วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

อธิบดีกรมอุทยานฯ ลุยใต้พบสร้างถนน – ตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงผ่านอุทยาน สั่งตั้งกก.สอบและย้ายอดีตหัวหน้าอุทยานฯ 2 รายรวด




อธิบดีกรมอุทยานฯ ลุยใต้พบสร้างถนน – ตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงผ่านอุทยาน สั่งตั้ง กก.สอบและจ่อย้ายอดีตหัวหน้าอุทยานฯ 2 รายรวด


วันนี้ (29 พ.ค.) นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติภาคใต้เพื่อประชุมและตรวจราชการ โดยคณะได้เดินทางไปยังพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ(หาดในยาง) จ.ภูเก็ต หลังได้รับร้องเรียนว่ามีการตัดถนนผ่านอุทยานฯ และตั้งเสาไฟฟ้ารวมทั้งออกเอกสารทับพื้นที่อุทยานฯ โดย นายจิรพล อ่ำขำ หัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถ รายงานว่า ขณะนี้มีการทำผิดกฎหมายอุทยาน คือ มีการตัดถนนผ่านพื้นที่อุทยานฯ  ในท้องที่หมู่ที่ 6 ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จำนวน 3 จุด จุดแรกยาว 807 เมตร จุดที่สอง 1,346 เมตร และจุดที่สาม 593 เมตร ซึ่งอุทยานฯ ได้แจ้งความคดีอาญากับองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เชิงทะเล และบริษัทเอกชน ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง อบต.เชิงทะเล ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักอัยการ จ.ภูเก็ต

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการทางอำนาจปกครองของอุทยานฯให้ อบต.เชิงทะเลทำลายสิ่งปลูกสร้าง คือ ถนนลาดยาง ให้พ้นจากอุทยาน และให้ปรับพื้นที่คืนสภาพให้อุทยานเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีการสร้างเสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งอุทยานฯได้ดำเนินคดีอาญา แต่พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง เนื่องจาก หัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถคนก่อนหน้านี้ คือ นายนนทวิช จตุราบัณฑิต ซึ่งปัจจุบันประจำอยู่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5(นครศรีธรรมราช) เป็นผู้อนุญาตให้สร้าง ดังนั้นจึงไม่สามารถเอาผิดได้

นายดำรงค์ กล่าวว่า การทำผิดกฎหมายอุทยานฯทั้งสองกรณี ถือว่า เป็นความบกพร่องของหัวหน้าอุทยาน ที่ไม่มีจิตสำนึกในการปกป้องทรัพยากร ดังนั้นตนจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน นายสุขขี คำนวณศิลป์ อดีตหัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถ ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงที่ปล่อยให้มีการสร้างถนน พร้อมกับให้ย้าย นายนนทวิช จตุราบัณฑิต อดีตหัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถ ไปประจำกรมอุทยานฯและตั้งกรรมการสอบ ซึ่งกรณีของ นายนนทวิช ถือเป็นความผิดร้ายแรง เพราะอำนาจในการอนุญาตให้ตั้งเสาไฟฟ้าแรงสูงนั้นเป็นอำนาจของอธิบดี ตามมาตรา 19 แต่ นายนนทวิช กลับใช้อำนาจของตัวเองอนุญาตโดยพลการ

จากนั้น นายดำรงค์ และคณะได้เดินทางไปตรวจสอบยังบริเวณหมู่ที่ 2 หมู่ 3 หมู่ 5 และหมู่ที่ 6 ต.เชิงทะเล ซึ่งเป็นพื้นที่อุทยานฯ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เชิงเขา แต่มีการสร้างสิ่งปลูกสร้างทั้งบ้านพักและรีสอร์ทขนาดใหญ่ เมื่อคณะ นายดำรงค์ไปถึงปรากฏว่ามีตัวแทนของชาวบ้านจากหมู่ที่ 2 นำโดย นายเหล็ม เกาะหัว เดินทางมาดักพบ นายดำรงค์ เพื่อไม่ให้เข้าไปตรวจสอบ พร้อมทั้งขอทราบวัตถุประสงค์ในการเดินทางมาครั้งนี้ของ นายดำรงค์

โดย นายเหล็ม กล่าวว่า มาพบนายดำรงค์ เพราะได้รับแจ้งว่านายดำรงค์จะมารื้อถนนและเสาไฟ ซึ่งชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ในการขนส่งสินค้าการเกษตร ไม่อยากให้รื้อถนนเสาไฟฟ้า ด้านนายดำรงค์ กล่าวชี้แจงว่า ตนไม่ได้มารื้อถนนและเสาไฟฟ้า แม้ว่าทั้ง 2 สิ่งจะผิดกฎหมาย เพราะทำในพื้นที่อุทยานฯ  ที่ไม่อนุญาตให้มีการก่อสร้าง แต่ตนจะมาตรวจสอบการออกหลักฐานและเอกสารสิทธิทับที่อุทยานฯ ของบรรดารีสอร์ท และบ้านพักขนาดใหญ่ โดยจะมีการทำพิกัดแผนที่ ส่วนชาวบ้านที่อยู่มาก่อนมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 ก็สามารถทำมาหากินได้เหมือนเดิม ไม่มีผลกระทบ และชาวบ้านที่อยู่หลังจากนั้น แต่ไม่มีการบุกรุกพื้นที่เพิ่ม หรือขายต่อในนายทุนเอาไปทำรีสอร์ทก็สามารถอยู่ต่อได้ การดำเนินการวันนี้เพื่อไม่ให้คนรวยเอาเปรียบคนจน ทั้งนี้นายเหล็ม กล่าวว่า ได้ฟังข้อเท็จจริงจากอธิบดีตนก็สบายใจ และจะนำเรื่องทั้งหมดไปแจ้งกับชาวบ้านที่เหลือต่อไป

ต่อมา นายดำรงค์ ได้เดินทางไปตรวจสอบบริเวณริมหาดในทอน ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นสวนสาธารณะ และด้านที่ติดกับสวนสาธารณะมีโรงแรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณชะง่อนผาติดทะเล อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โรงแรมแห่งนี้เป็นของบริษัทเทียนสิน สร้างอยู่บนพื้นที่ 90 ไร่ เจ้าของอ้างว่าสร้างในพื้นที่ที่มีโฉนด ทั้งนี้นายดำรงค์ ให้สัมภาษณ์ว่า จะให้เจ้าหน้าที่สั่งระงับการก่อสร้างและตรวจสอบการอนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวสร้างโรงแรม และจะให้ผู้เชี่ยวชาญด้านศาลและกฎหมายเข้ามาตรวจสอบ และนำหมายศาลเข้ามาขอค้น ว่าดำเนินการถูกต้องหรือไม่ นอกจากนี้จะมาตรวจสอบแผนที่ จะใช้เวลาอีก 30 วันนับจากนี้ ถ้าผิดกฎหมายก็จะฟ้องร้อง รื้อถอนและทุบทิ้งต่อไป

อธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวว่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติในภาคใต้ที่ผ่านมานั้น ตนได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ในเรื่องความไม่สะดวกและการบริการโดยเฉพาะเรื่องห้องสุขา  ดังนั้นตนขอให้อุทยานฯ ทางใต้เปลี่ยนตัวส้วม จากส้วมที่นั่งยองๆมาเป็นชักโครกให้หมด เพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยว และขอให้รักษาความสะอาดให้มาก เพราะอุทยานฯ ทางภาคใต้หลายแห่งมีพื้นที่ติดทะเล ที่สำคัญที่อุทยานฯหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ตนได้แจ้งหัวหน้าอุทยานฯว่าให้นำวัวออกจากพื้นที่อุทยานฯภายใน 7 วัน เนื่องจากที่ผ่านมาหาดเจ้าไหมเต็มไปด้วยขี้วัว จนนักท่องเที่ยวทนไม่ไหวร้องเรียนมาที่กรมอุทยานฯ ดังนั้นภายใน 7 วัน หากยังไม่สามารถนำวัวออกมาได้หัวหน้าอุทยานฯจะต้องถูกย้ายออกมาประจำกรมอุทยานฯแทน เพราะไม่สามารถจัดการปัญหาในพื้นที่ได้..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น