วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555

เตือนไฟแนนซ์ระวังภาษีย้อนหลัง


วันนี้ (10เม.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.อ.ดุษฎี  อารยวุฒิ  เลขาธิการป.ป.ท.  ประชุมร่วมกับตัวแทนสมาคมธุรกิจสินเชื่อไทยหรือบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ขอกู้เงินนำไปซื้อรถยนต์ต่างประเทศและสำแดงภาษีนำเข้าเป็นเท็จ  ทั้งนี้เพื่อให้บริษัทไฟแนนซ์ระมัดระวังการปล่อยเงินกู้ให้กับกลุ่มผู้นำเข้ารถยนต์ โดยขณะนี้พบว่ามีบริษัทไฟแนนซ์  5 แห่ง ที่มีการปล่อยสินเชื่อจำนวนมาก  ซึ่งบริษัทบางแห่งมีการปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ขอกู้โดยไม่มีการตรวจสอบประวัติของรถยนต์นำเข้าอย่างละเอียดทำให้อาจได้รับผลกระทบได้หากถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง  เนื่องจากป.ป.ท.ได้ทำการตรวจสอบกรณีรถยนต์นำเข้าสำแดงราคาต่ำกว่าราคาจริง เช่น  ผู้นำเข้ารถยนต์รายหนึ่งใช้วิธีการแจ้งปีของรุ่นที่ผลิตรถยนต์ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง คือ ผู้นำเข้าแจ้งปีของรุ่นที่ผลิตรถยนต์กับบริษัทไฟแนนซ์ต่ำกว่าความเป็นจริงเพื่อให้การประเมินในการเสียภาษีต่ำลง 20-25 เปอร์เซ็นต์ หรือผู้นำเข้าแจ้งว่าเป็นรถยนต์ใหม่นำเข้า แต่กลับตรวจสอบพบว่ามีการนำรถยนต์เข้าศูนย์บริหารตรวจสภาพในประเทศอังกฤษมาก่อน
“ผลการตรวจสอบพบว่ามีบริษัทไฟแนนซ์จำนวน 4-5 แห่งที่ให้มีการปล่อยกู้ไปแล้วจึงได้เรียกมาแจ้งเตือนให้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อเพื่อประโยชน์ของการสืบสวน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีรถยนต์นำเข้าจากประเทศอังกฤษจำนวน 300 คัน ที่อยู่ระหว่างรอการจดทะเบียนกับบริษัทไฟแนนซ์  จึงอยากแจ้งเตือนให้บริษัทไฟแนนซ์ตรวจสอบเอกสารตามที่ป.ป.ท ส่งให้ว่ารถยนต์นำเข้าดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ในกรณีที่มีผู้นำมาขายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด” พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าว
พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ป.ป.ท.ยังพบข้อมูลการการเสียภาษีของรถยนต์ยี่ห้อเฟอรารี่จำนวน 28 คันที่มีการแจ้งภาษีอันเป็นเท็จ และจะเห็นได้ว่ารถยนต์นำเข้าเลี่ยงภาษีแต่ละขนาด เช่น ซุปเปอร์คาร์ จะเสียภาษีต่ำกว่าความเป็นจริงคันละประมาณ 10 ล้านบาทหากเป็นรถยนต์ระดับกลางจะเสียภาษีต่ำกว่าความเป็นจริงคันละประมาณ 2-3 ล้านบาท ดังนั้นในสัปดาห์หน้าป.ป.ท.จะส่งข้อมูลทั้งหมดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และกรมศุลกากร ซึ่งที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากกรมศุลกากรว่าสามารถเรียกเงินภาษีคืนได้จำนวนหนึ่ง และยังไม่พบข้อมูลว่าบริษัทไฟแนนซ์เป็นเครือข่ายเดียวกับบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์หรือไม่

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น