วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

"อียู" ขานรับประชาธิปไตยพม่า ยกเลิกคว่ำบาตร


วันนี้ (23 เม.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศลักเซมเบิร์กว่า สหภาพยุโรปหรืออียูได้ตอบแทนกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของพม่า ด้วยการยกเลิกการคว่ำบาตรพม่า ทั้งด้านการค้า เศรษฐกิจ และ นิติบุคคล แต่ที่ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่คือ ห้ามการซื้อขายอาวุธ

แถลงการณ์ของกลุ่มอียูระบุว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มอียูซึ่งมี 27 ชาติสมาชิก ได้ตกลงกันในที่ประชุมที่ประเทศลักเซมเบิร์กว่า อียูจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรพม่า 1 ปี โดยมีเป้าหมายให้ครอบคลุมถึงนิติบุคคล 500 บุคคล และบริษัทการค้ากว่า 800 บริษัทที่จะได้ประโยชน์จากการยกเลิกการคว่ำบาตรพม่า

ทั้งนี้ก็เพราะผลจากการส่งเสริมให้มีการปฏิรูปอย่างกว้างขวางในประเทศพม่า ซึ่งรวมถึงการเข้าสู่สภาของนางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านคนสำคัญของพม่าจากการเลือกตั้งซ่อมเมื่อต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

แถลงการณ์ระบุอีกว่า อียูได้ติดตามดูด้วยความเคารพและชื่นชมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของพม่าในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ดังนั้นจึงขอยกเลิกกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลพม่า แต่ขอยกเว้นเฉพาะเรื่องการซื้อขายอาวุธนั้น ยังขอให้มีผลบังคับใช้อยู่ต่อไป แต่จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

ที่กรุงลอนดอน นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวแสดงความยินดีกับการยกเลิกการคว่ำบาตรพม่า ขณะเดียวกันก็จำต้องเฝ้าตรวจสอบการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในประเทศพม่า ภายใต้การนำของประธานาธิบดีเต็ง เส้ง ซึ่งนำพม่าก้าวเดินไปสู่การปฏิรูป และก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่โลกจะต้องขานรับการกระทำดังกล่าว

ขณะที่นางอองซาน ซูจี ผู้นำฝ่านค้านคนสำคัญของพม่า เห็นว่าการยกเลิกการคว่ำบาตรพม่าจะเป็นหนทางที่ประเทศตะวันตกจะสนับสนุนการปฏิรูปในประเทศพม่า แต่ก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นเช่นกัน เมื่อพรรคฝ่ายค้านสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางอองซาน ซูจี ไม่ยอมเข้าสู่สภาเป็นครั้งแรก เพราะไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวปฏิญาณสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ในถ้อยคำที่ว่า “พิทักษ์” มาเป็นคำว่า “เคารพ” ต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น