วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555

ปริญญาตรีใบที่สองกับภาษา จีน-ญี่ปุ่น - อินไซด์ แคมปัส





น่าดีใจที่หลักสูตรการศึกษาไทยทุกวันนี้ ให้ความสำคัญกับภาษาที่สามกันมากขึ้นตั้งแต่เป็นระดับอนุบาลไปจนถึงปริญญาตรี สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตข้างหน้าที่การอ่านออกเขียนได้ ฟังและพูดเพียงภาษาบ้านเกิด และภาษาที่สองอย่างภาษาอังกฤษคงจะไม่พอแล้ว เหตุนี้เองมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (มกค.) จึงไม่รีรอที่จะเปิดสอน “ภาษาจีน” และ “ภาษาญี่ปุ่น” ในหลักสูตรปริญญาตรีใบที่สอง ประจำปีการศึกษา 2555 เป็นปีแรกเพื่อรองรับความต้องการของผู้เรียนจำนวนมาก
ผศ.ดร.ธเนศ เวศร์ภาดา คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ มกค. กล่าวว่า ความหลากหลายทางเชื้อชาติและภาษามีความสำคัญอย่างมากในโลกธุรกิจการทำงานยุคปัจจุบัน ใครที่รู้ภาษามากกว่าย่อมได้โอกาสมากกว่า หรือเรียกว่ามีภาษีดีกว่า โดยเฉพาะภาษาจีนกับญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็น 2 ชาติยักษ์ใหญ่ที่แผ่ขยายธุรกิจเป็นวงกว้างครอบคลุมไปทั่วโลก ดังนั้นเปรียบได้ว่าทั้ง 2 ภาษามีความสำคัญไม่แพ้ภาษาอังกฤษเลยทีเดียว โดยรูปแบบการเรียนปริญญาตรี
ใบที่สองนั้น ไม่แตกต่างจากการเรียนปริญญาตรีภาคปกติ โดยจะมีทั้งการเรียนในชั้นเรียน และวิชาสหกิจศึกษาที่ผู้เรียนจะได้ไปทำงานในธุรกิจหรือองค์กรที่ใช้ภาษาจีนหรือภาษาญี่ปุ่น เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพทางด้านภาษาให้แข็งแรงในสถานการณ์การทำงานจริง นอกจากนี้ผู้เรียนยังสามารถเลือกกิจกรรมเสริมในลักษณะเดียวกับการเรียนในหลักสูตรปริญญาตรีปกติ ไม่ว่าการเข้าค่ายฤดูร้อน (summer camp) หรือจะเลือกไปศึกษาดูงานบริษัทที่เปิดกิจการที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือประเทศญี่ปุ่นก็ได้
“หลักสูตรปริญญาตรีใบที่สอง จะมีหน่วยกิตรวม 66 หน่วยกิต เรียนเฉพาะวิชาเอกภาษาจีน/ภาษาญี่ปุ่น เน้นสร้างฐานทางด้านภาษาให้แน่นและต่อยอดภาษาให้พร้อมไปทำงานได้จริงในตลาดงาน ด้วยการบรรจุวิชาเอกบังคับที่เกี่ยวทักษะการใช้ภาษา ทั้ง ฟัง-พูด-อ่าน-เขียน พร้อมด้วยวิชาด้านการแปล ทั้งจากภาษาจีน/ญี่ปุ่นเป็นภาษาไทย และจากภาษาไทยเป็นภาษาจีน/ญี่ปุ่น แถมท้ายด้วยวิชาบูรณาการความรู้เพื่องานอาชีพ ส่วนวิชาเลือก เรามีวิชาที่จะสร้างประสบการณ์ทางภาษาเพื่อการอาชีพโดยตรง เช่น ด้านภาษาจีนมีวิชา เทคโนโลยีและสารสนเทศภาษาจีน, ภาษาจีนเพื่อสื่อบันเทิง, ภาษาจีนเพื่อธุรกิจการบริการ, ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจจีน ฯลฯ ขณะที่ภาษาญี่ปุ่นมีวิชาเลือก ภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสารธุรกิจ, วัฒนธรรมการทำงานในองค์กรญี่ปุ่น, การแปลภาษาญี่ปุ่นจากสื่อ, เศรษฐกิจและการเมืองญี่ปุ่น, การล่ามภาษาญี่ปุ่น และการเรียนรู้สังคมญี่ปุ่นจากสื่อ เป็นต้น”
เรื่องความเข้มข้นของเนื้อหาการเรียนต้องลองฟัง “น้องป๊อป” หรือ น.ส.ภัศรา บรรดาศักดิ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาภาษาจีน บอกว่า การเรียนภาษาจีนในหลักสูตรปริญญาตรีของ มกค. จะเน้นเนื้อหาการนำไปใช้ คือ ต้องสามารถใช้งานได้จริง ถ้ามองผิวเผินอาจดูเหมือนจะเรียนยาก แต่อาจารย์ผู้สอนมีหลักวิธีในการสอนเพื่อให้นักศึกษาไทยทำความเข้าใจเป็นขั้นตอน แตกต่างจากการเรียนภาษาจีนที่ประเทศจีน และไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิงกับการเรียนภาษาจีนในสถาบันสอนภาษาทั่วไป เพราะหลักสูตรปริญญาตรีจะเรียนระดับขั้นที่สูงกว่า มีการสอนหลักไวยากรณ์ และการเรียนให้รู้ลึก รู้จริง ไม่ใช่เรียนแค่บทสนทนา โดยส่วนตัวที่เลือกเรียนเอกจีนเพราะเห็นว่าอิทธิพลการเป็นชาติมหาอำนาจของจีนจะทำให้ได้ใช้ประโยชน์ในอนาคตอย่างแน่นอน
สำหรับหลักสูตรปริญญาตรีใบที่สอง ภาษาจีน/ญี่ปุ่น มกค. จำกัดนักศึกษาต่อชั้นเรียนไม่เกิน 20 คน เรียน 3 วัน คือ วันศุกร์ 18.30-20.00 น. และวันเสาร์กับวันอาทิตย์เรียนทั้งวัน ตั้งแต่ 08.30-21.00 น. เปิดรับผู้ที่สำเร็จปริญญาตรีมาแล้วทุกสาขาวิชา ทุกสถาบันการศึกษา แม้แต่นักศึกษาปริญญาตรีปัจจุบันที่มีหน่วยกิตสะสมไม่ต่ำกว่า 60 หน่วยกิตก็สามารถมาเรียนหลักสูตรนี้ได้ โดยรวมเวลาเรียนตลอดหลักสูตร 2 ปีครึ่ง (5 ภาคการศึกษา) ค่าเล่าเรียนประมาณ 150,000 บาท ผู้สนใจสมัครได้ที่มหาวิทยาลัยหอ
การค้าไทย หรือทางเว็บไซต์ของ มกค. www.utcc.ac.th ตั้งแต่บัดนี้ถึงเดือนพฤษภาคม 2555 เปิดเรียนวันที่ 11 มิ.ย.นี้.

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น