วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

ที่ประชุมรัฐสภาสรุปคุณสมบัติส.ส.ร.อายุ 35 ปี ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา



วันนี้ ( 20 เม.ย.) ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา โดยมีนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาทำหน้าประธานในที่ประชุม มีการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่....) พ.ศ.... ในวาระ 2 ซึ่งเป็นการประชุมวันที่5 พิจารณาในมาตรา 291/2 คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ที่กรรมาธิการฯเสียงข้างมาก กำหนดให้มีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า5 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ผู้สงวนคำแปรญัตติและกรรมาธิการที่สวงนความเห็นส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ควรกำหนดอายุส.ส.ร.ไว้ที่ 35 ปี เพราะอายุไม่สามารถยืนยันได้ว่า ส.ส.ร.จะมีความรู้ความสามารถ ความรับผิดชอบมาดำเนินการจัดทำรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ในประเด็นเรื่องวุฒิการศึกษาตามที่ร่างแก้ไขไม่ได้มีการกำหนดไว้ จึงมีผู้เสนอให้ ส.ส.ร.ควรมีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำจบปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ทั้งนี้เพราะผู้มีความรู้ระดับปริญญาตรีจะมีทักษะในการเชื่อมต่อองค์ความรู้ที่จะใช้ในการจัดทำรัฐธรรมนูญ  นอกจากนี้ยังมีผู้เห็นว่าไม่ควรกำหนดระยะเวลาที่ผู้สมัครต้องอยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่ควรเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเขตที่สมัครมาแต่เดิม แต่มาอยู่ภายหลังแต่มีความรู้ความเข้าใจและเป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ร.ได้
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา อภิปรายตอนหนึ่งว่าขณะนี้มีอดีต ส.ว. คนหนึ่ง พูดในงานรับสายสะพายว่าเขาจะได้เป็น ส.ส.ร. ให้ข่าวกับหนังสือพิมพ์ว่าเขาจะได้เป็น ส.ส.ร. และได้ไปพบนายใหญ่ที่ประเทศฮ่องกง ไปพบกันที่โรงแรมมาโคโปโล มีคนเห็นตอนขึ้นลิฟท์ ซึ่งช่วงดังกล่าว จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วง  ถึงการอภิปรายที่ไม่เหมาะสม แต่นายสมศักดิ์ ประธานรัฐสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้วินิจฉัยและขอให้นายสมชาย อภิปรายในกรอบที่ได้แปรญัตติไว้

ภายหลังการอภิปรายมากว่า5 ชม. นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ชี้แจงว่า กรรมาธิการเห็นว่าผู้จัดทำรัฐธรรมนูญควรมีความรู้และประสบการณ์พอสมควรจึงกำหนดให้ส.ส.ร.มีอายุ 35 ปีถือว่ามีความเหมาะสมแล้ว ส่วนวุฒิการศึกษากรรมาธิการได้ชั่งน้ำหนักแล้วเห็นว่าหากกำหนดให้ผู้สมัครต้องจบปริญญาตรีจะไปจำกัดสิทธิบุคคลที่ไม่ได้เรียนปริญญาตรีแต่มีประสบการณ์พอที่จะมาทำรัฐธรรมนูญได้ การมีบุคคลที่มีปริญญาหรือไม่มีใบปริญญาแต่มีประสบการณ์เมื่อมาร่วมกับตัวแทนภาควิชาการอีก 22 คน ย่อมสามารถทำงานได้   ส่วนระยะเวลาที่อยู่ในภูมิลำเนาที่ลงสมัครยึดตามรัฐธรรมนูญเช่นกันโดยเห็นว่าผู้สมัครควรมีความยึดโยงกับพื้นที่ที่ลงสมัคร  และแม้จะไม่ได้เกิดในพื้นที่นั้นแต่ได้มีการย้ายภูมิลำเนามาอยู่แล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ซึ่งจะเหมาะสมเพราะมีความเชื่อมโยงกับพื้นที่และประชาชน

ท้ายที่สุดที่ประชุมลงมติเห็นด้วยกับกรรรมาธิการเสียงข้างมากด้วยคะแนนเสียง 340 ต่อ 124เสียง จากนั้นเวลา 14.20น. ได้เริ่มพิจารณา มาตรา 291/3 คุณสมบัติต้องห้ามส.ส.ร. ที่ กมธ.เสียงข้างมากได้เพิ่ม (5) ห้ามผู้สมัครเป็น ส.ส.ร.เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง5ปีในวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

แหล่งที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น