วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

เจออีกแล้ว..ถนนทรุด ตรงข้ามโรงพยาบาลเจริญกรุงฯ


วันนี้ ( 5 เม.ย.) นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางมาตรวจสอบถนนเจริญกรุงบริเวณหน้าโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เขตบางคอแหลม ซึ่งได้เกิดการทรุดตัว และลาดเอียงลง โดยกล่าวภายหลังการตรวจสอบว่า เมื่อได้รับแจ้งว่าถนนเกิดการทรุดตัว ทางเจ้าหน้าที่สำนักการโยธา (สนย.) ได้นำเครื่องตรวจสภาพใต้พื้นดิน (GPR) ซึ่งพบโพรงอยู่ใต้ดิน และจากการเปิดฝ่าท่อระบายน้ำก็พบว่าท่อระบายน้ำใต้ดินไม่เชื่อมต่อกัน อยู่ในลักษณะเกยกัน จึงทำให้เกิดโพรงขนาด 50 เซนติเมตร ซึ่งทำให้ถนนทรุดตัวในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากจุดนี้เป็นถนนเสริมเหล็ก จึงไม่เกิดการทรุดลงมาอย่างถนนพระราม 4 นอกจากนี้ปลายสุดของถนนเจริญกรุงเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมีความเป็นไปได้ว่าน้ำอาจจะกัดเซาะ ดึงทรายให้ไหลลงไป อีกทั้งถนนเส้นนี้มีการก่อสร้างมานาน จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
สำหรับการซ่อมแซมนั้นในเบื้องต้นจะปิดล้อมพื้นที่ ไม่ให้น้ำหนักที่รถยนต์วิ่งผ่าน กระทบกับส่วนที่ทรุดตัว และหลังจากนั้นจะนำเครื่องมือหนักมาเปิดผิวจราจร เพื่อทำการซ่อมแซมท่อให้เชื่อมต่อกัน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน อย่างไรก็ตามกทม.ยังคงสำรวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม
แหล่งข่าวจาก สนย. เปิดเผยว่า สนย.ได้มีการสำรวจถนนที่มีความเสี่ยงทรุดตัว อย่างถนนที่มีการก่อสร้างมานาน อยู่ใกล้แหล่งน้ำ มีรอยแตกร้าว จำนวน 20 สาย อาทิ ถนนพระราม 3 ถนนพระราม 4 ถนนพระราม 6 ถนนสาทร ถนนนราธิวาส เป็นต้น ซึ่งในระยะแรกจะมีการนำเครื่อง GPR สแกนใต้พื้นดินว่าเกิดโพรงจุดใดบ้าง และจะรีบซ่อมแซมทันที ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก จากนั้นจะตรวจสอบถนนสายอื่นเพิ่มเติมอีก
ด้านพญ.สาวิตรี สุวิกรม เจ้าของคลินิกเวชกรรมแพทย์สาวิตรี กล่าวว่า ตนเป็นผู้แจ้งไปยังสำนักงานเขตว่าถนนหน้าคลินิกเกิดการทรุดตัว ซึ่งเป็นมานานแล้ว โดยทางเท้าหน้าคลินิกได้เกิดการทรุดตัวเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และเริ่มเห็นได้ชัดเมื่อปีที่แล้ว ตนได้แจ้งไปยังสำนักงานเขต 3 ครั้ง และทางเขตได้เข้ามาซ่อมแซมให้ 2 ครั้ง ล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่จากเขตฯ ได้เข้ามาตรวจสอบและพบว่ามีโพรง จึงได้เปิดถนนบางส่วนแล้วนำหินคลุกและทรายมาเท ก่อนจะเทคอนกรีตทับ เพื่อซ่อมแซมให้ใช้สัญจรได้ อย่างไรก็ตาม ภายในบ้านก็เริ่มมีการทรุด โดยพบว่าพนังมีรอยแตกร้าว และพื้นเริ่มเทเอียง ตนจึงไม่แน่ใจว่าเกิดจากเหตุดังกล่าวด้วยหรือไม่


แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น