์เงียบ











กับ “โอจีฟ ก้องธรณินทร์” พี่ชายของ “เจี๊ยบ-ลลนา”อดีตนางสาวไทย หลังเกิดกระแสข่าวร้อนบนโลกไซเบอร์ว่า นางเอกสาวเกิด “เบนโล” แม่ฝ่ายชายเผย จัดงานเมื่อต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ที่ปากช่อง เขาใหญ่ จึงไม่แปลกถ้าลูกสะใภ้จะตั้งท้อง เพราะแต่งงานแล้ว
จากกรณีที่มีกระแสข่าวลือบนโลกไซเบอร์ว่า “นางเอกเครื่องประดับ” ตั้งครรภ์ได้กว่า 2 เดือนแล้ว กับแฟนหนุ่มไฮโซ ที่เพิ่งเลิกลากับ “ดาราสาวของมีค่า” โดยหลังจากที่ถอดปริศนาคำใบ้แล้ว ได้ความว่า นางเอกเครื่องประดับที่มีการพูดถึง คือ พลอย จินดาโชติ ซึ่งเคยผ่านงานแสดงทั้งหนังและมาแล้วมากมาย รวมถึงได้มีโอกาสร่วมงานกับวงการบันเทิงต่างประเทศ โดยการบินไปทำงานเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ที่ประเทศสิงคโปร์ จากการชักนำของ อั๊ต-อัษฎา พานิชกุล อดีตนายแบบชื่อดัง ซึ่งไปโด่งดังที่นั่น ส่วนฝ่ายชายที่ตกเป็นกระแสข่าวลือกับนางเอกสาว คือ โอจีฟ-วิตต์ ก้องธรนินทร์ อายุ 29 ปี พี่ชายของ เจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์ อดีตนางสาวไทย
ในวันนี้ (23 เม.ย.) ทางผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ได้ตรวจสอบข่าวลือดังกล่าวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยการโทรศัพท์ไปสอบถามนางวินิตตา ก้องธรนินทร์ มารดาของ วิตต์ ก้องธรนินทร์ ฝ่ายชาย ว่าทางครอบครัว “ก้องธรนินทร์” กำลังจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้จริงหรือไม่ ซึ่งนางวินิตตา ได้แต่กล่าวเพียงสั้นๆว่า ให้ไปถามลูกชายของตนเอง เนื่องจากตอนนี้ตนติดประชุมอยู่ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ ติดต่อไปยังโอจีฟ แต่ก็ไม่รับสายแต่อย่างใด จึงติดต่อไปยัง พลอย จินดาโชติ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในเมืองไทย แต่ก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน
ต่อมา นางวินิตตา แม่ของโอจีฟ ได้โทรศัพท์ติดต่อกลับมายัง “บันเทิงเดลินิวส์” พร้อมเปิดเผยว่า “ไม่แปลกที่พลอยจะท้อง เพราะเขาแต่งงานกันไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมาแล้ว โดยแต่งกันที่ เดอะไอริส ปากช่อง เขาใหญ่ เป็นการจัดภายในครอบครัว มีแขกจากทั้ง 2 ฝ่ายเพียงแค่ 40 คน ส่วนพิธีก็จัดทั้งแบบไทย-จีน ยกน้ำชา ผูกข้อมือ และรดน้ำสังข์แบบไทย นอกจากนั้นได้เชิญนายอำเภอปากช่องมาจดทะเบียนสมรสให้ ตอนที่ทราบว่าพลอยท้องทุกคนในครอบครัวดีใจมาก พวกเราคิดกันไว้ว่าอาจจะมีการจัดพิธีฉลองในปีหน้า ประมาณ ก.พ. หรือ มี.ค. แต่ที่ทางครอบครัวไม่ได้แจ้งใคร เนื่องจากเกรงใจแขก เพราะพี่ชายของโอจีฟ ที่เป็นญาติสนิทกัน เขาก็แต่งงานไปเมื่อวันเสาร์ที่ 21 เม.ย.ที่ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล จึงไม่อยากเชิญแขกซ้ำซ้อนกัน และคนจีนก็ถือว่าไม่อยากให้จัดงานซ้ำซ้อนกัน ทางเราก็เลยขอไปจัดเป็นปีหน้าแทน
ผู้สื่อข่าวถามถึงสินสอดที่ไปสู่ขอพลอยเมื่อวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา นางวินิตตา กล่าวว่า สินสอดประกอบไปด้วย แหวนเพชร 5 กะรัต รถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู 1 คัน เครื่องเพชรอีก 1 ชุด และเงินสดจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีที่มีข่าวลือออกมานั้น ไม่คิดว่ามันจะรุนแรง แต่จริงๆ แล้วผู้ใหญ่ทั้ง 2 ครอบครัวก็ทราบว่าน้องพลอยไม่ได้ท้องก่อนแต่ง จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจให้ถูกต้องด้วย และตอนนี้น้องพลอยก็ฝากท้องไว้ที่ รพ.รามาธิบดี กับอาจารย์ของน้องเจี๊ยบ-ลลนา
สำหรับนางเอกสาว พลอย จินดาโชติ มีชื่อจริงว่า น.ส.พรพิชญ์ชญา จินดาโชติ อายุ 30 ปี เข้าวงการบันเทิงด้วยผลงานการแสดงทั้งละครและภาพยนตร์ รวมถึงงานถ่ายแบบและงานพิธีกร และเคยมีผลงานมาแล้วหลายเรื่อง อาทิ “มณีหยาดฟ้า”, “บ้านทรายทอง”, “ทะเลฤๅอิ่ม”, “นักเรียนนายร้อยครับผม”, “กุหลาบเล่นไฟ”, “กลลวงรัก”, “อังกอร์ 2”, “กลรักเกมพยาบาท, “บุพเพเล่ห์รัก” ฯลฯ  ส่วนผลงานภาพยนตร์ ได้แก่ กระสือวาเลนไทน์ ปี 2549, “ปาฏิหาริย์รักต่างพันธุ์” ปี 2551, “มือปืนดาวพระเสาร์” ปี 2554 ส่วนผลงานเรื่องล่าสุดเพิ่งมีไปเมื่อปีที่ผ่านมา “หมาแก่ อันตราย” ปี 2554.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ชุมชนสะพานพระราม9 เพลิงไหม้ ตาย 1 เจ็บ 1









เพลิงไหม้ชุมชนสะพานพระราม9 หรือ ชุมชนสวนส้ม เผาบ้านเรือนวอดไปกว่า 30 หลังคาเรือน มีผู้เสียชีวิตคากองเพลิง 1 ราย ถูกไฟคลอกบาดเจ็บ 1 ราย เบื้องต้นสันนิฐานว่าน่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าทำการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ต่อไป
เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ร.ต.อ.เทียนชัย โพธิ์สาราช พงส.(สบ 1 ) สน.วัดพระยาไกร ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนภายในชุมชนสะพานพระราม 9 หรือชุมชนสวนส้ม ถนนพระราม 3 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและประสานรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. จำนวน 30 คัน แล้วรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.วัดพระยาไกร พ.ต.ท.จุมพล สินศิริพงษ์ สว.สส.สน.วัดพระยาไกร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
 
ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนขนาดใหญ่ปลูกติดกันหลายกว่า 100 หลังคาเรือนโดยมีแสงเพลิงโพยพุ่งอย่างรุนแรงบริเวณส่วนกลางของชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีประกอบกับมีลมกระโชกแรงทำให้ไฟลุกลามไปได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ใช้สายดับเพลิงเข้าไปภายในจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งระดมใช้น้ำทำการฉีด รอบแสงเพลิง ก่อนที่จะสกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลาม  และสามารถ ควบคุมเพลิงได้ในเวลาต่อมาโดยใช้เวลาทำการดับเพลิง 45 นาที
 
จากการตรวจสอบพบว่าขณะเกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิต จำนวน 1ราย ทราบชื่อนาย สมบัติ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 30 ปี นอนเสียชีวิตภายในบ้านหลังต้นเพลิงไม่ทราบเลขที่ห่างจากถ.พระราม3 50 เมตร ซึ่งอยู่ภายในชุมชนดังกล่าว  นอกจากยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย ทราบชื่อ นายเดช เติมสุข อายุ 73 ปี ซึ่งถูกไฟคลอกที่แขนทั้งสองข้าง โดยทางเจ้าหน้าที่นำส่งรพ.เจริญกรุงประชารักษ์ ล่าสุดทราบอาการปลอดภัยแล้ว
 
จากการสอบปากคำนาย สุรพล บุระชะเท อายุ 55 ปี กล่าวว่าก่อนเกิดเป็นเวลากลางดึกชาวบ้านต่างพักผ่อนหลับนอนกันอยู่  ได้มีชาวบ้านที่อยู่อาศัยอยู่บริเวณด้านหน้าถ.พระราม 3 ได้ยินเสียงคล้ายหม้อแปลงระเบิด และได้มีกลุ่มควันและแสงเพลิง ที่บริเวณส่วนกลางของชุมชน ก่อนที่จะลุกลามไปยังบ้านใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว จากนั้นชาวบ้านในชุมชนต่างแตกตื่นวิ่งออกจากบ้าน โดยแต่ละคนหอบข้าวหอบของมาที่บริเวณถ.พระราม3 และใต้สะพานข้ามแยกพระราม3-สาธุประดิษฐ์ กันอย่างจ้าระหวั่น
พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ประเมินความเสียหายบ้านที่ถูกเพลิงไหม้ในครั้งนี้จำนวนกว่า 30 หลังคาเรือน 
โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าทำการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ต่อไป

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

เปิดเว็บสู้คู่แข่งจากจีน - ช็อปฉลาดตลาดอัจฉริยะ






แทบทุกอุตสาหกรรมที่สินค้าจากประเทศจีนเข้าเป็นคู่แข่ง ไม่นาน เจ้าตลาดก็เผชิญความระส่ำระสาย

อุตสาหกรรมเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ก็เช่นเดียวกัน บริษัท ทีจี มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิต จำหน่ายเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นที่ยอมรับเชื่อถือมาตั้งแต่ปี 2516 มีโรงงานอุตสาหกรรมราว 70 เปอร์เซ็นต์ โรงพยาบาล ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และโลจิสติกส์ เป็นลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง

แต่ในปี 2553 เป็นต้นมา บริษัท จำต้องลดกำลังการผลิต เพราะไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าจากจีนได้ เนื่องจากคู่แข่งหน้าใหม่รายนี้ ตั้งราคาขายถูกมาก ทั้งยังพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้อยู่ในระดับมาตรฐาน ปัญหาที่ว่านี้ ทำให้บริษัทตัดสินใจหยุดการผลิตในประเทศ หันไปจ้างโรงงานที่ประเทศจีนผลิตแทน

มโน พัฒนมาศ ผู้จัดการฝ่ายขาย บอกว่าภาวะดังกล่าว ไม่ใช่เกิดเฉพาะที่ประเทศไทย แต่ทั่วโลก รวมทั้งที่ อังกฤษ อินเดีย ก็ตกอยู่ในอาการเดียวกัน

นอกจากปรับแผนการผลิต โยกไปอยู่ที่ประเทศจีน บริษัทยังมองเห็นช่องทางการตลาดใหม่ในโลกออนไลน์ จึงเปิดเว็บไซต์ http://thai-generator.com เพื่อขยายฐานลูกค้า ควบคู่กับการขายตรงกับผู้ใช้ที่เชื่อมั่นใผลิตภัณฑ์ของบริษัทอยู่แล้ว

เหตุผลสำคัญของการขยายตลาดทางอินเทอร์เน็ต ก็คือ การโฆษณาในรูปแบบอื่น มีราคาสูง และจะให้ได้ผล ก็ต้องใช้สื่อหลายรูปแบบ แต่ทางอินเทอร์เน็ต เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางกว่า ครอบคลุมถึงลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่

เป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด ด้วยการลงทุนที่ไม่สูง แต่คุ้ม

การค้าขายในโลกออนไลน์ ไม่ใช่มีเว็บแล้วรอลูกค้ามาตามยถากรรม จำต้องมีเทคนิคการเรียกลูกค้า หรือทำให้คนทั่วไปรู้จักและสนใจมาเป็นลูกค้า สำหรับไทยเยนเนอเรเตอร์ เลือกใช้กูเกิล แอดเวิร์ดส์ หรือการโฆษณาผ่านกูเกิล เป็นการเปิดตัวในเว็บสืบค้นของกูเกิล (www.google.co.th) ซึ่งมโน บอกว่าเพียง 1 ปีที่ใช้เทคนิคนี้ บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้ง ๆ ที่มีพนักงานขายเพียง 2 คน

“สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ น่าจะอยู่ที่การเปลี่ยนคำค้นหาบ่อย ๆ”

การที่บริษัทมุ่งหวังให้อินเทอร์เน็ต เป็นช่องทางใหม่ในการแสวงหาลูกค้าและโอกาสทางการขาย จึงให้ความสนใจปรับปรุงเว็บไซต์และบริการเสริมต่าง ๆ นอกจากเปลี่ยนคำค้น ยังอัพเดท หรือปรับเนื้อหาบนเว็บให้ทันกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งยังเป็นพื้นที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของบริษัทฯ กับลูกค้าอย่างทันท่วงที แม้ในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา บริษัท ก็ยังมีงานอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เช่น โรงงานใหญ่ ๆ ใน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริษัทได้จัดทีมบริการหลังการขาย ออกตรวจสภาพเครื่องปั่นไฟหลังน้ำลด รับยกเครื่องไปตรวจเช็กสภาพให้ฟรี

อย่างไรก็ดีถึงแม้ช่วงมหาวิกฤติน้ำท่วม ทำให้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็นที่ต้องการ แต่เครื่องมีหลายขนาด และราคาสูง การสต๊อกหรือซื้อมาสำรองไว้จึงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องใช้เงินทุนสูง สำรองได้เฉพาะบางขนาด ด้วยเหตุนี้ เมื่อเกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง และตลาดมีความต้องการสูง แต่ก็ไม่มีบริษัทใดตอบสนองได้

ไหน ๆ ก็พาดพิงถึงน้ำท่วม มโน ขยายความด้วยว่า ยังไม่มีคาดการณ์ได้ว่า ปีนี้ ปัญหาจะมีหรือไม่ ถ้ามีจะรุนแรงขนาดไหน แต่บริษัทก็สำรองเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ไว้มากพอสมควร กะว่าถ้าหลากมา ก็คงเอาอยู่

ตอนนี้พร้อมแล้ว ทั้งคู่แข่งจากจีน และน้ำท่วมแบบไทย

จะมาแบบไหน ก็ใช้เว็บเป็นตัวชน.
วีระพันธ์ โตมีบุญ
veeraphanT@Gmail.com
http://twitter.com/vp2650
แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

ตำรวจรวบหนุ่มเพิ่งพ้นคุกหันค้ายาบ้า






รวบเดนคุก “นุ้ย วังน้อย” พร้อมของกลางยาบ้า-ไอซ์- ปืน สารภาพสิ้นเพิ่งออกคุกมาได้ 2 เดือน แต่ไม่มีงานทำ จึงหันมาค้ายานรก
วันนี้ (21 เม.ย.) เวลา 18.30 น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ประยูร ศาลาทอง ผกก.สส.1 พ.ต.ท.สมเกียรติ์ ภาชนะกาญจน์ สว.กก.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสุรเดช กอนผึ้ง หรือ “นุ้ย วังน้อย” อายุ 30 ปี พร้อมยาบ้า 110 เม็ด ยาไอซ์ 7 กรัม อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวน 1 นัด สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท 1 เส้น และเงินสด 7,000 บาท โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าร้านท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต ปากซอยสายไหม 5 แขวงและเขตสายไหม 

 จากการสอบสวนนายสุรเดช ให้รับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยถูกจับในคดีปล้นทรัพย์ท้องที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ถูกศาลตัดสินจำคุก 8 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 2 เดือนเศษ แต่พอพ้นโทษออกมาแล้วไม่มีงานทำ จึงติดต่อนายเต้ (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) อายุประมาณ 20 ปี ซึ่งรู้จักกันในเรือนจำและพ้นโทษมาก่อนตนได้ไม่นาน มาร่วมกันค้ายาเสพติด โดยตนทำหน้าที่คอยคุ้มกันให้นายเต้ แต่ขณะถูกจับกุมนายเต้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปได้ สำหรับยาเสพติดและอาวุธปืนที่พกอยู่นั้นเป็นของนายเต้ ซึ่งจัดหามาให้ไว้ป้องกันตัว

เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่ง สน.สายไหม ดำเนินคดี และขยายผลจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th